TXV – 62 ความสง่างามมาพร้อมกับเส้นผม
TXV – 62 ความสง่างามมาพร้อมกับเส้นผม
เซี่ยเหล่ยลังเลไม่รู้ว่าควรเลี้ยวไปทางซ้ายหรือขวาดี เขาก้มมองนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่มแล้ว
‘ตัดใจเถอะ ผมคงไม่มีทางเจอหัวขโมยคนนั้นแน่ ผมควรกลับได้แล้ว’ เซี่ยเหล่ยรู้สึกหมดหวัง
ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงดังลั่นของรถมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่ากำลังขับเข้ามาข้างรถของเขา เขาจ้องไปยังรถคันนั้น เขาสนใจมันมาก ตลอดทางที่มาที่นี่เขาได้บันทึกรายชื่อมอเตอร์ไซค์ไว้มากกว่า 100 คันในหัวของเขา...
เจ้าของมอเตอร์ไซค์คันนั้นขับแฉลบไปมาวนอยู่รอบๆรถของเขา แล้วฉับพลันก็หยุดลง ยกล้อขึ้นและกระแทกมันลงกับพื้น
เขาดับเครื่องยนต์และถอดหมวกกันน็อคออก เซี่ยเหล่ยก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที
คนนี้ๆไม่ใช่ใครอื่นเลย เขาคือโจรสาวที่มาด้อมๆมองๆที่บ้านของหลิวหยิงเพื่อที่จะขโมยข้อมูลการจดสิทธิบัตร
เขาอยู่ในชุดค่อนข้างทะมัดทะแมง ไม่หลงเหลือเค้าโครงของความเป็นสาวอยู่เลยแม้แต่น้อย
รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเซี่ยเหล่ย เขาค่อนข้างแน่ใจว่านี่คือโจรสาวที่บุกเข้าไปในบ้านของเขาอย่างแน่นอน โจรสาวคนนี้ต้องเปลี่ยนเส้นทางตอนขับรถมาที่นี่ เพื่อให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกสับสนของเส้นทางที่เขาขับมา
โจรสาวคนนั้นเดินถือหมวกกันน็อคไปยังร้านตัดผมหญิงริมถนน...
เซี่ยเหล่ยมองตามไปที่ป้าย มันถูกเขียนไว้ว่าความสง่างามมาพร้อมกับเส้นผม มันเป็นชื่อที่แปลกดี…
เซี่ยเหล่ยลงจากรถและเดินตรงไปยังร้านตัดผมหญิง เขากำลังครุ่นคิดว่า ‘โจรสาวคนนั้นเข้าไปเพื่อทำผม ? หรือว่ามีอะไรอยู่ในนั้นกันแน่ ?’
เซี่ยเหล่ยรีบสลัดความคิดนั้นทิ้ง ยังไงก็ตาม เขาคนนี้ไม่มีทางทำผมตอน 5 ทุ่มอย่างแน่นอน
ประตูร้านซาลอนเปิดออก แต่เซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้เข้าไปในทันที เขาแอบดูอยู่ตรงหน้าต่างของร้าน มองโจรสาวคนนั้นเดินเข้าไปบริเวณที่ทำผม
มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในนั้น เธอแต่งหน้าหนามาก สวมกางเกงขาสั้นแนบเนื้อและเสื้อครอปโชว์สะดือ หน้าอกของเธอมีรอยสักรูปกุหลาบสีดำ ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจ
ทั้งโจรสาวและผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น เห็นได้ชัดว่านี่คงจะไม่ใช่ร้านตัดผมหญิงธรรมดาๆ
เซี่ยเหล่ยจ้องริมฝีปากของทั้งคู่ เพื่อดูว่าทั้งสองกำลังคุยอะไรกัน
“ทำไมเธอถึงกลับมาช้านักล่ะ?” หญิงสาวนั้นถาม
“ฉันมีบางอย่างต้องทำน่ะ อย่าถามมากนักเลย แม่ฉันเป็นยังไงบ้าง?” โจรสาวพูด
“สถานการณ์ตอนนี้แย่นิดหน่อยน่ะ แพทย์ต้องการให้เธอจ่ายค่ารักษาในวันพรุ่งนี้และเซ็นยินยอมก่อนที่พวกเขาจะสามารถกำหนดเวลาการผ่าตัดได้”
“เข้าใจแล้ว ปิดร้านเถอะ ตอนนี้ไม่มีลูกค้าแล้ว” โจรสาวพูด
“จริงๆฉันควรปิดร้านตั้งนานแล้วถ้าไม่ใช่เพราะต้องรอให้คุณกลับมา” หญิงคนนั้นตอบ
เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปในร้านตัดผมหญิง และเข้าไปหาสองคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นหันมาเห็นเซี่ยเหล่ยด้วยความตกใจ
“คุณเป็นใคร?”
