ตอนที่ 60 ผุ้อาวุโส โปรดรอก่อน
“เข้าใปในเหมืองแร่ ?”ใบหน้าของหล่งไจ้เทียนเปลี่ยนแปลงในทันที ก่อนที่เขาจะเดินไปหาหยางไค่และกล่าวถาม : “เจ้าไม่ใช้ศิษย์ของนิกายโลหิตใช่ไหม ?”
หยางไค่ก้าวไปด้านหน้า 1 ก้าวและกล่าวด้วยความเคารพ : “ข้าเป็นศิษย์แห่งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว”
“ไม่ใช่ศิษย์ของนิกายโลหิตไม่อนุญาตให้เข้าไป !!” หล่งไจ้เทียนเป่าลมไปที่เคราของตัวและถลึงตา เขาแสดงออกถึงความไม่พอใจ และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่รังเกียจ : “แม้จะเป็นศิษย์ของนิกายก็ไม่สามารถเข้าออกไดอย่างอิสระตามที่ต้องการ ยิ่งกว่านั้น เจ้าเป็นคนนอกแห่งนิกายโลหิต”
กล่าวจบ เขาหันไปหาหู่เหมยเอ่อด้วยใบหน้าหน้าที่เจ็บปวดก่อนที่เขาจะกล่าวตอบอย่างอึดอัด : “คุณหนู ทำไมคุณหนูถึงพาคนนอกเข้ามา ?เจ้าอายุยังน้อย ไม่รู้ซึ้งถึงจิตใจแท้จริงของมนุษย์ คนเรารู้หน้าไม่รู้ว่าจิตใจของเขาเป็นเช่นไร หลายปีที่ผ่านมานิกายโลหิตได้รับเงินจำนวนมากจากเหมืองแร่แห่งนี้ มีผู้คนจำนวนมากมายที่จ้องมองเหมืองแร่แห่งนี้ด้วยแววตาที่หิวกระหาย โดยเฉพาะพวกศิษย์ต่ำต้อย ที่ต้องการสืบข่าวจากเหมองแร่ของพวกเรา ถ้าหากไม่เป็นเพราะข้าเฝ้าพิทักษ์อยู่ที่มานานนับหลายปี ไม่แน่ว่าสถานที่แห่งนี้อาจเต็มไปด้วยความวุ่นวาย !”
ใบหน้าของหยางไค่แสดงออกอย่างเคร่งเครียด ชายชราคนนี้กล่าวหาว่าเขาแอบสอดแนมสืบหาข้อมูลของเหมืองแร่ มันน่าเจ็บใจยิ่งนัก
หู่เหมยเอ่อสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของหยางไค่ เขาจึงเรีบกล่าวต่อ : “ท่านปู่หล่ง ท่านปู่เข้าใจผิดแล้ว เขาไมได้เข้ามาสืบหาข้อมูลอะไร เขาแค่ต้องการซื้อสิ่งของบางอย่างเท่านั้น”
หล่งไจ้เทียนหัวเราะอย่างเย้ยหยัน : “ซื้อบางสิ่งบางอย่าง ?ซื้อบางสิ่งบางอย่างที่ต้องการจำเป็นไหมต้องมาซื้อถึงที่นี้ ?ข้อแก้ตัวนี้น่าสนใจยิ่งนัก เจ้าเด็กหนุ่ม ข้าไม่สนว่าเป้าหมายของเจ้าคืออะไร ออกไปจากที่นี้เดี่ยวนี้ หลังจากนี้อย่าปรากฏตัวที่นี้อีก ไม่แน่ว่าข้าอาจจะฆ่าเจ้าให้ตายคามือก็ได้ !!”
ท้องของหยางไค่เต็มไปด้วยความโกรธที่กำลังปะทะ ชายชราคนนี้ช่างหยาบคายและคิดว่าสิ่งที่เขากำลังคิดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าหยางไค่จะรู้สึกโกรธ แต่หยางไค่รู้ดีว่าความแข็งแกร่งของเขาแตกต่างกับชายชราผู้นี้อย่างมาก ถ้าหากมีการต่อสู้เกิดขึ้น เขาคงจะถูกชายชราคนนี้ฆ่าตายภายใน 1 ลมหายใจ
หยางไค่ระงับความโกรธที่อยู่ในจิตใจ หยางไค่ไม่ได้กล่าวพูดอะไรออกมา ถ้าหากเขาวู่วามในตอนนี้ คนที่เดือดร้อนจะเป็นตัวเขาเอง
“ขี้ขลาด” เมื่อหล่งไจ้เทียนมองเห็นปฏิกิริยาของหยางไค่เช่นนี้ เขาจึงดูถูกและเย้ยหยันหยางไค่มากยิ่งขึ้น
หยางไค่ไม่สามารถควคบคุมพลังลมปราณที่อยู่ในภายใจ เขาเกรี้ยวโกรธและจ้องมองไปที่หล่งไจ้เทียนโดยไม่ละสายตา
เมื่อสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของพลังลมปราณที่อยู่ในร่างกาย หล่งไจ้เทียนกล่าวคำรามด้วยความโกรธ : “บังอาจ !! เจ้าต้องการต่อสู้กับข้า ?”
หลังจากที่กล่าวจบ เขาพุ่งฝ่ามือไปที่หยางไค่โดยไม่มีเหตุผล ไม่แบ่งแยกความแข็งแกร่ง ไม่แบ่งฐานะ เมื่อฝ่ามือนี้พุ่งออกมา หยางไค่พบว่าเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกาย เขาทำได้เพียงยืนนิ่งๆอยู่ที่เดิม สิงที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะเขาหวาดกลัวหรือตื่นตกใจ แต่เพราะฝ่ายตรงข้ามได้ใช้ทักษะบางอย่างในตรึงเขาไว้
ใบหน้าของหยางไค่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เขาไม่เคยคิดเลยว่าชายชราคนนี้จะไร้ซึ่งยางอายเช่นนี้ เขารู้สึกได้ถึงทัศนคติและท่าทีที่หล่งไจ้เทียนมีต่อเขา แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลใด ชายชราคนนี้จึงต้องการฆ่าเขาอย่างกะทันหัน หยางไค่ตกตะลึงจนขวัญกระเจิงวิญญาณเกือบจะหลุดจะร่าง
รัศมีแห่งความตายพุ่งเข้ามา ยอดฝีมือที่อยู่เขตแดนเทพสวรรค์มาพร้อมกับการโจมตีที่เต็มไปด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ ทำให้หัวใจของหยางไค่หยุดลงนิ่งอย่างกะทันหัน เขาหอบหายใจอย่างหนักหน่วง กลิ่นอายรัศมีแห่งการขอร้องอ้อนวอนได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
ทันดนั้น ความร้อนที่ร้อนระอุได้แผ่ออกมาจากกระดูก มันแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เวลาต่อมา หยางไค่พบว่าพลังที่ตรึงขังตัวเขาเองได้หายไปอย่างกะทันหัน
ในช่วงเวลาที่สำคัญ หยางไค่ใช้ความแข็งแกร่งและพลังทั้งหมด เพื่อหลบไปด้านข้างอย่างรุนแรง
จากการโจมตีของหล่งไจ้เทียน เดิมที่เขาคิดว่าศิษย์แห่งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวคนนี้ต้องตายจากการโจมตีด้วยฝ่ามือของเขา แต่เขาไม่คาดคิว่า ฝ่ายตรงข้ามจะสามารถหลบหนีจากการโจมตีได้อย่างน่าทึ่ง !!
เป็นไปไม่ได้ ? หล่งไจ้เจียนขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดใจ
ทักษะการกักขังของตนที่อยู่ในเขตแดนเทพสวรรค์ จะถูกทำลายโดยเด็กหนุ่มคนนี้ได้อย่างไร ?เพราะไม่ได้คิดถึงจุดนี้ การโจมตีด้วยฝ่ามือที่ตามใจตนเองจึงไม่ประสบความสำเร็จ
แม้ว่าหยางไค่จะไม่ถูกหล่งไจ้เทียนโจมตี แต่มันทำให้เขาอยู่ในสถานะที่น่ากดดันและน่าอึดอัดใจ ทันใดนั้นใบหน้าของเขากลายเป็นสีขาวซีด ร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น หลังจากที่เขาสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่น ขณะที่เขามองไปที่หล่งไจ้เทียน ดวงตาของหยางไค่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นที่น่าหวาดกลัว
ตอนนี้หยางไค่เกลียดชังกับสิ่งที่หล่งไจ้เทียนกระทำ ไม่เพียงแค่เกลียดชังแต่เขายังแค้นใจอย่างรุนแรง เพราะเจตนาที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการชีวิตของเขาไม่ได้ปิดปังสักนิด เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการฆ่าหยางไค่ให้ตายเสมือนต้องการบดขยี้มดตัวหนึ่งให้ตายคามือของเขาในทันที
หล่งไจ้เทียนเข้าใจสถานการณ์นี้อย่างชัดเจน แม้ว่าเขาจะม่รู้ว่าทักษะการกักขังของเขาจะหายไปได้อย่างไร แต่ในเมื่อเขามีความคิดที่จะฆ่าหยางไค่ เขาไม่มีทางที่จะหยุดมันลงได้ เมื่อครั้งที่ 1 ไม่สำเร็จ เขาดำเนินการต่อเป็นครั้งที่ 2 ก่อนที่จะพุ่งฝ่ามือไปที่หยางไค่อีกครั้ง
จนถึงตอนนี้หู่เหมยเอ่อเริ่มตอบสนองกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอริบวิ่งไปขวางอยู่ด้านหน้าของหยางไค่ จ้องมองหล่งไจ้เทียนด้วยใบหน้าที่เกรี้ยวโกรธ ก่อนจะกล่าวตะโกนอย่างรุนแรง : “ท่านปู่หล่ง เขาคือสหายของเข้า !! ท่านปู่จะทำอะไร ?”
“สายลับที่พยายามจะสืบหาข้อมูลข่าวคราวของเหมืองแร่ ต้องถูกฆ่า !! นี้คือคำสั่งของประมุข !!” หล่งไจ้เทียนจ้องมองหู่เหมย่เอ่อด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ดวงตาของประกายด้วยความตื่นตกใจอย่างกะทันหัน
ที่ผ่านมาหู่เหมยเอ่อมันจะมีการติดต่อกับชายหนุ่มเสมอมา แต่เขาไม่เคยเห็นเธอยอมเสี่ยงชีวิตของตนเองเพื่อใคร สำหรับความเป็นความตายของชายหนุ่มเหล่านี้ หู่เหมยเอ่อไม่เคยสนใจและใส่ใจ หรืออาจจะกล่าวได้ว่า ชายหนุ่มที่ถูกเธอกระตุ้นยั่วยวนทั้งหมด 10 คนจะมีทั้งหมด 8 คนที่ต้องพบกับจุดจบทีน่าเวทนา
แต่คราวนี้ เธอกลับยืนขวางเพื่อปกป้องศิษย์แห่งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวคนนี้โดยไม่สะทกสะท้านกับอันตรายที่กำลังจะมาเยือน นอกจากนั้นเธอยังใช้สุ้มเสียงที่ดุร้ายตะโกนกล่าวถาม
นี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน !! ดวงตาของหล่งไจ้เทียนหดลง
หู่เหมยเอ่อยืนขวางอยู่ด้านหน้าของหยางไค่เพื่อปกป้องเขา เธอกัดฟันแน่นจ้องมองหล่งไจ้เทียนอย่างจริงใจ ก่อนที่จะกล่าว : “ข้าบอกท่านปู่ไปแล้ว ว่าคนคนนี้คือสหายของข้า เขาต้องการจะซื้อสิ่งของบางสิ่งบางอย่างจากที่นี้ เขาไม่มีเจตนาที่จะสืบหาข้อมูลหรือข่าวคราวเหมืองแร่ที่นี้ !! ท่านปู่หล่ง ท่านไม่เชื่อคำพูดของข้า ?”
เมื่อมองเห็นหู่เหมยเอ่อที่ปกป้องหยางไค่อย่างสุดความสามารถ หล่งไจ้เทียนไม่สามารถที่จะพุ่งโจมตีเขาอย่างไร้เหตุผลได้อีก : “มิกล้า คำพูดของคุณหนู ข้าเชื่อ ข้าเชื่อ !!”
“เมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วทำไมท่านปู่จึงทำเช่นนี้ ?”
“ข้าขออภัยกับสิ่งที่ผิดพลาด หวังหวังคุณหนูจะให้อภัย !!”
นิกายโลหิต หอวายุพิรุณและหอประลองยุทุธุ์หลิงเซี่ยวเป็นสำนักที่แตกต่างกัน นิกายแห่งนี้เป็นนิกายแห่งครอบครัว ครอบครัวหู่เป็นประมุข แม้ว่าหล่งไจ้เทียนจะเป็นรองประมุข แต่เข้าก็ต้องเห็นแก่หน้าของหู่เหม่ยเอ่อด้วย
“แต่ข้าขอให้คุณหนูเข้าใจในสิ่งที่ชายชราคนนี้กระทำด้วย เรื่องของเหมืองแร่ไม่ใช่เรื่องที่เล็กน้อย คนนอกไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ !” หล่งไจ้เทียนกล่าวจบ เขาไม่ได้มองไปที่หู่เหมยเอ่อ แต่มองไปที่หยางไค่ด้วยสายตาที่เยือกเย็นและกล่าวสบทในลำคอ ก่อนจะเดินหันหลังออกไป
หยางไค่สูดลมหายใจอย่างรุนแรง หลังที่ควบคุมการหายใจให้ปกติ เขาจึงเอ่ยขึ้น : “ผู้อาวุโส โปรดรอก่อน !!”
หล่งไจ้เทียนหันหลังกลับไปด้วยความรำคาญ เขาหรี่ตามองหยางไค่และสายตาของเขายังประกายด้วยเจตนาแห่งการฆ่า
“ผู้อาวุโส ปัจจุบันของข้า ไมใช่คู่ต่อสู้ของท่าน !!” หยางไค่เดินเข้าไปที่ด้านข้างของหู่เหมยเอ่ออย่างช้าๆ เขาจ้องมองและเผชิญหน้ากับหล่งไจ้เทียนโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว : “ดังนั้นความอัปยศในวันนี้ ข้าจะรับมันได้ แต่ 5 ปี 10 ปีหลังจากนี้ ข้าจะทวงคืนความแค้นนี้กลับมา หวังว่าผู้อาวุโสจะมีชีวิตอยู๋ถึงตอนนั้น !!”
หยางไค่กล่าวอย่างเรียบเฉย แต่เต็มไปด้วยความจริงจัง
คุณคงไม่สามารถอยู่ได้จนถึงวันนั้น! เด็กหนุ่มที่คลี่คลายใจโปรดระวังในอนาคต! "
ใบหน้าของหล่งไจ้เทียนแสดงออกอยางเยือกเย็น เขาเริ่มหัวเราะออกมาเสียงดัง : “ข้าจะมีสามารถมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้นหรือไม่จำเป็นที่เจ้าจะต้องกังวล แต่ข้าคิดว่า เจ้าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้น !! เจ้าเด็กที่สามหาว หลังจากนี้โปรดระวังตัวเอาไว้ด้วย !!”
“ข้าจะระวังตัว !!”
หล่งไจ้เทียนเดินจากไป หู่เหมยเอ่อมองไปที่หยางไค่ด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด ก่อนที่เธอจะกล่าวขออภัย : “ขออภัย ขออภัยด้วย ข้าไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ท่านปู่หล่งจึงกระทำเช่นี้ ถ้าหากข้ารู้ตั้งแต่แรก ข้าจะไม่พาเจ้าเข้ามาที่นี้อย่างแน่นอน”
“ไม่เป็นไร” หยางไค่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาหวนคิดถึงเหตุการณ์ที่น่ากลัวที่เพิ่งผ่านพ้นไป ถ้าหากช่วงเวลาที่สำคัญไม่เป็นเพราะกระดูกทองคำแสดงอานุภาคความแข็งแกร่งของมันออกมา เขาคงต้องตายอย่างแน่นอน มันเป็นความร้อนระอุที่แพร่กระจายออกมา จึงทำให้เขาสามารถหลุ่ดพ้นจากการตรึงขังของหล่งไจ้เทียน เสมือนว่าหลบหนีจากความตายและได้เกิดใหม่อีกครั้ง