ตอนที่ 58 ดึงดูดและบังคับ
เมื่อมองเห็นหู่เจียวเอ่อกระโจนเข้าสู่ความโกรธและความอับอาย หยางไค่รีบปลอบโยนทันที : “เจ้าอย่าใส่ใจกับเรื่องนี้ ถ้าหากไม่สังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วนจะมองไม่เห็นความแตกต่างแม้แต่น้อย !”
ใบหน้าของหู่เจียวเอ่อแสดงออกอย่างเยือกเย็น กลิ่นอายแห่งการฆ่าแผ่รัศมีออกมา : “กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อสักครู่เจ้าสังเกตอย่างถี่ถ้วน ?”
หยางไค่ไอกระแอ่มหลายครั้ง ใบหน้าของเขาแสดงออกมาด้วยความอึดอัดและอับอาย : “ข้ามองเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น”
เจ้าจะตำหนิโทษข้าไม่ได้ ! เจ้าเผยก้นให้ข้ามอง หรือจะให้ข้าแกล้งว่ามองไม่เห็น?หยางไค่ค่อนข้างรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ด้วยข้อพร่องเหล่านี้ ถ้าหากข้ายังมองไม่ออกว่าเจ้าไม่ใช่แม่นางหู่เหมยเอ่อ ดวงตาคู่นี้ของข้าคงไร้ประโยชน์” หยางไค่กล่าวและหัวเราะเบาๆ
หลังจากที่สามารถควบคุมความโกรธ และตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างละเอียด ทำให้หู่เจียวเอ่อรู้สึกอึ้ง
เธอพบว่าชายหนุ่มที่ชื่อว่าหยางไค่คนนี้ มีความเข้าใจและความสามารถที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่ที่เดินเข้ามาในกระท่อม หลังจากที่ดื่มชาเพียง เขาก็สามารถมองเห็นความผิดปกติ ความสามารถเช่นนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีมัน นอกจากนั้นเธอยังพยายามล่อลวงเขาให้ตกหลุมพรางแต่ในที่สุดมันก็ล้มเหลว มันแสดงให้เห็นว่าความอดทน และลักษณะนิสัยของเขาไม่เลว เขาไม่ถูกความงามที่มีเสน่ห์ของหญิงสาวสั่นคล่อน ถือว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่มีคุณธรรมและความมุ่งมั่นอย่างมาก
อัจฉริยะ !! แม้ว่าเขาอายุยังน้อย แม้ว่าความแข็งแกร่งจะอ่อนแอ แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง!!
เมื่อตระหนักได้เช่นนี้ หู่เจียวเอ่อกรอกตาไปมา ก่อนจะจ้องมองหยางไค่ด้วยดวงตาที่งดงาม : “เจ้าชื่อหยางไค่ ? เมื่อสักครู่เจ้าล่วงเกินข้า ข้าจะให้ทางเลือกแกเจ้าสองทาง”
“ทางเลือกอะไร ?” หยางไค่กล่าวถาม
“ทางเลือกแรก มือที่เจ้าสัมผัสเรือนร่างของข้าจะถูกตัดทิ้ง ดวงตาที่เจ้ามองข้าจะถูกควักออกมา เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะยกโทษให้แก่เจ้า” หู่เจียวเอ่อกล่าวคำพูดเหล่านี้ด้วยรอยยิ้มและสียงหัวเราะ น้ำเสียงที่อ่อนโยนเสมือนว่าสามีกำลังกล่าวหยอกล้อกับภรรยา แต่ในคำพูดยังแฝงไปด้วยความโหดร้ายและกลิ่นอายแห่งความเยือกเย็น
หยางไค่สายหัว : “ข้าอยากฟังทางเลือกที่ 2”
“ฉลาด” หู่เจียวเอ่อยิ้มบางๆ : “ทางเลือกที่ 2 ออกจากหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว เข้าสู่นิกายโลหิตของเรา ข้าจะกล่าวกับท่านพ่อ ให้มอบตำแหน่งเล็กๆให้แก่เจ้า เท่าที่ข้ารู้ เจ้าอยู่ในหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวเป็นเพียงศิษย์ฝึกหัดที่อยู่ในระดับต่ำที่สุด ถูกผู้อื่นรังแก และไม่เคยได้รับการฝึกฝนวิชายุทธุ์ที่ดี แต่ถ้าหากเจ้าเข้าสู่นิกายโลหิตของเรา พวกเราจะปฏิบัติให้ดียิ่งกว่าหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวถึงร้อยเท่า เป็นอย่างไร ทางเลือกของข้าใจกว้างพอหรือไม่ ?”
“ยังมีทางเลือกอื่นหรือไม่ ?”
“ไม่มี !!”
“ข้าจะไม่เลือกแม้แต่ทางเดียว” หยางไค่เริ่มเปิดใช้ทักษะการต่อสู้แห่งกลยุทธุ์หยางอย่างเงียบๆ ก่อนจะจ้องมองไปที่หู่เจียวเอ่ออย่างระมัดระวัง
“เจ้าต้องการบังคับให้ข้าลงมือ ?” หู่เจียวเอ่อหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่ลงมือ ที่นี้ไม่ใช่ดินแดนแห่งนิกายโลหิต ถ้าหากมีร่องรอยการต่อสู้แพร่กระจายออกไปเพียงเล็กน้อย ศิษย์สาวกแห่งหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวที่พิทักษ์ปกป้องอยู่ที่นีต้องมาสอบสวน ถึงตอนนั้นความเดือดร้อนทั้งหมดจะเกิดขึ้นกับเจ้า !!”
“ศิษย์ฝึกหัดเพียงคนเดียว ข้าอยากฆ่าก็ฆ่าได้ หอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวจะทำอะไรข้าได้ ?มากที่สุดข้ากก็เพียงชดเชยสิ่งของบางสิ่งบางอย่าง ข้าคิดว่าเขาคงไม่ใส่ใจกับความเป็นความตายของเจ้า !!”
“ถ้าหากว่าเจ้าอยากฆ่าข้า คงไม่พูดคุยกับข้าเช่นนี้” หยางไค่ดูเหมือนจะนิ่งสงบและรู้สึกกังวลอยู่ภายใน เพราะจิตใจของหญิงสาว ลึกดั่งก้นบึ้งของมหาสมุทร์ ใครจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร
เขารู้สึกเสียใจที่กล่าวความจริงนี้ออกไป คำพูดของหญิงสาวไม่สามารถวางใจได้ โดยเฉพาะคำพูดของหญิงงาม
“นอกจากนั้นข้ายังกล่าวไปแล้ว ว่าข้าใช้ยาสมานโลหิตที่เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของข้าช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้า เจ้าอย่าโกรธแค้นต่อการล่วงเกินของเขาเลย” หยางไค่พยายามกล่าวอธิบายความคิดที่ไม่มีเจตนาล่วงเกิน
“ยาสมานโลหิตเพียง 1 ขวดสามารถชดเชยสิ่งที่ข้าต้องสูญเสีย ? แตว่าเจ้า…………..” หู่เจียวเอ่อโกรธเคืองจนไม่สามารถกล่าวออกมาได้ เธอต้องการบอกว่าหยางไค่กอดเธอ สัมผัสเรือนร่างของเธอ แต่คำพูดเหล่านี้กลับไม่สามารถกล่าวออกมาได้ การสูญเสียของเธอมันมากมายยิ่งนัก ยาสามานโลหิตขวดนั้นจะสามารถชดเชยทุกสิ่งทุกอย่าง ?
“เจ้าจะกล่าวเช่นนี้ข้าก็มิอาจทำอะไรเจ้าได้ ความจริงเรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าเจ้าเป็นคนเริ่มทั้งหมด”
คำพูดเหล่านี้เสมือนการจุดประกายน้ำมันบนกองเพลิง หู่เจียวเอ่อทั้งอับอายและเกรี้ยวโกรธ ขณะที่เธอกำลังจะลงมือ เธอหันหน้าและมองไปยังบริเวณที่กักขังหู่เหมยเอ่อเอาไว้ ซึ่งเธอมองเห็นหู่เหมยเอ่อกำลังกล่าวตะโกนด้วยความกลัว ทำให้หัวใจของเธอค่อยๆอ่อนลงความโกรธค่อยๆละลายออกไป เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และกล่าว : “ข้าจะไม่ติดใจเอาความต่อไป ครั้งนี้ข้าจะไม่ถือโทษโกรธเคืองเจ้า”
หยางไค่ถอนหายใจอย่างโล่งอก : “แม่นางช่างมีจิตใจงดงามยิ่งนัก”
หู่เจียวเอ่อหัวเราะเบาๆ : “ที่จริง เมื่อสักครู่ที่เจ้ากล่าวมันถูกต้องทั้งหมด แต่เจ้าผิดไปหนึ่งข้อ”
“ข้อไหน ?” หยางไค่กล่าวถาม
หู่เจียวเอ่อไม่ได้กล่าวตอบทันที เธอโบกมือ หู่เจียวเอ่อที่ถูกกักขังค่อยปรากฏออกมา หยางไค่ตื่นตะลึง แม้จะทราบว่าหญิงสาวคนนี้มีความแข็งแกร่งที่สูงส่ง แต่ไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของเธอจะสูงส่งถึงขั้นนี้ เพียงแค่โบกมือ คนคนหนึ่งได้ปรากฏตัวออกมาทันที มันเป็นความแข็งแกร่งของผู้ที่อยู่ในเขตแดนก่อกำเนิดลมปราณจึงจะสามารถทำได้
หู่เหมยเอ่อได้รับอิสรภาพ ดวงตาที่งดงามจ้องมองไปที่หยางไค่ ใบหน้าของเธอรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อสักครู่เธอนั้นหวาดกลัวอย่างมาก กลัวว่าพี่สาวของเธอจะเกรี้ยวโกรธจนลงมือฆ่าหยางไค่
เมื่อมองไปที่พี่สาวของเธออีกครั้ง หู่เหมยเอ่ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เพราะเธอคิดถึงคำพูดที่หยางไค่กล่าวเมื่อสักครู่
โอ้ ในโลกนี้ยังมีชายหนุ่มที่กล้ากล่าวคำพูดเหล่านั้นกับพี่สาวของเธอ เมื่อเขากล่าวจบเขายังไม่ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
“ท่านพี่ !!” ทันทีหู่เหมยเอ่ออกมา เธอรีบวิ่งไปหาพี่สาวและกล่าวออดอ้อน : “อย่างโกรธเลยน่ะท่านพี่ เรื่องในครั้งนี้ไม่สามารถโทษเขาได้ !!”
“ข้าไม่ได้โทษเขา !!” ความเกรี้ยวโกรธของหู่เจียวเอ่อหายไปจนหมด เธอหันหน้าไปที่หยางไค่และกล่าว : “ข้าบอกว่าเจ้าผิดไปหนึ่งข้อ ข้าและหู่เหมยเอ่อไม่ใช่ฝาแฝด”
“ไม่ใช่ฝาแฝด ?” หยางไค่ตื่นตะลึงและประหลาดใจ
เขามองไปที่หญิงสาวทั้งสองอย่างละเอียดอีกครั้ง หญิงสาวทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าดูคล้ายคลึงโดยไม่มีข้อแตกต่างแม้แต่น้อย ถ้าหากพบพวกเธอทั้งสองอีกครั้ง หยางไค่ไม่สามารถกล่าวบอกได้ว่าใครเป็นใคร
“ไม่ใช่ฝาแฝด ข้าอายุมากกว่าเหมยเอ่อหลายปี” หู่เจียวเอ่อหัวเราะเบาๆ เมื่อมองเห็นท่าทางที่ตื่นตะลึงของหยางไค่ มันทำให้หัวใจของเธอค่อยๆสงบลง
“มันเป็นโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งวิเศษ” หยางไค่งุนงน แม้ว่าจะเป็นสองพี่น้อง และอายุอย่างห่างกันหลายปี แต่ทำไมถึงดูคล้ายคลึ่งกันเช่นนี้ ภายใต้ท้องฟ้าที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้อาจเป็นสิ่งที่วิเศษเพียงอย่างเดียว
“เจ้าไม่รู้จักข้า ?” หู่เจียวเอ่อรู้สึกสงสัย เธอเป็นยอดฝีมือแห่งยุวชนรุ่นเยาว์ของนิกายโลหิต ชื่อเสียงของเธอโด่งดังอย่างกว้างขวาง ทำไมคนคนนี้จึงไม่รู้จักเขา ?
“ไม่รู้จัก” หยางไค่ส่ายหัวไปมา แสดงให้เห็นว่าเขาค่อนข้างอ้างว้างและโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้โกหก หู่เจียวเอ่อจึงต้องเชื่อเขา เธอเองไม่รู้ว่าหยางไค่ต้องพบเจอกับอะไรบ้าง เพราะหยางไค่ใช้ชีวิตตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ไม่เคยข้องแวะกับคนอื่นๆแม้แต่คนเดียว
“วันนี้เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไร ?” หู่เจียวเอ่อหันหน้ากล่าวถามหยางไค่
หยางไค่กล่าวบอกเป้าหมายของเขา หู่เหมยเอ่อเหลือบมองไปที่พี่สาวเพื่อขอคำปรึกษา จากนั้นพี่สาวของเธอจึงโบกมือและกล่าว : “ไปซิ แต่อย่าก่อเรื่องวุ่นวายในเหมืองแร่นั้น !”
“ขอบคุณ” หยางไค่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ไปกันเลย ข้าจะพาเจ้าไป เหมืองแร่อยู่ไม่ไกลจากที่นี้” อารมณ์ของหู่เหมยเอ่อค่อนข้างดี แสงแห่งความแวววาวประกายออกมาจากใบหน้าของเธอก่อนที่เธอจะเดินนำออกไป
หลังจากที่หยางไค่และหู่เหมยเอ่อเดินออกไป หู่เจียวเอ่อค่อยๆลุกขึ้น และใช้มือทั้งสองถูและบีบนวดไปที่ก้นของเธอ เพื่อเปรียบเทียบขนาด ก่อนที่จะกล่าวพึมพำกับตัวเอง : “ไม่ได้เล็กข้างใหญ่ข้างสักหน่อย มันมีขนาดเท่ากันอย่างชัดเจน !! เจ้าเด็กบ้า ! พูดจาไร้สาระ ร้ายกาจยิ่งนัก !!”