โจรสาวคนนั้นก็หันมามองเช่นกัน เขาดูตกใจมาก แทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นอยู่ตอนนี้
“ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือไง? คุณต้องการอะไร?” หญิงคนนั้นถามอย่างเริ่มโมโห
เซี่ยเหล่ยชี้ไปที่โจรสาวคนนั้นและยิ้ม....
“ผมมาหาเขาคนนั้นน่ะ !”
สีหน้าของกะเทยคนนั้นซีดลงเล็กน้อยแต่ก็สามารถปรับให้เป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
“คุณมาหาฉันทำไม เรารู้จักกันหรอ?”
“ให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปก่อนได้มั้ย ผมต้องการคุยเรื่องส่วนตัวบางอย่างกับคุณ” เซี่ยเหล่ยพูด
โจรสาวเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมา...
“เอ๋หลาน เธอกลับบ้านไปก่อนเถอะ ฉันจะอยู่คุยกับเขาสักหน่อย”
“ได้ ฉันจะไปพอดีเลย พรุ่งนี้เช้าค่อยมาเปิดร้านนะ”
เธอออกไปแล้ว ในร้านจึงเหลือแค่โจรสาวคนนั้นและเซี่ยเหล่ย…
สายตาของเซี่ยเหล่ยเหลือบไปเห็นใบประกอบวิชาชีพที่แขวนอยู่บนกำแพง ตาซ้ายของเขากระตุก ภาพและข้อความเล็กๆในนั้นก็ปรากฏชัดเจนในสายตาของเขา
ในภาพนี้คือชายหัวล้าน หน้าตาดีคนหนึ่ง เขาคือคนเดียวกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเซี่ยเหล่ยในตอนนี้ และในใบประกอบนั้นก็ได้บอกชื่อของเขาเอาไว้ ‘ฉิงเสวียง’
เซี่ยเหล่ยไม่คาดคิดว่าฉิงเสวียงจะเป็นเจ้าของร้านนี้ เขาคิดว่าเป็นของผู้หญิงคนเมื่อครู่นี้ซะอีก!
ฉิงเสวียงมองเซี่ยเหล่ยด้วยสายตาเย็นชา “ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว พูดสิ่งที่คุณอยากพูดมาและไสหัวออกไปได้แล้ว !”
เซี่ยเหล่ยจ้องเข้าไปในตาของ ฉิงเสวียง“เมื่อคืน คนที่บุกเข้าบ้านของผมคือคุณใช่มั้ย?”
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” ฉิงเสวียงพูดด้วยสายตาที่มีพิรุธ...
“มันไม่มีประโยชน์ที่คุณจะมาเสแสร้งหรอก ผมรู้ว่าคนที่บุกเขาบ้านหลิวหยิงและข่มขู่เธอด้วยมืดในคืนนั้นก็คือคุณ !”
ฉิงเสวียงยิ้มอย่างเยาะเย้ย “แล้วคุณมีหลักฐานหรือไง ?”
“ผมไม่มาที่นี่โดยไม่มีหลักฐานหรอก” เซี่ยเหล่ยพูด “รอยนิ้วมือกับรอยเท้าคุณเต็มบ้านผมเลย คุณอยากได้หลักฐานมากขนาดไหนล่ะ ?”
หน้าของ ฉิงเสวียงซีดลง… ความจริงแล้วเซี่ยเหล่ยใช้ตาซ้ายของเขามองหาร่องรอยเหล่านั้น บางทีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของตำรวจอาจจะหาหลักฐานชิ้นนี้ไม่เจอก็ได้ แต่โจรสาวคนนี้เขาไม่รู้เรื่องที่เซี่ยเหล่ยมีพังพิเศษ…
“คุณก็รู้นี่ว่าผมมีเพื่อนบ้านเป็นถึงหัวหน้าตำรวจ และเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แค่ผมกดโทรศัพท์ครั้งเดียว เธอก็จะพาคนมาจับตัวคุณทันที” เซี่ยเหล่ยพูด
“คุณต้องการอะไร?”
“ใครสั่งให้คุณวาดกากบาทบนรูปน้องสาวผม ? คุณมีแผนอะไร ?”
“มีใครบางคนต้องการให้คุณหยุดเข้าไปแส่กับสิ่งที่คุณไม่ควรยุ่ง” ฉิงเสวียงตอบ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าชายคนนี้คือคนที่บุกเข้าบ้านเซี่ยเหล่ยเพื่อทำเรื่องบางอย่างจริงๆ
เซี่ยเหล่ยข่มความโกรธไว้ในใจ “แล้วถ้าฉผมไม่หยุดล่ะ ?”
“ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันมีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น และมันก็ไม่มีความจำเป็นที่ฉันจะมีเรื่องกับคุณ”
“ผมรู้ว่าคุณทำงานให้กู๋เค่อเหวิน โทรหาเธอเดี๋ยวนี้ ผมมีเรื่องจะคุยกับเธอ...”
“ถ้าอยากคุยกับเธอคุณควรไปที่สโมสรกิตติมศักดิ์โน่น มาหาฉันทำไมล่ะ? ฉันไม่รู้ว่าคุณดมกลิ่นจนมาเจอที่นี่ได้ยังไง เป็นหมาหรือยังไงห่ะ ?” ฉิงเสวียงพูดล้อเลียนเขา
เซี่ยเหล่ยหยิบโทรศัพท์ออกมา “ผมจะโทรหาเพื่อนผมเดี๋ยวนี้และเธอจะพาเจ้าหน้าที่คนอื่นมาด้วย คุณยังพอมีเวลาตัดสินใจใหม่นะ”
ฉิงเสวียงหัวเราะ “จับฉันงั้นหรอ? มากที่สุดที่ฉันทำก็แค่บุกรุก แต่ไม่ได้ขโมยอะไรไปนี่ และถึงแม้ว่าฉันจะถูกจับจริงๆ ก็คงถูกขังแค่ไม่กี่วัน คุณคิดว่าจะเอาเรื่องตำรวจมาขู่ฉันได้หรอ?”
“งั้นใครจะจ่ายค่าผ่าตัดให้แม่คุณล่ะ ใครจะเซ็นใบยินยอมผ่าตัดให้เธอกันนะ ?” เซี่ยเหล่ยพูด
“คุณ...” ฉิงเสวียงมีสีหน้าเปลี่ยนไป “คุณรู้เรื่องที่แม่ฉันป่วยได้ยังไง?”
เซี่ยเหล่ยไม่ตอบ เขาจ้องมองสายที่กำลังโทรออกบนจอมือถือ
หลังจากถือสายรอได้ไม่นาน ฉิงเสวียงก็ขว้างหมวกกันน็อคในมือใส่เซี่ยเหล่ย เนื่องจากทุกการเคลื่อนไหวของ ฉิงเสวียงอยู่ในสายตาของเซี่ยเหล่ยตลอดเวลา ทำให้เขาสามารถหลบได้ทัน
“มึง ! ตายซะเถอะ!” ฉิงเสวียงกระโจนมาข้างหน้า หมุนตัวแล้วเตะเซี่ยเหล่ยด้วยขาขวา เซี่ยเหล่ยจึงหลบไปด้านข้าง แล้วจับขาของ ฉิงเสวียงก่อนจะเหวี่ยงออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี จนร่างของ ฉิงเสวียงไปกระแทกกับกระจกจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
“เคร้ง!” เศษกระจกแตกเกลื่อนพื้นห้อง
ฉิงเสวียงตกลงมากระแทกพื้น ก้นของเขาเต็มไปด้วยเศษกระจก
ในการต่อสู้ คนที่เร็วกว่ามักจะได้รับชัยชนะเสมอ ความสามรถของตาซ้ายเซี่ยเหล่ยคือสิ่งที่ไม่สามารถจินตนาการได้ และความเร็วของมันก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถคำนวณได้เช่นเดียวกัน ตอนนี้เซี่ยเหล่ยไม่ต้องกังวลกับการต่อสู้กับฉิงเสวียงอีกแล้ว
“แม่งเอ๊--!” ฉิงเสวียงม้วนตัวและลุกขึ้นมาจากพื้น แผลที่ก้นของเขาเริ่มมีเลือดไหล เขาคว้ามีดโกนพุ่งเข้าไปจะแทงหน้าอกเซี่ยเหล่ย…
เซี่ยเหล่ยกระโดดไปข้างหลังและหลบมีดโกนอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้เขาไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้เพื่อจะโจมตีฉิงเสวียง
ฉิงเสวียงหันกลับไปมองก้นที่เต็มไปด้วยเลือด และทันใดนั้นก็ตะโกนเสียงดังออกมา “กูจะฆ่ามึง !”
เขาจับมีดโกนในมือและพุ่งเข้ามาจู่โจมเซี่ยเหล่ย....
เซี่ยเหล่ยรีบถอยหลัง แต่เก้าอี้หมุนขวางทางเขาไว้โดยไม่ต้องคิดเขาคว้ามันมาและหันไปหาฉิงเสวียงทันที
ฉิงเสวียงหลบไม่ทัน เขาถูกเก้าอี้ฟาดเข้าที่ไหล่ ทำให้มีดโกนในมือตกลงบนพื้น เขารีบก้มลงหยิบ แต่เก้าอี้หมุนตัวอื่นๆก็ถูกขว้างตามมาก่อนที่เขาจะทันได้หยิบมัน เขาจึงต้องรีบหาที่หลบ
เก้าอี้หมุนลอยไปกระแทกชั้นวางของ แก้วน้ำแตก ไดร์เป่าผมพัง ขวดครีมนวดผมแตก อุปกรณ์ทุกอย่างพังเละเทะ…
หวือ! ปัตตาเลี่ยนไฟฟ้าถูกเขวี้ยงไปหา ฉิงเสวียงตามด้วยเก้า ขวด ของทุกอย่างที่เซี่ยเหล่ยคว้าได้ถูกขว้างไปหาฉิงเสวียง
“หยุดๆๆ หยุดขว้างปาของมาสักที”
เซี่ยเหล่ยหยุดปาสิ่งของ เขายิ้มให้ ฉิงเสวียงอย่างเย็นชาและถาม “คุณได้ผลประโยชน์อะไรจากกู๋เค่อเหวิน? ทำไมคุณต้องพยายามขนาดนี้ ?”
รอยยิ้มเล็กๆปรากฏที่มุมปากของฉิงเสวียง“คุณฉลาดนี่ แต่คุณกลับคิดเรื่องแค่นี้ไม่ได้ กู๋เค่อเหวินมาจากชิงตู่ ส่วนฉันเป็นแค่ชาวเมืองโง่ๆ เราไม่เคยเจอกันมาก่อน แล้วฉันจะรู้จักเธอได้ยังไง? เธอเป็นพวกชนชั้นสูง คนอย่างฉันสามารถเป็นเพื่อนกับเธอได้หรอ? เธอมีลูกน้องตั้งมากมาย แล้วทำไมเธอต้องให้ฉันมาแก้แค้นคุณล่ะ?”
เซี่ยเหล่ยรู้สึกว่า ฉิงเสวียงกำลังทำให้เขาสับสน...
ฉิงเสวียงยักไหล่ “ฉันรู้ว่าคุณคงไม่เชื่อฉันหรอก เพราะฉันบุกเข้าบ้านหลิวหยิงในคืนนั้นเพื่อขโมยของบางอย่างจริงๆ แต่คนที่สั่งฉันไม่ใช่กู๋เค่อเหวิน ถึงฉันจะทำงานให้กับเธอ แต่ก็เป็นค่ลูกน้องปลายแถว ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะมองหน้ากู๋เค่อเหวินด้วยซ้ำ”
“มันเป็นใคร? ใครสั่งให้คุณวาดรูปกากบาทน้องสาวฉันเพื่อข่มขู่ฉัน?”
ติดตามตอนต่อไป......