ตอนที่แล้วตอนที่ 79 ผลตอบแทนจากการมอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 81 ร่างกายของเจ้ายังบริสุทธุ์

ตอนที่ 80 ความอดทนที่ไร้พ่าย


แต่ซู่ซวนวู่กลับหรี่ตาอย่างแข็งขัน เขาจ้องเขม่งไปที่หยางไค่และกล่าวด้วยความสงสัย : “ดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามจะทำความเข้าใจกับอะไรบางอย่าง”

“หมายความว่าอย่างไร ?” ซู่มู่กล่าวถามด้วยความไม่เข้าใจ

 

ซู่ซวนวู่ส่ายหัวอย่างช้าๆและไม่ได้กล่าวอธิบายเพิ่มเติม

 

ในสายตาของเขา แม้ว่าหยางไค่ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดที่น่าเวทนา แต่เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขากำลังพยายามที่จะทำความเข้าใจกับบางสิ่งบางอย่างโดยใช้ความช่วยเหลือจากการโจมตีในครั้งนี้ มันอาจเป็นความรู้สึกทางจิตวิญญาณ หรือทักษะการต่อสู้ ร่างกายที่ถูกห่อหุ้มด้วยคลื่นพายุหิมะ สั่นสะท้านเพราะความหนาวเย็น แต่ยังมีกลิ่นอายแห่งความร้อนจากเปลวเพลิงที่แพร่กระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อใดที่เปลวเพลิงนี้สามารถจุดประกายกลายเป็นเปลวเพลิงที่ร้อนแรง เขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายและจิตวิญญาณ เข้าสู่เขตแดนระดับใหม่ที่สูงกว่า

 

ถ้าหากเขาประสบความสำเร็จ ความสำเร็จในอนาคตของเขาจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาอีกต่อไป !! ซู่ซวนวู่ไม่เคยเห็นผู้ฝึกยุทธุ์คนใดในขณะที่สภาพร่างกายของตนอยู่ในระดับที่อ่อนแอที่สุดแต่สามารถเข้าสู่เขตแดนระดับใหม่ที่สูงกว่าจากการสัมผัสและรับรู้ความรู้สึกเช่นนี้ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง

 

“ท่านปู่ ถ้าหากว่าท่านพี่ยังคงโจมตีต่อไปเช่นนี้ ศิษย์พี่หยางต้องตายแน่ !!” ซู่มู่กล่าวออกมาด้วยความกังวลใจ

 

ซู่ซวนวู่ส่ายหน้าและกล่าวตอบ : “เหยียนเอ่อทราบดีถึงความหนักเบาในการโจมตี การโจมตีของนางไม่มีเจตนาการฆ่าแม้แต่น้อย นางไม่ต้องการเอาชีวิตของหยางไค่อย่างแน่นอน”

 

หลังจากที่กล่าวจบเขากระซิบพึมพำกับตัวเองเบา : “น่าแปลก.........ทำไมเหยียนเอ่อต้องโจมตีทำร้ายเขาด้วย ?”

 

แม้ว่าซู่ซวนวู่จะเป็นผู้อาวุโสที่มีประสบการณ์มากมาย แต่เขาก็มิอาจคาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างซู่เหยียนและหยางไค่ ทำไมซู่เหยียนต้องเกรี้ยวโกรธและลงมือโจมตีด้วยความรุนแรงเช่นนี้

 

เมื่อพายุน้ำแข็งมลายหายไป ร่างกายของซู่เหยียนค่อยๆลอยลงมาจากกลางอากาศ ร่างกายของหยางไค่ค่อยๆร่วงหล่นสู่พื้นล่างเช่นกัน ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลที่มากมาย เสื้อผ้าฉีกขาด เผยให้เห็นผิวหนังด้านหน้าที่ถูกหิมะน้ำแข็งตรึงแช่จนกลายเป็นสีเขียวคล้ำ

 

แต่ในขณะที่ร่างกายของเขากำลังจะกระแทกกับพื้นดิน หยางไค่พลิกตัวอย่างกะทันหัน และร่วงสู่พื้นดินอย่างปลอดภัย เขาลืมตามองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

 

ภายใต้ดวงดาวที่ส่องประกาย ซู่เหยียนที่สวมใส่ชุดสีขาวที่งดงามราวกับนางเซียนที่ลอยลงมาจากฟากฟ้า ด้านหลังของนางมีดวงจันทร์เต็มดวงที่น่าเกรงขามค่อยขับรัศมีแห่งความสง่างามในร่างกายของนาง เมื่อสายลมยามค่ำคืนพัดผ่าน ก่อให้เกิดเป็นภาพที่งดงามไร้ฐิติ

 

รัศมีกลิ่นอายแห่งความสูงส่งแพร่กระจายออกมา ทำให้มนุษย์ปถุชนที่อยู่เบื้องล่างก่อเกิดเป็นความรู้สึกที่เคารพและอ่อนน้อมถ่อมตน

 

คากก ฉา ฉา.......คลื่นน้ำแข็งก่อตัวจากทุกทิศทางและพุ่งไปหาหยางไค่อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นคลื่นน้ำแข็งแปรเปลี่ยนเป็นผลึกน้ำแข็งขนาดใหญ่และหุ่อหุ้มครอบคลุมหยางไค่ไว้ภายใน

 

ผลึกน้ำแข็ง ใสกระจ่างราวกับแก้วที่เปล่งประกาย จากชั้นผลึกน้ำแข็งสามารถมองเห็นทุกอนุขุมขนและเส้นผมของหยางไค่ แม้แต่การแสดงออกบนใบหน้าของเขาอย่างสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

 

ซู่เหยียนไม่กล่าวอะไร เขาจ้องมองหยางไค่ด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ก่อนจะปลิดตัวและเดินเข้าไปในห้องของนางเหมือนเดิม

 

คงเหลือไว้เพียงภาพเหตุการณ์ที่งดงามตราตรึงไว้ในสายตาและในจิตใจของหยางไค่

 

“เฝ้าเขาเอาไว้ เมื่อไหล่ที่ผลึกน้ำแข็งถูกทำลาย จะเป็นวันที่เขาได้รับอิสรภาพ !!” ซู่ซวนวู่กล่าวออกคำสั่งต่อซู่มู่

 

ซู่มู่กระวนกระวายจนเหงื่อเย็นผุดออกมาที่หน้าผาก : “ท่านปู่ ศิษย์พี่หยางจะไม่ถูกแช่แข็งจากผลึกน้ำแข็งของท่านพี่หรือไง ?”

 

ซู่ซวนววู่หัวเราะเบาๆ : “ไม่มีทาง มันเป็นความโชคดีของเขาต่างหาก !!”

 

หลังจากที่กล่าวจบ ซู่ซวนวู่หันหลังกลับไปทันที

 

ซู่มู่และคนอื่นๆเดินขึ้นมาอย่างเงียบ พวกเขาทุกคนล้อมรอบผลึกน้ำแข็งก้อนมหึมาและเตะต่อยอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ผลึกน้ำแข็งถือกำเนิดจากดวงใจน้ำแข็งของซู่เหยียน มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถทำลายได้โดยง่าย

 

“แย่แล้ว แย่แล้ว อาการบาดเจ็บเดิมของศิษย์หยางยังมิทันหาย และตอนนี้ยังถูกแช่แข็งจากผลึกน้ำแข็งของท่านพี่ ข้ากลัวว่าศิษย์พี่หยางจะถูกแช่แข็งจนร่างกายแหลกเหลว มันไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ?” เมื่อคนของซู่มู่กล่าวจบ เขาถูกซู่มู่จ้องเขม่ง : “เจ้าไม่ได้ยินสิ่งที่ท่านปู่กล่าวไว้หรือไง มันเป็นความโชคดีของศิษย์พี่หยาง ? อย่ากล่าวอะไรมั่วซั่ว หากว่าเรายังดึงดันที่จะทำลายผลึกน้ำแข็งนี้ ไม่แน่ว่าอาจทำให้ศิษย์พี่หยางได้รับบาดเจ็บ พวกเรายืนเฝ้าอยู่ที่นี้ก็พอ”

 

“อ่อ” กลุ่มคนของซู่มู่ต่างประสานเสียงตอบรับคำสั่งของซู่มู่

 

เมื่อเฝ้าจนกระทั่งถึงยามห้าก่อนรุ่งสาง ผลึกน้ำแข็งยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด หยางไค่ที่ถูกแช่อยู่ภายในเสมือนตายทั้งเป็น ลมหายใจของเขาค่อยๆอ่อนลง แต่เขายังลืมตาและจ้องเขม่งไปยังตำแหน่งที่ซู่เหยียนหายตัวไป

 

กลุ่มคนของซู่มู่ได้พิจารณาสถานการณ์ พวกเขาจึงตัดสินทิ้งให้คน 2 คนเฝ้าอยู่ที่นี้ ส่วนคนอื่นๆ กลับไปทำหน้าที่ของตนเอง

 

เหตุการณ์นี้ดำเนินไปเป็นเวลา 3 วัน หน้าห้องของจวน ผลึกน้ำแข็งที่ตรึงแช่คนที่มีชีวิตอยู่ภายใน ทำให้คนที่มองเห็นประหลาดใจอย่างถึงที่สุด

 

กลุ่มคนของซู่มู่ได้ผลัดหมุนเวียนกันมาเฝ้าไม่รู้กี่ครั้ง แต่พวกเขายังมองไม่ร่องรอยวิธีการในการทำลายผลึกน้ำแข็ง พวกเขาต่างกังวลกัดริมฝีปากของตนเองจนเกิดเป็นตุมพองขึ้นมา

ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา หยางไค่ไม่รู้สึกถึงกระแสเวลาที่ไหลผ่าน แม้วาเขาจะลืมตา แต่มองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น

 

ความสนใจของเขาทั้งหมดต่างทุมเท สัมผัส รับรู้ เข้าใจกับความเปลี่ยนแปลที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา

 

รับรู้พลังที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในกระดูก รับรู้พลังความร้อนระอุที่โหมกระหน้ำเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน รับรู้ความรู้สึกหลังจากที่ความร้อนระอุได้แผ่กระจายไปทั่วร่างกาย มันได้เพิ่มพลังความแข็งแกร่งของเข้าให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นยิ่งขึ้น

ผลึกน้ำแข็งที่ซู่เหยียนทิ้งไว้แก่เขา ทำให้เขาสามารถสัมผัสรับรู้การเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายอย่างดีเยี่ยม ไอแห่งความเยือกเย็นที่ซ่อนอยู่ในผลึกน้ำแข็งค่อยๆ ซึมซาบเข้าไปในนร่างกาย และเข้าสู่เส้นชีพจรลมปราณอย่างต่อเนื่อง

 

ความแข็งแกร่งและความหนาวเย็นของผลึกน้ำแข็งไม่ใช่สิ่งที่หยางไค่สามารถต้านทานได้ แต่เขาสามารถต้านทานมันได้ทุกครั้งจากการพึ่งพาคุณสมบัติพลังที่ลึกลับของกระดูกทองคำ

 

การต่อต้านหลายร้อยหลายพันครั้ง ทำให้หยางไค่สามารถเข้าใจในความลึกลับของกระดูกทองคำ เขารู้อย่างชัดเจนว่ามันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่เขาอย่างไร

 

ความร้อนขนาดย่อมที่อยู๋ภายในร่างกายเริ่มปะทุและทำให้มันร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ หลังจากที่เข้าใจความลับของกระดูกทองคำอย่างแจ่มแจ้ง ทันใดนั้นเปลวเพลิงขนาดยอ่มได้จุดประกายและโหดกระหน่ำขึ้นอย่างรุนแรง ร่างกายของเขาเริ่มส่งคลื่นความร้อนแรงออกมาจากร่างกายของเขา

 

คาก !! เสียงแตกกระจายดังขึ้น !!

 

ซู่มู่และหลี่หยุนเทียนที่กำลังเฝ้าระวังตกใจอย่างกะทันหันกับการเคลื่อนไหวนี้ พวกเขารีบหันหน้าไปมอง

 

พวกเขามองเห็นรอยแตกขนาดเล็กจากผลึกน้ำแข็ง รอยแตกของมันคล้ายกับเส้นใยของแมงมุม

 

“ศิษย์พี่หยางกำลังจะออกมา !!” ซู่มู๋กล่าวตะโกนด้วยความตื่นเต้นและดีใจ

 

เมื่อกล่าวจบ ผลึกน้ำแข็งระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง มันแตกกระจายกลายเป็นแสงสว่างและมลายหายไปในกลางอากาศ

 

ร่างกายของหยางไค่เต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดที่ชโลมทั่วร่างกาย แม้ว่าร่างกายของเขาดูเหมือนจะอ่อนแออย่างถึงที่สุด แต่เขายังคงหลับตานิ่ง ขมวดคิ้วไว้แน่น เสมือนว่ากำลังอยู่ในห้วงความคิดที่ลึกซึ้ง

 

ซู่มู่และหลี่หยุนเทียนไม่กล้าที่จะรบกวนเขา ดังนั้นพวกเขาจึงรออย่างสงบเงียบต่อไป

 

ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ความกังวลจากการขมวดคิ้วของหยางไค่ค่อยๆหายไป เขาค่อยกล่าวด้วยเสียงหัวเราะที่เริงร่า : “เป็นเช่นนี้นั้นเอง !! ข้าจะเรียกเจ้าว่าความอดทนที่ไร้พ่าย!!”

 

ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ความอดทนที่ไร้พ่ายเป็นสิ่งที่หยางไค่รู้สึก สัมผัส รับรู้ได้จากการถูกผลึกน้ำแข็งตรึ่งแช่ไว้ มันเป็นทักษะการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ มันไม่สามารถใช้โจมตีคู่ต่อสู้ แต่สามารถเพิ่มพลังความแข็งแกร่งให้แก่ตนเอง

 

มันเป็นทักษะการต่อสู้ที่เกื้อหนุน ช่วยเหลือ เคียงคู่กับกระดูกทองคำ ดังนั้นมันจึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระดูกทองคำ

 

เมื่อร่างกายต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ทรมาณ แต่จิตใจยังมีความไม่ยอมแพ้ไม่ย่อท้อ จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังที่น่าอัศจรรย์ออกมาได้ ทันทีที่พลังถูกปลดปล่อยออกมา กระดูกทองคำจะส่งพลังเกื้อหนุนให้แก่ตนเอง ทำให้พลังความแข็งแกร่งของตนเองเพิ่มขึ้นในชั่วพริบตา

 

แม้ว่าก่อนหนี้เขาจะเคยเปิดใช้ทักษะความอดทนที่ไร้พ่าย แต่เขาไม่เข้าใจถึงวิธีการของทักษะการต่อสู้นี้ เมื่อเข้าใจและไม่เข้าใจวีธการของมัน พลังที่ปลดปล่อยออกมาก็มีความแตกต่างเช่นเดียวกัน

 

อาจจะกล่าวได้ว่า หยางไค่เป็นเพียงคนเดียวที่ทราบถึงทักษะการต่อสู้ที่ลึกลับและเขาเป็นคนเดียวที่ครอบครองทักษะการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ และมันยังเป็นทักษะการต่อสู้สำหรับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

 

เขาจะไม่มีทางเหมือนที่ผ่านมาที่เขาเปิดใช้ทักษะความอดทนที่ไร้พ่ายโดยไม่สามารถควบคุมมันได้ เมื่อได้รับบาดเจ็บหรือพบเจอกับสิ่งอื่นๆที่กดดันทิ่มแทงจิตใจ

 

แม้ว่าผลลัพธุ์ของมันจะยิ่งใหญ่ แต่หยางไค่รู้สึกไม่พึงพอใจ เพราะเขารู้สึกได้ว่า ยังมีความลับบางอย่างที่ยังซ่อนอยู่ในกระดูกทองคำ เพราะเขายังไม่สามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอย่างแจ่มแจ้ง เขาจึงรู้สึกโกรธตัวเองอย่างมาก

 

วันเวลาอีกยาวไกล ไม่รีบร้อนมากเกินไป หยางไค่ปลอบโยนตัวเอง

 

รอกระทั่งหยางไค่เคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ซู่มู่และหลี่หยุนเทียนจึงกล้าเดินหน้าเขาไปและกล่าวถาม : “ศิษย์พี่หยาง ไม่เป็นไรใช่ไหม ?”

 

“ข้า ? ข้าสบายดี !!” หยางไค่ขยับมือขยับเท้า และพบว่าอาการบาดเจ็บของหลายวันได้รับการเยียวยาทั้งหมด

 

“สวมใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะ หากท่านพี่กลับมาและมองเห็นศิษย์พี่หยางอยู่ในสภาพเช่นนี้ ท่านพี่ต้องทุบตีศิษย์พี่อีกครั้งแน่ !!” ซู่มู่กล่าวด้วยความเป็นห่วง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด