ตอนที่ 57 เล็กข้างใหญ่ข้าง
“เจ้ากำลังพูดอะไร ?” ใบหน้าของหู่เจียวเอ่อเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เธอฝืนยิ้มและกล่าวต่อ : “ข้าไม่เข้าใจ”
หรือว่าเขาจะดูออกว่าเธอไม่ใช่หู่เหมยเอ่อ ?เป็นไปไม่ได้ เขาอยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์ขั้นที่ 9 ตัวเธอเองเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริง วิธีการต่างๆที่เธอใช้จะถูกเขาจับได้อย่างไร ? นอกจากนั้น เธอยังมีใบหน้าที่เหมือนน้องสาวของเธอราวกับฝาแฝด ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียง รูปร่าง ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันแม้แต่น้อยผู้อาวุโสในนิกายต่างเข้าใจผิดถึงฐานะของพวกเขาทั้งสองเป็นประจำ แล้วเขาจะมีความสสามารถเช่นนี้ได้อย่างไร ?
หยางไค่จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เชยฉา เขาหัวเราะเบาๆ : “แม่นางกล่าวเช่นนี้ คือต้องการยอมรับในสิงที่ทำใช่ใหม ?”
“ยอมรับอะไร ?” ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร” หู่เจียวเอ่อใช้ความพยามครั้งสุดท้ายในการแสดง
หยางไค่ขยี้หน้าผากไปมา ก่อนจะกล่าวตอบอย่างช่วยไม่ได้ : “งั้นข้าจะกล่าวให้ชัดเจนและเข้าใจ แม่นาง เจ้าไม่ใช่หู่เหมยเอ่อ ข้าคิด……….ว่าเจ้าต้องเป็นพี่สาวฝาแฝดของหู่เหมยเอ่อ”
หู่เจียวเอ่อตะลึง ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงหัวเราะที่ฝืนทน : “ทำไมถึงกล่าวเช่นนี้ ?”
ครั้งนี้เธอยอมรับโดยไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับจ้องมองหยางไค่ด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น เธออยากรู้ว่าเธอเปิดเผยสิ่งใดออกมา ถ้าหากหยางไค่ไม่สามารถกล่าวเหตุผลนี้ออกมาได้ นั้นหมายความว่าเขากำลังโกหกเธอ
อาจจเป็นเพราะเขากำลังสงสัย ไม่กล้ายืนยัน ดังนั้นจึงใช้คำพูดตัวเองเป็นสิ่งยืนยัน หู่เจียวเอ่อกำลังคาดเดาอยู่ในใจ
“แม่นางกำลังทดสอบดวงตาของข้า” หยางไค่กล่าวด้วยเสียงหัวเราะ ก่อนจะหันหลังและถือชาที่เธอรินให้ดื่มเมื่อสักครู่ ก่อนที่จะหรี่ตาและกล่าว : “ความจริง ข้าไม่สามารถยืนยันว่าเจ้าเป็นหู่เหมยเอ่อหรือเปล่า แต่ตอนนี้ข้าสามารถยืนยันได้ เจ้าไม่ใช่หู่เหมยเอ่อ !!!”
ใบหน้าของหู่เจียวเอ่ออึ้งตะลึง เธอกัดฟันไว้แน่น ที่แท้คำพูดเมื่อสักครู่เป็นการทดสอบสิ !! น่าเจ็บใจยิ่งนัก !! ข้าเป็นหญิงสาวที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริง แต่กลับถูกเด็กหนุ่มที่อยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์จับได้ นี้มันเป็นการล่าเหยื่อที่ตกหลุมพราง มันน่าอับอายยิ่งนัก
ปฏิเสธต่อไปก็ไร้ซึ่งควาหมาย หู่เจียวเอ่อหัวเราะ หันหลังนั่งลงบนเตียง เรือนร่างที่เย้ายวนเปิดเผยออกมา ดวงตาที่งดงามจ้องมองหยางไค่ เสียงที่อ่อนโยนกล่าวถาม : “เจ้าสงสัยตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”
“ตอนดื่มชา” หยางไค่เคาะแก้วชาที่อยู่ในมือ : “แม้ว่าชาจะมีกลิ่นที่หอมกรุ่น แต่มิอาจปิดปังกลิ่นหอมของหญิงสว และแก้วนี้ยังมีรอยประทับของริมฝีปากจางๆ ข้าคิดว่าแก้วชานี้เพิ่งถูกใช้จากคนอื่นได้ไม่นาน ?คนคนนั้นก็คือแม่นางหู่เหมยเอ่อ่ !!”
“เพียงเท่านี้ เจ้าจึงตัดสินใจว่าข้าไม่ใช่หู่เหมยเอ่อ ?” หู่เจียวเอ่อกล่าวถามด้วยความสงสัย
“แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเท่านี้” หยางไค่ส่ายหัวเบา : “จุดที่ 2 สิ่งที่ทำให้ข้าสงสัยคือารมณ์ของเจ้า !!ข้าไม่คิดว่าระยะห่างเพียง 10 กว่าวัน อารมณ์ของหญิงสาวคนหนึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปมากเช่นนี้ จะกล่าวคำพูดที่ถือว่าเป็นคำชมเชย เสน่ห์ของแม่นางเหมยเอ่อนุ่มนวลอ่อนหวานและยังอ่อนโยน แต่เสน่ห์ของเจ้าเป็นดั่งเสน่ห์ของหญิงสาวแรกแย้มที่เย้ายวนและพรวยพุ่ง”
“ข้าชอบคำกล่าวนี้” หู่เหม่ยเอ่อหัวเราะอย่างพอใจ ก่อนจะกล่าวถามต่อ : “ยังมีเหตุผลอื่นหรือไม่ ?”
“จุดที่ 3 กลิ่นหอมที่อยู่ในเรือนร่างของเจ้าและแม่นางเหม่ยเอ่อยแม้จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ถ้าหากแยะแยกมันอย่างละเอียด มันเป็นกลิ่นหอมที่แตกต่างกัน กลิ่นของของแม่นางเหมยอ่อนหวาน แต่กลิ่นของเจ้าเป็นกลิ่นหอมที่สง่างาม”
“ไอ่เด็กบ้า !!” ใบหน้าของหู่เจียวเอ่อแดงก่ำ เพราะคำตอบของหยางไค่ค่อนข้างตรงไปตรงมา เมื่อหวนคิดถึงการทุ่มเทที่ตนกระทำไปเมื่อสักครู่ หู่เจียวเอ่อเกลียดชังจนอยากจะตบหน้าชายที่อยู่ตรงหน้าให้สาสม
“จุดที่4…………..”หยางไค่จ้องมองแววตาที่แทบจะกินเนื้อของหู่เจียวเอ่อ ก่อนจะกล่าวต่อไป
“ยังมีอีก…………”หู่เจียวเอ่อตื่นตะลึง เธอไม่คาดคิดเลยว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์จะสามารถมองเห็นข้อบกพร่องจำนวนมากมายเช่นนี้ เดิมทีเธอคิดว่าเด็หนุ่มคนนี้คงเป็นคงที่ไร้ความสามารถ
“จุดที่ 4 คืออาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าของเจ้า อาการบาดเจ็บนั้นมองเห็นอย่างชัดเจนว่ามันเกิดจากพลังภายในของตัวเอง นี้คือคำใบ้ที่ชัดเจนที่สุด แม้ว่าแม่นางเหมยเอ่อจะเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง แต่เธอเป็นผู้ฝึกยุทธุ์คนหนึ่ง ทำไมเธอถึงทำให้ข้อเท้าของตนเองได้รับบาดเจ็บอย่างง่ายดายเช่นนี้ ?”
“มันเป็นความประมาทของข้าเอง”หู่เจียวเอ่อบ่นพึมพำกับตัวเอง ตอนนั้นเธอต้องการให้หยางไค่ตกหลุมพรางที่เธอวางไว้ เธอจึงไม่ได้คิดอย่างถี่ถ้วน
เธอเงยหน้าและมองเห็นหยางไค่กำลังครุ่นคิด หู่เจียวเอ่อจึงกล่าวอย่างไม่เกรงใจ : “อย่าบอกข้าน่ะ ว่าเจ้ายังเห็นจุดบกพร่องอื่นๆอีก”
หู่เจียวเอ่อค่อนข้างไม่พอใจ ทำไมแผนการที่เธอคิดว่าสมบูรณ์ไม่มีฐิตจะเต็มไปด้วยข้อบกพร่องที่มากมาย ?การวิเคราะไตร่ตรองของเขาล้วนชัดเจนและสมเหตุสมผล ทำให้เธอไม่มีเหตุผลอื่นๆ ที่จะโต้แย้งได้
เจ้าเด็กคนนี้ช่างน่ารำคาญยิ่งนัก !!
“ถ้าหากเขายังกล้ากล่าวชี้ข้อบกพร่องอีก คราวนี้ข้าต้องจัดการเจ้าอย่างแน่นอน กล่าวอะไรออกมาไม่ดูสีหน้าของข้าแม้แต่น้อย” หู่เจียวเอ่อบ่นพึมพำอยู่ในใจ
“ข้าไม่บอก็ได้” หยางไค่กล่าวตอบและขมวดคิ้วไปมา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หู่เจียวเอ่อรู้สึกไม่สนุก ดวงตาของเธอแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ ก่อนที่จะเธอจะกัดฟันและกล่าวขู่ : “พูดมา !!”
“ไม่พูดดีกว่า !!” หยางไค่ส่ายหัวไปมา
หู่เจียวเอ่อกล่าด้วยความโกรธ : “ข้าให้เจ้าพูดเจ้าก็ต้องพูด”
หยางไค่หัวเราะอย่างขมขื่น : “ข้ากลัวว่าพูดออกไปแล้วจะทำให้แม่นางโกรธเคืองได้”
หู่เจียวเอ่อหรี่ตา : “ทำให้ข้าโกรธ ? มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ ?”
“อืม”
“ข้าอยากฟัง !!”
“แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะไม่โกรธเคืองข้า !!”
“เจ้ายังไม่ได้พูด แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองจะโกรธหรือไม่?”
“ถ้าเช่นนั้น ก็ปล่อยให้มันผ่านไป ไม่ต้องสนใจ”
“เจ้า………..เจ้าไม่รู้หรือไรว่าเมื่อโต้เถียงกับหญิงสาวเจ้าต้องถอยให้พวกเธอ 1 ก้าว ?” หู่เจียวเอ่อโกรธเคืองจนตาถลึง เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้เฉลียวฉลาดมีไหวพริบที่ดีเยี่ยม แต่เขาเป็นคนหัวแข็งที่ไม่ยอมใครง่ายๆ
“ถอย 1 ก้าว ข้าจะเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บ……….ข้ารู้สึกว่า……..ข้าสู้เจ้าไม่ได้” หยางไค่กล่าวอย่างจริงจัง
“ถือว่าเจ้ายังมีความฉลาดและถ่อมตนอยู่บ้าง” หู่เจียวเอ่อหัวเราะอย่างภูมิใจ เธอหมุนตัวเสมือนสายลมทำให้กลิ่นหอมฟุ้งจากเรือนร่างของเธอโชยออกมา ก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง และจ้องมองหยางไค่ด้วยสายตาที่สง่างามและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น : “ได้ ข้าสัญญาข้าจะไม่โกรธเคืองเจ้า !!”
“และเจ้าต้องสัญญาด้วยว่าจะไม่ทุบตีข้า”
“ได้ !!”หู่เจียวเอ่อกัดฟันกล่าวตกลง : “บอกข้าสิ ข้อบกพร่องจุดสุดท้ายคืออะไร ?”
หยางไค่ทำสีหน้าจริงจัง : “ที่จริง ไม่ใช่ข้อบกพร่อง แต่ว่าเจ้ากับแม่นางหู่เหมยเอ่อมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย”
รูปลักษณ์ ใบหน้า เรือนร่างของเธอเหมือนกับหู่เหม่ยเอ่อทุกประการ แล้วความแตกต่างมันอยู่ตรงไหน ?
หยางไค่เกาคางไปมา และแสดงออกด้วยความลังเล ก่อนจะกล่าวพึมพำอย่างช้าๆ : “ก้นของเจ้า เล็กข้างหนึ่ง ใหญ่ข้างหนึ่ง !! ไม่สันทัดกลมกลึงเช่นก้นของหู่เหมยเอ่อ !!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา ใบหน้าของหู่เจียวเอ่อแดงก่ำ พลังลมปราณที่อยู่ในเขตแดนก่อกำเนิดลมปราณกำลังปะทุอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้นภายในกระท่อมมีเสียงลมที่รุนแรงดังแว่วไปมา
“โปรดจำคำสัญญาที่เจ้าสัญญาไว้ !!” ใบหน้าของหยางไค่ไม่เปลี่ยนแปลง หัวใจไม่สั่นไหว ก่อนที่จะกล่าวเตือนเขาอย่างอ่อนโยน
พลังลมปราณที่น่าตื่นตะลึงของหู่เจียวเอ่อสงบลง เธอโกรธจนร่างกายสั่นเทา เธอขบฟันแน่นจนเกือบแตกกระจาย เมื่อเธอสงบสติอารมณ์ลงเธอได้ทุบลงที่โต๊ะ และกล่าวตะโกน : “เศษสวะ !!”
หู่เจียวเอ่อที่เป็นหญิงสาวแต่กลับสบทด่าด้วยคำหยาบคายเช่นนี้ แล้วหู่เหมยเอ่อจะโกรธเคืองแค่ไหน
เจ้าเด็กบ้าที่ควรถูกหั่นเป็นชิ้นๆ กล้าที่จะวิจารณ์ก้นของตนเองว่ามีขนาดเล็กและขนาดใหญ่ มันเป็นคำพูดที่สมควรพูดออกมาจากปากของชายหนุ่มหรือไง ?
เจ้าเด็กบ้า เจ้าคงกลัวว่าจะเขียนคำว่าตายไม่เป็น ?