ตอนที่แล้วTWO Chapter 39 การเปลี่ยนอาชีพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 41 การรับสมัคร

TWO Chapter 40 ความเข้าใจผิด


TWO Chapter 40 ความเข้าใจผิด

เสี่ยวเยว่หันไปหาโอหยางโชวด้วยรอยยิ้มเชิงขอโทษ “พี่ใหญ่โชว นี่คืออดีตเพื่อนร่วมห้องที่ฉันเคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้”

ด้านซ้ายมือของเธอเป็นหญิงสาวที่ตัวเล็กกว่าอีกคน เธอสวมเสื้อสีดำ กางเกงรัดรูป สาวสวยคนนี้ชื่อว่า ผานเฉียวเฉียว(Pan Qiao Qiao) ด้านขวามือของเธอคือ ฉินรู่ว(Qinru) เธอสง่างามและร่างผอมเพรียว ใบหน้าสีเหลืองอ่อน สวมกระโปรงสีดอกบัว

สำหรับบรรดาผู้ที่เขาเพิ่งรู้จักเหล่านี้ โอหยางโชวไม่ได้เตรียมตัวที่จะทักทายพวกเขาอย่างสุภาพ เขายืนอยู่ข้างๆเพื่อทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี

เมื่อเทียบกับอาการสงบของโอหยางโชว ผานเฉียวเฉียวและฉินรู่วกลับอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเขา พวกเขามองไปที่โอหยางโชว อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร ฉินรู่วเพ่งเล็งเขา

เฉียวเฉียวกล้าได้กล้าเสียมากกว่า เธอมองโอหยางโชวด้วยสายตาก้าวร้าวของเธอ หัวใจของโอหยางโชวเข้มแข็งพอ ไม่เช่นนั้นเขาคงหน้าแดงอย่างแน่นอน

พวกเธอรู้ว่าเสี่ยวเยว่ไม่เคยมีแฟน แต่ตอนนี้เธอตกลงร่วมห้องกับคนอื่น? มันแปลกเกินไป สำหรับสถานะการณ์ในตอนนี้ เป็นไปได้แค่ 2 ประการเท่านั้น ชายคนนี้ดูไร้เดียงสาเกินกว่าจะก่อปัญหาใดๆ หรือเขามีเสน่ห์มากพอให้เธอพอใจได้

โอหยางโชวสูงประมาณ 180 เซนติเมตร กระดูกประณีตและสวยงาม แม้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ดูหล่อมาก แต่เขาก็ไม่อาจถูกมองว่าเป็นตัวอันตราย ดังนั้น คำตอบของพวกเธอก็คือ ฤดูใบไม้ผลิของเสี่ยวเยว่ได้มาถึงแล้ว

เฉียวเฉียวค่อนข้างตรงไปตรงมา เธอดึงเสี่ยวเยว่ออกมาและแอบถามว่า “เฮ้ เสี่ยวเยว่ บอกความจริงมา เธอเรีกเขาว่าพี่ใหญ่ เขาไม่ได้เป็นแฟนเธอเหรอ?”

เสี่ยวเยว่แสดงความโกรธบนใบหน้า ยิ้มแล้วกล่าวว่า “เขาเป็นเพื่อน และเพื่อนร่วมห้องของฉันจริงๆ ถ้าเธอยังพูดไร้สาระอยู่ รอดูว่าฉันจะปิดปากเธอยังไง”

“เสี่ยวเยว่ เธอพยายามจะซ่อนสิ่งที่เห็นนี้อย่างกับแมวร้อนตัว อย่าโทษฉันนะ” เฉียวเฉียวไม่ได้ต้องการเอาชนะ แต่คำพูดของเธอทำให้โอหยางโชวละอายใจ

ฉินรู่วมองและยิ้มให้โอหยางโชว แล้วกล่าวว่า “ฉันจะทำตามเสี่ยวเยว่ เรียกคุณว่าพี่ใหญ่ คุณจะว่าอะไรมั้ย?”

โอหยางโชวตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “รู้สึกเป็นเกียรติมาก! ฉันเคยได้ยินเสี่ยวเยว่พูดถึงเธอมาก่อน แต่เมื่อเห็นตัวจริงของพวกเธอ พวกเธอช่างงดงามจริง ยิ่งกว่าที่เสี่ยวเยว่เล่าเสียอีก”

ผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถต่อต้านคำชมได้ แน่นอนฉินรู่วก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เธอพูดอย่างหยาบคายว่า “การชมชั้นแบบนี้ นี่คุณยังไล่ตามเสี่ยวเยว่ของเราอยู่จริงๆเหรอ ถ้าคุณต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับเธอ ฉันสามารถบอกคุณได้นะ”

ดูเหมือนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหน พวกเขาต่างก็มีความสามารถในการนินทา เขาขยับปิงเอ๋อมาด้านหน้าพร้อมกล่าวว่า “คุณเข้าใจผิดแล้ว นี่คือน้องสาวของฉัน โอหยางปิง เสี่ยวเยว่คำนึงถึงปิงเอ๋อ และนั่นคือเหตุผลที่พวกเราแชร์ห้องกัน มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย”

ต่อหน้าคนแปลกหน้า ปิงเอ๋อเหมือนกับเด็กสาวตัวเล็กๆที่น่ารัก เธอกล่าวออกมาว่า “สวัสดีพี่สาวคนสวย”

รูปลักษณ์ที่น่ารักของปิงเธออาจฆ่าคนได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ฉินรู่วก้มลงไปจับมือเล็กข้องเธอ แล้วกล่าวว่า “ว้าว! น่ารักจัง! มาให้พี่สาวก่อนหน่อย!” เธอไม่สนใจว่าปิงเอ๋อจะอนุญาติให้เธอกอดหรือไม่ เธอกอดปิงเอ๋อในทันที ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังหยิกแก้มและหอมแก้มปิงเอ๋อด้วย

ปิงเอ๋อพยายามขอความช่วยเหลือจากโอหยางโชว เขายืนอยู่ด้านข้างไม่สามารถช่วยอะไรได้ ปิงเอ๋อทำหน้าขมขื่น มองหน้าพี่ชายที่ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้

ในเวลานั้น เสี่ยวเยว่และผานเฉียวเฉียวก็จบการสนทนากัน และกำลังเดินกลับมา เมื่อผานเฉียวเฉียวเห็นปิงเอ๋อ เธอก็ไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้เหมือนกับว่าปิงเอ๋อหนีจากปากหมาป่าแล้วตกลงในรังเสือ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นสร้างความทุกทรมานให้กับโอหยางโชว ตอนแรกเป็นการช็อปปิ้งของ 2 สาว เขาพอจะรับได้ แต่ตอนนี้มีถึง 4 สาว

เขาเป็นเหมือนลาโง่คอยเดินตามพวกเธอ วิ่งไปวิ่งมา จากร้านหนึ่งไปอีกร้านหนึ่ง

ผู้ชายทุกคนที่เห็นเขาต่างก็อิจฉาเขา ไม่มีใครรู้ว่าความจริงนั้นไม่ได้ดูสวยงามอย่างที่พวกเขาคิด

ต่อมาในค่ำวันนั้น โอหยางโชวได้เลี้ยงอาหารแสนอร่อยมากมายแก่พวกเธอ ก่อนจะลุกออกไป ปิงเอ๋อตบที่ท้องของเธออย่างพึงพอใจ

โอหยางโชวรู้ว่าน้องสาวตัวน้อยของเขาเดินมาทั้งวัน และคงเหนื่อยล้า เขาก้มลงมองเธอ ยิ้มแล้วกล่าวว่า “มารเร็ว พี่ชายจะให้ขี่หลังกลับบ้าน”

เธอหัวเราะขณะที่วิ่งไปด้านหลังเขา แล้วกระโดดขึ้นบนหลังเขา แขนเล็กๆของเธอโอบรอบคอเขา ปิงเอ๋อหัวเราเบาๆ

เสี่ยวเยว่ยืนอยู่ข้างๆ ดูโอหยางที่แต่ละมือถือถุง 5-6 ใบ มีมือเล็กๆรอบคอเขา และมีปิงเธออยู่บนหลังเขา มองดูเหมือนภาพที่ตลก อย่างไรก็ตามเธอไม่มีเจตนาใดๆที่จะช่วยเหลือโอหยางโชว เขาเป็นผู้ชาย ดังนั้น เธอจึงใช้สิทธิ์ของสาวๆ

หลังจากเดินมาทั้งวัน แม้ว่าเขาจะเบื่อหน่าย แต่หัวใจของโอหยางโชวก็มีความสุข เมื่อเห็นเสี่ยวร่าเริงมากขึ้น เขาหันกลับไปหาเสี่ยวเยว่แล้วกล่าวว่า “ถึงเวลากลับแล้ว! อะไร? เธอรอให้ฉันอุ้มเธอไปด้วยเหรอ?”

เสี่ยวเยว่กระทืบเท้าของเธอแล้วเดินออกไป โอหยางโชวยิ้มแล้วรีบเดินตามเธอไป

เมื่อกลับถึงบ้าน โอหยางโชวก็พาปิงเอ๋อเข้าไปในห้องนอนของเธอ เธอหลับไปจากวันที่วุ่นวาย เขาถอดเสื้อคลุมของเธอ แล้วนำผ้าห่มมาห่มให้เธอ  เธอพึมพำ “ปิงเอ๋อต้องแปลงฟันก่อน ปิงเอ๋อไม่อยากฟันผุ”

โอหยางโชวหัวเราะเบาๆแล้วกล่าวว่า “น้องสาวตัวน้อย น้องสามารถแปลงฟันได้ในตอนเช้า พวกมันจะยังไม่ผุหลังจากนั้น” เธอคลายกังวลของเธอลง แล้วหลับไป

เวลา 21.00 น. โอหยางโชวออกจากห้องของเธอ แล้วกำลังจะไปที่ห้องของเขา เสี่ยวเยว่เรียกเขาจากในห้องโถง “พี่โชว อีกไม่กี่วันจะเป็นวันหยุดฤดูหนาว และฉันต้องกลับบ้านไปฉลองไปใหม่(ตรุษจีน)”

โอหยางโชวตกใจเล็กน้อย และกล่าวว่า “เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ พริบตาเดียวก็ปีใหม่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวฉันจะดูแลปิงเอ๋อเอง อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันหยุดของเธอแล้วเช่นกัน”

เสี่ยวเยว่บอกเขาอย่างชัดเจนว่าเขากำลังจะไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่เต็มใจที่จะแยกจากโอหยางโชว แต่เธอกังวลว่าจะไม่มีใครเล่นกับปิงเอ๋อ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ดินแดนของเขากำลังเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้อง ดังนั้น เขาจึงไม่ต้องเข้าสู้ระบบในช่วงต้นของทุกๆวันก็ได้

พวกเขาพูดคุยกันเล็กน้อย จากนั้นเขาก็กลับไปที่ห้องของเขา โอหยางโชวรู้สึกว่า ในระหว่างการหยอกล้อของผานเฉียวเฉียวกลับเสี่ยวเยว่ ระหว่างพวกเขานั้นไม่ค่อยมีความผูกพันธ์ และมีบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจ

เมื่อเขาออนไลน์ ก็มีประกาศจากระบบดังขึ้น

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นตี่เฉิน ในการเป็นลอร์ดคนที่ 2 ในประเทศจีน ที่อัพเกรดหมู่บ้านเป็นระดับ 3 รางวัลพิเศษ คะแนนการกุศล 1000 แต้ม”

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นตี่เฉิน ในการเป็นลอร์ดคนที่ 2 ในประเทศจีน ที่อัพเกรดหมู่บ้านเป็นระดับ 3 รางวัลพิเศษ คะแนนการกุศล 1000 แต้ม”

“ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นตี่เฉิน ในการเป็นลอร์ดคนที่ 2 ในประเทศจีน ที่อัพเกรดหมู่บ้านเป็นระดับ 3 รางวัลพิเศษ คะแนนการกุศล 1000 แต้ม”

พวกเขารวดเร็วมาก เพียงแค่วันเดียว ตี่เฉินได้เอาชนะความเสียหายและความสูญเสียของประชากรจากการสู้รบ และอัพเกรดหมู่บ้านเป็นระดับ 3 ได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากการรุกรานของสัตว์ร้าย หมู่บ้านหานตานของตี่เฉินก็ครองลำดับที่ 4 ของโลก เขาได้รับเงิน 450 เหรียญทอง คนอื่นๆของ 6 ทรราชย์แห่งหานตาน ก็ได้รับผลตอบแทน อาจกล่าวได้ว่า ภาระทางการเงินของหมู่บ้านพวกเขาลดลง

หากระบบไม่ได้กำหนดความต้องการดัชนีของดินแดน เพื่ออัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็ก โอหยางโชวเชื่อว่าพันธมิตรหานตานอาจจะแซงหน้าเขา และเป็นคนแรกที่อัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กได้

เขาละเว้นข่าวและการรบกวนจากคนอื่นๆ โอหยางโชวเรียกขุ่ยหยิงหยูเข้ามาในสำนักงานของเขา ด้วยคำทักทายที่เป็นมิตร เขามอบคู่มือทางการเงินที่เขาเขียนเมื่อวานนี้ให้กับเธอ

ขุ่ยหยิงหยูหยิงคู่มือมาดู แล้วกล่าวว่า “มันยอดมากเลยพี่ใหญ่ มันคงจะช่วยข้าได้มากทีเดียว”

พวกเขาแลกเปลี่ยนไอเดียเกี่ยวกับสิ่งที่หัวหน้าฝ่ายการเงินควรจะทำกัน เดิมทีขุ่ยหยิงหยูต้องการให้อดีตเด็กฝึกงานของเธอ ตู่เสี่ยวหลานไปเป็นผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการเงินของเธอ แต่น่าเสียดายที่โอหยางโชวได้มอบตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายคลังวัสดุให้เธอไปแล้ว

“ช่วงนี้ เฉียนลี่เฟยเป็นอย่างไร?” โอหยางโชวถามถึงเด็กฝึกงานอีกคนของขุ่ยหยิงหยู โอหยางโชวไม่ค่อยรู้เรื่องของเขานัก ดังนั้น โอหยางโชวต้องถามเธอก่อนว่าคิดอย่างไรกับเขา

ขุ่ยหยิงหยูกล่าวอย่างระมัดระวัง “เฉียนลี่เฟยก็ดี เขามีแรงบันดาลใจในการทำงาน และเรียนรู้สิ่งต่างๆ แต่เหมือนมีบางอย่างทำให้เขาไม่เชื่อมั่นในตัวเอง และระมัดระวังจนเกินไป”

“นั่นก็ได้แล้ว ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายการเงิน เจ้าต้องระมัดระวัง ตราบเท่าที่พวกเขาทำอย่างดีที่สุดแล้ว อย่าได้ตำหนิพวกเขามากนัก” โอหยางโชวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หยิงหยูพยักหน้าเข้าใจ

“ส่วนบุคลากรในตำแหน่งอื่นๆ มันจำเป็นที่พวกเราจะค้นหาพวกเขาอย่างช้าๆ กลยุทธ์ของข้าคือ แทนที่พวกเราจะรีบเร่งมากเกินไปเราควรจะรอจนกระทั่งวิทยาลัยเหลียนโจวถูกก่อตั้ง หลังจากจบชุดแรกจบการศึกษา เราจะคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสมเข้าทำงานในฝ่ายการเงิน และธนาคาร 4 สมุทร”

“ดูเหมือนนั่นจะเป็นทางเดียว” ขุ่ยหยิงหยูเห็นด้วยอย่างหมดหนทาง

เมื่อขุ่ยหยิงหยูออกไป กู่ซิวเหวินก็เข้ามาทันที

โอหยางโชวยิ้มแล้วกล่าวว่า “ซิวเหวิน? มีอะไร?”

“ข้ามีข่าวดีที่จะแจ้งให้นายท่านทราบ!”

“โอ้? ข่าวดี?”

“เป็นดั่งที่นายท่านบอก วันนี้มีผู้อพยพมามากถึง 63 คน ในหมู่ผู้อพยพนี้ ไม่เพียงแต่มีใครบางคนที่มีความสามารถพิเศษตรงกับความต้องการของดินแดนอย่างช่างปั้นขั้นต้นเท่านั้น แต่ยังมีช่างตีเหล็กขั้นสูงอีกด้วย” กู่ซิวเหวินตอบด้วยรอยยิ้ม

“พวกเขาทั้ง 2 ชื่ออะไร? แล้วที่มาของเขาเป็นอย่างไร?”

“ช่างปั้นขั้นต้นชื่อว่า จูโหยวจี(Zhu Youzhi) ตัวเขาไม่มีอะไรพิเศษนัก ส่วนช่างตีเหล็กขั้นสูงชื่อว่า หวังเกา(Wang Gao) เคยอยู่ในหมู่บ้านของลอร์ดคนหนึ่ง แต่หมู่บ้านของเขาถูกลบล้างไปแล้ว ดังนั้น เขาจึงมาที่นี่”

โอหยางโชวพยักหน้า “ขณะนี้เราสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างทั้ง 3 ได้แล้ว ไปที่ฝ่ายก่อสร้าง และแจ้งให้พวกเขาทราบ เพื่อให้พวกเขาเริ่มก่อสร้างโดยเร็วที่สุด”

กู่ซิวเหวินพยักหน้าเห็นด้วย แล้วเดินออกไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด