ตอนที่ 7 พญามารชั้นต่ำ
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ตอนที่ 7 พญามารชั้นต่ำ
“นี่ท่านหมายถึงอะไรน่ะ ท่านจะกินเนื้อฉันอย่างงั้นหรอ? หรือท่านหมายถึงเข้าหอ?” ฉันถามไปที่ชายผู้นั้น
ตอนนี้ฉันอธิบายความรู้สึกของตัวฉันไม่ออก มันรู้สึกหวาดกลัวจนไม่รู้ว่าจะหาทางออกจากเขายังไง ทำยังไงจะให้เขากินโอสถพิษของหลงถิงให้ได้ อีกอย่างคำพูดของเขาที่บอกว่าจะกินฉัน มันหมายถึงจะกินเลือดกินเนื้อฉันอย่างนั้นหรอ ความรู้สึกของฉันที่มันท่วมท้นจนทำให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
ฉันเอามือปัดผลส้มจากมือของเขาลงทันที ชายผู้นั้นจึงถามว่า
“นี่เจ้ากลัวข้ามากจนร้องไห้เลยเชียวหรือ? ข้ามันดูน่ากลัวมากขนาดนั้นเลยใช่ไหม?”
ใช่ ฉันกลัว ฉันกลัวจริงๆ ใจจริงฉันอยากจะวิ่งออกจากวัดแล้วลงจากหุบเขาตอนนี้เลยด้วยซ้ำ แต่โชคชะตาของฉันมันเขียนให้ต้องเป็นแบบนี้สินะ ฉันถามหน่อยใครจะอยากให้เทพเจ้าหรือคนแปลกหน้าที่ไหนมาฆ่าเหมือนเราเป็นแค่มดตัวน้อยๆกันล่ะ แต่ถึงอย่างไรก็ตามฉันก็ไม่สามารถแสดงความกลัวออกมาให้เขาเห็นได้ เพราะฉันต้องพยายามหลอกล่อเขาให้กินโอสถพิษที่หลงถิงให้ฉันมาให้ได้.....
“ท่านออกจะดูดี หล่อซะขนาดนี้ ใครที่ไหนจะมากลัวคนรูปงามแบบท่านกันล่ะ” ฉันตอบไปฝืนยิ้มไป แล้วฉันก็เดินไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้หินเก่าๆตัวนึงๆ ที่อยู่หน้ารูปปั้นเทพเจ้าแห่งขุนเขา ชายผู้นั้นก็หยิบผลส้มที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมา แล้วหัวเราะลั่นทันที เขาเดินมานั่งข้างๆฉันและพูดว่า
“เจ้านี่น่าสนใจดีนะ ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าบอกว่าข้ารูปงามอย่างงั้นหรือ”
นี่ถ้าไม่ใช่ว่าฉันต้องติดอยู่ในวัดกลางหุบเขานะ ไม่มีทางหรอกที่คำโม้โอ้อวดแบบนั้นจะออกมาจากปากคนอย่างฉันน่ะ มันเป็นเหตุการณ์บังคับหรอก หึหึ
“ทั้งตา จมูก ปากของท่านมันดูดีไปหมดจริงๆ” ฉันรีบตอบกลับเขาไปทันที แต่เทพเจ้าแห่งขุนเขากลับนั่งกอดอกแล้วหัวเราะแบบเย้ยหยัน ทำตัวเหมือนเท่ห์ หึหึ แล้วเขาก็พูดว่า
“เจ้านี่น่าขันเสียจริง ข้าไม่ได้รูปงามเพียงอย่างเดียวนะ ร่างกายของข้ามันก็งามไม่แพ้หน้าตาหรอกนะ ข้าจะแสดงให้เจ้าดูละกันแม่สาวน้อย..”
มันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นมา แล้วหันหน้าหาฉัน เขาพยามปลดผ้าคาดเอวของเขาอย่างช้าๆ พร้อมทั้งทำสีหน้ายั่วยวนฉัน
นี่เขากำลังจะทำให้ฉันบ้าคลั่งแล้วนะเนี่ย!!!!!!
ฉันว่าคนในสมัยของเทพเจ้าแห่งขุนเขาเนี่ย เวลาเขาจะร่วมหอกันคงไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร แล้วปลดกางเกงทันทีเลยล่ะมั้ง นี่เขากำลังทำอะไรเนี่ย เป็นถึงเทพเจ้าแห่งขุนเขาแต่ทำตัวเหมือนหื่นกามมาหลายสิบปี แต่มันก็คงใช่แหล่ะนะ ก็แหม 10 ปี จะมีเด็กสาวบริสุทธิ์มาให้สังเวยทั้งที มันก็คงมีความต้องการเป็นธรรมดา เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์แบบเราล่ะมั้ง ฉันจับมือเขาที่กำลังปลดผ้าอยู่ ให้หยุดปลดได้แล้ว... ในใจตอนนี้ฉันคิดแค่เพียงว่า ทำอย่างไรถึงจะหลอกล่อเขาให้กินโอสถพิษให้ได้
“ท่านคะ อย่าเพิ่งรีบร้อนสิคะ ฉันรู้ว่าท่านต้องการอะไร แต่ก่อนหน้านั้นก่อนตาย ฉันอยากกินอะไรที่มันทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าก่อนได้มั้ยคะ?”
“เจ้ากำลังหมายถึงอะไรหรือ” เทพเจ้าแห่งขุนเขามองหน้าฉันแบบงุนงง
ดูเหมือนว่าเขากำลังหลงเชื่อฉันหน่อยๆแล้วล่ะ ฉันเลยหันหลังไปหยิบโอสถพิษที่หลงถิงเตรียมไว้ให้ออกจากกระเป๋า...
“นี่คือยาบำรุงที่คุณแม่ของฉันให้มาก่อนที่จะขึ้นเขา คุณแม่ท่านบอกว่าก่อนจะร่วมหอก็ให้กินยาเม็ดนี้ก่อน เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมก่อนจะทำภารกิจและ....ก่อนตาย”
“หืม เจ้าอยากให้ข้าลองโอสถตัวนี้อย่างงั้นหรือ?” เขาก็หยิบโอสถพิษของหลงถิงจากมือฉันไปเพ่งพินิจอยู่สักพักใหญ่
“เจ้านี่มันช่างเด็กน้อยเหลือเกิน เจ้ารู้รึเปล่าว่าเนี่ยคือยาพิษ ซึ่งอาจฆ่าเจ้าและข้าให้ตายได้เลยนะ”
เขาทำหน้าขึงขังใส่ฉัน จนฉันไม่รู้จะตอบเขาไปยังไงดี
“มันจะเป็นยาพิษไปได้ยังไงล่ะ...”
ฉันพยายามหาทางแก้ตัวทันที เขายืนตรงหน้าฉัน แล้วเอามือมาปิดปากฉันไว้ จ้องมองที่ยาสลับกับมองฉัน...
“ข้าเชื่อเจ้าๆ พวกชาวบ้านธรรมดาๆ จะกล้าบังอาจส่งยาพิษมาให้ข้ากินได้อย่างไรกันล่ะ ถ้าเจ้าบอกว่ามันคือยาบำรุง ฉะนั้นแล้วเรามาแบ่งครึ่งกันกินมั้ยล่ะ มันจะดีกว่ามั้ย...”
เมื่อพูดจบเขาก็กำลังจะเอายาเข้าปากเขาอย่างช้าๆ ค่อยๆใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดยาพิษนั้นก็อยู่ในปากของเขาครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งนึงนั้น....
“อ้าปากสิ ข้าจะป้อนเจ้ามั่ง” ฉันรู้ว่าเขาเชื่อฉันว่ามันคือยาบำรุง และคงไม่คิดว่าฉันจะกล้าเอายาพิษมาให้เขากินหรอก แต่พอมองดูไปที่ยานั้น มันทำให้ฉันรู้สึกหวาดหวั่น นี่ถ้าฉันกินมันเข้าไป ฉันจะตายใช่มั้ย ทำไมเขาต้องมาแบ่งให้ฉันด้วยเนี่ย อยากกินก็เชิญกินไปคนเดียวสิ
ไม่ๆๆ ยังไงฉันก็จะยอมกินไม่ได้เด็ดขาด เพราะหลงถิงกำชับนักกำชับหนาว่าให้แค่เทพเจ้าแห่งขุนเขากิน ถ้าฉันกินเข้าไปมีหวังได้เป็นผีเฝ้าวัดแน่ๆ ถ้าอย่างงั้นหรือฉันควรรอให้ยาพิษกำเริบก่อน พอเขาไม่สามารถขยับตัวได้ค่อยจัดการดีกว่า
แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ตอนนี้เขายืนจ้องฉันไม่กระพริบตาเลย ฮือออ มือนึงก็ถือยาพิษจะป้อนเข้าปากฉัน ให้ตายเถอะสถานการณ์แบบนี้มันคืออะไรกัน ทำไมกดดันขนาดนี้ และฉันมั่นใจว่ายานี้ต้องเป็นยาพิษจริงๆอย่างแน่นอน คงไม่ใช่ว่าเป็นยาพิษหลอกๆที่หลงถิงแต่งเรื่องขึ้นหรอกนะ
เขาค่อยๆเอายาพิษยัดใส่ปากฉัน ฉันขัดขืนอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว เพราะหากขัดขืน ตัวฉันเองอาจถูกสงสัยได้ พอกินยาเข้าไปสักพักร่างกายของฉัน ก็เริ่มชาและไม่รู้สึกอะไรราวกับร่างกายติดอยู่ในโคลนดูด!!! นี่ร่างกายฉันกำลังซึบซับยาพิษเหล่านั้น ใช่มั้ยนี่!? หลงถิงเธออยู่ที่ไหน…เมื่อไหร่เธอจะมาช่วยฉัน ฉันต้องการเธอนะหลงถิง….
ร่างกายฉันชาจนไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย สักพักเทพเจ้าแห่งขุนเขาก็มาอุ้มฉันไปนอนที่พื้น เขาค่อยๆเอามือเปิดกระโปรงฉันทีละนิดๆ และแล้วกลิ่นสาปงูก็คละคลุ้งไปทั่ววัด ทันใดนั้นเองงูตัวใหญ่สีขาวเลื้อยเข้ามาจากประตูทางเข้าวัด ฉันรู้ ฉันรู้ว่านายต้องช่วยฉันหลงถิง… หลงถิงเลื้อยพุ่งเข้ามาจู่โจมเทพเจ้าแห่งขุนเขาทันที แต่เทพเจ้าแห่งขุนเขาก็หลบได้ทัน และรีบยืนขึ้นมาจ้องประสานตากับหลงถิงอย่างดุดัน สักพักบรรดางูเยอะแยะไปหมดต่างหลั่งไหลเลื้อยเข้ามาในวัดกันอย่างช้าๆ นี่นายยกพวกมาหรอหลงถิง….
แม้ร่างกายฉันจะอยากลุกขึ้นมาหาหลงถิงสักแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะฤทธิ์ของยาพิษที่กินเข้าไป สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนี้คือนอนมองหลงถิงในร่างงูต่อสู้กับเทพเจ้าแห่งขุนเขา….
หลงถิงมองดูฉันที่นอนเป็นผักอยู่บนพื้น เขาตวัดหางมาทางฉันแล้วใช้หางรัดรอบตัวของฉัน ยกขึ้นสูงจากพื้นหลายเมตร แล้วไปวางไว้ที่หลังรูปปั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ฉันได้รับอันตรายจากการต่อสู้ครั้งนี้
การต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าแห่งขุนเขาและหลงถิงพญางูขาวกำลังเริ่มต้นขึ้น หลงถิงพุ่งตัวเข้าหาเทพเจ้าแห่งขุนเขา อ้าปากราวกับพร้อมบดขยี้เขาให้เป็นชิ้นๆ เทพเจ้าแห่งขุนเขากลับพลาดท่า โดนหลงถิงขย้ำเข้าให้ที่แขนจนล้มลง แต่สะบัดออกได้ เมื่อเขาลุกยืนขึ้นมาก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า
“เป็นเพียงสัตว์ชั้นต่ำ กล้าดียังไงจะมาสู้กับข้า!!!!”
“งั้นจงมองข้าให้ให้ดีๆ….” สักพักหลงถิงก็ค่อยๆกลายร่างมาเป็นร่างมนุษย์ สีหน้าของเขาช่างดูเรียบเฉย เหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย
ฉันจ้องมองไปที่สายตาของหลงถิง สายตาของเขาช่างเยือกเย็นราวกับไร้ความรู้สึก สิ่งที่เกิดขึ้นในใจของฉันตอนนี้คือต้องการให้หลงถิงปลอดภัย ฉันไม่อยากให้เขาได้รับบาดเจ็บ และหวังว่าเราทั้งสองคนจะได้ออกจากหุบเขานี้อย่างปลอดภัย แต่อีกฝ่ายคือเทพเจ้าแห่งขุนเขาที่ชาวบ้านศรัทธานับถือมาชั่วอายุคน แถมยังมีอายุเป็นพันๆปีแล้ว หากเทียบกับหลงถิงแล้วเขาอายุแค่ไม่กี่ร้อยปีเท่านั้น แล้วอย่างงี้เขาจะสู้เทพเจ้าแห่งขุนเขาได้อย่างไรกัน!!
เมื่อเทพเจ้าแห่งขุนเขาได้เห็นกายหยาบของหลงถิงในร่างมนุษย์แล้ว เขาก็เชิดหน้า เชิดคาง ยิ้มมุกปากอ่อน ทำสีหน้าเย้อหยิ่ง จองหอง ราวกับตนเป็นผู้มีอำนาจล้นฟ้า เขาใช้วิชาหายตัวพุ่งไปข้างหน้าหลงถิงอย่างรวดเร็ว จ้องมองหลงถิงตั้งแต่หัวจดเท้าแล้วกล่าวออกมาด้วยความโมโหว่า
“เจ้าคิดว่าเจ้าคือหลิวหลงถิง พญางูขาวผู้ยิ่งใหญ่ อายุขัยเพียงไม่กี่ร้อยปี ริอาจจะมาสู้กับข้าผู้เป็นเทพเจ้าแห่งขุนเขาอายุขัยนับหลายพันปี คิดว่าข้าจะกลัวเจ้าอย่างงั้นหรือ!? เจ้างูชั้นต่ำ”
“ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่กลัวข้า แต่อย่าเอาเส้นผมอันโสโครกมาแปดเปื้อนผู้หญิงของข้า!!” เทพเจ้าแห่งขุนเขาได้ยินเช่นนั้นก็กลับกลายร่างเป็นปีศาจตนยักษ์ตัวสีแดงร่างสูงใหญ่ ผมยาวสีขาว ตาแดงดั่งเลือด มีฟันแหลมจนน่ากลัว นี่มันอะไรกัน!!! ทำไมเทพเจ้าภูเขาแห่งขุนเขาจึงกลายเป็นปีศาจไปได้ล่ะเนี่ย หรือว่าแท้จริงแล้วเทพเจ้าแห่งขุนเขาที่ชาวบ้านต่างนับถือกัน แท้จริงคือมารชั้นต่ำ!!
“ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าโง่!! ข้าคือพญามารขุนเขา แต่ชาวบ้านโง่ๆกลับหลงเชื่อว่าข้าคือเทพเจ้าแห่งขุนเขา ฮ่าๆๆๆๆ แม้แต่ร่างที่แท้จริงของข้า ข เจ้ายังดูไม่ออก หึ ถ้าเจ้าอยากปกป้องผู้หญิงของเจ้านัก ก็เอาศพมันไปแทนแล้วกัน!!” เขารีบพุ่งตัวมาหาฉัน กางเล็บอันโสโครกออกมา มันช่างยาวแหลมจนน่ากลัวมาก เขากำลังจะฆ่าฉันแล้ว!!! ช่วยด้วยหลงถิง…..
ทันใดนั้นเองหลงถิงก็รีบกลายร่างอันแท้จริงของเขา เป็นพญางูขาวร่างใหญ่สูงเกือบถึงเพดานวัด ลำตัวกว้างเกือบขนาดต้นเสา เกล็ดขาวมันเงา ตาสีเขียวดั่งมรกต เขารีบเข้ามาหามารขุนเขา กัดแล้วโยนร่างของมารขุนเขาจนไปกระแทกกับเสาภายในวัด ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดไมมีใครยอมใคร ….. จุดจบของการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นเช่นไร และตัวฉันจะรอดหรือไม่….