TWO Chapter 39 การเปลี่ยนอาชีพ
TWO Chapter 39 การเปลี่ยนอาชีพ
โอหยางโชวเดินไปทางขุ่ยหยิงหยู เขาหยิบเหรียญเลื่อนขั้นข้าราชการพลเรือนออกจากถุงเก็บของของเขา แล้วกล่าวว่า “หยิงหยู ข้ามีสิ่งที่ดีมามอบให้เจ้า”
เมื่อเธอเห็นเหรียญนั้น ขุ่ยหยิงหยูก็ปิดปากของเธอด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าของเธอดูมีความสุข แล้วจากนั้นก็หันมาเศร้าเล็กน้อย
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงที่อธิบายไม่ได้เหล่านี้ โอหยางโชวก็งงงวย เขาจึงถามเธอว่า “น้องสาวของข้า เจ้าไม่มีความสุขกับการเปลี่ยนเป็นข้าราชการหรือไม่?”
การแสดงของของขุ่ยหยิงหยูมีความซับซ้อนเล็กน้อยขณะที่เธอกล่าวว่า “แน่นอนว่าข้าอยากเปลี่ยน และมีความสุขกับมัน แต่พอข้าคิดว่าอาชีพเดิมของข้าต้องหายไปหลังจากที่ข้าเปลี่ยนอาชีพแล้วมัน มันเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างข้าและครอบครัว ดังนั้น ข้าจึงรู้สึกเศร้า”
อ่า หยิงหยูคิดถึงบ้าน โอหยางโชวลืมไปว่า น้องสาวของเขาคนนี้ก่อนจะเข้ามาที่หมู่บ้านซานไห่ เธอมีประสบการณ์ที่น่าสังเวช และนอกเหนือจากหมู่บ้านซานไห่แล้ว เธอยังมีบ้านอีกหลัง คือ ตระกูลขุ่ยในต้าหลี่ เธอยังคงมีครอบครัวอยู่ที่นั่น
โอหยางโชวค่อยๆลูบศีรษะของเธอ และกระซิบว่า “น้องโง่! อย่าคิดมากเกินไป พี่ใหญ่สัญญาว่า เมื่อดินแดนของเรามีกำลังมากพอจะข้ามผ่านเขตทุรกันดารไปถึงต้าหลี่ ข้าจะช่วยให้เจ้าได้พบครอบครัวของเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ไม่ว่าเจ้าจะเลือกที่จะอยู่กับเราหรืออยู่กับครอบครัวของเจ้า ก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้า”
ขุยหยิงหยูตั้งสติ และยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่สัญญาแล้วนะ เฮะ! เฮะ! อย่างไรก็ตาม เมื่อข้าจากไป ข้าไม่คิดว่าพี่ใหญ่จะทนรับมันได้ และต้องคิดถึงข้ามากแน่นอน ฮิฮิ”
ขุ่ยหยิงอยูเป็นคนเข้มแข็งและมีเหตุผล เธอไม่ปล่อยให้คนรอบข้างต้องกังวล หรือรู้สึกไม่ดีกับตัวเธอ บางทีคงเฉพาะต่อหน้าพี่ชายของเธอโอหยางโชวเท่านั้น ที่เธอจะแสดงด้านที่อ่อนโยนและน่าหลงไหลออกมา
“ทำไม? อย่าบอกนะว่า ถ้าเจ้าไปแล้วเจ้าจะไม่ใช่น้องสาวของข้าอีกหรือ? มันเป็นเรื่องของอนาคต อย่าเพิ่งคิดถึงมันมากจนเกินไป ตอนนี้ ใช้เหรียญเลื่อนขั้นก่อน แล้วให้ข้าดูอาชีพใหม่ของของเจ้า”
เมื่อได้ยินคำพูดของโอหยางโชว ขุ่ยหยิงหยูได้เปิดการใช้งานของเหรียญเลื่อนขั้น จากนั้นก็มีเสียงเพลงดังขึ้น ปรากฎแสงสีขาวพุ่งเข้าไประหว่างคิ้วของเธอ
หลังจากนั้น โอหยางโชวก็ตรวจสอบสถานะของเธอ
ชื่อ : ขุ่ยหยิงหยู(ระดับทอง)
อัตลักษณ์ : ชาวบ้านซานไห่, หัวหน้าฝ่ายการเงินแห่งหมู่บ้านซานไห่, ผู้จัดการธนาคาร 4 สมุทร
อาชีพ : ข้าราชการพลเรือน
ความจงรักภักดี : 90
ความเป็นผู้นำ : 25
กำลัง : 10
สติปัญญา : 50
การเมือง : 58
ความชำนาญ : การวางแผนอย่างรอบคอบ(เพิ่มผลกำไรทางการค้าของดินแดน 1%)
จริงใจ(รายได้จากภาษีของดินแดน เพิ่มขึ้น 5%)
การประเมิน : มาจากตระกูลพาณิชย์ขุ่ย เป็นสุภาพสตรีผู้อ่อนโยน เป็นนักธุรกิจที่ดีไม่หยิง ดื้อดึง แข็งแกร่ง หัวใจอ่อนโยน ฉลาดและรอบคอบ พรสวรรค์เปล่งประกาย
โอหยางโชวประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าขุ่ยหยิงอยู่จะเลื่อนขั้นเป็นระดับทอง ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังมีความชำนาญใหม่ ‘จริงใจ’ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับหัวหน้าฝ่ายการเงิน นี่จะเสริมสร้างให้เธอเป็นเทพธิดาแห่งความมั่งคั่งแห่งหมู่บ้านซานไห่
หลังจากตรวจสอบสถานะของเธอ เขาพบว่าเธอพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ก่อนหน้ามีมีเพียงประโยคเดียว แต่ตอนนี้อธิบายถึงความงามและความสามารถของเธอ ทำให้เขาเห็นเงาเรือนรางของศักยภาพที่จะเลื่อนขั้นไปในระดับต่อไป
โอหยางโชวยิ้มให้เธอแล้วกล่าวว่า “ข้าขอแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย น้องสาวตัวน้อยของข้า”
หยิงหยูยิ้มอย่างมีความสุข “โอ้ ขอบคุณพี่ใหญ่ สำหรับเหรียญเลื่อนขั้น”
“ไม่จำเป็นต้องสุภาพกับข้า ความสามารถของเจ้าที่พัฒนาขึ้น ทำให้ข้าสบายใจขึ้นมาก” โอหยางโชวล้อเลียนเธอ
หยิงหยูหน้าบึ้งเล็กน้อยแกล้งทำเป็นโกรธ “พี่ใหญ่ จริงๆแล้วท่านมีศักยภาพของนักธุรกิจนะ คิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะเอาเปรียบพวกเราอย่างไร”
“งั้นพี่ใหญ่จะเลิกรบกวนเจ้า และปล่อยให้เจ้ากลับไปทำงาน” โอหยางโชวจบการสนทนาอย่างไม่อาย
ขุ่ยหยิงอยูยิ้มอย่างไม่เต็มใจ จองมองเขาชั่วครู่ก่อนจะกลับไปทำงาน
การเลื่อนระดับทักษะ เป็นเช่นเดียวกับการเลื่อนระดับความสามารถพิเศษ โอหยางโชวจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ เมื่อเห็นว่าความสามาระพิเศษของขุ่ยหยิงหยูเลื่อนเป็นระดับทอง เขาก็ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องของเธออีกในตอนนี้ หลังจากนั้นเขาก็ไปตรวจสอบสถานะของกู่ซิวเหวินและเจ้าเต๋อเสี้ยน
ชื่อ : กู่ซิวเหวิน(ระดับเงิน)
อัตลักษณ์ : ชาวบ้านซานไห่, ผู้ช่วยเจ้ากรมการบริหาร, หัวหน้าสำนักทะเบียน
อาชีพ : ข้าราชการพลเรือน(ตงเซิ่ง)[ผู้ผ่านการสอบในขั้นเมืองขนาดกลาง ของจักรวรรณจีนโบราณ]
ความจงรักภักดี : 85
ผู้นำ : 25
กำลัง : 15
สติปัญญา : 45
การเมือง : 55
ความชำนาญ : ความรู้ความเข้าใจของรัฐบาล (ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการดินแดน เพิ่มขึ้น 5%)
การประเมิน : นักวิชาการหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ ด้านบทกวีและวรรณคดี นิสัยสุภาพ อ่อนโยน
แน่นอนว่ากู่ซิวเหวินได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับเงิน เนื่องจากเขาได้รับการพัฒนามากเมื่ออยู่ในระดับเหล็กดำ เขาคงยังไม่เลื่อนขั้นอีกครั้งในเร็วๆนี้
ในวันเดียวกัน เจ้าเต๋อเสี้ยนได้รับการเลื่อนขั้นจากระดับสัมฤทธิ์เป็นระดับเหล็กดำ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เหมือนกู่ซิวเหวินที่ได้รับความชำนาญในช่วงต้น
