ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 110 อ่อนหัดเกินไป (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 112 การแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยม (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 111 หินวิญญาณเป็นเพียงเครื่องมือ (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 111 หินวิญญาณเป็นเพียงเครื่องมือ 

แปลโดย iPAT 

"ท่านยาย วิญญาณดวงนั้นคือสิ่งใด?" เด็กหญิงชี้นิ้วไปยังตู้แสดงสินค้ากลางห้องโถงชั้นสาม

คฤหาสน์วิญญาณถ้ำสามดารามีสามชั้น ชั้นหนึ่งวางขายวิญญาณระดับหนึ่ง ชั้นสองวางขายวิญญาณระดับสอง และชั้นสามวางขายวิญญาณระดับสาม

ยิ่งสูงก็ยิ่งแพง

เป็นธรรมดาที่วิญญาณที่วางขายในคฤหาสน์วิญญาณล้วนล้ำค่าและหายาก

หญิงชราเหยาจี้มองตามทิศทางที่หลานสาวชี้ไปและพบกับต้นไม้บางอย่างที่มีกิ่งก้านงอกออกมาราวกับนิ้วมือทั้งห้าของมนุษย์

ปลายนิ้วทั้งห้าปกคลุมไว้ด้วยใบไม้ที่ส่องแสงสีเงินออกมาอย่างน่าพิศวง

"มันคือรากพฤกษาสีเงิน มันเป็นวิญญาณที่ใช้ได้ครั้งเดียวแต่มันสามารถยกระดับการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณระดับสามได้ในขอบเขตเล็กๆ"

นี่เป็นวิญญาณในกลุ่มรากพฤกษา

รากพฤกษานภาครามเป็นวิญญาณระดับหนึ่งที่สามารถยกระดับการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง รากพฤกษาทองแดงเป็นวิญญาณระดับสองที่สามารถยกระดับการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณระดับสอง รากพฤกษาสีเงินเป็นวิญญาณระดับสามที่สามารถยกระดับการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณระดับสาม

มันยังมีกระทั่งรากพฤกษาทองคำ วิญญาณระดับสี่ที่ช่วยยกระดับการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณระดับสี่

"ราคาสามหมื่นหินวิญญาณ แพงมาก!" เด็กสาวตกใจเมื่อเห็นป้ายราคา

เหยาจี้พยักหน้า "ราคาสุดท้ายของมันอาจสูงถึงห้าหมื่นหินวิญญาณ เอาล่ะ พวกเราเที่ยวชมจนทั่วแล้ว ตอนนี้สมควรกลับไปยังชั้นหนึ่งและฟังผลการประมูลวิญญาณสุรา"

ในบ้านต้นไม้ วิญญาณระดับหนึ่งแต่ละดวงจะถูกนำออกมาแสดงไว้เพียงครึ่งวัน หากไม่มีผู้ใดสนใจ พวกมันจะถูกเก็บกลับไปและเปลี่ยนวิญญาณดวงอื่นออกมา จนกว่าจะมีบางคนต้องการวิญญาณเหล่านั้นพวกเขาจึงจะนำออกมาขาย

สำหรับวิญญาณระดับสอง พวกมันจะถูกแสดงไว้เป็นเวลาหนึ่งวัน วิญญาณระดับสามจะถูกจัดแสดงไว้เป็นเวลาสองวัน

อาจฟังดูแปลก แต่นี่คือวิธีการที่ดีที่สุดในการบริหารธุรกิจ

ณ ตู้แสดงสินค้าชั้นหนึ่ง

"อันใด? วิญญาณสุราถูกประมูลไปโดยผู้อื่นงั้นหรือ?" เหยาจี้ขมวดคิ้วลึก นางเสนอราคาสูงที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้และมั่นใจว่าจะต้องเป็นผู้ชนะ แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นดังคาด

"เป็นผู้ใดที่ขโมยหนอนน้อยของข้า!" เด็กหญิงตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ

"เหยาลี้" เหยาจี้ตักเตือนหลานสาว

เด็กสาวที่กำลังกรุ่นโกรธปิดปากเล็กๆของนาง

พนักงานขายผู้ใช้วิญญาณหญิงระดับสองโค้งตัวเล็กน้อยก่อนกล่าว "ข้าต้องขออภัยด้วย เราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของลูกค้า นี่เป็นกฎของเรา ข้าต้องขออภัยด้วยจริงๆ"

การรักษาความปลอดภัยลักษณะนี้จะช่วยลดความกังวลของลูกค้าและอนุญาตให้พวกเขากล้าเสนอราคาประมูล

บางครั้งแม้ผู้คนจะต้องการสินค้าบางอย่าง แต่พวกเขาอาจยอมแพ้เพราะเห็นแก่สายสัมพันธ์ ต้องไม่ลืมว่าผู้คนที่นี่ให้ความสำคัญกับตระกูล สิ่งนี้จะทำให้ราคาประมูลต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

ดังนั้นวิธีการดังกล่าวจะอนุญาตให้พวกเขาเสนอราคาได้อย่างอิสระ

เหตุใดของสิ่งนี้ต้องเป็นของเจ้า? เพราะเจ้าเป็นญาติหรือสหายของข้างั้นหรือ?

อย่าดูแคลนด้านมืดของผู้คน

การทำธุรกรรมลักษณะนี้อนุญาตให้ผู้คนเปิดเผยด้านมืดของตนเองออกมา

เหยาจี้ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนกล่าว "ข้ารู้กฎ เจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจเด็กน้อยผู้นี้ ข้าจะไม่ถามชื่อของผู้ประมูลวิญญาณสุรา ข้าเพียงต้องการรู้ว่าราคาสุดท้ายคือเท่าใด?"

พนักงานสาวโค้งตัวอีกครั้งก่อนตอบ "ข้าต้องขออภัยอย่างยิ่ง ราคานี้เป็นความลับ แต่อย่ากังวล ราคาสุดท้ายเป็นราคาสูงสุด ธุรกิจของครอบครัวตระกูลเจียตรงไปตรงมาเสมอ"

"ฮืม เด็กน้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือผู้ใด?" ใบหน้าของเหยาจี้กลายเป็นมืดครึ้ม

"เกิดสิ่งใดขึ้น?" เป็นเพียงเวลานี้ที่ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเข้ามา

บ้านต้นไม้หลังนี้ถูกตรวจสอบตลอดเวลา ดังนั้นพวกเขาจึงรับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นทันที

"ท่านหัวหน้า" พนักงานสาวโค้งคำนับ

ชายวัยกลางคนโบกมือให้พนักงานสาวก่อนกล่าว "เจ้าสามารถจากไป ข้าจะดูแลที่นี่เอง"

จากนั้นชายวัยกลางคนก็หันหน้าไปทางเหยาจี้พร้อมกับรอยยิ้ม "ท่านก็คือท่านหญิงเหยาจี้ สาวน้อยที่น่ารักและฉลาดเฉลียวผู้นี้ควรเป็นหลานสาวของท่านหญิง"

การแสดงออกของเหยาจี้อ่อนลงเพราะชายวัยกลางคนเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม แต่นางก็ยังถามราคาสุดท้าย

ชายวัยกลางคนรู้สึกว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากเล็กน้อย

เขาเป็นผู้อาวุโสของขบวนสินค้าและเป็นผู้ช่วยคนสนิทของเจียฟู่ หลังจากทำการค้ามานาน เขาจึงเข้าใจสถานการณ์ของหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลและรู้ถึงอิทธิพลของหญิงผู้นี้เป็นอย่างดี

กระทั่งซื่อเหลียงและโม่เฉินยังไม่ต้องการเป็นศัตรูกับนาง พวกเขาเพียงต่อสู้กับผู้นำตระกูลอวี๋โป้เท่านั้น

ชายวัยกลางคนกล่าวบางคำ "เช่นนี้เป็นอย่างไร เมื่อท่านหญิงเหยาจี้ต้องการซื้อวิญญาณสุรา ข้าจะนำออกมาจากคลังสินค้าให้ท่านดวงหนึ่ง สำหรับราคาของมัน ท่านหญิงสามารถเสนอราคาที่เหมาะสมตามที่ท่านหญิงเห็นสมควร"

อย่างไรก็ตามเหยาจี้กลับส่ายศีรษะและเคาะไม้เท้าลงกับพื้น

เหยาจี้กล่าว "ข้าไม่ต้องการต่อรองราคา ราคาของมันจะเท่ากับราคาของวิญญาณสุราตัวก่อนหน้าที่ถูกประมูลออกไป"

"นี่..." ชายวัยกลางคนมองเห็นเป้าหมายของหญิงชราได้อย่างชัดเจน

เหยาจี้กดดันชายวัยกลางคนต่อไป "อันใด? เจ้าคิดว่ามันเป็นราคาที่ข้าไม่สามารถจ่ายงั้นหรือ?"

"แน่นอนว่าข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น เห้อ...เอาเป็นว่าพวกเราจะทำตามความต้องการของท่านหญิง" ชายวัยกลางคนถอนหายใจก่อนบอกราคา

เมื่อได้ยินราคาประมูล เด็กหญิงจึงสามารถถอนสายใจ แต่เพียงชั่วครู่นางกลับกรีดร้องออกมา "อันใด? มันสูงกว่าราคาของเราเพียงยี่สิบหินวิญญาณงั้นหรือ?"

หางตาของเหยาจี้กระตุกอย่างรุนแรงแต่นางก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด

ในเวลาเดียวกันฟางหยวนออกจากบ้านต้นไม้และกลับไปยังโรงเตี้ยม

ตอนนี้เขาครอบครองวิญญาณสุราสองดวงแล้ว สิ่งที่ขาดมีเพียงสุราสี่ชนิด

‘ข้ามีสุรารสหวานที่ผลิตมาจากพิษผึ้งสีทองที่รวบรวมมาในภารกิจรับมรดก สุรารสเผ็ดและรสเปรี้ยวไม่มีปัญหา สิ่งที่ยุ่งยากมีเพียงสุรารสขม’ ฟางหยวนกังวลเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

หากเขาได้รับสุรารสขม เขาจะสามารถหลอมรวมวิญญาณสุราสี่ฤดูได้ในคืนนี้

หลายสิ่งในชีวิตมักเป็นเช่นนี้ สิ่งที่หวาดกลัวมักกลายเป็นจริง

ความกังวลของฟางหยวนก็เช่นกัน เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงเดินไปรอบๆและได้รับสุรารสเผ็ดและรสเปรี้ยว แต่ไม่พบสุรารสขม

‘ไม่ใช่ทุกสิ่งที่จะเป็นไปตามความต้องการของผู้คน’ ฟางหยวนต้องเปลี่ยนแผนอย่างช่วยไม่ได้

ในช่วงบ่าย เขากลับไปยังคฤหาสน์วิญญาณถ้ำสามดาราอีกครั้ง

มีวิญญาณชนิดใหม่มากมายจัดแสดงอยู่บนตู้แสดงสินค้าชั้นหนึ่ง

ตู้แสดงสินค้าตัวกลางที่เคยวางวิญญาณสุราถูกเปลี่ยนเป็นวิญญาณวารีพิสุทธิ์

วิญญาณวารีพิสุทธิ์อยู่ในรูปลักษณ์คล้ายปลิง แต่มันเป็นปลิงที่ดูค่อนข้างน่ารักและมีร่างสีฟ้าอ่อนที่ส่องประกายระยิบระยับ

‘วิญญาณวารีพิสุทธิ์ มันสามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อนจากพลังงานภายนอก มันเป็นสิ่งที่ซื่อเฉินต้องมี’ เมื่อเห็นวิญญาณดวงนี้ ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะคิดไปถึงซื่อเฉิน

เขารู้ว่าแท้จริงแล้วซื่อเฉินมีพรสวรรค์นภาที่สาม แต่เขาได้รับความช่วยเหลือจากซื่อเหลียง ดังนั้นในทะเลวิญญาณของเขาจึงมีพลังวิญญาณของซื่อเหลียงเจือปนอยู่ หากซื่อเฉินไม่ชำระล้างพลังงานภายนอกออกไป มันจะส่งผลร้ายต่ออนาคตของเขา

‘ซื่อเหลียงจะต้องซื้อมันให้กับซื่อเฉิน ราคาของมันควรอยู่ระหว่างหกร้อยสามสิบถึงหกร้อยสี่สิบหินวิญญาณ’

‘หากข้าเสนอราคาหกร้อยห้าสิบหินวิญญาณ วิญญาณวารีพิสุทธิ์จะต้องตกเป็นของข้าเช่นเดียวกับวิญญาณสุรา’ ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง

เขามั่นใจมาก

ประสบการณ์การทำธุรกิจตลอดห้าร้อยปีที่ผ่านมาสร้างความเชื่อมั่นให้กับเขา

เขาสามารถเสนอราคาสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็นเพียงสิบหินวิญญาณเพื่อให้ได้รับสิ่งของที่เขาต้องการ สำหรับวิญญาณสุรา เขาเสนอราคายี่สิบหินวิญญาณเพราะความรอบคอบของเขา

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้ประมูลวิญญาณวารีพิสุทธิ์ หากเขาได้รับมัน ซื่อเหลียงจะต้องสืบหาความจริง นอกจากนั้นฟางหยวนก็ต้องการเก็บเงินเอาไว้จับจ่ายสิ่งที่ดีกว่านี้

'ข้ายังขาดวิญญาณระดับสองสายตรวจสอบและสายเคลื่อนไหว ฝูงหมาป่าจะบุกโจมตีหมู่บ้านในปีหน้า เวลานั้นขบวนสินค้าจะไม่มาที่นี่อีก แม้จะสามารถครอบครองมรดกของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้ แต่ผู้ใดจะรู้ว่าวิญญาณของเขาจะสมบูรณ์หรือไม่?'

จากความทรงจำของฟางหยวน ฝูงหมาป่าสายฟ้าที่จะบุกโจมตีหมู่บ้านในปีหน้าอันตรายมาก ฟางหยวนไม่ต้องการเป็นบางคนที่ไร้พลังอำนาจเมื่อเวลานั้นมาถึง มิเช่นนั้นเขาอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต

ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งระดับการบ่มเพาะและวิญญาณไม่ควรมีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง

หลังจากนั้นเขายังไปที่บ้านต้นไม้ติดต่อกันตลอดสามวัน

ในวันที่สามเขาพบบางสิ่งที่ทำให้เขามีความสุข มันคือวิญญาณหมูดำ!

วิญญาณหมูขาวและหมูดำต่างเป็นวิญญาณที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้ใช้วิญญาณ ฟางหยวนได้รับความแข็งแกร่งของหมูป่าหนึ่งตัวมาแล้วจากวิญญาณหมูขาวและไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อีก แต่วิญญาณหมูดำต่างออกไป มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งทับซ้อนวิญญาณหมูขาว

ดังนั้นหลังเที่ยงวันนี้ฟางหยวนจึงมีวิญญาณอีกหนึ่งดวงในการครอบครอง

แต่หลังจากนั้นไม่มีสิ่งใดที่เขาสนใจอีก

มีวิญญาณสายตรวจสอบบางดวงแต่มันยังไม่สามารถเติมเต็มความพึงพอใจของเขา

อย่างไรก็ตามครั้งนี้ขบวนสินค้าจะอยู่ที่นี่เป็นเวลาแปดวัน ดังนั้นเขาจึงต้องอดทนรอคอย

ในวันที่เจ็ด

บนชั้นสองของบ้านต้นไม้ ฟางหยวนพบวิญญาณรากพฤกษาทองแดง

มันถูกตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่สามพันหินวิญญาณเพื่อดึงดูดผู้ใช้วิญญาณระดับสอง

'หากข้าสามารถครอบครองวิญญาณรากพฤกษาทองแดง ระดับการบ่มเพาะของข้าจะก้าวเข้าสู่ขั้นกลางทันที เมื่อข้าบรรลุสู่ขั้นกลาง ข้าจะสามารถใช้งานวิญญาณจันทร์กระจ่างและวิญญาณหยกขาวได้หลายครั้ง'

ระดับการบ่มเพาะเป็นแก่นแท้ของผู้ใช้วิญญาณ การยกระดับการบ่มเพาะหมายถึงพลังการต่อสู้ที่เพิ่มสูงขึ้น มันยังส่งผลกระทบต่อรูปแบบการใช้วิญญาณอีกด้วย

นอกจากนั้นเขายังสามารถซื้อวิญญาณจากที่นี่ได้อย่างเปิดเผย

'ข้าประมูลวิญญาณสุรากับวิญญาณหมูดำ นอกจากนั้นข้ายังซื้อสุราบางส่วน ราคาสุดท้ายของวิญญาณพฤกษาทองแดงจะสูงขึ้นไปถึงระดับห้าพันหินวิญญาณหรืออาจกระทั่งแปดพันหินวิญญาณ ทั้งหมดก็คือทุกคนรู้ว่าฝูงหมาป่าจะบุกโจมตีหมู่บ้านในวันใดวันหนึ่ง ทุกคนต้องการยกระดับการบ่มเพาะของตนเอง หินวิญญาณของข้าไม่เพียงพอหากต้องการประมูลวิญญาณพฤกษาทองแดง'

ฟางหยวนพบปัญหาในที่สุด