ตอนที่แล้วTWO Chapter 40 ความเข้าใจผิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 42 รอยร้าว

TWO Chapter 41 การรับสมัคร


TWO Chapter 41 การรับสมัคร

โอหยางโชวเดินไปที่ค่ายทหาร  เพื่อไปดูการรับสมัครทหารใหม่

ระหว่างทาง เขาเดินออกไปจากลานคฤหาสน์ มีเสียงฝีเท้าเดินตามเขามา เขาหันไปมองเห็นเขี้ยวดำน้อยที่โตขึ้นมา หลังจากเอ่อหว้าฉีไปโรงเรียน ก็ไม่มีใครเล่นกับเขี้ยวดำ มันทำได้เพียงวิ่งไปรอบๆคฤหาสน์เท่านั้น

ตั้งแต่ กู่สานเหนียงเป็นแม่ครัวประจำคฤหาสน์ อาหารของเขี้ยวดำก็มีคุณภาพดีขึ้น มีเนื้อในอาหารที่มันกินมากขึ้น ในเวลาไม่ถึงเดือน มันเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวค่อนข้างใหญ่และแข็งแรง

ทุกครั้งที่เขาไม่ได้ดูแลงานในดินแดนเขาก็ไปอ่านหนังสือโอหยางโชวในฐานะเจ้านายของมันเขากลับไม่มีเวลาให้มันมากนักเมื่อเห็นเจ้านายของตนละเลยเขี้ยวดำก็เริ่มน้อยใจเมื่อมันเห็นเจ้านายเดินออกไปมันก็เดินอย่างน่าสงสารมาทางเขาทำท่าเหมือนไม่ต้องการแยกจากเขา

โอหยางโชวไม่ได้สนใจ และปล่อยให้มันเดินตามเขามา ตามทางมีสิ่งก่อสร้างหลายแห่งกำลังถูกก่อสร้างอย่างวุ่นวาย บนถนนสายพาณิชย์ ร้านเบเกอรี่ ร้านขายเนื้อ และร้านขายเสื้อผ้า ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว

คลื่นของการปฏิรูปกำลังทวีความรุนแรงขึ้น และได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับมันในทุกๆที่ ในที่สถานที่ก่อสร้างร้านเบเกอรี่ มีวัยรุ่น 2 คน กำลังคุยกันอยู่

“เฮ้! หวังน้อย! ทำไมวันนี้เจ้าดูมีพลังมากจังเลยหละ?”

“ฮ่าๆ ทั้งหมดมาจากการปฏิรูป เมื่อวานนี้ข้าได้คุยกับขุ่ยฮัวอย่างลับๆ นางบอกว่า ตราบที่ข้าสามารถซื้อบ้านสำหรับเราได้ นางยินดีจะแต่งงานกับข้า และเป็นภรรยาของข้า”

“เฮ้เจ้าหนู มันช่างน่าทึ่งจริงๆ ปกติเจ้าดูเหมือนเด็กซื่อบื่อ เจ้าทำยังไงถึงถูกเลือกโดยสาวสวยอย่างขุ่วฮัวได้กัน หรือเจ้าซ่อนทักษะพิเศษอะไรไว้เจ้าเด็กน้อย”

“อะไรกันเล่า! พวเราก็แค่รักกัน เจ้าไม่เข้าใจหรือ”

“คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ข้ามั่นใจ เจ้าหนู เจ้ามอบดอกไม้จำนวนมากให้กับพวกนาง ข้าเห็นสาวน้อยเหล่านั้นหลงเสนห์เจ้ายิ่งนัก เจ้ามักจะให้ความสำคัญและจริงใจกับพวกนาง และในเวลาที่สำคัญเจ้าก็มีวิธีทำให้พวกนางใจอ่อน”

“อะไรกัน ข้าไม่เคยทำเช่นนั้น เจ้าก็แค่อิจฉาข้าถึงกล่าวเช่นนี้”

“อิจฉาความโชคดีของเจ้าหรือ? เจ้าเป็นน้องชายที่ดีของข้า เพื่อเจ้าหาภรรยาได้ ข้าก็ทำได้เพียงยินดีกับเจ้าเท่านั้น ถึงอย่างนั้น เจ้าก็อย่าลืมสอนข้าหาคู่ด้วยหล่ะ ข้าอยากได้ภรรยาสาวสวย ใช้ชีวิตกับนาง นำความสุขมาให้นาง อยากมีความสุขร่วมกับนาง”

“สอนอะไร? ความรักของพวกเราเกิดจากความจริงใจ ถ้าเจ้าต้องการก็ไปอธิษฐานที่วัดหม่าโจ้วไป เผื่อว่าท่านจะช่วยเจ้า”

“ไร้สาระ ท่านหม่าโจ้วเป็นเทพธิดาแห่งท้องทะเล ไม่ได้ควบคุมควบรัก”

“ถ้าเจ้าไม่เชื่อก็ลืมมันไป มาทำงานให้เสร็จเร็วๆ หลังจากนี้ข้าจะต้องไปถามราคาที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก”

โอหยางโชวได้ฟังทั้งสองคนพูดคุยกันเกี่ยวกับชีวิตรักของพวกเขา เขาเดินไปหาพวกเขา แล้วถามว่า “เจ้าชื่ออะไร? แล้วสังกัดหน่วยงานไหน?”

“เรียนนายท่าน เขาคือ หวังเอ๋อ เขาและข้าเป็นช่างก่อสร้าง” ชาวหนุ่มอีกคนตอบอย่างรวดเร็ว

“ช่างก่อสร้างหรือ ไม่เลว เจ้าต้องการทราบราคาที่อยู่อาศัยขนาดเล็กหรือไม่? ข้าสามารถบอกเจ้าได้ในตอนนี้ ราคาของมันประมาณ 600 เหรียญทองแดง ตราบเท่าที่เจ้าต้องการมัน เจ้าจะได้รับมันในไม่ช้าก็เร็ว”

“ขอบคุณนายท่าน” หวังเอ๋อตอบ

“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก นี่เป็นสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับ เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการแต่งงานใช่หรือไม่? ดีมาก! นี่เป็นเรื่องใหญ่ ในวันแต่งงานของเจ้า ข้าจะไปเป็นสักขีพยานให้เอง”

หวังเอ๋อตื่นเต้นมากจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้

โอหยางโชวแตะไหล่ของเขา ยิ้ม แล้วกล่าวว่า “เอาล่ะ! กลับไปทำงานได้แล้ว และจำที่ข้าพูดไว้ เมื่อเจ้าจะแต่งงาน มาเรียกข้าได้ที่คฤหาสน์”

หวังเอ๋อพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อนๆของเขาทำได้เพียงแค่อิจฉา

เมื่อวานฝ่ายก่อสร้างได้เริ่มทำการอัพเกรดค่ายทหาร และเพิ่งแล้วเสร็จเมื่อเช้านี้ พื้นที่ค่ายทหารใหม่มีขนาดเป็น 5 เท่าของพื้นที่เดิม และแม้ว่าจะมีทหารเต็มจำนวนก็ไม่แออัดอีกต่อไป

ที่สนามฝึกใหม่ ขุนพลซีและหลินยี่ยุ่งกับการคัดสรรทหารใหม่ คราวนี้เขาประกาศรับสมัคร 73 คน เพื่อขยายกองทหารม้า และภาระงานของพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้น เมื่อวานนี้เขาประกาศรับสมัครทหาร หลังจากการป้องกันเมืองจากเควสการรุกรานของสัตว์ร้าย พวกนายทหารรมีความกระตือรือร้นมากขึ้นกว่าเดิม

โอหยางโชว คาดการกองทัพหลังจากนี้จะมีประมาณ 120 นาย โดยไม่น่าแปลกใจใดๆ เขาพบว่าผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นทหารอาสาสำรอง เนื่องจากต้องการทหารม้าที่มีคุณภาพสูงที่สุด ขุนพลซีจึงตั้งหลักเกณฑ์เกี่ยวกับความสูง น้ำหนัก วิสัยทัศน์(การมองเห็น) และสมรรถภาพร่างกาย เป็นข้อกำหนดขั้นต่ำ

ความสูงอย่างน้อย 173 เซนติเมตร ในสมัยโบราณ ความสูงขนาดนี้นับว่าเป็นมาตรฐานที่สูงมากแล้ว

ความต้องการของร่างกายคือ ต้องมีขาที่แข็งแรง และกร้ามเนื้อที่สามารถพัฒนาได้ ความเร็วมาจากขาที่แข็งแรง ไหล่กว้าง และเอวแคบมีความสำคัญ นอกจากนี้ กำลังจะถูกทดสอบโดยความแข็งแรงของแขน

ความแข็งแรงของแขนใช้สำหรับการใช้ธนู พวกเขาจะได้รับการคัดเลือกเป็นทหารม้าหน้าไม้ การทดสอบความแข็งแรงของแขนนั้นง่ายมาก ตราบเท่าที่คุณสามารถใช้มือข้างหนึ่งยกหินหนัง 50 กิโลกรัมได้ คุณจะได้รับการพิจารณาว่าแขนของเธอแข็งแรงพอ คนที่แขนไม่แข็งแรงพอจะไม่สามารถยกหินได้

ทหารม้าหน้าไม้ โดยทั่วไปมีความต้องการในการมองเห็นสูง คนที่มองไม่เห็นในตอนกลางคืนและคนที่สายตาสั้น จะถูกคัดออก เลือกเฉาะคนที่มีสายตาดีที่สุด

สุดท้ายคือ การทดสอบร่างกาย ซึ่งผู้สมัครต้องวิ่งรอบสนาม 10 รอบ เพื่อผ่านการทดสอบ สนามขนาดใหญ่มีขนาดรอบละ 400 เมตร ดังนั้น พวกเขาจึงต้องวิ่งทั้งสิ้น 4 กิโลเมตร

โอหยางโชวยืนด้านข้าง เพื่อสังเกตการทดสอบอย่างสนใจ หลังจากการทดสอบเสร็จสิ้น บางคนก็มีความสุข บางคนก็เศร้า

เมื่อถึงเวลา 15.00 น. ทหารใหม่ทั้ง 73 คน ก็ถูกคัดเลือกเสร็จสิ้น ทหารใหม่เข้าแถวอยู่ในสนามฝึก ส่วนคนที่ไม่ผ่านการคัดเลือกก็กลับออกไป

โอหยางโชวพยักหน้าของเขาด้วยความพึงพอใจ เกี่ยวกับการจัดการของขุนพลซี ในการรับสมัครครั้งนี้ เขาไม่ได้กล่าวใดๆ และแทนที่จะเดินตรงไปที่ห้องเลื่อนขั้น เขาเพียงวางมือที่ประตู

“แจ้งเตือนระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ ในการเปิดห้องเลื่อนขั้น ด้วยค่ายทหารระดับกลาง ชาวบ้านสามารถเปลี่ยนเป็นทหารอาสาได้ ค่าธรรมเนียม 10 เหรียญเงิน/คน ,ทหารอาสาเลเวล 10 สามารถเลื่อนขั้นเป็นทหารขั้น 1 ได้ ค่าธรรมเนียม 1 เหรียญทอง/คน โปรดเลือกหมวดการเลื่อนขั้นของคุณ”

“เปลี่ยนเป็นทหารอาสา”

“แจ้งเตือนระบบ : ยืนยันการเปลี่ยน โปรดเลือกจำนวนการเปลี่ยน”

“73 คน”

“แจ้งเตือนระบบ : ยืนยันจำนวนการเปลี่ยน หักเงินจากผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ 7 เหรียญทอง 30 เหรียญเงิน”

ในสนามฝึก ทหารที่รับสมัครมาใหม่ถูกนำเข้าห้องเลื่อนขั้นทีละคน และเริ่มการเปลี่ยนขั้น กองทหารอาสาปัจจุบันจะไม่เข้าสู้หน่วยข่าวกรองทางทหาร หรือกองทหารม้าโดยตรง พวกเขาจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มเลเวล และการฝึกอบรมร่วมกัน หลังจากพวกเขาเลเวล 10 แล้ว พวกเขาก็จะได้รับการเลื่อนขั้น และเขาสู้หน่วยงานที่พวกเขาต้องการได้

หลังจากที่เปลี่ยนขั้นทั้งหมดแล้ว โอหยางโชวเรียกขุนพลซี หลินยี่ และสานโก่วฉี เข้าไปในค่ายทหารพูดคุยเป้าหมายต่อไปของกองทัพ เขาจำเป็นต้องจัดการให้ชัดเจน

“ในเวทีหมู่บ้าน เพียงแค่กองทหารม้าก็มากพอจะรับมือความท้าทายทุกประเภท แต่เมื่อดินแดนของเราพัฒนาขึ้น มีแนวโน้มว่าจะมีค่ายโจรกลุ่มใหญ่อยู่ใกล้ๆเรา ครั้งนี้ข้าจะไม่เข้าร่วมในการทำลายค่ายโจร พวกท่านต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่กับทหารม้าและฝ่ายข่าวกรอง”

“ข้ามีความต้องการเดียว ถ้าเป็นไปได้ อย่าให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทหารใหม่ก็ด้วย ให้พวกเขาได้เห็นโลหิตแห่งกองทัพ การรบและความตายเป็นอย่างไร ให้พวกเขาได้ออกไปสู้ด้วย”

ขุนพลซีและอีก 2 คนหยักหน้าเข้าใจ

“เราไม่สามารถผ่อนคลายในการฝึกอบรมประจำวันของพวกเขาได้ ข้าแนะนำให้ขุนพลซีเป็นผู้นำในการตั้งกฎระเบียบของทหาร ระบบอบรม และระเบียบวินัย วินัยคือจิตวิญญาณของกองทัพ ดังนั้น ถึงเวลาที่เราจะต้องเข้มงวดแล้ว ข้าจะเขียนคู่มือเกี่ยวกับระเบียบวินัยทางทหาร และการฝึกอบรมแบบรายวันให้ เพื่อให้ท่านใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง”

ขุนพลซีพยักหน้าอย่างจริงจัง ขุนพลผู้นี้เป็นคนที่เก่งในเรื่องการรบ แต่ในเรื่องการจัดการกองทัพนั้น เขายังขาดประสบการณ์อยู่บ้าง โชคดีทีกองทัพเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น เขายังมีเวลาและยังมีหลินยี่เป็นผู้ช่วยเคียงข้างเขา ดังนั้น โอหยางโชวจึงค่อนข้างพอใจ

“นอกเหนือจากค่ายทหารแล้ว พวกท่านไม่ควรอ่อนข้อกับฝูงสัตว์ร้าย เราควรทำลายพวกมัน และเราจะทำเช่นนั้น เราไม่สามารถปล่อยให้พวกมันรวมตัว และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของเราได้อีก และนานมาแล้วที่เราได้พบกับฝูงแพะป่า แต่พวกมันก็หายไปอย่างลึกลับ ข้าคิดว่าพวกมันอาจจะหนีขึ้นไปหลบซ่อนบนภูเขา ให้ทหารม้าและหน่วยข่าวกรองทำงานร่วมกัน เพิ่มความพยายามในการค้นหาพวกมัน เพื่อเพิ่มจำนวนสัตว์ในดินแดนของเรา”

หลังจากกล่าวถึงแพะป่าแล้ว คุณพลซีก็รู้สึกระอาย มันนานมากแล้วที่เขาไม่พบร่องรอยของพวกมัน เขาแอบสาบานว่าจะค้นหาพวกมันให้พบ

โอหยางโชวหันไปทางสานโก่วฉี “ฝ่ายข่าวกรองทางทหารเพิ่งจัดตั้งขึ้น ข้าจะไม่พูดอะไรมากนัก งานของเจ้าอยู่ข้างนอก เราไม่สามารถรอจนกว่าดินแดนจะอัพเกรดขึ้นได้ ในการตรวจสอบพื้นที่สำหรับความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ดังนั้น ฝ่ายข่าวกรองควรริเริ่มทำการสำรวจสถานการณ์นอกดินแดน เพื่อค้นหาที่ตั้งค่ายโจร รวมถึงที่ตั้งของลอร์ดคนอื่นๆ”

“นอกจากนี้ ข้ามีงานอื่นให้ด้วย ในขณะที่เจ้าทำการสำรวจด้านนอก จงดูว่ามีต้นกล้าใบหม่อนหรือไม่ พวกมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับการอัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดเล็ก” โอหยางโชวหันกลับไปที่ขุนพลซี “งานนี้กองทหารม้าก็จะร่วมทำเช่นกัน”

นายทหารทุกคนพยักหน้ารับคำสั่ง

“ดี ข้าหวังว่าจะมีข่าวดีจากทุกคนในอนาคตอันใกล้นี้” โอหยางโชวจบการสนทนาอย่างเรียบง่าย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องรอจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงก่อน จึงจะพูดคุยต่อไปได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด