เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 112 การแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยม (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 112 การแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยม
แปลโดย iPAT
แม้ฟางหยวนจะได้รับมรดกของครอบครัวแต่เขามีเวลาดูดซับผลประโยชน์น้อยเกินไป
ใบไม้แห่งชีวิตไม่สามารถขายทุกวันเนื่องจากการผลิตมันต้องใช้เวลานานถึงครึ่งวัน
ฟางหยวนพิจารณาถึงความเป็นไปได้ต่างๆ รากพฤกษาทองแดงจะวางขายอยู่เพียงหนึ่งวัน ในระยะเวลาสั้นๆ ราคาของมันจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากต้องการครอบครองสิ่งนี้ เขาอาจต้องขายโรงเตี้ยมหรือบ้านเช่าออกไป
หลังจากทั้งหมดมันไม่ใช่สิ่งที่ต้องรู้สึกเสียดาย
ต้องรู้ว่าหนึ่งปีหลังจากนี้ ฝูงหมาป่าสายฟ้าจะบุกเข้าโจมตีหมู่บ้าน ภายใต้ความรุนแรงของการต่อสู้ หมู่บ้านจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุด ประตูหมู่บ้านจะพังทลายลง ผู้นำตระกูลและผู้นำฝูงหมาป่าจะต่อสู้กันอย่างดุเดือด ขณะที่ฉิงซูจะสละชีวิตตนเองเพื่อป้องกันประตูหมู่บ้านและรักษาเสถียรภาพเอาไว้
การบุกโจมตีของฝูงหมาป่าในครั้งนี้จะทำให้หมู่บ้านทั้งสามบนภูเขาชิงเหมาสูญเสียสมาชิกไปเป็นจำนวนมาก แม้ไม่มากถึงเก้าสิบส่วนแต่อย่างน้อยสมาชิกกว่าครึ่งก็จะถูกลบออกไป
เมื่อเวลานั้นมาถึง มันจะมีบ้านว่างมากกว่าผู้คนที่เหลือรอด แล้วผู้ใดจะเช่าบ้าน? โรงเตี้ยมอยู่ติดกับประตูหมู่บ้านทางทิศตะวันออก แล้วผู้ใดจะกล้าไปดื่มที่นั่น? กระทั่งพวกเขาต้องการดื่ม โรงเตี้ยมก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไปเพราะตระกูลจะใช้ที่นั่นเป็นป้อมยามเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับหมู่บ้าน
ขณะนี้ตระกูลกำลังประเมินความรุนแรงของสถานการณ์ หากฟางหยวนต้องการขายโรงเตี้ยมและบ้านเช่า ตอนนี้คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะขายได้ในราคาสูงสุด
'เงินและความมั่นคั่งเป็นสิ่งของนอกกาย แต่การบ่มเพาะคือแก่นแท้ของผู้ใช้วิญญาณ อย่างไรก็ตามการขายมันให้กับตระกูลจะได้รับผลตอบแทนต่ำเกินไป หากข้าขายมันเป็นการส่วนตัว ราคาของมันจะสูงกว่า แต่ผู้ใดมีความมั่งคั่งพอที่จะซื้อโรงเตี้ยมและบ้านเช่าของข้า การซื้อขายครั้งใหญ่จำเป็นต้องใช้เวลาตัดสินใจและต่อรองเพื่อความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย มันใช้เวลานานเกินไป ขณะที่ข้ามีเวลาเพียงวันเดียว เดี๋ยว! บางทีคนผู้นั้น...'
ฟางหยวนเกิดแรงบันดาลใจเมื่อคิดถึงบางคน
มันไม่ใช่ผู้ใดนอกจากผู้ใช้วิญญาณตงถู
ลุงของเขาทั้งฉลาดและละโมบ สิบกว่าปีที่ผ่านมาด้วยการสะสมความมั่งคั่งจากโรงเตี้ยม บ้านเช่า และวิญญาณโสมเก้าชีวิต เขาย่อมสะสมหินวิญญาณได้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนั้นธุรกิจเหล่านี้ยังอยู่ในการดูแลของเขามาก่อน มันจึงสามารถประหยัดเวลาในการตรวจสอบ
จุดสำคัญที่สุดก็คือพวกเขาต้องการสิ่งเหล่านี้เพื่อดำเนินธุรกิจต่อไป ไม่ว่าพวกเขาจะครอบครองหินวิญญาณมากมายเพียงใด หากไม่มีรายได้ มันก็เหมือนแม่น้ำที่ขาดแหล่งกำเนิด ยิ่งหินวิญญาณลดลงเท่าใด เขาก็ยิ่งกังวลใจมากเท่านั้น
กล่าวได้ว่าลุงกับป้าคือเป้าหมายที่ดีที่สุดในการทำธุรกรรมครั้งนี้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ฟางหยวนจึงไม่ลังเลที่จะเดินออกจากบ้านต้นไม้และตรงไปยังที่พักของตงถู
ผู้ที่เปิดประตูออกมาก็คือเฉินซุ้ยอดีตคนรับใช้ส่วนตัวของฟางหยวน
"อา...ทะ...ท่าน!" เมื่อเห็นหน้าฟางหยวน นางสะดุ้งตกใจอย่างรุนแรง
ใบหน้าของนางกลายเป็นซีดขาวด้วยความหวาดกลัว ฟางหยวนเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสอง แต่นางเป็นมนุษย์ธรรมดา ความแตกต่างของคนทั้งสองไม่ต่างจากสวรรค์กับพิภพ
สิ่งสำคัญที่สุดคือฟางหยวนเป็นคนที่กล้าสังหารคนรับใช้ของครอบครัวสกุลโม่ นอกจากนั้นเขายังวิปริตพอที่จะฆ่าหั่นศพและส่งชิ้นส่วนร่างกายกลับไปยังสกุลโม่อีกด้วย
"คนรับใช้ผู้นี้คารวะนายน้อยฟางหยวนและยินดีต้อนรับกลับบ้านเจ้าค่ะ" เฉินซุ้ยคุกเข่าลงบนพื้นและกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"บ้าน?" ฟางหยวนก้าวเท้าเข้าไปในลานบ้าน เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย เขายกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะและไม่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของอยู่แม้แต่น้อย
ผ่านไปหนึ่งปีเขากลับมาที่นี่อีกครั้ง
เปรียบเทียบกับก่อนหน้า มันค่อนข้างว่างเปล่า เป็นดังถ้อยคำของฟางเจิ้ง คนรับใช้ถูกเลิกจ้าง ทาสบางส่วนถูกขายออกไป
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของฟางหยวนทำให้ลุงกับป้ากลายเป็นตื่นตระหนก
ในฐานะแม่บ้าน แม่บ้านเฉินต้องเป็นทัพหน้าเร่งเข้ามาคุกเข่าและเชิญชวนฟางหยวนเข้าไปในห้องโถงรับรอง
ฟางหยวนนั่งอยู่บนเก้าอี้และกวาดตามองไปรอบๆห้องโถง
สิ่งตกแต่งต่างๆถูกขายออกไปเหลือไว้เพียงเครื่องเรือนที่เรียบง่าย
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าลุงกับป้ายากจน
'ตงถูยังมีไหวพริบเช่นเดิม นี่เป็นการป้องกันตนเอง พลังการต่อสู้ของเขาลดลงมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาสูญเสียวิญญาณโสมเก้าชีวิต นั่นหมายความว่าเขาสูญเสียสายสัมพันธ์และไม่สามารถใช้อิทธิพลเพื่อปกป้องตนเอง'
ความมั่งคั่งของผู้คนไม่ต่างจากระเบิดเวลาเพราะมันสามารถกระตุ้นความโลภของมนุษย์เสมอ
หลังจากฟางหยวนรับสืบทอดมรดกของครอบครัว หลายคนมองมาที่เขาด้วยความอิจฉา
ลุงกับป้าเผชิญหน้ากับปัญหาเดียวกัน เงินออมจำนวนมหาศาลเป็นทั้งพรและปัญหา
ไม่เปิดเผยความมั่งคั่งส่วนบุคคล นี่คือวิธีที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต
เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงฝีเท้าดังขึ้นก่อนที่ป้าจะปรากฏตัวขึ้น
"ฟางหยวน เจ้ายังกล้ามาที่นี่อีกงั้นหรือ?" เมื่อเห็นฟางหยวน ความโกรธในหัวใจของป้าก็ปะทุขึ้น นางกรีดร้องออกมาทันที "คนเนรคุณ พวกเราเลี้ยงดูเจ้ามาแต่เจ้ากลับตอบแทนพวกเราอย่างไร้มโนธรรม สารเลว!"
"เจ้ายังกล้ามาที่นี่และดื่มชาของพวกเรา เจ้าต้องการมาดูว่าพวกเรายากลำบากเช่นไรงั้นหรือ? ตอนนี้เจ้าเห็นแล้ว มีความสุขหรือยัง?"
นิ้วของนางชี้ไปที่ฟางหยวน มืออีกข้างท้าวเอว ขณะที่นางกรีดร้องออกมาราวกับคนโง่
หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนสวมชุดผู้ใช้วิญญาณระดับสองอยู่ในเวลานี้ นางจะพุ่งเข้าไปบีบคอและเฆี่ยนตีเขาอย่างไม่มียั้ง
อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ใส่ใจการกระทำที่โง่เขลาของหญิงผู้นี้
หนึ่งปีที่ไม่ได้พบหน้า ใบหน้าสีเหลืองของนางเต็มไปด้วยริ้วรอยและความเกลียดชังที่ไม่สามารถปกปิด
อาภรณ์ที่นางสวมใส่เปลี่ยนเป็นชุดผ้าใยกัญชาที่เรียบง่าย เครื่องประดับตกแต่งบนศีรษะของนางลดน้อยลง แต่ด้วยการแต่งหน้าของนาง มันทำให้นางดูเหมือน...ลิง
ฟางหยวนได้รับมรดก เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของนาง
คำหยาบคายต่างๆที่หลุดออกมาจากปากหญิงผู้นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อฟางหยวนแม้แต่น้อย เขายกถ้วยชาขึ้นจิบก่อนจะเริ่มกล่าวบางคำออกมา "ข้าเดินทางมาที่นี่เพราะต้องการขายโรงเตี้ยมและบ้านเช่าให้ลุงกับป้า พวกท่านสนใจหรือไม่?"
"เจ้าหมาป่าชั่ว ข้านึกว่าเจ้าจะเก่งกว่านี้แต่แท้จริงแล้วเจ้าทำได้เพียงเร่ขายโรงเตี้ยมกับบ้านเช่า..." เสียงของป้าค่อนข้างเบาลงก่อนที่นางจะสามารถตอบสนองได้ในที่สุด "เจ้า...เจ้าต้องการขายโรงเตี้ยมกับบ้านเช่างั้นหรือ?"
ฟางหยวนวางถ้วยชาก่อนจะเอนหลังกับเก้าอี้และปิดเปลือกตาลง "มันจะดีกว่าหากให้ลุงออกมาพูดคุยกับข้า"
ป้ากัดฟันแน่นขณะที่ดวงตาลุกโชนไปด้วยเพลิงแค้น "ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังล้อเล่นกับข้า เจ้าต้องการเยาะเย้ยถากถางข้า เจ้าคิดว่าข้าโง่และสามารถปั่นหัวได้ง่ายงั้นหรือ?"
นี่เป็นวิธีคิดของตัวตนระดับต่ำในสังคม
ฟางหยวนถอนหายใจก่อนจะกล่าวบางคำอีกครั้ง
"พูดไม่รู้ความ หากไร้สาระมากกว่านี้ ข้าจะจากไปและขายมันให้กับคนอื่น"
ป้าหยุดชะงักชั่วครู่ "เจ้าต้องการขายสินทรัพย์เหล่านั้นจริงๆงั้นหรือ?"
"ข้าจะรอแค่ห้านาที" ฟางหยวนหรี่ตามองเล็กน้อยก่อนจะปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของป้าที่จากไปอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่นานตงถูก็ปรากฏตัวขึ้นแต่ป้าไม่ได้ตามมาด้วย
ฟางหยวนมองตงถู
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แม้แต่เส้นผมยังเปลี่ยนเป็นงอกขาวแทบทั้งศีรษะ
การสูญเสียสินทรัพย์เหล่านั้นให้กับฟางหยวนทำให้เขาขาดรายได้ เมื่อปราศจากวิญญาณโสมเก้าชีวิต เขาจึงสูญเสียอิทธิพลไปในพริบตา
ชื่อผู้อาวุโสเงาถูกลบออกไปแล้ว
แม้เขาจะมีหินวิญญาณอยู่ในมือเป็นจำนวนมาก แต่หากปราศจากอิทธิพล ชีวิตของเขาจะกลายเป็นยากลำบาก
การเมืองของตระกูลกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันโดยเฉพาะกฎการท้าทายผู้ใช้วิญญาณ แม้มันจะโหดร้าย แต่มันเป็นวิธีการที่สามารถกำจัดปรสิต มีเพียงผู้แข็งแกร่งจึงจะสามารถดำรงเผ่าพันธุ์
ในโลกใบนี้ ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะทำให้คนผู้หนึ่งมีชีวิตรอด พายุ น้ำท่วม หรือสัตว์อสูร พวกมันไม่เจรจาต่อรองกับพวกเขา
ตงถูปลดเกษียณและใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุข นี่ทำให้พลังการต่อสู้ของเขาลดลงอย่างมาก
นอกจากนั้นวิญญาณที่เขาเคยครอบครองก็ถูกขายออกไปจนหมด
หากบางคนต้องการท้าทายเขาในเวลานี้ เขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
เผชิญหน้ากับตงถู ฟางหยวนกล่าวความต้องการของเขาอย่างตรงไปตรงมา
"ฟางหยวน ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าจึงต้องการขายโรงเตี้ยมกับบ้านเช่า หากเจ้าเก็บมันไว้ เจ้าจะมีรายได้ที่สม่ำเสมอ" ลุงรู้สึกไม่อยากจะเชื่อแต่น้ำเสียงของเขายังแสดงให้เห็นถึงการยอมรับมากกว่าป้า
"ข้าต้องการซื้อวิญญาณรากพฤกษาทองแดง" ฟางหยวนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องปิดซ่อนเรื่องนี้
"เป็นเช่นนั้น" ดวงตาของลุงส่องประกายขึ้น "แล้วเจ้าจะขายวิญญาณโสมเก้าชีวิตด้วยหรือไม่?"
"นั่นเป็นไปไม่ได้" ฟางหยวนส่ายศีรษะอย่างไม่ลังเล "ข้าจะขายเพียงโรงเตี้ยม บ้านเช่า และแปดคนรับใช้"
วิญญาณโสมเก้าชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในกองมรดก ฟางหยวนต้องการวิญญาณสายรักษา นอกจากนั้นเจายังสามารถขายใบไม้แห่งชีวิต
สิ่งสำคัญที่สุดคืออีกหนึ่งปีข้างหน้าเมื่อคลื่นหมาป่ามาถึง ราคาของใบไม้แห่งชีวิตจะพุ่งสูงขึ้นอีกมาก ด้วยสิ่งนี้มันจะทำให้ฟางหยวนสามารถเดินไปบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของเขาได้อย่างราบรื่น
ในทางตรงข้ามหากลุงของเขาได้รับวิญญาณโสมเก้าชีวิตกลับไป มันจะเกิดคำว่า ผู้อาวุโสเงา ขึ้นมาอีกครั้ง นี่เป็นสิ่งที่ฟางหยวนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
เมื่อรับรู้ถึงความตั้งใจของฟางหยวน ลุงรู้สึกผิดหวังมากแต่เขาก็ไม่มีทางเลือก
ทั้งสองพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวถึงสองชั่วโมง เมื่อบรรลุข้อตกลง ทุกสิ่งจึงถูกโอนถ่าย
ตงถูได้รับโรงเตี้ยม บ้านเช่า และคนรับใช้กลับคืน
คนรับใช้สามคนช่วยแบกกล่องบรรจุหินวิญญาณจำนวนมากเดินตามไปส่งที่บ้านเช่าของฟางหยวน
ทั้งสองฝ่ายได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องการ
หลังจากได้ยินข่าว ป้ารีบวิ่งเข้ามาขอดูเอกสารด้วยความตื่นเต้น "สามี เด็กเลวผู้นี้ช่างโง่เขลานักที่มุ่งมั่นกับการบ่มเพาะกระทั่งขายธุรกิจที่ทำกำไรเหล่านี้ออกมา โง่เง่านัก! ต้องการไข่แต่กลับไม่รักษาแม่ไก่"
"เจ้าจะตายหรือไม่หากไม่ได้กล่าวบางคำ!" ตงถูเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
"สามี..." ป้าทำปากยื่นปากยาว "ข้าเพียงมีความสุข"
"อย่าชะล่าใจ แม้จะได้ครอบครองโรงเตี้ยมและบ้านเช่า พวกเราก็ยังต้องปิดบังสถานะ แม้ฟางเจิ้งจะเป็นบุตรบุญธรรมของเรา แต่เรายังไม่สามารถพึ่งพาสายสัมพันธ์นี้ ตราบเท่าที่ฟางเจิ้งยังไม่สามารถก้าวขึ้นไปบนจุดสูงสุด ผู้ใดจะรู้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นในอนาคต" ตงถูถอนหายใจ
"ทราบแล้ว สามี" ป้ายังจ้องมองเอกสารอย่างมีความสุขก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างไม่สามารถควบคุม
ใบหน้าของตงถูยังคงตึงเครียด
ธุรกรรมสำเร็จไปได้ด้วยดี ตอนนี้เขามีรายได้อีกครั้ง หินวิญญาณในคลังสมบัติจะถูกเติมเต็มในอีกสองหรือสามปี แต่เขากลับไม่มีความสุขแม้แต่น้อย
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยเงาของฟางหยวน
สำหรับวิญญาณรากพฤกษาทองแดง เมื่อฟางหยวนสามารถครอบครองมัน ชีวิตในอนาคตของเขาจะรุ่งโรจน์อย่างไม่ต้องสงสัย
ตงถูกลายเป็นหินรองเท้าให้ฟางหยวนทะยานสูงขึ้นไป เช่นนี้แล้วจะให้เขามีความสุขได้อย่างไร?
'ข้าไม่สามารถ...'
แม้ตงถูจะเกลียดชังฟางหยวนอย่างที่สุด แต่ในใจของเขาก็ยังลอบชื่นชมฟางหยวนอย่างช่วยไม่ได้ 'ยอมถอยหนึ่งก้าว ละทิ้งความสะดวกสบายเพื่ออนาคต นี่เป็นการแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยมจริงๆ'