ตอนที่ 56 ทดสอบ
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ หู่เหมยเอ่อที่ถูกคุมขังตะโกนเสียงดัง : “ท่านพี่ ท่านไร้เหตุผลและไร้ยางอายยิ่งนัก !!”
แต่เสียงของเธอมิอาจเล็ดรอดออกไปได้ แม้แต่กลิ่นหอมของเธอก็มิอาจหลุดออกไปได้ น่ารังเกียจยิ่งนัก จากความแข็งแกร่งของพี่สาว เป็นเรื่องง่ายอย่างยิ่งที่เธอจะยั่วยวนผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์
ถ้าหากเป็นการพบเจออย่างปกติ หู่เหมยเอ่อเชื่อว่าหยางไค่จะไม่เปิดเผยปฏิกิริยาที่น่ารังเกียจ แต่ถ้าหากพี่สาวของเธอใช้วิธีการที่มืดมนอยู่เบื้องหลัง มันจะเป็นอีกกรณี
ภายในกระท่อม หู่เจียวเอ่อลุกขึ้นอย่างกะทันหัน เธอคอยๆเดินไปยังเตียงที่หอมหวานทีละก้าวทีละก้าว ก่อนจะมองย้อนกลับไปและกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ : “โปรดรอสักครู่ ข้าจะนำสิ่งของบางสิ่งบางอย่างให้แก่เจ้า”
“ได้” หยางไค่พยักหน้าและขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ แต่เขาไม่อาจกล่าวได้ว่าตรงหน้าที่ผิดปกติ
เมื่อมาเดินมาถึงข้างเตียงง หู่เจียวเอ่อโน้มตัวลงและกึ่งนั่งกึ่งคุกเขาลงบนเตียงและเริ่มจะค้นหาบางสิ่งบางอย่าง เสื้อผ้าที่เบาบางของเธอมิอาจปิดกั้นทรวงอกอวบอิ่มอันเป็ฯเสน่ห์ล้นพ้นของเธอ เสื้อผ้าที่รัดแน่นอยู่บนเรือนร่างเผยให้เห็นรูปร่างที่เย้ายวนและไม่อาจปิดก้นที่โค้งงอนกลมกลึงของเธอไว้ มันเผยให้เห็นเสน่ห์ที่เย้ายวนอารมณ์ถึงที่สุด
หัวใจของหยางไค่เต้นระรัวอย่างรุนแรง ลำคอของเขาเสมือนกำลังถูกเผาไม้
หลังจากนั้นชั่วครู่ หู่เจียวเอ่อยังอยู่ในท่าทางที่เสน่ห์เย้ายวนใจ แต่ทันใดนั้น เสียงตะโกนกรีดร้องดังออมาจากปากของเธอ
“เกิดอะไรขึ้น ?” การแสดงออกของหยางไค่เปลี่ยนแปลง เขารีบวิ่งเข้ามาเพื่อดูกว่าเกิดอะไรขึ้น
ในเวลาที่เหมาะสมเช่นนี้ หู่เจียวเอ่อถอยออกมาจากเตียง การก้าวสะดุด และล้มลงไปยังอ้อมกอดของหยางไค่ และกอดจับหยางไค่ไว้แน่น
แขนขาของทั้งสองสัมผัสกันไปมา แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร พวกเขาทั้งคู่ต่างล้มลงที่เตียงนอน
หู่เจียวเออยู่ด้านบน หยางไค่อยู่ด้านบ่าง ความร้อนระอุแห่งอารมร์เริ่มไหลเข้าสู่ทรวงอก ลำคอของหยางไค่รู้สึกเหือดแห้งอย่างกะทันหัน เขมาองไปยังใบหน้ารูปไข่ที่งดงามและริมฝีปากที่เย้ายวนที่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ หยางไค่อดทนปราบปรามอารมณ์ของตนเอง ก่อนจะเปิดปากกล่าวถาม : “เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น ?”
“มีแมลง !!” หู่เจียวเอ่อแสแสร้งแสดงอย่างเต็มที่ การแสดงของเธอนั้นดีเยี่ยม สองมือของเธอกำเสื้อผ้าของหยางไค่ไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เสมือนว่าเธอหวาดกลัวอย่างมาก
หยางไค่หัวเราะออกมาโดยไม่ตั้งใจ : “มันอยู่ไหน ?”
“นั่นไง…………”
หยางไค่มองไปยังทิศทางที่หู่เจียวเหมยชี้ และเขาก็มองเห็นแมลงตัวหนึ่งที่กำลังไต่เลื้อยอย่างน่าขยะแขยง เขาคิดอยู่ในใจว่าหญิงสาวคนนี้น่าสนใจ เธอกลายเป็นผู้ฝึกยุทธุ์คนหนึ่ง แต่แมลงเพียงตัวเดียวกับทำให้เธอหวาดกลัวเช่นนี้ เขาจึงยื่นมือออกไป ขยี้แมลงจนตาย ก่อนจะตบไปที่ไหล่ของเธฮและกล่าว : “ไม่เป็นไร ข้ากำจัดมันไปแล้ว”
“มันต้องมีอีก…..” หู่เจียวเอ่อได้คืบจะเอาศอก ในขณะที่เธอกล่าว เธอจ้องมองไปทั่วทุกทิศทาง ก่อนที่จะสยายผมที่มีกลิ่นหอมไปยังใบหน้าและริมฝีปากของหยาง จิตใจที่สงบลงของหยางไค่เริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
“ไมมีเหลืออยู่แล้ว” หยางไค่รู้ว่ามันไม่เหมาะสม ถ้าหากมีโผล่พรวดพราดเข้ามาเห็นสภาพของเขาและหู่เหมยเอ่อในตอนนั้ มันคงจะเป็นมลทินที่แปดเปื้อนจนมิอาจลบล้างมันไปได้
“ไม่มีจริงๆใช่ไหม ?” ดวงตาของหู่เจียวเอ่อประกายด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คิดว่าหยางไค่จะสามารถคบคุมตัวเองได้ เขาไม่พยายามหาโอกาสเพื่อลงมือกับเธอแม้แต่น้อย
เมื่อสักครู่ถ้าหากหยางไค่ลงมือจริง าเขาต้องถูกหักแขนหักขาอย่างแน่นอน
แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่หู่เจียวเอ่อมิได้กระทำเช่นนั้นต่อไป เธอค่อยๆ ลุกขึ้นจากอ้อมกอดของหยางไค่
หยางไค่เองได้ลุกขึ้นและนั่งลงทันที เขารู้สึกอึดอัดใจที่จะเงยหน้ามองหู่เหมยเอ่อ เขาพบว่าใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เธอจะค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นและนั่งข้างๆเขา
“ขาของเจ้าเป็นอะไร ?” หยางไค่กล่าวถามด้วยความสงสัย
“เมื่อสักครู่ที่ข้าสะดุดล้มดูเหมือนว่ามันจะได้รับบาดเจ็บ” เมื่อแผนการแรกไม่สำเร็จ เธอจึงเริ่มแผนการที่สอง เธอคิดอยู่ในใจว่าเธอจะยอมสละทุกอย่าง เพื่อขูดหาสันดานที่แท้จริงของเขา เธอต้องรู้ให้ได้ว่าหัวใจของหยางไค่เป็นสีแดงหรือสีดำ
“ให้ข้าดู……..” หยางไค่ลดตัวลง ก่อนที่จะยกขาข้างหนึ่งของหู่เจียวเอ่อขึ้น ซึ่งเขาพบว่าข้อเท้าของเธอค่อนข้างบวมแดง แสดงหเห็นว่าเธอได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า
แต่มันไม่ใช่ร่องรอยที่ได้รับบาดเจ็บอย่างแท้จริง เพื่อทดสอบหยางไค่ หู่เจียวเอ่อยอมเสียสละอย่างมาก
หยางไค่มีมีข้อห้ามให้แก่ตนเอง หู่เหมยเอ่อก็เป็นคนที่ไม่สนใจในเรื่องของมารยาทมากนัก ก่อนหน้านี้ที่เธอใช้เสน่ห์ดึงดูดตัวเอง แล้วจะต้องกังวลอะไรเมื่อเขาจับขาของเธอเอาไว้ในตอนนี้ ?
“อย่าขยับ !!” หยางไค่กล่าวออกคำสั่ง จากนั้นจึงควานมือเข้าไปในเสื้อผ้า ก่อนที่จะดึงขวดยาออกมา
ขวดยานี้คือขวดยาที่บรรจุยาสมานโลหิต หลังจากที่เอามันออกมา หยางไค่ขยับมันไปมา เสมือนว่ากำลังคิดอะไร หลังจากนั้น เขาจึงเปิดขวดยา แล้วค่อยๆ เทยาลงบนฝ่ามือ จากนั้นจึงละเลงแต้มไปยังข้อเท้าบวมเบ่งของหู่เจียวเอ่อ
พลังลมปราณที่อ่อนโยนกำลังเคลื่อนไหว ช่วยให้ยาสมานโลหิตออกฤทธิ์ของมันได้เร็วขึ้น
ร่างกายของหู่เจียวเอ่อสั่นสะท้าน เขาพบว่าครั้งนี้ความเสียสละของเขาได้สูญเปล่า !! หลายปีที่ผ่าน ร่างกายที่บริสุทธุ์ราวกับหยกที่ล้ำค่ายังไม่เคยถูกใครแตะต้องมาก่อน แต่วันนี้เพราะต้องการเดิมพันกับน้องสาว จนโดนผู้อื่นสวมกอด สัมผัส ไม่เพียงแต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้ เธอยังไม่สามารถให้เขารับผิดชอบกับสิ่งที่เขากระทำมาทั้งหมด
แม้ว่าจิตใจของเธอจะรู้สึกเจ็บปวด แต่ร่างกายของเธอกลับไม่รู้สึกตามจิตใจของตนเอง
มือใหญ่ค่อยๆนวดถูข้อเท้าของเธอเบาๆ เขาจริงจังกับสิ่งที่กำลังกระทำ แต่การเคลื่อนไหวของเขากลับนุ่มนวล มื่อหยาบกรานถูกไปมากับผิวที่อ่อนนุ่มของเธอ ซึ่งให้ความรู้สึกชาๆและมึนๆ
การกระทำที่ตั้งใจของเขา มันดูเหมือนว่าไม่สมดุลกับอายุของเขา
จากการเคลื่อนไหวของหยางไค่ ความคิดจินตนาการของหู่เจียวเอ่อถูกทำลาย ร่างกายของเธอมีความรู้สึกที่แปลกประหลาดผุดออกมา ความรู้สึกนี้ทำให้หัวใจของเธอวุ่นวาย หัวใจดวงเดียวของเธอเต้นไปมาอย่างรุนแรง ช่องท้องของเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมา เสมือนว่าฟ้ากำลังผ่าลงมา ทำให้เธอเกรงขาและหนีบขาทั้งคู่โดยไม่รู้ตัว เพราะถ้าหากเธอไม่หนีบขาของตนเองเอาไว้ เธอเกรงว่าความรู้สึกอบอุ่นนั้นจะพุ่งเข้ามา
“หยางไค่…………” สุ้มเสียงที่แปลประหลาดถูกกล่าวออกมาจากปากของหู่เจียวเอ่อ ณ ตอนนี้เธอรู้สึกอับอายอย่างมาก เธอไม่เคยคิดว่า จะมีวันที่ตัวเองกล่าวด้วยสุ้มเสียงเช่นนี้
“อืม?” หยางไค่เงยหน้า ซึ่งมองเห็นดวงตาที่งดงามของหู่เจียวเอ่อกำลังจ้องมองลงมาที่เขา ใบหน้าของเธอไม่เห็นเธอสีอื่นๆ นอกจากสีแดงก่ำจากความอาย
“เจ้าต้องการ…….จะทำเรื่องอื่นหรือเปล่า ?” หู่เจียวเอ่อกัดริมฝีปากสีทับทิมไว้แน่นก่อนที่จะทำการโจมตีครั้งสุดท้าย !!
ถ้าหากหยางไค่ตอบตกลง เธอจะสามารถละทิ้งอารมรณ์ความรู้สึกทั้งหมดของเธอในตอนนี้ และถอยออกจากเขาอย่างสมบูรณ์ และไม่มีทางที่จะให้หยางไค่อยู่อย่างมีความสุขอีกต่อไป
เขาจะตอบตกลงหรือเปล่า ?หู่เจียวเอ่อรู้สึกตื่นเต้น กังวล เธอหวังว่าเขาจะตอบตกลง เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากความรู้สึกในตอนนี้ และเธอยังคาดหวังให้เขาปฏิเสธ เพื่อยืนยันว่าน้องสาวของเธอไม่ได้มองคนผิดไป และตนไม่ได้มองคนผิดไปเช่นกัน !! ความรู้สึกที่กังวลและต่อต้านกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
หู่เจียวเอ่อรู้สึกกังวล แล้วหูเหมยเอ่อที่ถูกขังจะไม่กังวลได้อย่างไร ?ตอนนี้เธอหยุดการตะโกนที่ไร้ประโยชน์ เขาจ้องมองหยางไค่ ไม่รู้ว่าเขาจะให้คำตอบอย่างไร
หยางไค่จ้องมองหู่เจียวเอ่ออย่างตรงไปตรงมา เหมือนว่าเขาได้ย้ายหัวใจของเขาออกมาที่ดวงตา หู่เหมยเอ่อรู้สึกกังวลอย่างยิ่ง เพราะเธอกลัวว่าหยางไค่จะกล่าวตกลง
ทันใดนั้น หยางไค่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเก็บยาสมานโลหิตเข้าไปในเสื้อผ้าของเขา
“แม่นาง !!” หยางไค่กล่าด้วยเสียงที่หนักแน่น
“อืม ?” หู่เจียวเอ่อตื่นเต้นกังวลจนไม่ได้สังเกตว่าการกล่าวเรียกของหยางไค่มีการเปลี่ยนแปลงไป
“ยาสมานโลหิตที่ข้าละเลงแต้มให้แก่เจ้าเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของข้า” แม้ว่ามันจะมีราคาที่ไม่มาก แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้ข้าได้มองเห็นความเมตตาที่อบอ่นของมนุษย์
“หมายความว่าอย่างไร ?” หู่เจียวเอ่อตะลึง ตนเองกำลังถามว่าเขาต้องการหรือไม่ต้องการ แต่เขากลับกล่าวสิ่งเหล่านี้ต่อเธอทำไม ? มันหมายความว่าอย่างไร ?
หยางไค่ลุกขึ้น เขาจ้องมองไปที่หู่เจียวเอ่อและกล่าวอย่างจริงจัง : “ข้าต้องการบอกเจ้าว่า ข้าใช้ยาสมานโลหิตที่มีค่าที่สุดของข้ารักษาเยียวยาอาการบาดเจ็บของเจ้า เพื่อไม่ให้เจ้าถือโทษโกรธเคืองการกระทำที่หยาบคายของข้า เรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้น ให้มันจบเพียงเท่านี้”