ตอนที่ 48 แข็งแกร่ง
เฉิงเซาเฟิงและนู่วเต๋ากล่าวคนละประโยค ซึ่งได้กล่าววัตถุประสงค์ของพวกเขาออกมาอย่างชัดเจน หยางไค่อึ้งไปชั่วขณะ เขาไม่คาดคิดว่าทั้งสองจะมีจิตใจที่โหดเหี้ยมและไร้ความปราณี การทะเลาะเพียงครั้งเดียวกับต้องถึงการฆ่าฟันซึ่งกันและกัน
ในขณะที่กำลังเฝ้าดูพวกเขาทั้งสองอย่างระมัดระวัง หู่เหมยเอ่อได้กระซิบที่ข้างหูของหยางไค่เบาๆ : “หยางไค่ ถ้าหากเจ้าไม่อยากตาย ให้ฟังคำพูดของข้า นู่วเต๋าก้าวเข้าสู่เขตแดนก่อกำเนิดลมปราณขั้นที่ 5 เมื่อเดือนที่แล้ว ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถเทียบได้กับเฉิงเซาเฟิง และตอนนี้พวกขาทั้งสองอยู่ด้วยกัน เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาอย่างแน่นอน !!”
“เจ้ามีวีธีการจัดการกับพวกเขา ?” หยางไค่กล่าวถามอย่างไม่มั่นใจ
“ข้าไม่สามารถจัดการกับพวกเขา แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะฆ่าข้าอย่างแน่นอน เพียงแค่เจ้ายอมรับเงื่อนไขของข้า ข้าสัญญาว่าจะจะปลอดภัย”
จากสถานะของหู่เหมยเอ่อ ถ้าหากเขาปกป้องหยางไค่ เฉิงเซาเฟิงและนู่วเต๋าคงไม่มีทางละเลยคำขอของเธอ มากที่สุดพวกเขาคงจะทุบตีหยางไค่เพื่อระบายความโกรธของพวกเขาเท่านั้น
“ไม่จำเป็น” หยางไค่ค่อยๆส่ายหัว
“เจ้ายอมตายมากกว่า ?” หู่เหมยเอ่อมองหยางไค่ด้วยสายตาที่มึนงง ดวงตาของเธอประกายด้วยความไม่เชื่อ
“ต้องขออภัย ข้าเป็นคนสกปรกที่ต้อยต่ำ ยิ่งกว่านั้น ใครจะอยู่ใครจะตาย ต้องลงมือต่อสู้ถึงจะรู้ผลของมัน” หยางไค่จ้องมองพวกเขาทั้งสองอย่างใจเย็น
เมื่อได้รับคำตอบนี้ ใบหน้าของหู่เหมยเอ่อเปลี่ยนไปอย่างไม่ปกติ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอจึงหัวเราะอย่างเย็นชา กัดฟันกล่าด้วยความขมขื่น : “ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นเจ้าก็รักษาตัวด้วย !!”
กล่าวจบ เธอก้าวถอยหลัง และแสดงท่าทีเชื้อเชิญเฉิงเซาเฟิงและนู่วเต๋าโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของพวกเขา
เฉิงเซาเฟิงกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ : “พี่เหมยเอ่อน่ารักจริงๆ ข้ารู้ว่าพี่เหมยเอ่อจะไม่ทำให้เราผิดหวัง”
หู่เหมยเอ่อเผยรอยยิ้มที่น่าเกลียด และไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดสิ่งใดอยู่ในใจ
นู่วเต๋าหัวเราะอย่างแปลกประหลาด ก่อนจะสังเกตหยางไค่ตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วค่อยๆส่ายหัวไปมา : “เจ้าชื่อหยางไค่ใช่ไหม?เมื่อไปถึงนรกอย่าโทษข้าล่ะ โทษตัวเจ้าที่ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น เจ้าจะจบชีวิตตัวเอง หรือให้ข้าลงมือ ?”
คำกล่าวนี้โหดเหี้ยมและเต็มไปด้วยความซับซ้อน แต่มุมปากหยางไค่ยังเผยให้เห็นรอยยิ้ม : “อยากได้ชีวิตของข้า ใช้ความสามารถของเจ้ามาเอามันซิ !!”
ขณะที่กล่าว เขาเริ่มแอบใช้ทักษะการต่อสู้แห่งกลยุทธุ์หยาง
เมื่อเขาเริ่มเปิดใช้ทักษะการต่อสู้แห่งกลยุทธุ์หยาง หยางไค่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานความร้อนที่รุนแรงกำลังแทรกซึมเข้าไปในเส้นชีพจรของเขาอย่างรวดเร็ว พลังงานความร้อนถูกห่อหุ้มด้วยพลังงานหยางที่หนักหน่วง เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆทำให้เส้นชีพจรของหยางไค่ร้อนระอุ เขารู้สึกทรมาณกับสิ่งเกิดขึ้น ผิวหนังบริเวณทรวงอกเริ่มแผ่กระจายควันสีเขียวที่ร้อนแรงออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวหน้งของเขาเริ่มถูกเผาไหม้จนกลายเป็นสีดำคล้ำอย่างเห็นได้ชัด
หยางไค่ตื่นตระหนก ยังมิทันที่เขาจะตอบสนอง เส้นชีพลมปราณที่กำลังเจ็บปวดกลับปรับตัวอย่างรวดเร็ว พลังงานหยางที่หนักหน่วงกำลังไหล่พรั่งพรู่เข้าสู้เส้นชีพจรลมปราณของเขาอย่างต่อเนื่อง
เสมือนเป็นวิชายุทธุ์ที่น่าพิศวง เส้นชีพจรลมปราณของเขาเต็มไปด้วยพลังลมปราณหยางที่หนาแน่น ที่กำลังถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง
หยดน้ำ………….เป็นความรู้สึกที่เคลื่อนไหวจากจิตวิญาน จุดตันเถียนของเขามีหยดน้ำพลังปราณเพิ่มขึ้นอีก 1 หยด
หลังจากนั้น อีกเสียงของหยดน้ำพลังปราณดังแว่วออกมา
วิชายุทธุ์ที่ยังไม่ถึงช่วงสามลมหายใจ หยดน้ำพลังลมปราณหยางสองหยดถูกสร้างขึ้นมา แต่เกิดสิ่งใดขึ้นกับหยดน้ำพลังปราณอีกหนึ่งหยด มันเพิ่งถูกสร้างออกมา แต่กลับมลายหายไปในทันที
บัดนี้ พลังงานหยางที่รุนแรงเริ่มหยุดการเคลื่อนไหว
ก้อนหินพลังงานหยาง !! ทันใดนั้น หยางไค่รีบนำก้อนหินพลังงานหยางออกมาจากถุงผ้าของเขาออกมา ทำไมก้อนหิ้นที่เต็มไปด้วยพลังหยางถึงมีลักษณะที่เหมือนเดิม ? ภายในของมันเต็มไปด้วยพลังหยางที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่กลับถูกตัวเขาเองดูดซับจนหมดในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
และในที่สุดมันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นหยดน้ำพลังลมปราณหยางจำนวน 2 หยด !! แต่ไม่รู้ว่าหยดน้ำพลังลมปราณหยางหายไปไหนหนึ่งหยด เมื่อรวมกับหยดน้ำพลังลมปราณหยางที่อยู่ในจุดตันเถียน ตอนนี้เขายังเหลือหยดน้ำพลังลมปราณหยางจำนวน 2 หยด
ความเร็วในการดูดซับ………..มันเร็วเกินไป ? เสมือนการบังคับ เขาไร้ซึ่งความสามารถในการตอบสนองต่อมัน
การเปลี่ยนแปลงของหยางไค่ นู่วเต๋าและเฉิงเซิงเฟิงมองเห็นมันอย่างชัดเจน การเปลี่ยนแปลงบริเวณทรวงอกของหยางไค่พวกเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ของมัน แต่นู๋วเต๋ามีประสบการณ์การต่อสู้ที่มากมาย เขาจึงโบกมือและกล่าว : “ศิษย์น้องซู่ โจมตีพร้อมกับข้า ข้าเกรงว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป”
“ได้” เฉิงเซาเฟิงต้องการเห็นหยางไค่ตายต่อหน้าเขาให้เร็วที่สุด เขาไม่ลังเลอีกต่อไป เขาตะวัดกระบี่ที่อยู่ในมือ พุ่งไปด้านหน้าด้วยใบหน้าที่โหดร้าย
ทั้งสองเคียงข้างซ้ายขวา พุ่งไปด้านนอกด้วยความเร็วที่เสมือนพายุ เพียงพริบตาพวกเขาได้พุ่งมาถึงด้านหน้าของหยางไค่
ความแข็งแกร่งของนู๋วเต๋าสูงกว่าเฉิงเซาเฟิง ดังนั้นการเคลื่อนไหวของเขาจึงมีความรวดเร็วที่เหนือกว่า หมัดที่ห่อหุ้มด้วยพลังลมปราณพุ่งไปยังใบหน้าของหยางไค่
เขตแดนก่อกำเนิดลมปราณขั้นที่ 5 ภายในร่างกายเต็มไปด้วยพลังลมปราณที่ไม่น้อย ดังนั้นจึงไม่ควรดูถูกความสามารถของผู้ฝึกยุทธุ์ในขั้นเขตแดนนี้
หมัดที่พุ่งออกไปของนู่วเต๋ามีเสียงแว่วของลมเบาๆเสมือนว่าเขากำลังใช้ทักษะการต่อสู้อย่างใดอย่างหนึ่ง
หยางไค่มิได้หลบการโจมตี เขาพุ่งหมัดออกไปเช่นกัน
“ปัง !!” ข้อมือของหยางไค่มีเสียงของกระดูกดังออกมา หมัดที่กุมไว้แน่นของเขารู้สึกเหมือนมีมีดนับร้อยพันกำลังทิ่มแทงอย่างเจ็บปวด ทันใดนั้นเขารู้สึกว่ามีบาดแผลจำนวนมากมายปรากฏออกมา ทำให้ร่างกายของเขาต้องถอยหลังออกไปหลายก้าว
นู่วเต๋าตะโกนร้องด้วยเสียงแปลกๆ เขารู้สึกว่าหมัดของตนเองกำลังเหล็กที่ร้อนระอุทาบลงไปอย่างรุแรง ผิวหนังของเขารู้สึกเหมือนกำลังถูกเผาอย่างทุกข์ทรมาณ เขาจึงกรีดร้องอย่างเสียงดัง : “พลังลมปราณที่ร้อนระอุยิ่งนัก !!”
จากความแข็งแกร่งของเขตแดนก่อกำเนิดลมปราณขั้นที่ 5 ของเขา กลับไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากพลังลมปราณของเขตแดนกายาเริงอารมณ์ มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก
เมื่อทั้งสองปะทะกัน ต่างต้องถอยออกไปทั้งคู่
เฉิงเซาเฟิงถือกระบี่พุ่งเข้ามา นำพามาซึ่งกลิ่นอายแห่งความเกรี้ยวโกรธที่ต้องการแก้แค้น เขาพุ่งแทงไปที่หยางไค่อย่างรุนแรง เวลานี้เขาต้องการแทงหยางไค่ให้ตายด้วยน้ำมือของเขาเอง
เมื่อถูกโจมตีจากหมัดของนู๋วเต๋า เลือดในร่างกายของหยางไค่เดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง กระดูกเริ่มส่งกลิ่นอายแห่งความอบอุ่นออกมา เมื่อความอบอุ่แพร่กระจายไหลเวียนออกไป แม้มันจะเป็นพละกำลังที่ไม่สมบูรณ์ แต่ดวงตาของเขาเริ่มแดงก่ำ จากใบหน้าที่อ่อนโยนและเป็นมิตรเริ่มแปรเปลี่ยนกลายเป็นใบหน้าที่โหดเหี้ยมและบ้าคลั่ง
เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่ของเฉิงเซาเฟิง หยางไค่ใช้มือข้างเดียวจับกระบี่นั้นไว้
เฉิงเซาเฟิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น : “ข้าได้เรียนรู้ความผิดพลาดจากครั้งที่แล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะเดินทางเส้นทางเดิมหรือไง ?”
ขณะที่กล่าว กระบี๋ไ้ดเปลี่ยนกระบวนท่า เป็นการเฉือนตัด เขาต้องการตัดนิ้วของหยางไค่ แต่การปฏิกิริยาการตอบสนองของหยางไค่ก็ไม่ได้ช้า เขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของกระบวนท่า ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนการตั้งรับของเขา
“พู่ว” กระบี่ได้เฉือนตัดไปยังนิ้วมือของเขา เวลานี้ ใบหน้าของเฉิงเซาเฟิงปลดปล่อยรอยยิ้มที่มีความสุขและพึงพอใจ หู่เหมยเอ่อปิดปากตัวเองไว้แน่น และแสดงออกอย่างตกใจ แต่เมื่อคิดถึงการกระทำของหยางไค่ที่ปฏิบัตต่อเธอ หู่เหมยเอ่อจึงรู้สึกว่าเขาสมควรที่จะได้รับการลงโทษที่รุนแรงเช่นนี้
“เป็นไปไม่ได้” เฉิงเซาเฟิงตะโกนกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว เพราะเขาพบว่ากระบี่ของเขาไม่ได้ตัดนิ้วของหยางไค่จนขาด ไม่ว่าอย่างไรกระบี่ก็คืออาวุธชิ้นหนึ่ง เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์ เนื้อหนังของเขาไม่ได้แข็งแกร่งไปมากกว่าผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนก่อกำเนิดลมปราณ แม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนก่อกำเนิดลมปราณ เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นี้ นิ้วของเพวกเขาจะถูกตัดจนขาดอย่างแน่นอน
หยางไค่แสะยิ้มที่มุมปากอย่างโหดเหี้ยม เผยให้เห็นฟันที่แหลมคม เมื่อมองเห็นดวงตาสีเลือดของเขา เฉิงเซาเฟิงรู้สึกตื่นตระหนก เขาวิ่งถอยหลังอย่างร้อนและกล่าวตะโกน : “ศิษย์พี่นู่ว ช่วยข้าด้วย !!”
ก่อนที่คำพูดนั้นจะกล่าวออกไป หยางไค่พุ่งปะทะไปยังร่างกายของเขา หยดน้ำพลังลมปราณหยางที่อยู่ในจุดตันเถียนเคลื่อนไหวตามจิตวิญญานที่สั่งการออกไป ก่อนที่จะถูกรวบรวมไว้ที่ปลายนิ้ว
เขาชี้ออกไปไปยังกลางหน้าผากของเฉิงเซาเฟิง
เฉิงเซาเฟิงอ้าปากกว้าง ลมหายใจของเขาหยุดลงอย่างกะทันหัน ก่อนที่เขาจะล้มลงไปที่พื้น หน้าผากของเขา มีรูหลุมขนาดเท่าตะเกียบ ทะลุผ่านศีรษะของเขา รูหลุมราบเรียบ ไม่มีแม้แต่หยดเลือดที่ไหลออกมา ดวงตาของเฉิงเซาเฟิงเบิกโพลง เสมือนว่าตายโดยมีความขับข้องใจอยู่ภายใน
“อ้า !!” เสียงหอบหายใจอย่างตื่นตะลึงและหวาดกลัวดังขึ้นพร้อมกัน มันเป็นเสียงของนู่วเต๋าและหู่เหมยเอ่อ