Chapter 44: สองตัวเลือก
เจียงลู่ฉีวิ่งขึ้นและลงมากกว่าสิบครั้งซะอีก อาจเป็นเพราะว่าเขานั้นกินเนื้อกลายพันธุ์ไปบ้างแล้ว เขาจึงไม่ได้รู้สึกเหนื่อยซักเท่าไหร่ มันเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับเขาที่แบกสิ่งของพวกนี้ไปมา
ในเวลาเพียงไม่นาน รถMCVทั้งคันก็ถูกเติมเต็ม เมื่อมองจนว่ามันไม่มีพื้นที่สำหรับใส่ของเข้าไปแล้ว เจียงลู่ฉีก็ก็วางถุงที่เหลือไว้ด้านบนหลังคารถ ด้วยเหตุนี้เอง รถMCV นั้นดูทรุดโทรมมากยิ่งกว่าเดิมซะอีกด้วยหลังคาที่เต็มไปด้วยถุง มันเหมือนกับแรงงานข้ามชาติที่กำลังขับเข้ามาในเมืองเลย
ในตอนสุดท้าย เมื่อสถานที่ที่เหมาะสมทั้งหมดนั้นถูกไว้เก็บอาหาร อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีสิ่งที่ดีเหลืออยู่ เจียงลู่ฉีสามารถที่จะเลือก อาหารที่แคลอรี่สูงบางอย่าง และมีขนาดที่เล็กเพื่อที่จะนำไป ซึ่งอย่างเช่นช็อคโกแลตและอย่างอื่น
เมื่อมองไปที่คลังหลังจากที่เขาเดินออกมา เมื่อเห็นเจียงลู่ฉีนั้นออกมาโดยมือเปล่า กลุ่มของผู้หญิงก็มองไปยังทิศทางของห้องคลังโดยไม่ได้ตั้งใจ
“สิ่งของดีๆนั้นถูกนำไปหมดแล้วหรอ?” เธอนั้นจับที่เสื้อของเธอนั้น เซี่ยวลู่ถาม
เมื่อหยู่นั้นมีชีวิตอยู่ พวกเธอนั้นไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปใกล้ห้องคลังแม้แต่นิดเดียว แม้แต่พวกแก๊งมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ได้ถูกอนุญาตให้เข้าใกล้ได้ มีเพียงแค่คนที่หยู่ไว้ใจเท่านั้นถึงได้มีโอกาสที่จะเข้าไปได้
ดังนั้นพวกเธอจึงไม่รู้ว่ามีเสบียงมากแค่ไหนนั้นถูกเก็บไว้ แต่เมื่อสังเกตเห็นการกระทำของเจียงลู่ฉี พวกเธอเชื่อว่าเขาจะนำเสบียงไปทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
ปราศจากอาหาร พวกเธอก็ไม่รู้ว่าจะอยู่รอดได้อย่างไร.....
เมื่อออกมาจากห้องเก็บของ เจียงลู่ฉีก็ค้นหาในห้องนั่งเล่นและเตียงของหยู่เพื่อค้นหาของที่มีประโยชน์ แต่เขานั้นหาไม่เจออะไรเลย เขานั้นเดินตรงไปที่ประตู
ในชั่วเวลาเดียวกัน เซี่ยวลู่นั้นกัดริมฝีปากล่างของเธอ และเรียกเจียงลู่ฉีอย่างกล้าหาญ “ได้โปรด ได้โปรดรอก่อน!”
เจียงลู่ฉีหันกลับไปและจ้องไปที่เซี่ยวลู่ อย่างไรก็ตาม เซี่ยวลู่นั้นมองไปที่เจียงลู่ฉีแต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี พวกเธอนั้นรู้ว่ามันไม่มีเหตุผลให้เจียงลู่ฉีเหลือเสบียงอาหารทิ้งไว้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเธอจะต้องทนจนตายโดยปราศจากอาหารใดๆเลย พวกเธอไม่ได้ต่อว่าเขา สิ่งที่เขานั้นทำคือสิ่งที่ถูกต้องและมีเหตุผล
“ฉัน.... พวกเรา....” เมื่อเห็นเซี่ยวลู่นั้นลังเล เจียงลู่ฉีก็เสียความอดทนของเขา
เขานั้นจากไปและเดินลงไปที่ชั้นล่าง และหลังจากนั้นชั่วครู่หนึ่งเขาก็กลับมา ในเวลานั้น ความหวังของพวกเธอนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ ผู้หญิงบางคนนั้นกำลังคิดว่าควรจะติดตามเขาไป พูดกันตามธรรมชาติแล้ว เจียงลู่ฉีนั้นยังหนุ่มและหล่อ ผู้หญิงทั้งหลายนั้นต้องการที่จะตามเขาเพื่ออาหาร
แต่.... พวกเธอไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร พวกเธอนั้นสามารถพูดได้ว่าเจียงลู่ฉีนั้นไม่ได้สนใจในตัวของพวกเธอ พวกเธอนั้นอยู่ในจุดยืนอึดอัด และพวกเธอนั้นไม่มีความสามารถที่จะเปลี่ยนความคิดของเขาได้
ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีพูด “ถ้าพวกเธอต้องการ ฉันสามารถที่จะพาพวกเธอไปเข้าร่วมกลุ่มของผู้รอดชีวิตคนอื่นได้ แต่พวกเธอควรจะรู้ว่าทุกคนนั้นจำเป็นที่จะต้องเก็บรวบรวมอาหาร พวกผู้รอดชีวิตนั้นจะมาทีหลัง ดังนั้นฉันจะให้เวลาพวกเธอนั้นตัดสินว่าควรที่จะทำอะไร แน่นอน ฉันสามารถให้ตัวเลือกสำหรับพวกเธอให้จากไปได้ เอาเสบียงบางส่วนติดตัวไปด้วย”
เขารู้สึกว่ามันน่าสมเพศสำหรับเสบียงที่เหลือที่จะกลายเป็นขยะไป ถึงแม้ว่าพวกเธอนั้นยังต้องการที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ต่อ พวกเธอก็ไม่สามารถที่จะได้พวกมันไปทั้งหมด เพราะว่ายังมีกลุ่มของพี่น้องเหวินเซี่ยวเทียนซึ่งน่ากังวลใจต้องการพวกมันเช่นกัน แน่นอน ถ้าพวกผู้หญิงนั้นไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมกลุ่มของเหวิน เขาก็จะไม่บังคับพวกเธอ พวกเธอนั้นสามารถที่จะตัดสินใจได้ด้วยตัวเองได้”
หลังจากฟังคำพูดของเจียงลู่ฉี พวกเธอนั้นหันมาจ้องกันและกันในทันที พวกเธอรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อ ไม่มีแม้แต่การถามเขา เขานั้นคิดริเริ่มที่จะทิ้งอาหารไว้ให้พวกเธอบ้าง
“พวกเธอจะเลือกอะไรงั้นหรอ?” เจยงลู่ฉีถาม
เมื่อมองไปที่เจียงลู่ฉีถามแบบตรงๆแล้ว เซี่ยวลู่นั้นพูดคุยกับคนอื่น หลังจากนั้นเธอก็มองไปที่เจียงลู่ฉีและพูดอย่างมั่นใจ “พวกเราจะเข้าร่วมกับผู้รอดชีวิตคนอื่น และพวกเราจะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ไม่กลายเป็นภาระให้แก่คนอื่น”
เมื่อเปรียบเทียบกับการที่ถูกข่มขืน เซี่ยวลู่กลายเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น แม้ว่าพวกเธอนั้นจะไม่มีความสามารถในการเอาชีวิตรอดเพียงคนเดียวก็ตามที เจียงลู่ฉีก็ยังจะให้โอกาสแก่พวกเธอ ดังนั้นพวกเธอจึงรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก
“โอเค งั้นเธอควรจะรอที่นี่ซักพักหนึ่ง”เจียงลู่ฉีพูด
ตำแหน่งของตึกนี้มันเยี่ยมมาก และเจียงลู่ฉีเชื่อว่ามันคู่ควรสำหรับเหวินเซี่ยวเทียนเพื่อที่จะใช้เป็นค่ายและในช่วงเวลาเดียวกัน เขานั้นไม่ต้องกังวลว่าผู้หญิงกลุ่มนี้จะวิ่งหนีไปพร้อมกับเสบียงด้วย
เมื่อมองไปที่เจียงลู่ฉีที่จะจากไป เซี่ยวลู่นั้นเรียกอย่างฉับพลัน “ได้โปรด รอก่อน!”
[มีเรื่องอะไรอีกนะ?] เจียงลู่ฉีรู้สึกมึนงง
เขานั้นหันกลับไปและเห็นตาของเธอนั้นแดง และเธอพูดพร้อมกับน้ำตา “ขอบคุณจริงๆนะ”
“เอ่อ.... ด้วยความยินดี” เจียงลู่ฉีคิดว่าเขานั้นไม่ได้ทำอะไรเลยซักอย่าง หลังจากวันโลกาวินาศ เจียงลู่ฉีไม่ได้เข้าใจผิดว่าตัวเองนั้นยังจะเป็นคนดีอยู่อีก
แต่เขาก็จะไม่ทำอะไรที่ชั่วร้ายและเลวทราม สิ่งที่เขาทำนั้นจะต้องทำเพื่อประโยชน์ในการมีชีวิตรอด และไปถึงเมืองหนานจิงได้อย่างสวัสดิภาพ
….
ที่บ้านของเหวิน เหวินเซี่ยวเทียน เหวินลู่ และผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ กำลังอยู่ตรงที่หน้าต่างและรอคอยให้เจียงลู่ฉีกลับมา
ถึงแม้ว่า เจียงลู่ฉีจะบอกพวกเธอว่าอย่ากังวลไป พวกเธอก็ยังยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่ได้หลับไม่ได้นอน พวกเธอนั้นรู้สึกยังกับว่า นั่งบนเตียงที่มีหนามอยู่ด้วยซ้ำไป
พวกเธอรู้ว่าถ้าพวกเธอไปซ่อนที่อื่น เมื่อเจียงลู่ฉีนั้นพ่ายแพ้ พวกเธอก็จะถูกเป็นชิ้นๆโดยหยู่อยู่ดี
พวกเธอเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ดังนั้นมันยากมากสำหรับพวกเธอที่จะวิ่งหนีจากไป พวกเธอนั้นไม่มีน้ำมัน และไม่มีอาหาร แม้ว่าพวกเธอนั้นจะหนีไปได้ พวกเธอก็จะถูกจับกุมหรือไม่ก็หิวจนตายอยู่ดี
โดยเหตุนี้เอง พวกเธอจึงทำได้เพียงแต่ภาวนาว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น
คนสูงวัยนั้นเดินไปที่สนามและหยิบหม้อข้าวที่ถูกทิ้งไว้ตรงพื้น ข้าวนั้นได้ถูกหุงไว้ครึ่งหนึ่ง แต่มีมากกว่าครึ่งซะอีกที่หล่นอยู่บนพื้นดิน กลุ่มผู้รอดชีวิตที่เหลือนั้นมองไปอย่างเงียบๆที่คนแก่ที่กำลังทำข้าวกินใหม่อีกครั้ง และหลังจากนั้นก็ไปนำเสบียงจากศพของแก๊งมอเตอร์ไซค์คืนมา.....