ตอนที่ 84 ร่างกายจิตวิญญานบริสุทธุ์
แม้จะเป็นนักปรุงยาที่มีชื่อเสียงกว้างไกล ก็มิอาจเทียบได้กับเซี่ยหนิงฉาง
“ศิษย์พี่มีร่างกายที่วิเศษอย่างไร ?” หยางไค่กล่าวถามเม้งวู่หยา"
เม้งวูหยากล่าวตอบ : “ร่างกายจิตวิญญานบริสุทธุ์ !!”
“เกี่ยวข้องกับการปรุงยา ?”
“ถูกต้อง” เม้งวูหยาพยักหน้า : “ร่างกายเช่นนี้ค่อนข้างวิเศษ หลายพันปีที่ผ่านมาแทบจะไม่ปรากฏให้เห็น เมื่อครอบครองร่างกายจิตวิญญานบริสุทธุ์ ไม่ว่าจะกลืนกินเม็ดยาไปมากทำเท่าไหร่มันจะไม่เป็นอันตรายหรือส่งผลกระทบใดๆ และยังสามารถเพิ่มความพลังความแข็งแกร่งด้วยซ้ำ การใช้ยาของคนธรรมดาทั่วไปมีขีดจำกัดสูงสุดที่จำกัดไว้ แต่ว่าร่างกายจิตวิญญานบริสุทธุ์ไม่เป็นเช่นนั้น อาจจะกล่าวได้ว่า ร่างกายจิตวิญญานปริสุทธุ์เป็นเป็นเตาปรุงยาที่ดีที่สุดในใต้หล้า เมื่อกลืนกินยาเข้าไป ส่วนผสมต่างที่เป็นอันตรายจะถูกกำจัดออกไปทั้งหมด ศิษย์พี่ของเจ้าฝึกฝนวิชายุทธุ์ด้วยตนเองเป็นเวลาเพียง 5 ปี จนถึงวันนี้นางอยู่ในขั้นสูงสุดของเขตแดนผสานลมปราณ ถ้าหากไม่เป็นเพราะเขาจงใจยั้บยั้งการฝึกยุทธุ์ของนาง ไม่แน่ว่าตอนนี้นางอาจจะอยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงแล้ว”
หยางไค่ประหลาดใจยิ่งนัก ระยะเวลาเพียง 5 ปี ฝึกฝนวิชายุทธุ์จนอยู่ในขั้นสูงสุดของเขตแดนผสานลมปราณ เจี่ยหงเฉินก็อยู่ในเขตแดนนี้เช่นเดียวกัน แต่เขาฝึกฝนเป็นเวลากี่ปีล่ะ ? น่าจะประมาณ 10 ปี และนี้ยังเป็นผลลัพธุ์จากการยับยั้งการฝึกยุทธุ์ ถ้าหากว่าไม่ยับยั้งนางไว้ ไม่แน่ว่านางอาจจะมีพลังความแข็งแกร่งมากกว่าซูเหยียน ?
หยางไค่รู้สึกละอายใจ เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของเขาและศิษย์พี่นางนี้ มันช่างแตกต่างราวฟ้ากับดิน
อัจฉริยะอันดับ 1 ที่แท้จริงของหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวต้องเป็นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้ !!
แต่ว่าการที่ศิษย์พี่เซี่ยมีการพัฒนาที่รวดเร็วเช่นนี้ ต้องเกี่ยวข้องกับยาวิเศษที่นางเป็นคนปรุงกลั่นด้วยตนเองอย่างแน่นอน
เม้งวู่หยากล่าวต่อ : “ร่างกายจิตวิญญานบริสุทธุ์ไมได้วิเศษเพียงเท่านี้ หากว่าฝึกฝนวิชายุทธุ์แห่งเซียนที่เหมาะสม ตราบใดที่มีพลัง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกจะสามารถปรุงกลั่นเป็นยาวิเศษ แม้แต่พลังแห่งฟ้าดิน หากว่าศิษย์ของข้ายินยอม ก็จะสามารถปรุงกลั่นเป็นยาวิเศษได้”
“ตราบใดที่มีพลัง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกจะสามารถปรุงกลั่นเป็นยาวิเศษ แม้แต่พลังแห่งฟ้าดิน ! ดังนั้นจึงไม่ต้องกล่าวถึงผลไม้สามสุริยัน !!”
หยางไค่สามารถเคาเดาได้เลยว่า ศิษย์พี่เซี่ยคนนี้จะกลายเป็นนักปรุงยาที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ เธอเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่วิเศษ ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถจะเปรียบเทียบกับนางได้
“ครั้งนี้ เซี่ยหนิงฉางกำลังจะก้าวไปยังเขตแดนลมปราณแท้จริง แต่ก่อนที่นางจะก้าวข้ามเขตแดน นางต้องปรุงกลั่นสิ่งของบางอย่างเข้าสู่ร่างกายเสียก่อน สิ่งของสิ่งนี้นางคนเดียวไม่สามารถที่จะหามันมาได้” เม้งวูหยากล่าวด้วยเสียงที่เคร่งขรึม
“ดังนั้นจึงต้องการความช่วยเหลือจากข้า ?” หยางไค่กล่าวถาม
เม้งวูหยาพยักหน้า
“สิ่งของที่ว่ามันสิ่งใด ?”
“ผลึกน้ำแข็งนพเก้า สิ่งของสิ่งนี้เป็นประโยชน์สำหรับผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริง หากข้าให้นางปรุงกลั่นผลึกน้ำแข็งนพเก้า ข้าจะไม่ยับยั้งการฝึกฝนวิขายุทธุ์ของงนางอีก”
เมื่อเขตแดนผสานลมปราณเข้าสู่เขตแดนลมปราณแท้จริง พลังลมปราณที่อยู่ภายในร่างกายจะกลายเป็นลมปราณแท้จริง มันตกยกระดับความแข็งแกร่งของลมปราณนับครั้งไม่ถ้วน มันเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกยุทธุ์ทุกคนจะต้องผ่านประสบการณ์นี้ไป แต่ระหว่างขั้นตอนนี้ หากว่ามีสมบัติล้ำค่าที่มีคุณสมบัติวิเศษเข้ามาช่วย พลังลมปราณที่แปรเปลี่ยนเป็นลมปราณแท้จริงจะมีพลังความแข็งแกร่งมากกว่าปกติ
สิ่งที่เรียกว่าผลึกน้ำแข็งนพเก้า เป็นสมบัติล้ำค่าที่วิเศษ และยังเป็นสมบัติล้ำค่าที่วิเศษที่สุด
“ผลึกน้ำแข็งนพเก้าเป็นสมบัติแก่นแท้ของจิตวิญญาณ การที่จะครอบครองพวกมันจึงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก หากคนที่พบเจอไม่ใช่คนที่เหมาะสม มันจะกลายอากาศธาตุมลายหายไปในทันที มีเพียงคนที่ฝึกฝนวิชายุทธุ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังลมปราณหยาง จึงจะสามารถควบคุมมันได้ นอกจากนั้นพลังลมปราณหยางที่อยู่ภายในร่างกายของพวกเยาต้องบริสุทธุ์จนถึงระดับหนึ่ง นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”
“ข้าต้องทำอย่างไร ?” หยางไค่กล่าวถาม
เม้งวู่หยารู้สึกรำคาญขึ้นมาทันที : “จะทำอะไรมากมาย ถึงเวลาข้าจะบอกเจ้าเองว่าต้องทำอย่างไร”
หยางไค่บีบจมูกของตนเอง และไม่รู้ว่าทำไมตาเฒ่าเม้งต้องโมโหเช่นนี้
“ผลึกน้ำแข็งนพเก้าเป็นอยู่ที่ไหน ?พวกเราจะออกตามหามันเมื่อไหร่ ?”
“อยู่ภายในเทือกเขาพายุทะมึน สถานที่แห่งนั้นเป็นดินแดนของผลึกน้ำแข็งนพเก้า วันที่ 7 เดือน 7 พลังหยินจะรวมตัวกัน มีเพียงช่วงเวลานั้นเท่านี้ ที่ผลึกน้ำแข็งนพเก้าจะปรากฏ เพื่อดูดซับพลังหยินในฟ้าดิน”
“เหลือเวลาไม่มาก” หยางไค่คำนวณ และพบว่าเหลือเพียงไม่ถึง 10 วันก็จะถึงวันที่ 7 เดือน 7 ถ้าต้องเข้าไปภายในเทือกเขาวายุทะมึน ระยะทางที่ยาวไกลต้องใช้เวลาสักพักในการเดินทาง
“ดังนั้นหากว่าจะไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องทำ ข้าอยากไปให้เร็วที่สุด หากว่าพลาดครั้งนี้ ต้องรออีก1 ปี” เม้งวูหยากล่าวอย่างจริงจัง
“ข้าออกเดินทางได้ตลอดเวลา” หยางไค่ยิ้มเบาๆ
“อีก 2 วันเจ้ามาพบข้าที่หอแลกเปลี่ยนวิเศษ ข้าต้องเตรียมบางสิ่งบางอย่าง” เหรัญญิกเม้งกล่าวตอบอย่างอบอุ่น
“ดี เราจะเจอกันที่นี้อีก 2 วันข้างหน้า”
เมื่อทั้งสองนัดแนะกันเรียบร้อย หยางไค่จึงเดินจากไป
เมื่อมองเงาที่ค่อยๆลับหายไป เม้งวู่หยาถอนหายใจเบา ใบหน้าแสดงออกด้วยความแปลกประหลาด โดยไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จนในที่สุดเขาก็ได้กล่าวออกมา : “ศิษย์รัก เจ้าแน่ใจใช่ไหมว่าต้องการทำเช่นนี้ ?”
เซี่ยหนิงฉางปล่อยสายลมพัดผ่านร่างกายและกล่าวตอบด้วยเสียงเบาๆ : “อืม”
เม้งวู่หยากล่าว : “ไม่ต้องปรุงกลั่นผลึกน้ำแข็งนพเก้าก็สามารถก้าวขึ้นไปยังเขตแดนลมปราณแท้จริง แต่ว่าพลังลมปราณแท้จริงในอนาคตจะลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
เซี่ยหนิงฉางหัวเราะเบาๆ : “แต่ว่า การที่จะช่วยเหลืออาจารย์ พลังลมปราณยิ่งบริสุทธุ์ยิ่งดีไม่ใช่หรือไง ? อาจารย์ช่วยเหลือข้าเลี้ยงดูข้า ข้าอยากช่วยอาจารย์เช่นเดียวกัน”
“แต่ว่า………อั๊ย” เจ้าทบทวนเรื่องนี้อีกครั้งดีไหม ?
เหตุผลที่เขานัดแนะให้ล่าช้าไปอีก 2 วัน เพราะเม้งวูหยาต้องการให้เซี่ยหนิงฉางไคร่ครวญคิดอีกครั้ง
ใบหน้าของเซี่ยหนิงฉางแดงก่ำ : “ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้เกลียดเขา”
เม้งวู่หยาถอนหายใจอย่างรู้ทัน : “ข้าดูถูกไอ่เด็กหนุ่มนั้นมากเกินไป”
เมื่อคิดถึงภาพของหยางไค่ที่ตอบตกลงโดยไม่คิด ทำให้เม้งวูหยาเกลียดชังอย่างมาก หยางไค่เข้ามาช่วยเหลือด้วยความยินดี แต่ไม่รู้หรือไงว่าตนเองจะได้รับประโยชน์มากแค่ไหน
ขอให้เขาอย่าสงสัยอะไรแม้แต่น้อย !! เพราะสถานที่เล็กๆแห่งนี้เป็นสถานที่หลบซ่อนของศิษย์รัก เม้งวู่หยารู้สึกกังวล จนท้องไส้ปั่นป่วน
หยางไค่ไม่ได้กลับไปที่จวนของซู่เหยียน แต่กลับไปที่กระท่อมไม้อันเงียบสงบของตนเอง แม้ไม่ได้กลับมาหลายวัน แต่กระท่อมไม้กลับสะอาดสะอ้าน ไม่มีแต่เศษฝุ่น และเขาไม่รุ้ว่าใครเป็นคนทำความสะอาดกระท่อมให้แก่เขา
แม้ว่าเหรัญญิกเม้งจะกล่าวด้วยความคลุมเครือ แต่หยางไค่ทราบดีว่าสถานที่เขากำลังจะไปเป็นอย่างไร และต้องทำอย่างไรบ้าง
ในเมื่อเป็นดินแดนแห่งผลึกน้ำแข็งนพเก้า สถานที่แห่งนั้นต้องมีพลังหยางที่หนาแน่นและเข้มข้น พลังลมปราณหยางที่อยู่ในร่างกายเป็นศูนย์กลางแห่งพลังหยาง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในตอนนี้ เพราะพลังความแข็งแกร่งของตัวเองค่อนข้างจะอ่อนแอ หากไม่กักเก็บพลังหยางในตอนนี้ อาจจะไม่สามารถฝึกยุทธุุ์ในระยะยาวได้
ยังโชคดีที่ศิษย์พี่เซี่ยช่วยปรุงกลั่นผล้ไม้สามสุริยันจนกลายเป็นเม็ดที่เต็มไปด้วยพลังหยางที่เข้มข้น
ต้นสามสุริยันทั้ง 4 ต้น ทุกๆต้นต่างผลิผลออกมาทั้งหมด 3 ลูก ดังนั้นเขาจึงมีเม็ดยาทั้งหมด 12 เม็ด ยาทุกเม็ดสามารถฝึกฝนกลายเป็นหยดน้ำพลังลมปราณหยาง 3 หยด ดังนั้นตนเองจึงมีหยดน้ำพลังลมปราณหยางทั้งหมด 36 หยด
หยดน้ำพลังลมปราณหยางเหล่านี้สามารถใช้ในการต่อสู้และปกป้องพลังหยิน มันเป็นสิ่งที่เขาต้องพึงพาเพื่อความอยู่รอดในวันข้างหน้า
หยางไค่ใช้เวลาทั้งวัน จึงสามารถกลืนกินเม็ดยาทั้ง 12 เม็ดจนหมด
หยดน้ำพลังลมปราณที่เขาได้รับไม่ได้มีเพียง 36 หยด แต่ได้รับทั้งหมด 40 หยด เมื่อรวมกับหยดน้ำพลังลมปราณหยางที่อยู่ในจุดตันเถียน ทำให้จุดตันเถียนของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยหยดน้ำพลังลมปราณหยางที่มากมาย
ในที่สุดตัวเขาเองก็มีข้อได้เปรียบในการเดินทางครั้งนี้
ไม่เพียงได้รับหยดน้ำพลังลมปราณจำนวนมากมาย หลังจากที่ยาเม็ดสุดท้ายละลายในร่างกาย หยางไค่พบว่าตนเองได้ก้าวเข้าสู่เขตแดนลมปราณแรกเริ่มขั้นที่ 4
ความก้าวหน้าในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เกิดขึ้นโดยไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้า โดยที่เขาไม่รู้สึกพิเศษอะไรแม้แต่น้อย
เมื่อครุ่นคิดได้สักครู่ หยางไค่จึงสรุปว่าเป็นเพราะหลายวันที่ผ่านมาเขากินยาจากจวนของซู่เหยียนและกินยาสามสุริยัน จึงทำให้พลังที่มากมายบรรจบกันการที่มันจะก้าวข้ามเขตแดนก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลก