ตอนที่แล้วตอนที่ 19 ความเดือดร้อนจากซู่มู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 ข้ายอมให้เจ้า 3 กระบวนท่า

ตอนที่ 20 เผากระท่อม


ซู่มู่มองไปยังคนอื่นๆ ด้วยใบหน้าที่พึงพอใจกับการตอบสนองของพวกเขา เขาได้สูดหายใจเข้าที่จมูกอย่างแรงเพื่อแสดงท่าที่เหยียดหยาม

 

แม้ว่าวันนี้การประลองยุทธุ์กับหยางไค่ถูกซู่มู่ตีตราจองเอาไว้ แต่ฝูงชนที่อยู่รอบบริเวณยังไม่แยกย้ายกันกลับไป พวกเขาไม่รู้ว่าหยางไค่ทำอะไรซู่มู่ไม่พอใจ จึงอยู่รอเพื่อจะดูการประลองยุทธุ์ที่ครึกครื้นนี้

หลังจากที่รอไปสักพัก มองไม่เห็นแม้แต่เงาของหยางไค่ ซู่มู่หงุดหงิดจนมิอาจทนจึงกล่าวถาม : “เขาอยู่ไหน ?”

“ไม่ทราบ โดยปกติแวลานี้เขาจะออกมากวาดบริเวณนี้ แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงยังไม่ปรากฏตัว นายน้อยซู่ เราลองไปหาเขาที่ที่กระท่อมของเขาดีไหม ?”

ซู่มู่ครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าและกล่าวตอบ : “ก็ดี เป็นเพียงคนกวาดพื้นที่มีฐานะต่ำต้อยยังกล้าที่จะให้นายน้อยซู่ยังข้ารอคอย แล้วเราจะได้เห็นดีกัน !!”

หยางไค่อาศัยอยู่ที่ไหนไม่ใช่ความลับของที่นี้ คนที่อยู่ข้างกายซู่มู่ได้นำทางเขาไปยังจุดหมายอย่างรวดเร็ว

ฝูงชนที่รอดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่างติดตามพวกเขาไป

หลังจากนั้น ขบวนของฝูงชนได้มาถึงหน้ากระท่อมเล็กๆของหยางไค่ พวกเขามองไปยังกระท่อมไม้ที่น่าเวทนาของหยางไค่ ผนังกระท่อมยังเต็มไปด้วยรูแห่งความทรุด ซู่มู่มีท่าทีที่ไม่สดชื่นเขาชี้ไปยังกระท่อมไม้และกล่าวถาม : ‘ไอ่เด็กเหลือขอคนนั้นอาศัยอยู่ที่นี้ ?

“ตอบนายน้อย หยางไค่เป็นศิษย์ฝึกหัด เสื้อผ้าอาหารที่อยู่อาศัยล้วนเป็นสิ่งที่เขาต้องหามาเอง สำนักไม่สนใจเขา กระท่อมหลังนี้น่าจะเป็นเขาที่สร้างมันขึ้นมาเอง”

“ดีดีดี” ซู่มู่หัวเราะอย่างมีความสุข เมื่อเขาคิดถึงภาพเหตุการณ์ที่หยางไค่ต้องเปียกโชกเมื่ออยู่ในฤดูฝน ทำให้เขารู้สึกมีความสุขอย่างมาก

เขาถอนหายใจควบคุมรอยยิ้มของตนก่อนจะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทีที่ภาคภูมิใจเสมือนพญามังกรก่อนจะกล่าวเรียก : “หยางไค่ ออกมารับความตายจากข้าเดี่ยวนี้ !!”

เสียงตะโกนเต็มไปด้วยความโกรธแค้นแฝงด้วยไปด้วยความเกลียดชัง ความปรารถนาที่จะกระหายเลือด ทำให้ฝูงชนที่ได้ยินตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความเกลียดชังระหว่างหยางไค่และซู่มู่ไม่ได้ใช่ความเกลียดชังเล็กๆ น้อยๆ อย่างแน่นอน

ซูมู่อยู่ในท่าทีที่สง่า เขายืนตระหง่านด้วยความภาคภูมิใจ หลังจากที่กล่าวจบเขาจ้องมองไปยังประตูไม้ของกระท่อม กำลังคิดถึงภาพเหตุการณ์ที่หยางไค่รีบวิ่งออกมาเพื่อขอความเมตตา เขาคิดภาพเหตุการณ์นั้นเรื่อยๆ จน

แต่เมื่อไปได้สักพัก ภายในกระท่อมไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

ตอนนี้ใบหน้าของซู่มู่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาตะโกนคำรามอีกครั้ง : “หยางไค่ !! รีบออกมาเดี่ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะพุ่งเข้าไปและลากตัวเจ้าออกมา !!”

ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ซู่มู่เริ่มรู้สึกว่ามีมีบางอย่างที่ผิดแปลก ถ้าหากหยางไค่อยู่ในกระท่อม ต้องมีเสียงลมหายใจ หรือว่าเขาไม่ได้อยู่ภายใน ?

ซู่มู่ส่งสัญญานให้คนที่อยู่รอบๆ ทันใดนั้นคนที่อยู่ข้างกายเขากระโดดไปข้างหน้าอย่างรุนแรงก่อนจะเตะลงไปที่ประตูและวิ่งเข้าไปในกระท่อม

หลังจากนั้นไม่นาน ชายผู้นั้นได้วิ่งออกมาและกล่าวต่อซู่มู่ : “นายน้อยซู่ ด้านในไม่มีคน นอกจากนั้นยังมีฝุ่นละอองขนาดเล็ก ดูเหมือนว่าไอ่เด็กเหลือขอคงจะรับรู้ภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึง จึงได้หลบหนีออกไป”

“หนี ?” ซู่มู่เกือบจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ เขาวางแผนแผนการนี้ไว้ล่วงหน้าหลายวัน วันนี้เขานำพาฝูงชนมามากมาย แต่หยางไค่กลับหลบหนีออกไป ?

ความโกรธเคืองนี้ทำให้ซู่มู่ปล่อยหมัดออกไปยังผ้าฝ้ายชิ้นหนึ่ง มันทำให้ซู่มู่รู้สึกมืดมนไร้ซึ่งเรี่ยวแรงและหดหู่อย่างยิ่ง

“เหมือนว่าหลายวันที่ผ่านมันพวกเขาไม่พบเห็นหยางไค่จริง”

“คนมีสติปัญญาย่อมสามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ หยางไค่สร้างโกรธเคืองให้แก่นายน้อยซู่มู่ ซึ่งเป็นการสร้างความเดือนร้อนให้แก่ตนเองอย่างมหันต์ เขาจึงหนีไปจากสำนักหลิงเซี่ยว”

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหยางไค่ยังไม่ปรากฏตัว”

“อ๊ากกกกก หยางไค่หนีไปแล้ว จากวันนี้ไปคงไม่มีแต้มแห่งชัยชนะที่ได้รับมาแบบง่ายๆ”

ฝูงชนที่อยู่รอบๆ บริเวณต่างบ่นพึมพำเบาๆ แต่คำพูดเหล่านั้นซู่มู่ได้ยินทุกๆ คำ

แม้ว่าจะยินดีที่เขาได้รับการตอบสนองเช่นนี้ แต่ยังไม่ได้แก้แค้น ทำให้จิตใจของซู่มู่ยังรู้สึกไม่พอใจ

หลังจากครุ่นคิดสักครู่ ซู่มู่ไม่ยอมรับความจริงตรงหน้าเขายังต้องการแก้แค้น เขาจึงกล่าวตะโกนด้วยความโกรธ : “ปล่อยมันก็ได้ แต่แค้นต้องชำระ ความโกรธแค้นในใจของข้ายากที่จะทำลายมัน เผากระท่อมนี้ให้สิ้นซาก”

ฝูงชนรอบบริเวณต่างตื่นตะลึง แม้แต่คนที่มากับซู่ม่ยังตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน พวกเขาจึงกล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ : “นายน้อยซู่ วางเพลิงในสำนัก คงไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่ ?”

“กลัวอะไร ?” ซู่มู่ถลึงตา “แม้ว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมาข้าจะยกมันขึ้นเอง กล่าวในอีกแง่หนึ่ง นี้ไม่ใช่การจัดการของสำนักหลิงเซี่ยว เผาทำลายทิ้งก็เผาทำลายทิ้งไป มีอะไรที่มันมีค่า กระท่อมที่ทรุดโทรมนี้ เหลือมันไว้ก็ทำให้ดวงตาของข้านั้นขุ่นมัว”

เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ ความกังวลที่อยู่ในจิตใจของพวกเขาได้หายไปในบัดดล นายน้อยซู่มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เผากระท่อมที่ทรุดโทรมนี้จะเป็นอะไรไป

ดังนั้นจึงมีคนไปหาคบเพลิงและหาหญ้าแห้งเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง

หลังจากนั้น ทุกอย่างถูกเตรียมขึ้น ใบหน้าของซู่มู่ประกายด้วยความโกรธแค้น แสงสว่างของเปลวไฟที่ส่องสว่างบนใบหน้าของเขาทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด

“หยางไค่ นับจากวันนี้ถ้าหากข้าพบเจอกับเจ้า ข้าจะทำให้ชีวิตของเจ้าผมเจอกับชะตากรรมที่เหมือนตายทั้งเป็น !!” ซู่มู่กัดฟันสบทด่า กำลังจะโยนคบเพลิงที่อยู่ในมือเข้าไปในกระท่อม ทันใดนั้นบริเวณรอบข้างของเขามีกลิ่นคายเลือดโชยมา ไหล่ของเขาถูกเคาะจากบุคคลอื่นๆ และเขายังไดกล่าวถาม : “เจ้ากำลังจะทำอะไร ?”

ซู่มู่ไม่คิดก่อนจะกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว : “เผากระท่อมซิ”

“ทำไมเจ้าถึงจะเผากระท่อมของข้า ?” เสียงของบุคคลนั้นเต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ

“กระท่อมของเจ้า ?” ซู่มู่เม้มริมฝีปาก หันหน้ากลับมา ทันทีที่เขาเห็น เขาตกใจเสมือนกระต่ายน้อยที่เห็นเจ้าป่า เขาได้กระโดดถอยหลังออกไปหลายก้าว การกระทำของเขาไม่เหมือนที่เขากล่าวไว้ เขากำลังแสดงปฏิกิริยาที่เสมือนท่าป้องกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

แต่เพราะลักษณะการปรากฏตัวของคนที่กำลังกล่าวนั้นน่าหวาดกลัว เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่ง ผมยุ่งเสมือนวัชพืช สกปรกอย่างน่าเกลียด ไม่เพียงแค่นั้น ร่างกายของเขายังเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งบาดแผลที่ปรากฏออกมาทุกแห่งหน เสื้อของเขายังมีเลือดสีแดงติดอยู่ ด้านหลังของเขามีถุงผ้าผูกไว้ และไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในถุงผ้าด้านใน

สายลมที่อ่อนโยนพัดผ่านมา กางเกงที่ขาดรุ่งริ่งเผยให้เห็นขาที่แข็งแกร่งซึ่งครอบคลุมไปด้วยขนขาที่แข็งแกร่ง

สิ่งที่ทำให้ซู่มู่ไม่สามารถที่จะทนได้คือกลิ่นเหม็นสาบที่โชยออกมาจากร่างกายของหยางไค่ ด้วยสายลมที่พัดผ่านทำให้กลิ่นเหม็นคาวของเลือดและกลิ่นเหงื่อไหลปนเปเข้าด้วยกัน ทำให้คนที่ได้กลิ่นมีอาการอาเจียนและไม่สามารถรับประทานอาหารได้ถึง 3 วัน

แต่ลักษณะเช่นี้เป็นสิ่งที่คุ้นเคยอย่างมาก

เพียงแค่เขาถือชามแตกๆในมือ เขาจะกลายเป็นขอทานในทันที

แต่ทำไม……ซู่มู่รู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้าของเขาอย่างมาก

ซู่มู่มองบุคคลที่เข้ามาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ยิ่งมองยิ่งรู้สึกคุ้นเคยและสับสน เขาครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะตบขาตัวเองและกล่าวตะโกน : “หยางไค่ !!”

หากไม่ใช่หยางไค่แล้วจะเป็นใคร ? รูปร่างของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยความสกปรก แต่สำหรับซู่มู่ที่มีความโกรธแค้นต่อหยางไค่ ทำไมเขาจะจำหยางไค่ไม่ได้ ? ทำไมจะจำเขาไม่ได้ ?

หยางไค่เองจำซู่มู่ได้ เขาแสะยิ้มที่มุมปาก เผยให้เห็นฟันที่ขาวดุจงาช้า : “นี้ก็คือวีรบุรุษที่ช่วยคนถูกใส่ร้ายในหมู่บ้านวู่เหม่ย ศิษย์น้องซู่มู่ ?”

สิ้นเสียงหยางไค่ ใบหน้าของซู่มู่แดงก่ำด้วยความโกรธ เขากระโดดตอบโต้ : “หยางไค่ เจ้าไม่เลือกเส้นทางที่จะเข้าสู่ประตูสวรรค์ ประตูนรกกำลังรอเจ้าเข้าไป !! วันนี้ เจ้าไม่ตายดีแน่ !!”

“เจ้ามีเจตนาหาเรื่องข้า สร้างความเดือดร้อนให้แก่ข้า ?” หยางไค่ขมวดคิ้วและกล่าวถาม

“เหลวไหล !!” ซู่มู่ตะโกนอย่างภาคภูมิใจ : “เจ้าคิดว่าข้าจะมาหาเรื่องคนอย่างเจ้าหรือไง ?”

“เจ้ามาหาเรื่องข้าก็มาพบข้าโดยตรง จะเผากระท่อมของข้าทำไม ?” หยางไค่กล่าวถาม

ซู่มู่โยนคบเพลิงทิ้ง จากนั้นจึงวิ่งไปเหยียบมัน แต่คนที่กำลังเหยียบคบเพลิงให้ดับคือตัวหยางไค่ เขาเหยียบมันอย่างรุนแรง จนในที่สุดมันได้ดับลง

เหตุการณ์ที่เกินขึ้น ทำให้ฝูงชนที่อยู่รอบข้างเริ่มดึงสติของตนเองกลับมา ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น หยางไค่ไม่ได้หวาดกลัวซู่มู่จนต้องหนีออกไปจากสำนักหลิงเซี่ยว แต่ออกไปเพื่อจัดการเรื่องบางอย่างของเขา

แต่ทำไมถึงทำให้ตนเองให้มีลักษณะที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ ? เลือดของเขาไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ยังมีร่องร่อยการฉีกขาดของเสื้อผ้า แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าถูกอาวุธที่แหลมคมบางอย่างทำให้ฉีกขาด เขาไปต่อสู้กับใคร ? และยังเป็นการต่อสู้ที่อยู่ในความเป็นความตาย ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด