ตอนที่แล้วตอนที่ 63 เจ้าคล้ายศิษย์พี่ของข้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 65 เหว่ยจวาง

ตอนที่ 64 เขตแดนลมปรารแรกเริ่ม


เมื่อประมุขเห็นพฤติกรรมที่ชาญฉลาดของเซี่ยหนิงฉาง เขาจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม : “เม้งหวู่หยาช่างโชคดีที่มีศิษย์ที่ประพฤติดีเช่นนี้”

เมื่อระลึกถึงสาวกของเขาทั้งสองคน ทำให้ประมุขแอบถอนหายใจเบาๆ

แม้ว่าเซี่ยหนิงฉางจะรู้ราวในอดีตของเขา เขามองเห็นใบหน้าที่มืดมนมืดสลัว แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะปลอบโยนท่านประมุขอย่างไร เธอจึงเงียบไม่ได้กล่าวอะไรออกไปอีก

ประมุขค่อยยกมือขึ้นฟ้า ก่อนจะผลักไปยังทิศทางของหยางไค่เพื่อสร้างเกราะป้องกัน ทันใดนั้น เซี่ยหนิงฉางรู้สึกได้ว่าอาณาเขตบริเวณนั้นถูกแยกออกจากกัน เสมือนมีมือใหญ่ยักษ์ที่ไร้ซึ่งรูปร่าง กำลังป้องกันอาณาเขตบริเวณนั้นจากสายตาของทุก

“การก้าวข้ามเขตในครั้งนี้ เจ้าหนุ่มน้อยได้สร้่างร่องรอยแห่งความุว่นวายขึ้นไม่น้อย การซ่อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด” ประมุขกล่าวอธิบาย

จิตใจของเซี่ยหนิงฉางเกิดความรู้สึกแปลกๆ เธอไม่เข้าใจประมุขท่านนี้ที่ไม่ปรากฏต่อหน้าผู้อื่นมาหลายสิบปี ทำไมถึงให้ความสนใจกับหยางเช่นนี้ แม้ว่าจะสงสัย แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะกล่าวถาม

ชายชราและเด็กสาวยังคงอยู่ในระยะห่างกว่า 100 จ้าง และกำลังเฝ้าดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหยางไค่

พลังฟ้าดินสามารถซึมซับเข้าสู่ร่างกาย มันทะลุทะลวงแผ่กระจายไปทั่วทุกอนุรูขุมขน ผิวหนัง เลือดเนื้อของหยางไค่ แม้ว่าไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานลมปราณที่ผันผวน แต่เมื่อมองออกไป รัศมีบริเวรรอยๆหยางไค่ประมาณ 10 จ้างได้ก่อเกิดลมพายุที่รุนแรง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีความเคลื่อนไหวที่วุ่นวายกำลังก่อตัวขึ้น

เพียงแค่ก้าวข้ามเขตแดนเข้าสู่เขตแดนลมปราณแรกเริ่ม ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ?เซี่ยหนิงฉางไม่เข้าใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

เมื่อเวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆ ร่างกายของหยางไค่เริ่มปะทุอย่างรุนแรง เสมือนลูกบอลที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายที่ซูบผอมเริ่มมีลักษณะที่กำยำเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่หนาแน่น สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพลังฟ้าดินที่ไหลเข้าสู่ร่่างกายเป็นจำนวนมาก

ในขณะที่เซี่ยหนิงฉางกำลังแอบกังวลใจกับเขา ร่างกายของเขาได้กลับคืนสภาพเดินอย่างรุนแรง และกลายเป็นลักษณะเดิม แม้ว่าจะมีการปกป้องจากประมุข แต่เซี่ยหนิงฉางยังสามารถสัมผัสได้ถึงการผันผวนของพลังลมปราณที่วุ่นวายยุ่งเหยิงและรุนแรง

สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังจากที่พลังฟ้าดินถูกดูดกลืนจากหยางไค่จนหมดสิ้น ทันใดนั้นพลังสีแดงที่ส่องสว่างและร้อนระอุได้พุ่งออกมาจากศูนย์ของคุกคุมขังมังกรซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

พลังสีแดงเหล่านี้คล้ายคลึงกับผ้าแพรสีแดงที่กำลังพุ่งม้วนออมาจากเบื้องหลังของคุกคุมขังมังกร จากนั้นมันจึงพุ่งเข้าไปในยังร่างกายของหยางไค่และถูกรูขุมขนของหยางไค่ดูดซับเข้าไป

พลังงานหยาง !! เซี่ยหนิงฉางมองเห็นอย่างชัดเจน หยางไค่สามารถดูดซับพลังฟ้าดินในครั้งแรก ครั้งที่ 2 เขาได้ดูดซับพลังงานหยาง แม้ว่ามันจะเป็นพลังฟ้าดินอย่างหนึ่ง แต่มันเป็นพลังที่มีคุณสมบัติของพลังงานหยางเพียงอย่างเดียว

หลังจากที่ดูดซับพลังงานหยางเหล่านี้เสร็จสมบูรณ์ ในที่สุดความวุ่นที่เกิดขึ้นจึงได้สงบลง

“ไม่เลว” ประมุขยิ้มอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะยกมือขึ้นเพื่อทำลายเกราะป้องกันที่เขาสร้างไว้ ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว แต่มีเสียงเบาๆที่ดังอยู่ใกล้หุของเซี่ยหนิงฉาง : “โปรดถามอาจาย์ของเจ้าแทนข้าว่าเขาสบายดีหรือไม่ ?”

“เจ้าค่ะ !!” เซี่ยหนิงฉางกล่าวตอบอย่างเคารพ จากนั้นจึงไปตรวจสอบความสำเร็จแห่งการก้าวข้ามเขตแดนของหยางไค่

เพียงแค่มอง ทำให้เซี่ยหนิงฉางตื่นตะลึงจนตัวแข็ง

เขตแดนลมปรารแรกเริ่มขั้นที่ 2 !!

ในเวลาแรกเธอคิดว่าสัมผัสของเธอต้องผิดแปลกไป เธอจึงตรวจสอบอีกครั้ง แต่เธอพบว่าหยางไค่ได้ก้าวเข้าสู่เขตแดนลมปราณแรกเริ่มขั้นที่ 2 อย่างแท้จริง !!

การก้าวข้ามเขตแดนในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ก้าวข้kมเขตแดนระหว่างกันที่ยิ่ใหญ่ แต่เขายังก้าวข้ามขั้นที่สูงกว่านั้น เธอคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝันของเธอ !!

เซี่ยหนิงแางมีร่างกายที่ค่อนข้างพิเศษ การบ่มเพาะการฝึกฝนวิชายุทธุ์ของเธอจึงมีความก้าวหน้าที่รวดเร็วเสมือนความเร็วแห่งเทพสวรรค์ แต่ทุกครั้งที่เธอก้าวข้ามเขตแดนเธอจะก้าวข้ามเพียง 1 ขึ้น เธอไม่เคยก้าวข้ามเขตแดน 2 ขั้นในครั้งเดียว วันนี้เธอได้เห็นหยางไค่บรรลุความสำเร็จนี้ดวยตาของเธอเอง มันจะไม่ทำให้เธอตื่นตะลึงได้อย่างไร ?

ในขณะที่เธอกำลังจ้องมอง หยางไค่ที่นั่งไขว่ห้างอยู่ข้างหน้าได้กล่าวพึมพำกับตัวเอง : “มันเป็นเช่นนี้ !!”

หลังจากที่กล่าวจบ พลังลมปราณที่อยู่ในร่างกายของหยางไค่เริ่มมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง ก่อนที่มันจะก้าวข้ามขีดจำกัดสูงสุดของร่างกาย จนก้าวมาอยู่ในเขตแดนลมปราณแรกเริ่มขั้นที่ 3 !!

“ปีศาจ !!” เซี่ยหนิงฉางแสดงออกอย่้างขมขื่น ความั่นใจของเธอกำลังรู้สึกว่าถูกโจมถูกโจมตี

หลังจากที่ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมกว่า 1 ชั่วยาม และยืนยันได้ว่าหยางไค่จะก้าวข้ามเขตแดนอีกครั้ง เซี่ยหนิงฉางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะออกมาจากบริเวณนั้น

หยางไค่นั่งอยู่ในคุกคุมขังมังกรตลอดทั้งคืน เขาไม่ได้ฝึกฝนทักษะการต่อสู้แห่งกลยุทธุ์หยาง แต่เขากำลังใช้จิตใต้สำนึกสัมผัสความรู้สึกของเมื่อวานในขณะที่เขากำลังก้าวข้ามเขตแดน

การก้าวข้ามแดนเมื่อวานนี้ มีพลังที่แตกต่างกัน 2 ประเภทไหลผ่สานเข้าสู่ร่างกาย พลังประเภทแรกคือพลังฟ้าดิน แต่พลังประเภทนี้ไม่สามารถดำงอยู่ในจุดตันเถียน นอกเสียจากจะมีร่างกายเขตแดนกายาเริงอารมณ์อีกร่างหนึ่ง พลังฟ้าดินที่เหลือจึงถูกกระดูกทองคำของเขาดูดซับจนหมด

พลังประเภทที่ 2 คือพลังงานหยางที่ถูกดูดซับขึ้นมาจากเบื้องล่างของคุกคุมขังมังกร พลังงานเหล่านี้ได้กลายเป็นของเขา และมันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นหยดน้ำพลังลมปราณหยางจำนวน 5 หยด ก่อนที่จะค่อยๆซึมเข้าไปในจุดตันเถียน

เขาคิดวิธีการมาตลอดทั้งคืน ในที่สุดหยางไค่จึงเกิดความคิดนี้ขึ้นมา

ในขณที่ตัวเขากำลังได้รับบาดเจ็บหรือกำลังรู้สึกเจ็บปวดทรมาณโครงกระดูกทองคำจะกระตุ้นความต้องการในการต่อสู้ แต่ความต้องการต่อสู้นี้ต้องใช้พลังในการกระตุ้นมัน มันไม่สามารถก่อกำเนิดโดยไร้ซึ่งพลังในการช่วยเหลือ เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงสามารถอธิบายการดูดซับพลังฟ้าดินของมันได้

ฟลังฟ้าดินเหล่านี้สามารถดูดซับจากมัน รอจนกระทั่งเขาต้องการความช่วยเหลือจากกระดูกทองคำและมันจะส่งพลังเพื่อช่วยเหลือ นี้คือความน่าอัศจรรย์ของกระดุกทองคำ

ที่ผ่านมา หยางไค่คิดว่าเขาสามารถดูดซับพลังงานหยางได้เพียงอย่างเดียว เพราะวิชายุทธุ์ที่ตัวเขาเองกำลังฝึกฝนคือทักษะการต่อสู้แห่งกลยุทธุ์หยาง เมื่อเป็นเช่นนี้ ปัญหานี้จึงคุ้มค่าต้องการทดสอบ

ถ้าหากสามารถดุดซับพลังงานอื่นๆ นอกเสียงจากพลังงานหยาง หลังจากนี้การฝึกยุทธุ์ของเขาจะมีความรวดเร็วมากว่าเดิม

 

การค้นพบนี้ทำให้หยางไค่รู้สึกมีความสุข แม้ว่าทักษะการต่อสู้แห่งกลยุทธุ์หยางจะมีความแข็งแกร่ง แต่มันยังมีข้อจำกัดของมัน ถ้าหากว่าตัวเขาเองเดาถูก หลังจากนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลถึงสภาพแวดล้อมในการฝึกฝนวิชายุทธุ์ต่อไป

หยางไค่ถอนหายใจลึกๆ ลุกขึ้นมา เพื่อสัมผัสสิ่งที่เขาได้รับ เขายืนยันแล้วว่าตัวเองประสบความสำเร็จในการก้าวข้ามเขตแดน และมันยังก้าวข้ามเขตแดนไปสู่เขตแดนกายาเริงอารมณ์ขั้นที่ 3

เมื่อคิดถึงร่างกายของเขาที่มีพลัง 2 ประเภทที่อยู่ภายในร่างกาย ทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างมาก

พลังลมปราณในร่างกายถูกเปิดออกอย่างมีเสถียรภาพ มันเป็นเขตแดนลมปราณแรกเริ่ม แม้ว่าก่อนหน้านั้นร่างกายของหยางไค่จะมีพลังลมปรารหยางอยู่ภายในร่างกาย แต่การก้าวข้ามเขตแดนในครั้งนี้กับแตกต่างกัยอย่างสิ้นเชิง

พลังลมปราณที่อยู่ในร่างกายได้ก่อเกิดเป็นทรวงสวรรค์ขนาดใหญ่ มันเชื่อประสานสะพานที่เชื่อมต่อกับโลก ดังนั้นจึงทำให้กลยุทธุ์หยางมีความรวดเร็วในการฝึกฝนมากขึ้น

นอกจากนั้น หลังจากทีก้าวข้ามเขตแดนนี้ การฝึกฝนวิชายุทธุ์มีความง่ายและสบายกว่าเขตแดนกายาเริงอารมณ์ เพราะว่ามีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการฝึกฝนวิชายุทธุ์

สุขและมีความสบายที่ปลอดโปร่ง การก้าวข้ามเขตแดน ทำให้เขามองเห็นความแตกต่างระหว่างโลกใบนี้ ทำให้ดวงตาและหูของเขามีความชัดเจนในการมองเห็นและรับฟัง

ในรัศมี 50 จ้าง แม้แต่เสียงลมหายใจของผุ้อืนเขาก็ยังสามารถสัมผัสได้

ขณะที่เขากำลังเดินไปทีกระท่อมไม้ หยางไค่ได้ยิงเสียงร้องที่คุ้นเคยอย่างกะทันหัน หลังจากที่เขาหยุดนิ่งและตั้งใจฟังในสิ่งที่ได้ยิน ทำให้หยางไค่หัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

ทำไมซู่มู่ถึงถูกผู้อืนทุบตีอีกครั้ง ?

แต่เพราะอาณาเขตแห่งนี้อยู่ในเขตของหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว ถ้าหากเขาถูกทุบตี น่าจะเป็นการต่อสู้จากการประลองยุทธุ์ เพราะเขาไม่สามารถเอาชนะผู้อื่นได้ ไม่สามารถตำหนิใครนอกจากตัวของเขาเอง

ไม่ว่าอย่างไร หยางไค่ก็ตัดสินใจที่ไปดูว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น

ภายในหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว เมื่อมีการท้าประลองยุทธุ์ ทุกพื้นที่จะกลายเป็นสนามแห่งการต่อสู้ บริเวณที่ซู่มู่ถูกทุบตีอยู่ห่างจากหยางไค่ไม่มาก เมื่อเดินออกไปเพียงชั่วครู่ในที่สุดเขาก็มาถึงที่หมายของเขา

บริเวณนั้นมีฝูงชนเฝ้าดูเป็นจำนวนมาก หยางไค่กวาดสายตา และพบว่าฝูงชนเหล่านั้นแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ความคะนึงของทั้งสองกลุ่มมีความแตกต่างกั้นอย่างสิ้นเชิง หลี่หยุนเทียนและจ้าวฮู่ที่เขาคุ้นเคยต่างอยู่ที่นั้้น แต่ว่าการแสดงออกของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แลพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม

สถานกาณ์ดูเหมือนจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ !! หยางไค่ขมวดคิ้ว การประลองยุทธุ์ของศิษย์สาวกไม่ว่าจะเป็นใครที่ชนะหรือพ่ายแพ้ พวกเขาจะไม่มีทางเป็นเช่นนี้ได้ ดูเหมือนว่าหลี่หยุนเทียนจะไม่พอใจอย่างมาก เขาต้องการที่จะเริ่มการต่อสู้แบบกลุ่มขึ้นในไม่ช้า !!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด