ตอนที่แล้วTWO Chapter 45 ขั้นมาสเตอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 47 พิธีเปิด ตอนที่ 2

TWO Chapter 46 พิธีเปิด ตอนที่ 1


TWO Chapter 46 พิธีเปิด ตอนที่ 1

หลังจากงีบหลับเล็กน้อยหลังมื้ออาหาร โอหยางโชวไปที่ตลาดขั้นต้นครั้งที่ 2 ของวัน เขาอยากตรวจสอบดูว่า ชุดตัดเย็บที่เขาสัญญาว่าจะซื้อให้กับมู่ฉิงซีนั้นเป็นอย่างไร

เขาเดินเข้าไปในอาคารไม้ แล้วเข้าไปที่ส่วนรายการพิเศษ มองหาชุดตัดเย็บในรายการพิเศษ มีตั้งแต่ระดับต่ำสุด คือ ระดับสัมฤทธิ์ เหล็กดำ เงิน ที่ระดับทองมีสินค้าให้เลือกเพียงแค่ 10 ชิ้นเท่านั้น สำหรับระดับทองดำนั้นมีสินค้าอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น และก็ไม่มีคนสนใจมัน

เมื่อโอหยางโชวมองไปที่ราคาของมัน ใบหน้าของเขาก็ซีดลง มันมีราคาถึง 120 เหรียญทอง เขาไม่เคยซื้อของแพงเท่านี้มาก่อน และไม่มีทางที่เขาจะซื้อได้ในตอนนี้ เขาจะต้องรออีก 1 สัปดาห์ เขาถึงจะซื้อมันได้

โอหยางโชวออกจากตลาดอย่างขมขื่น เขาไปเยี่ยมการฝึกอบรมที่โรงผลิตอาวุธ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับค่ายทหาร ซึ่งช่างตีเหล็กขั้นสูงหวังเกาเป้นผู้ดูแล

แตกต่างจากการฝึกอบรมของช่างตีเหล็กขั้นกลางหลี่ไท่ การฝึกอบรมนี้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการผลิตเครื่องมือทางทหาร ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้

เมื่อพูดถึงข้อดีข้อดีข้อเสียของทั้ง 2 กิจการ อาจจะบอกได้ว่าทั้ง 2 กิจการต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน

ข้อดึของช่างตีเหล็กในร้านช่างตีเหล็ก คือ เมื่อมีคำสั่งซื้อมาก พวกเขาก็จะทำกำไรให้กับร้านตีเหล็กได้มาก  และทำให้พวกเขามีรายได้มากขึ้น แต่หากคำสั่งซื้อไม่มาก พวกเขาต้องแบกรับแรงกดดันจากตลาด และสภาพเศรษฐกิจด้วยตัวเอง

ข้อดีของช่างตีเหล็กในโรงผลิตอาวุธ คือ พวกเขามีปริมาณวัตถุดิบให้ใช้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ต้องกังวลถึงแรงกดดันของตลาด นอกจากนี้พวกเขายังมีโอกาสได้สร้างอาวุธระดับสูง ซึ่งมันจะช่วยในการพัฒนาทักษะช่างตีเหล็กของพวกเขา

หวังเกาอายุไม่ถึง 30 ปี และมีความคิดเหมาะที่จะเป็นช่สงตีเหล็กในโรงผลิตอาวุธ เมื่อเขาเห็นโอหยางโชว เขาก็ทักทายอย่างอบอุ่น ยิ้มแล้วกล่าวว่า “โอ้!  นายท่าน ในที่สุดท่านก็มาโรงผลิตอาวุธ”

หวังเกาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง ในสายตาของโอหยางโชว เขาเป็นคนสุภาพ รอบคอบ และไม่อ่อนน้อมถ่อมตนมากเกินไป เขาเหมาะสมกับตำแหน่งที่เขาได้รับ เขาไม่เหลือนกับ หลู่กวงซี ตู่ชุน และคนอื่นๆที่คล้ายกันนี้ เมื่อคนเหล่านี้เห็นโอหยางโชว พวกเขาจะทำตัวเหมือนเป็นหนูกลัวแมว พยายามปฏิบัติตัวด้วยความเคารพสูงสุด

โอหยางโชวชอบบรรยากาศที่ผ่อนคลายแบบนี้มากกว่า เขายิ้มแล้วกล่าวตอบว่า “นับตั้งแต่โรงผลิตอาวุธถูกสร้างขึ้น ข้าก็ไม่ได้แวะมาที่นี่เลย เจ้าสามารถบอกข้าได้หรือไม่ ว่าต่อไปเจ้าจะดำเนินการเช่นไร?”

หวังเกาพยักหน้าให้เขาขณะเขากล่าว “เราเพิ่งจะเปิดได้ไม่กี่วัน ข้าคิดว่าจะรับสมัครเด็กฝึกงานซัก 4-5 คน อย่างแรกเพื่อช่วยงานจิปาถะ และอย่างที่ 2 เพื่อฝึกพวกเขาไว้ช่วยงานสำหรับโครงการขนาดใหญ่ในอนาคต”

“เป็นความคิดที่ดีมาก เมื่อเทียบกับการฝึกอบรมอื่นๆ ภาระของเจ้าจะหนักมากในอนาคต เจ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อม” โอหยางโชวกล่าวอย่างพอใจ ดูเหมือนการเลือกหวังเกาเป็นผู้ดูแลโรงผลิตอาวุธจะเป็นความคิดที่ดี ไม่เพียงแต่เป็นช่างตีเหล็กขั้นสูงที่มีความสามารถ แต่ยังมีไหวพริบที่ยอดเยี่ยม

“ในปัจจุบันโรงผลิตอาวุธของเรา สามารถผลิต ดาบ หอก แหลน และอาวุธง่ายๆชนิดอื่นๆได้ สำหรับอาวุธหรือชุดเกราะที่ซับซ้อน ข้าจำเป็นต้องใช้คู่มือเทคโนโลยีการผลิตที่เกี่ยวข้อง จึงจะสามารถทำมันได้” หวังเกากล่าว ในขณะที่เขานำเสนออุปกรณ์ที่เขาผลิต

โอหยางโชวพยักหน้า เทคโนโลยี่การผลิตอาวุธ ถือว่าเป็นความลับของรัฐ สำหรับการฝึกอบรมแรงงานของรัฐเท่านั้น จึงจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้ เมื่อมันอยู่ในโรงผลิตอาวุธของเขา เขาจำเป็นต้องควบคุมไม่ให้มันรั่วไหลออกไป

โอหยางโชวจะไม่แปลกใจเลย หากหวังเกาสามารถผ่านจุดคอขวดและเลื่อนสู่ขั้นถัดไปได้ “อย่ากังวลเรื่องนี้ อีก 2 เดือน จะมีความคืบหน้าในเรื่องนี้”

หวังเกายินดีเมื่อได้ยินเช่นนั้น “นายท่านกล่าวเช่นนั้น ข้าก็มีแรงจูงใจมากขึ้น จากนี้ ข้าจะทุ่มเวลาในการฝึกอบรมเด็กฝึกงานของข้า เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานในอนาคต”

หวังเกาตื่นเต้นเมื่อได้ยินแผนล่วงหน้า โอหยางโชวยิ้มเมื่อเห็นเขากำลังคลั่ง

หลักจากนั้นเขาก็ออกจากโรงผลิตอาวุธ เขาไม่ได้อ้อยอิ่ง

เขามุ่งหน้าไปที่วิทยาลัยเหลียนโจวเป็นที่ต่อไปและเป็นที่สุดท้าย สำหรับโรงผลิตเครื่องปั้นดินเผา มันถูกสร้างขึ้นนอกหมู่บ้าน มันสายเกินไปหากจะไปเยี่ยมชมที่นั่นด้วย

วิทยาลัยเหลียนโจวตั้งอยู่ข้างโรงเรัยน มีพื้นที่ขนาดใหญ่เทียบเท่ากับวัดหม่าโจ้วที่อยู่ใกล้ๆกัน

ทางเข้าหลักของวิทยาลัย แขวนด้วยป้ายของวิทยาลัย โดยฟ่านจงหยานเป็นผู้เขียนป้าย เดิมทีฟ่านจงหยานเสนอให้โอหยางโชวเป็นคนเขียนป้ายด้วยตนเอง แต่โอหยางโชวเป็นคนสมัยใหม่ ลายมือของเขาจึงแย่มาก เขาจึงมอบหมายหน้าที่นี้ให้ฟ่านจงหยาน

สำหรับบทกลอนข้างประตู เขียนว่า ‘ถนนสู่ภูเขาหนังสือ ถูกครอบครองโดยคนขยัน’ และ ‘เรือในทะเลแห่งปัญญา คือการต่อสู้’

วิทยาลัยเหลียนโจวถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนด้านหน้า และส่วนด้านหลัง ส่วนด้านหน้าเป็นพื้นที่ทำการเรียนการสอน มีทั้งสิ้น 4 ห้องเรียน ลานวิทยาลัยตั้งอยู่ตรงกลาง มีต้นไผ่อยู่ประปราย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนผ่อนคลาย ส่วนด้านหลังเป็นพื้นที่สำหรับทานอาหารของนักเรียน และมีห้องพัก 4 ห้อง สำหรับอาจารย์ผู้สอนในวิทยาลัยและครอบครัวของพวกเขาใช้ในการพักผ่อน

เนื่องจากยังไม่มีนักเรียน ทั่ววิทยาลัยจึงเงียบมาก โอหยางโชวเดินผ่านทางเข้าหลัก และเดินตรงไปที่ส่วนด้านหลัง

ใกล้กับกอใผ่เล็กๆในส่วนด้านหลัง ท่านซูเฉ่อกำลังนั่งพิงเก้าอี้หิน เขาดูผ่อนคลายซะจนทำให้โอหยางโชวอิจฉา

เมื่อเห็นซูเฉ่อกำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ  โอหยางโชวจึงไม่ได้รบกวนเขา เขาเพียงยืนอยู่เงียบๆเพื่อรอ เขาไม่คิดว่า หลังจากผ่านไป 20 นาที ซูเฉ่อกลับไม่ขยับตัวซักนิดเลย เขาไม่สามารถรอได้อีก จึงได้ไออกมาก เพื่อเตือนซูเฉ่อ ถึงการคงอยู่ของเขา

ซูเฉ่อมองไปที่โอหยางโชว แล้วค่อยๆนำหนังสือกลับไปวางข้างๆ เขาลุกขึ้นคำนับโอหยางโชว แล้วกล่าวว่า “ซูเฉ่อคำนับนายท่าน”

โอหยางโชวพยักหน้า ยิ้มแล้วถามเขา “ท่านซู อยู่ที่วิทยาลัยเหลียนโจวสบายดีหรือไม่?”

“ที่นี่มีห้องมากมาย และห่างจากความวุ่นวายของงานข้าราชการ ข้าค่อนข้างที่จะชอบที่นี่ ที่นี่เกือบเป็นสวรรค์เลยทีเดียว มันเหมือนกับการขว้างไม้ หรือการวิ่งออกไปจากรั้วไม้ รู้สึกได้ถึงอิสระภาพของตัวเอง” ซุเฉ่อยิ้มตอบกลับเขา

โอหยางโชวความคิดของเขา แล้วกล่าวว่า “วันพรุ่งนี้วิทยาลัยเหลียนโจวจะเปิดอย่างเป็นทางการ ท่านซูคิดอย่างไรกับการเตรียมงานในวันพรุ่งนี้?”

“สิ่งที่จัดอยู่ก็เหมาะสมแล้ว” ซูเฉ่อกล่าวอย่างเฉยเมย

โอหยางโชวถอนหายใจและพยักหน้า มันเห็นได้ชัดว่า ซูเฉ่อต้องการอยู่ให้ห่างจากงานข้าราชการ การทดสอบทั้งหมดของเขาถูกบ่ายเบี่ยง โดยไม่มีความสนใจใดๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น โอหยางโชวจึงลาเขาและกลับไป

………………………………………………………………………………………………………………

เช้าวันรุ่งขึ้น โอหยางโชวมาที่วิทยาลัยเหลียนโจวเพื่อร่วมพิธีเปิด

พิธีเปิดถูกจัดขึ้น ในห้องเรียนที่ใหญ่ที่สุดในส่วนด้านหน้า บนพลับพลา คือ โอหยางโชว ฟ่านจงหยาน ขุ่ยหยิงหยู ซูเฉ่อ และกู่ซิวเหวิน ตามด้วยนักเรียนที่เข้าร่วมงาน

กลุ่มนักเรียนชุดแรกนั่งอยู่บนพื้น ในหมู่พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ที่จบการศึกษาจากชั้นเรียนผู้ใหญ่ ได้แก่ เข้าโหยวฟาง จางต้าหนิว และคนอื่นๆ หนึ่งในนั้นเคยเป็นเสมียนด้านการเกษตร อีกหนึ่งคนเป็นชาวบ้านทีเข้ามาสมัครหลังเห็นประกาศรับสมัคร

พิธีเปิดมีฟ่านจงหยานเป็นประธาน เขารับหน้าที่กล่าวเปิดงาน อธิบายรายละเอียดของวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของวิทยาลัยเหลียนโจว การทำความเข้าใจกฎระเบียบของวิทยาลัย และการมุ่งเน้นการสอนความเป็นผู้บริหารให้กับนักเรียน

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าส่วนใหญ่ต้องจ่ายเงินถึงจะได้เข้าเรียน แต่โปรดแบกภาระนั้นไว้ การศึกษาระหว่างทำงานเป็นเรื่องยาก ข้ารู้ดี แต่ข้าก็จะพูดแบบนี้ เมื่อพวกเจ้ามาในประตูวิทยาลัย พวกเจ้าต้องลืมตัวตนของพวกเจ้า ลืมตำแหน่งหน้าที่การงานของพวกเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร โดยไม่คำนึงถึงสถานะของเจ้า ตราบเท่าที่พวกเจ้าอยู่ในวิทยาลัย พวกเจ้ามีอัตลักษณ์เดียว คือ นักเรียนทั่วไปของวิทยาลัยเหลียนโจว เมื่ออยู่ที่นี่ การเรียนรู้คืองานของพวกเจ้า พวกเจ้าไม่ได้รับอนุญาติให้ช่วยเหลือนักเรียนคนอื่น หรือยอมรับการช่วยเหลือจากนักเรียนคนอื่นที่ต้องการช่วยพวกเจ้า พวกเจ้าจะต้องพึ่งพาความพยายามของตนเองอย่างเคร่งครัด พวกเจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อดื่มกิน และพวกเจ้าต้องเคารพอาจารย์ผู้สอนของพวกเจ้าอยู่เสมอ หากเมื่อไหร่ที่พวกเจ้าไม่สุภาพ พวกเจ้าจะถูกไล่ออกทันที” คำกล่าวของเขาค่อนข้างรุนแรง

เมื่อฟ่านจงหยานกล่าวเสร็จ อาจารย์คนอื่นๆก็ลุกขึ้นมากล่าวเล็กน้อย มีการแบ่งการสอน โดยฟ่านจงหยานรับผิดชอบการสอนประวัติศาสตร์ ซูเฉ่อรับผิดชอบการสอนการฝึกอบรม และโอหยางโชวรับผิดชอบการสอนกฎหมาย

กู่ซิวเหวินได้รับแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ชั่วคราว เขาสอนเกี่ยวกับการเป็นผู้นำสมัยใหม่ และเขารับผิดชอบ การจัดตารางการเรียนการสอนประจำวันของวิทยาลัย กำกับดูแล และการจัดการระเบียบวินัยของนักเรียน

หลังจากอาจารย์ทุกคนกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว ตัวแทนนักเรียนที่ได้รับเลือกคือ เจ้าโหยวฟาง ก็เริ่มกล่าวต่อ โอหยางโชวพบทางเลือกของเจ้าโหยวฟางเล็กน้อย เขาได้เป็นอันดับ 1 จากการทดสอบระดับการศึกษาชั้นเรียนผู้ใหญ่ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้รับเลือกเป็นตัวแทนนักเรียน

เจ้าโหยวฟางเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว เขานำสคริปออกมาจากแขนเสื้อของเขา ก่อนที่เขาจะกล่าวออกมา “ท่านอาจารย์ สภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ข้าเจ้าโหยวฟาง ได้รับเลือกการเป็นตัวแทนนักเรียนในวันนี้ วันนี้เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับข้า เมื่อ 10 วันก่อน ในชั้นเรียนสำหรับผู้ใหญ่ นายท่านพูดกับพวกเรา ถึงการสอนที่พวกเราจะได้รับ”

“ในเวลานั้น ข้าเจ้าโหยวฟาง เป็นคนหนึ่งที่ไม่รู้หนังสือเลย  นายท่านกล่าวกับพวกเราว่า พวกเราต้องมีความรับผิดชอบ และเพื่อให้ก้าวไปได้ไกลกว่านี้ พวกเราต้องวางรากฐานให้กับคนเอง ใน 10 วันที่พวกเราได้เรียนในชั้นเรียนสำหรับผู้ใหญ่ ในที่สุดข้าก็สามารถเขียนคำพูดเหล่านี้ได้โดยได้รับความช่วยเหลือจากครูของข้า ในอดีต ข้าไม่เคยคาดคิดว่าตนเองจะทำได้ ข้าโชคดีมากที่ได้กลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง และได้ฟังคำสอนของนายท่าน ข้ากล่าวจบแล้ว ขอบคุณทุกคนที่รับฟัง”

มีเสียงปรบมืออย่างอบอุ่น แม้ว่าโอหยางโชวจะไม่คาดหวังว่าเจ้าโหยวฟางจะสามารถเขียนคำพูดเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง ฟ่านจินเป็นครูที่ดีจริงๆ

โอหยางโชวกล่าวสุนทรพจน์สรุป เป็นอันสิ้นสุดพิธีเปิดของวิทยาลัยเหลียนโจว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด