ตอนที่ 79 ผลตอบแทนจากการมอง
ซู่เหยียนในตอนนี้ สวมใส่เพียงเสื้อชั้นในที่เบาบางเผยให้เห็นหลังที่ขาวนวลเนียนเสมือนหยก ไหล่ที่โค้งวนได้รูป ขาที่เรียวยาว ก้นที่กลมกลึงและผิวที่ขาวบริสุทธุ์ดุจหิมะ ทุกสิงอย่างถูกมองเห็นจากดวงตาของหยางไค่จนหมดสิ้น
แม้ว่าจะเป็นช่วงกลางดึกที่มืดสลัว แต่หยางไค่มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอย่างชัดเจน
หลังของนางโค้งงออย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะที่ไหล่ของนางประกายด้วยแสงแพรวพราวที่มีเสน่ห์เย้ายวน เอวบางเรียวยาวที่ประณีตรับกับก้นกลมกลึงที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป ผิวทขาวเนียนนประกายอย่างงดงามทำให้ผู้ที่พบเห็นกับภาพเหตุการณ์ตลึ่งนิ่งเสมือนอยู่ในห้วงแห่งความฝัน และยังทำให้เลือดของเขาสูบฉีดอย่างหนักหน่วง หัวใจเต้นโครมครามอย่างรุนแรง กางเกงชั้นที่ยึดติดกับร่างกายส่วนร่างของนางยังทำให้ผู้พบเห็นคิดเตลิดไปไกลโดยมิอาจหักห้ามใจ
เพราผิวของนางขาวเสมือนหิมะ และเพราะเสื้อและกางเกงชั้นที่นางสวมใส่เป็นสีขาว เมื่อมองอย่างรวดเร็ว เสมือนว่านางกำลังเปลือยกายอยู่ตรงหน้า
โชคดีที่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากด้านหลัง นางใช้มือปิดหน้าอกและมองหันหน้ามองไปที่หน้าประตู มืออีกข้างกำลังถือชุดนอนกระโปรงสีขาว ดูเหมือนว่านางกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า
สายตาของทั้งสองประสานกันในกลางอากาศ หยางไค่แสดงออกอย่างตกใจ แต่มิอาจละสายตาจากทรวงอกที่ขาวเนียนและอิ่มอวบของนางไปได้ ซูเหยียนรีบปิดปังหน้าอกของนางอย่างรวดเร็ว ดวงตาของนางประกายกลิ่นอายแห่งการฆ่าออกมาอย่างรุนรแง ไหล่ของนางยังสั่นระรัวด้วยความโกรธ
เพราะนางเห็นดวงตาสองดวงที่แดงก่ำ !! ดวงตาสีแดงก่ำเสมือนหมาป่าที่หิวโหย และเสมือนปีศาจที่ตะกละตะกลาม ดวงตาสีแดงก่ำกวามองร่างกายที่บริสุทธุ์ผุดผ่องของตนเอง ไม่เพียงแค่นั้น ชายที่อยู่ตรงหน้ายังหายใจอย่างหนักหน่วง เสมือน...สัตว์เดรฉาน !!
“คาก ฉ่า ฉ่า...........” ซูเหยียนเป็นศูนย์กลาง ชั้นน้ำแข็งได้แพร่กระจายออกมาจากทุกทิศทางของห้องอย่างรวดเร็ว นางเม้มริมฝีปากที่แดงเข้ม ดวงตาประกายด้วยความรัศมีแห่งความเยือกเย็นที่โหดเหี้ยม
ในที่สุดหยางไค่สัมผัสได้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เขาหันหลัง ใช้ความเร็วสูงสุดของเขาเพื่อหนีออกจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วอย่างมาก ระยะเวลาเพียง 3 ช่วงลมหายใจ เขาได้พุ่งออกมาจากห้องของซูเหยียน แต่ยังมิทันที่เขาจะสามารถเลือกทิศทางในการหนีที่ชัดเจน ด้านหลังของเขาเกิดเสียงดังขึ้นอย่างกะทันหัน หลังคาห้องของซูเหยียนเกิดเป็นรูหลุมขนาดใหญ่ ทันใดนั้นเงาร่างสีขาวบินลอยตัวขึ้นมาจากภายในพุ่งลงมาตรงหน้าของหยางไค่ นางแสดงออกอย่างเยือกเย็นและเต็มไปด้วยความอัปยศ
หยางไค่ก้าวถอยหลังหลายก้าว เขาออกท่าป้องกันตัว ในใจครุ่นคิดหาหนทางอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียดไม่ว่าเขาจะกล่าวอธิบายอย่างไรก็เสมือนตนเองกำลังแก้ต่าง ไม่ว่าจะกล่าวอธิบายอย่างนางก็ไม่มีทางที่จะรับฟัง
ไม่ว่าหญิงสาวคนใดเมือถูกจ้องมองร่างกายที่บริสุทธุ์ของนาง นางไม่มีทางที่จะปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ
ซูเหยียนในตอนนี้สวมใส่ชุดของตัวเองจนเสร็จสิ้น ดวงตาที่เลือดเย็นจ้องมองหยางไค่ แม้ว่านางเกรี้ยวโกรธจนต้องการฆ่า แต่นางรู้แก่ใจว่าหยางไค่ทำเช่นนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่คิดว่าตัวนางเองจะกลับมาจากสมาคมการค้าป่าสนวายุทะมึน จึงเดินเข้ามาในห้องตรงข้ามอย่างไม่ตั้งใจ
แม้ว่ามันจะเป็นความเข้าใจผิด !! แม้ว่าจะเป็นความเข้าใจผิด ซู่เหยียนก็มิอาจปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ง่ายๆ
นางกำลังรอคำอธิบาย คำอธิบายที่จะระงับความโกรธของนางให้สงบลง
แต่น่าเสียดายชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับไม่กล่าวอธิบายแม้แต่คำเดียว ดวงตาของเขายังคงแดงก่ำ กลิ่นอายแห่งความกระหายเลือดแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขาอย่างรุนแรง เขาเผชิญหน้ากับตัวเองโดยไม่มีความรู้สึกสำนึกผิดแม้แต่น้อย
ดีมาก !! ข้าไม่ต้องการคำอธิบายจากเจ้า เข้าต้องการทุบตีเจ้าเพื่อบรรเทาความเกรี้ยวโกรธของข้า !!
ผลึกหิมะน้ำแข็งได้ก่อเกิดขึ้นอย่างช้าบๆนปลายนิ้วของซูเหยียน นางดีดนิ้วเบาๆ ผลึกหิมะน้ำแข็งได้พุ่งลอยไปหาหยางไค่อย่างรวดเร็ว
ระหว่างที่มันบินลอยออกไป ผลึกหิมะน้ำแข็งได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เมื่อมันไปถึงตรงหน้าของหยางไค่ เกล็ดหิมะน้ำแข็งมีขนาดใหญ่ประมาณ 3 ฝ่ามือ
หยางไค่ไม่กล้าที่จะรอช้า เขาระเบิดพลังลมปราณหยางและปล่อยหมัดปะทะกับผลึกน้ำแข็งของซู่เหยียน
หมัดของเขาส่งความรู้สึกที่เจ็บปวดให้แก่เขา ผลึกน้ำแข็งที่ก่อกำเนิดขึ้นจากปราณจิตเย็นกำลังปะทะกับพลังลมปราณหยางที่ร้อนแรง เมื่อเขาปล่อยหมัดออกไป ผลึกน้ำแข็งขนาดเท่า 3 ฝ่ามือได้แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
ซู่ว ซู่ว ซู่ว .............ผลึกน้ำแข็งที่แตกกระจายแปรเปลี่ยนเป็นผลึกน้ำแข็งที่แหลมคมจำนวนมากมาย แล่ะพุ่งโจมตีไปที่หยางไค่
หยางไค่ไม่สามารถตอบสนองต่อการโจมตีในครั้งนี้ เพียงพริบตาร่างกายของเขามีบาดแผลที่เพิ่มขึ้นถึง 10 บาดแผล เลือดสีแดงสดใหลออกมาอย่างช้าๆ ร่างกายที่ยังพักฟื้นไม่หายจากอาการบาดเจ็บเหมือนจะซวนเซและทรุดตัวลงไป
หยางไค่คำรามด้วยเสียงต่ำ กระดูกทองคำแสดงอำนาจพลังของมันอีกครั้ง ความรู้สึกอบอุ่นกระจายออกมา ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิดๆ
ดวงตาที่งดงวามของซู่เหยียนประกายด้วความตื่นตะลึง นางคิดว่ากระบวนท่าเดียวของนางจะสามารถโจมตีหยางไค่จนหมดสติไปได้ แต่ไม่คิดว่าเขาสามารถที่จะป้องกันการโจมตีจากตัวเองได้
ร่างกายของนางเป็นประกาย ทันใดนั้นร่างกายของซู่เหยียนพลิ้วไหวอย่างรวดเร็วเสมือนนางเซียนที่พุ่งเข้าไปหาหยางไค่และยืนอยู่บนหัวไหล่ของหยางไค่
ความรู้สึกหนาวเย็นค่อยๆแผ่กระจายออกมาจากช่วงไหล่ หยางไค่รีบก้าวถอยหลัง เงยหน้าขึ้นมอง เขาหรี่ตามองเห็นเพียงชั้นน้ำแข็งที่เกาะอยู่บนไหล่ของเขา และชั้นน้ำแข็งนั้นยังแปรเปลี่ยนเป็นผลึกน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว
ไม่มีความคิดที่ลังเล หยางไค่ฉีกเสื้อผ้ารอบๆไหล่ของเขาออกในทันที จากนั้นจึงชี้นิ้วไปที่ไหล่ และปลดปล่อยหยดน้ำพลังลมปราณหยางลงไปที่ไหลของเขาทันที
ฉีก ฉีก.......... ไหล่ของหยางไค่ถูกแผดเผาจนกลายเป็นตราประทับของเหล็กทีทาบลงบนผิวหนัง มันกลายเป็นสีแดงฉานในพริบตา ผลึกน้ำแข็งที่แผ่ซ่านความหนาวเย็นต่งาถูกแผดผาจากหยดน้ำพลังลมปราณจนมลายหายไปในที่สุด
ซู่เหยียนตะลึงมากกว่าเดิม นางไม่คิดว่าหยางไค่จะใช้วิธีการที่โหดเหี้ยมในการทำลายผลึกน้ำแข็งที่หนาวเย็นของตนเอง ดวงตาของนางประกายด้วยความเยือกเย็น ซู่เหยียนสร้างคลื่นพายุหิมะ ร่างกายของงดงามของนางซ่อนอยู่ภายในคลื่นพายุหิมะหลายพันชั้น ก่อนจะพุ่งหมุนไปที่หยางไค่
อำนาจพลังแห่งคลื่นพายุหิมะที่รุนแรง เสมือนพายุหิมะที่มีอำนาจทำลายมหาศาลได้กลืนร่างกายของหยางไค่เข้าไปในทันที
ความรู้สึกหนาวเหน็บที่ทิ่มแทงกระดูกก่อตัวอยู่ในก้นบึ้งจิตใต้สำนึกที่ลึกที่สุด แม้ว่าเขาจะฝึกฝนทักษะการต่อสู้แห่งกลยุทธุ์หยางที่ให้กำเนิดพลังลมปราณหยางที่ร้อนแรง แต่หยางไค่กลับรู้สึกว่าเขากำลังจะถูกหิมะน้ำแข็งตรึงแช่จนกลายเป็นรูปปั้นในทันที
เขาทราบดีว่าศิษย์พี่ซู่เหยียนเกรี้ยวโกรธอย่างรุนแรง แม้ว่ากระบวนท่าการโจมตีจะไม่มีเจตนาในการฆ่า แต่มันก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านางต้องการสั่งสอนเขาอย่างจริงจัง
สถานการณ์นี้ ตรงกับความต้องการของหยางไค่ แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นยอดฝีมือที่เหนือกว่าเขาอย่างมาก ไม่มีทางที่เขาจะสามารถป้องกันการโจมตี แต่มันสามารถใช้ในการทดสอบความลับที่แท้จริงของกระดูกทองคำ
คู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้า ดีกว่าซู่มู่ถึงหลายพันเท่า
ภายในคลื่นหิมะที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ซู่เหยียนยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่อง หยางไค่ไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากนาง เสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น มุมปากของเขามีเลือดไหลรวยรินออกมา ร่างกายของเขาสั่นระรั่วอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันความหนาวเย็นที่กำลังซัดเข้ามา
ท่ามกลางสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ความรู้สึกของหยางไค่เริ่มชัดเจนยิ่งชึ้นและชัดเจนยิ่งยี่งขึ้น ทันใดนั้นเขาได้ละทิ้งการต่อต้าน และปล่อยให้ซู่เหยียนโจมตีเขาเพียงฝ่ายเดียว
“เกิดอะไรขึ้นเกิดอะไรขึ้น ?” ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นปลุกคนอื่นๆที่หลับใหลเข้าไปในห้วงนิพพาน ผู้อาวุโสที่สองซู่ซวนวู่เป็นคนที่มาถึงเหตุการณ์เป็นคนแรก ตามมาด้วยซู่มู่หลี่หยุนเทียนและคนอื่นๆต่างมาที่นี้อย่างพร้อมเพรียงกัน
เมื่อเห็นสภาพของหยางไค่ในตอนนี้ พวกเขาทุกคนต่างสูดลมหายใจที่เยือกเย็นเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
พวกเขามองเห็นหิมะที่ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ หยางไค่ที่ถูกพายุน้ำแข็งห่อหุ้มอยู่กลางอากาศในขณะที่หลับตาโดยไม่มีการต่อต้านเพื่อรับการโจมตีจากซู่เหยียน ร่างกายของเขาดูคล้ายเศษผ้าที่ลอยอยู่กลางอากาศ ซึ่งกำลังถูกซูเหยียนโจมตีซ้ำมาซ้ำไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง
“ซึสๆๆ .........” หยางไค่สูดลมหายใจที่เยือกเย็น : “ศิษย์พี่หยางทำให้ท่านพี่เคืองโกรธได้อย่างไร ?”
“หรือเป็นเพราะศิษย์พี่กำลังแก้แค้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน” หลี่หยุนเทียนกล่าวตอบด้วยความหวาดกลัว
“ต้องเป็นเช่นนี้แน่ ไม่เช่นนั้นท่านพี่คงไม่ทุบตีทำร้ายศิษย์พี่หยางถึงเพียงนี้ ?”
“ศิษย์พี่หยางที่น่าสงสาร อาการบาดเจ็บเดิมยังไม่หาย กลับต้องพบเจอกับความโชคร้ายที่ยิ่งใหญ่ ศิษย์พี่ซูเหยียนก็ลงมือโหดเหี้ยมเกินไป !!”
เสียงกระซิบจากกลุ่มคนดังแว่วออกมา ทำให้ซู่เหยียนรู้สึกโกรธมากขึ้น เพราะวันนี้หยางไค่มองเห็นเรือนร่างของตัวเอง นางจึงลงมือเพื่อสั่งสอน แต่สิ่งที่พวกเขากล่าวออกมาดูเหมือนว่าตัวเธอเองเป็นคนที่มีจิตใจชั่วร้ายและกำลังแก้แค้นกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
ดังนั้นซู่เหยียนจึงลงมืออย่างโหดเหี้ยมมากยิ่งขึ้น