ชื่อ : เจ้าเต๋อเสี้ยน(ระดับเหล็กดำ)
อัตลักษณ์ : ชาวบ้านซานไห่, หัวหน้าฝ่ายฟื้นฟูดิน
อาชีพ : ข้าราชการพลเรือน
ความจงรักภักดี : 85
ความเป็นผู้นำ : 20
กำลัง : 20
สติปัญญา : 30
การเมือง : 38
การประเมิน : อดีตหัวหน้าหมู่บ้านเจ้า สงบเสงี่ยมและสง่างาม มีความสามารถในการบริหารจัดการ เชี่ยวชาญในเรื่องการจัดการน้ำในการเกษตร
หลังจากตรวจสอบค่าสถานะพวกเขาแล้ว โอหยางโชวก็มาคุยกับฟ่านจงหยาน หลังจากได้รับคำแนะนำจากหัวหน้าฝ่ายก่อสร้างและหัวหน้าฝ่ายคลังวัสดุแล้ว เขาก็ต้องแจ้งเรื่องนี้ให้กับฟ่านจงหยานได้รับรู้ ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบหลัก เขาต้องได้รับความเคารพตามที่เขาสมควรได้รับ
เขาสามารถมองช้ามฟ่านจงหยาน และพูดคุยกับฝ่ายก่อสร้างได้โดยตรง ไม่มีใครขัดขวางเขาได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาทำเช่นนั้น เขาก็จะทำลายระบบลำดับขั้นที่เขาตั้งขึ้น และทำให้ฟ่านจงหยานระเบิดออกมา เขาไม่ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น
หลังจากออกจากกรมการบริหาร โอหยางโชวก็กลับมาที่สำนักงานของเขา ครั้งนี้เขาไม่ได้อ่านหนังสือตามปกติ และเอาปากกาและกระดาษออกมาเขียน
ขุ่ยหยิงหยูมีประสบการณ์ทางการเมืองแล้ว แต่เธอยังไม่เข้าใจเรื่องภาษี แน่นอนว่า โอหยางโชวจะไม่ปล่อยหัวหน้าฝ่ายการเงินของเขาไปตามยถากรรม ในช่วงแรก เขาพร้อมจะช่วยเธอจนกว่าเธอจะเข้าใจ และเมื่อเธอสามารถเดินด้วยตัวเองได้แล้ว โอหยางโชวจะค่อยๆปล่อยมือจากเธอ
ดังนั้น เขาจึงใช้เวลาช่วงบ่ายของเขา จัดเตรียมความเข้าใจในระบบภาษี รวมถึงระบบการคลังและภาษีอากรของโลกจริง ด้วยวิธีของราชวงศ์โบราณ มันจะช่วยให้คู่มือการทำงานด้านการเงินนี้สมจริง และเหมาะกับเธอมากขึ้น
ในคู่มือการทำงานฉบับนี้ เขาได้กำหนดบทบาททางการเงินและภาษี วิธีการดำเนินการจัดเก็บภาษี สิ่งที่ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับมัน และให้คำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการสร้างระบบภาษี
เขาเขียนคู่มือการทำงานด้านการเงิน ตามพฤติกรรมทางเศรษฐกิจ รายได้ รายจ่าย การเก็บภาษีให้เหมาะสมกับความต้องการของประชาชนในดินแดน เพื่อเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรทรัพยากร ความมั่งคงทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาดินแดนต่อไป
รายได้ทางภาษี รายได้พิเศษของรัฐ และรายได้รูปแบบอื่นๆ เพื่อปรับปรุงรายได้ของพวกเขา วิธีที่ดีที่สุดคือ การพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้น การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างจริงจัง การส่งเสริมการพัฒนาหัตถกรรมและพาณิชย์ จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง และรายได้การคลังก็จะเพิ่มขึ้น
โอหยางโชวเชื่อว่า ด้วยคู่มือนี้และความเฉลียวฉลาดของขุ่ยหยิงหยู ตราบเท่าที่เขาชี้ทางให้เธอ เธอจะสามารถทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายการเงินได้อย่างมีประสิทธภาพ แน่นอนว่า ปัญหาในเส้นทางนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้
หลังจากเขียนคู่มือการทำงานแล้ว โอหยางโชวก็ออกจากระบบ หยิงหยูมีประสบการณ์ในการบริหารธนาคาร ตระกูลขุ่ยเป็นตระกูลนักธุรกิจแห่งต้าหลี่ พวกเขามีธนาคารเป็นของตัวเอง หยิงหยูมีความรู้มากในเรื่องนี้อยู่แล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้มากนัก
………………………………………………………………………………………………………
ย้อนกลับไปที่โลกจริง มันเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เสี่ยวเยว่และปิงเอ๋อไม่อยากอยู่บ้านในวันนี้ ดังนั้น ทั้งสองสาวจึงตื่นขึ้นมาแต่เช้า แต่งตัวและเตรียมจะออกไปข้างนอกหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ พวกเธอดึงโอหยางโชวไปช็อปปิ้งด้วย มันเหมือนกันว่าพวกเธอพาเขาไปเล่นสนุกและผ่อนคลาย แต่ความจริงคือ เขาเป็นเพียงคนถือกระเป๋าเท่านั้น
ห้างสรรพสินค้าครบวงจร มีทั้งสถานที่สำหรับดื่มกิน และสถานที่สำหรับทำกิจกรรมทุกอย่าง การช็อปปิ้งนั้นเป็นความสามารถพิเศษตามธรรมชาติของผู้หญิง แม้แต่ปิงเอ๋อน้อยก็ได้รับอิทธิพลจากเสี่ยวเยว่ เธอกระตือรือร้น
สาวน้อยในชุดสีฟ้าออกมาจากห้องแต่งตัว หมุนรอบตัวเอง ดวงตาดวงโตของเธอมองไปที่โอหยางโชว แล้วถามเขาด้วยเสียงหวานว่า “พี่ใหญ่! กระโปรงที่ปิงเอ๋อสวมสวยมั้ย?”
เสี่ยวเยว่ถือกระโปรง 7 ชิ้น เข้าไปในห้องแต่งตัว โอหยางโชวพยายามรักษาใบหน้าให้สงบ แต่ในความเป็นจริง รอยยิ้มของเขานั้นค้างแข็ง ในขณะที่เขากล่าวชมน้องสาวของเขาว่า “สาวน้อย เธอสวยงามเกินไป พอเธอสวมกระโปรงนี้แล้ว ช่างเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อยๆที่ตกจากสวรรค์มาสู้โลกมนุษย์”
ปิงเธอมองเขาอยางมีความสุข เธอกระโดดกลับไปยังห้องแต่งตัว เพื่อเก็บเสื้อผ้าชุดใหม่ของเธอ
ในเวลานั้น เสี่ยวเยว่ก็ออกมาจากห้องแต่งตัว เธอสวมชุดผ้าไหมแบบแขนสั้นและบาง ทำให้รูปลักษณ์ของเธอดูสดใสและสง่างาม
รูปลักษณ์นี้ของเสี่ยวเยว่น่าทึ่งจริงๆ ช่วยไม่ได้ที่โอหยางโชวจะโพล่งออกมา “สวยเกินไปแล้ว!”
มองไปที่เขา เสี่ยวเยว่ตกใจและโกรธอย่างมาก โอหยางโชวรู้สึกอึดอัดใจและมองเธอด้วยความเขินอาย
หลังออกมาจากร้านเสื้อผ้า โอหยางโชวถือถุง 5 หรือ 6 ใบอยู่ในมือ เพื่อเป็นการลงโทษ เขาจ่ายมากกว่า 4000 เครดิต เป็นค่าเสื้อผ้าให้กับ 2 สาว
ในเวลานั้น มีหญิงสาว 2 คน เห็นพวกเขา พวกเธอเข้ามาทักทายพวกเขาหลังจากกรี๊ดร้องอย่างตื่นเต้น “ว้าว! เสี่ยวเยว่! เราไม่คาดคิดว่าจะพบเธอ บังเอิญจริงๆ”
ทีแรกใบหน้าของเสี่ยวเยว่ก็มีความสุขมาก แต่เมื่อเห็นพวกเธอ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป เธอเริ่มบ่น “ดี ฉันต้องขอบคุณแฟนของเพื่อนสนิททั้ง 2 คน ของฉันมากกว่า ที่ทำให้ทั้ง 2 คน ทิ้งฉันไว้ และไม่มีใครมาช็อปปิ้งพร้อมกับฉัน”
ทั้ง 2 สาว เป็นเพื่อนร่วมห้องเดิมของเสี่ยวเยว่ เสี่ยวเยว่ไม่คาดคิดว่าจะพบพวกเธอที่ห้างสรรพสินค้า แล้วพวกเธอทั้ง 3 คน ก็เริ่มคุยกันไม่หยุด