ตอนที่ 17 ต่อสู้กับสัตว์ปีศาจ
ขณะนี้เป็นช่วงเวลาบ่าย หยางไค่เปลี่ยนทิศทาง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่ตั้งของหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยว
ตนเองลาหยุดเพียง 3 วัน ไม่นับรวมวันที่ออกเดินทาง ตนเองต้องกลับถึงหอประลองยุทธุ์ในวันพรุ่งนี้เช้า มิฉะนั้นเขาต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หยางไค่มั่งใจว่าระยะทางระหว่างเขาและหอประลองยุทธุ์หลิงเซี่ยวห่างกันไม่ถึง 100 ลี้ ไม่ถือว่าไกลมาก เขาต้องไปถึงที่นั่นก่อนดวงอาทิตย์จะตกดินอย่างแน่นอน
จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้เกี่ยวกับหน้าที่ 3 ของตำราสีดำที่ไร้ซึ่งอักขระจะนำพาสิ่งใดมาให้แก่เขา เขาจะสามารถก้าวข้ามเขตแดนที่มากกว่านี้ได้หรือไม่ ทำให้จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความยินดี ตื้นเต้น เขาจึงเร่งฝีเท้าให้ไวที่สุด
ผ่านไปเพียงครึ่งทาง หยางไค่ได้ยินเสียงตะโกนคำราม เสียงร้องไห้เสมือนใจจะขาดดังแว่วลอยมา มันเป็นเสียงร้องไห้ของเด็กน้อย
เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ หยางไค่หยุดฝีเท้าลง จากนั้นจึงเงี่ยหูฟังอย่างละเอียด หลังจากนั้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนแปล หยางไค่รีบวิ่งไปยังทิศทางของเสียงอย่างรวดเร็ว
เขาฟังเสียงร้องไห้นั้น เขาทราบในทันทีว่านั้นคือเสียงร้องไห้นั้นมาจากทิศทางที่เขาพบเจอกับ 2 พ่อลูกนั้น เสียงร้องไห้ปริ่มใจจะขาดยังเป็นเสียงร้องไห้ของยุวชนตัวน้อยอีกด้วย
ทั้ง 2 ต้องพบเจอกับภัยอันตรายที่ไม่คาดคิด ไม่เช่นนั้นพวกเขาไม่หวาดกลัวเช่นนี้ วันนั้นหยางไค่ได้กินข้าวปั้นจากพวกเขา พวกเขามีบุญคุณต่อเขา หยางไค่จะทิ้งพวกเขาอย่างไม่สนใจใยดีไม่ได้ !!
ในขณะที่เขาวิ่งไป เสียงคำรามเริ่มหมดวังมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงร้องไห้ของยุวชนตัวน้อยเริ่มอ่อนแอและเบาลง เบาลง
ใบหน้าของหยางไค่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ความรู้สึกที่ไม่ดีเริ่มแทรกซึ่มเข้ามาในจิตใจของเขา
เมื่อหยางไค่วิ่งไปถึงบริเวณนั้น เขาไมได้ยินเสียงตะโกนคำรามของนายพรานผู้นั่น เขาพบเพียงปากถ้ำที่มืดสลัวและมีความลาดชันถ้ำหนึ่ง ถ้ำนั้นติดกับต้นหญ้าที่เขียวชอุ่ม รอบบริเวณทั้ง 4 ทิศถูกครอบคลุมด้วยใยแมงมุมสีน้ำเงิน บนพื้นดินมีคันธนูอันเล็ก มันคือคันธนูของยุวชนตัวน้อยที่เขาพบเจอเมื่อคืน !!!
หยางไค่กระทำต่อโดยไม่คิด หยางไค่รีบวางสิ่งของต่างๆที่อยู่บนตัวเขา เขาเบิกตากว้าง มองไปยังทั่งบริเวณ จากนั้นจึงพุ่งเข้าไปยังปากถ้ำที่มืดสลัวนั้นทันที
แม้ว่าภายในถ้ำจะมีแสงสว่างส่องเข้าไม่มากนัก แต่มันก็เพียงพอที่จะมองเห็นสิ่งต่างๆ
หยางไค่มองไปรอบๆ บริเวณ และตกใจกับสิงที่พบเห็น ภายในถ้ำแห่งนี้ถูกปกคุลมด้วยใยแมงมุม ผนัง พื้นดิน ทุกๆบริเวณเต็มไปด้วยใยแมงมุมสีขาวที่มีความหนาเท่าตะเกียบ ทับกันไปมาตามแนวขวางเป็นชั้นๆ โดยได้ปกคลุมทางเข้าข้างหน้า
ถ้ำนี้ทั้งมืดและชื้นแฉะ ด้านบนของเต็มไปด้วยหยดน้ำที่หยดลงมายังด้านล่างอย่างสม่ำเสมอ หยางไค่ก้าวเท้าออกไปความรู้สึกที่หวาดกลัวได้แทรกซึมเข้ามาในจิตใจ
หยางไค่กลั้นลมหายเดินเข้าไปภายใน เขาเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว กลับพบกับใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่กำลังรัดร่างกายของมนุษย์ที่ทรุดอยู่ที่พื้นเสมือนดักแด้สีขาว เผยให้เห็นเพียงใบหน้า ใช่ !! มันเป็นนายพรานที่เขาพบเมื่อคืนจริงๆ
หยางไค่กระโจนเข้าไป เพื่อทดสอบว่าเขาเป็นอย่างไร ซึ่งพบว่าเขาเพียงหมดสติจากความหวาดกลัว ร่างกายไม่ได้รับอันตรายที่ร้ายแรง
นายพรานตื่นขึ้นมา หลังจากที่เขาเห็หน้าหยางไค่เขารีบกล่าวด้วยเสียงที่เป็นกังวล : “ช่วยลูกชายของข้า !! ลูกชายของข้าถูกลากเข้าไปภายใน ขอร้อง ได้โปรด ช่วยลูกชายของข้าด้วย !!!”
“ถูกลากเข้าไป ?” หยางไค่ตกตะลึง เขารีบดึงใยแมงมุมออกจากร่างกายของนายพราน แต่ว่าใยแมงมุมที่รัดแน่นอยู่บนร่างกายของเขามีความแข็งแกร่งยิ่งนัก เขาไม่สามารถทำลายมันได้ เขาจึงต้องปล่อยมันไว้ชั่วตราว แล้ววิ่งเข้าไปภายในถ้ำเพื่อตามหายุวชนตัวน้อย
นายพรานได้กล่าวเตือนจากด้านหลัง : “ระวังด้วย !! นั่นคือสัตว์ปีศาจ แมงมุมปีศาจ !!”
เมื่อได้ยินว่าสัตว์ปีศาจ แมงมุมปีศาจ ดวงตาหยางไค่เบิกกว้าง สัตว์ปีศาจ ไม่เหมือนกับสัตว์ป่าทั่วไป มันฆ่าคนที่บุกรุกเข้ามา สัตว์ปีศาจเป็นสัตว์ที่ดุร้ายอย่างแท้จริง แม้จะเป็นสัตว์ปีศาจที่อยู่ในระดับต่ำที่สุด มันก็ไม่ใช่สัตว์ที่หยางไค่จะสามารถต่อกรกับมันได้
ระยะภายใน 30 ลี้เป็นบริเวณที่ปลอดภัยของเทือกเขาวายุทะมึน เพราะมันไม่มีสัตว์ปีศาจที่ดุร้ายปรากฏกายออกมา แต่ในเวลานี้มันกลับปรากกฎกายออกมา มันอยู่เหนือความคาดหมายของมนุษย์ที่เคยย่างกรายเข้ามา
เมื่อทราบว่าด้านในมีสัตว์ปีศาจดำรงอยู่ หยางไค่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เขาเดินเข้าไปภายในประมาณ 10 เมตร จึงมองเห็นลูกชายของนายพรานที่อยู่ด้านใน
ยุวชนตัวน้อยอยู่ในสถานการณ์เดียวกับกับพ่อของเขา ร่างกายของเขาถูกใยแมงมุมรัดแน่น ติดอยู่ในใยแมงมุมยักษ์ที่ลอยอยู่ในกลางอากาศ
ด้านข้างของยุวชนตัวน้อย แมงมุมตัวใหญ่ยักษ์กำลังเจาะที่ดูดเลือดของมันไปยังแขนของยุวชนตัวน้อย ทันใดนั้นเลือดสีแดงเข้มจากร่างกายของยุวชนตัวน้อยถูกแมงมุมตัวยักษ์ดูดกินเข้าไปในปาก
พื้นดินของถ้ำเต็มไปด้วยโครงกระดูกสีขาวต่างๆที่ทับถมไว้จำนวนมาก แมงมุมปีศาจยักษ์ตัวนี้คงฆ่าสัตว์และมนุษย์เป็นจำนวนไม่น้อย
หยางไค่ไม่มีเวลาครุ่นคิดว่าความสามารถพละกำลังของเขาจะสามารถต่อสู้กับแมงมุมปีศาจยักษ์ได้หรือไม่ ทุกวินาทีที่เสียไปอาจทำให้ยุวชนตัวน้อยมีอันตรายถึงชีวิต เขาจึงพ่งุกระโจนไปข้างหน้าด้วยความเงียบในทันที
แมงมุมปีศาจยักษ์ไม่คาดคิดว่าจะถูกรบกวนในเวลานี้ ขณะที่มันกำลังดื่มดำกับเหยื่ออันโอชะ คลื่นพลังได้พุ่งกระแทกมาจากด้านข้าง ใยแมงมุมขนาดยักษ์ถูกกระแทกจนกลายเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ แมงมุมงปีศาจยักษ์และหยางไค่กระโจนออกไปพร้อมกัน ทำให้ยุวชนตัวน้อยร่วงหล่นไปที่พื้น
จากการโจมตีอย่างกระทะหัน แมงมุมปีศาจยักษ์เกรี้ยวโกรธ 8 ขาขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยขนที่หนาทึบกระทบไปยังพื้นดินอย่างรุนแรง ดวงตาที่อยู่บนศรีษะจ้องมองไปยังหยางไค่ทันที
หยางไค่ไม่ยังไม่ทันที่จะลุกขึ้น กลับถูกตะครุบจากแมงมุมปีศาจยักษ์อย่างรุนแรง
หยางไค่คำราม หมัดที่แข็งแกร่งพุ่งออกไป พุ่งไปยังปากของแมงมุมปีศาจยักษ์ จนทำให้มันซวนเซ เมื่อได้โอกาสนี้ หยางไค่เตะออกไปอีกครั้ง ทำให้แมงมุมปีศาจยักษ์ลอยกระเด็นออกไป
หยางไค่ม้วนตัวหมอบลงที่พื้น หรี่ดวงตาลงเพื่อสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของแมงมุมปีศาจยักษ์
หลังจากการเผชิญหน้ากับแมงมุมปีศาจยักษ์ ทำให้จิตใจของหยางไค่สงบลงเล็กน้อย สัตว์ปีศาจตัวนี้อยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก !! มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถต่อสู้กับมันได้ อย่างมากแมงมุมปีศาจยักษ์เป็นเพียงสัตว์ปีศาจตัวเดียวที่อยู่ระดับต่ำที่สุดเท่านั้น
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงสัตว์ปีศาจระดับต่ำ จากความแข็งแกร่งของตนเองในปัจจุบันคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเผชิญหน้ากับมัน
ทั้งสองฝ่ายต่างดูการเคลื่อนไหวของศัตรู แมงมุมปีศาจยักษ์ไม่รีบร้อนไม่หุนหันพลันแล่น หยางไค่จึงหมดความอดทน เพราะยุวชนตัวน้อยได้สูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก และยังส่งสัญญานว่าเขาได้รับพิษจากแมงมุมปีศาจยักษ์ ถ้าหากไม่จัดการสถานการณ์ตรงหน้าคงไม่สามารถชีวิตเขาได้
ทันใดนั้น แมงมุมปีศาจยักษ์อ้าปากที่ใหญ่ยักษ์ของมัน ด้ายสีขาวประกายได้พุ่งออกมา และโจมตีไปยังหยางไค่ทันที
ความแข็งแกร่งควาทนทานของใยแมงมุมนี้หยางไค่ได้สัมผัสมาก่อนหน้านี้ ทำให้เขาทราบดีว่าไม่ควรที่จะถูกใยแมงมุมรัด เขาจึงม้วนตัวหลบไปยังด้านข้างและหลบหนีจากการโจมตีในครั้งนี้ได้อย่างหวุดหวิด
แมงมุมปีศาจยักษ์ไม่แสดงปฏิกิริยาไม่หลบหนี แต่มันกลับพุ่งเข้ามาและพุ่นใยแมงมุมออกมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หยางไค่มีปฏิกิริยาตอบกลับ ปากถ้ำได้ถูกใยแมงมุมขนาดยักษ์ปิดกั้นเอาไว้ ทำลายเส้นทางการหลบหนีของเขา ซึ่งได้ขังเขาภายในนี้
“บังคับให้ข้าต่อสู้กับความตาย ?” หยางไค่หัวเราะเยาะ ความหวาดกลัวที่เก็บงำไว้ตั้งแต่แรกถูกขับไล่ออกจากความคิด ลมปราณที่อยู่ในโครงกระดูกถูกกระตุ้นออกมา
สถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าหากไม่ฆ่าแมงมุมปีศาจยักษ์ตัวนี้เขาจะไม่มีทางหนีรอดออกไปได้ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ เขาคงต้องต่อสู้โดยใช้ชีวิตของเขาเป็นเดิมพัน
เวลากำลังจะหมด หยางไค่ไม่สามารถชะลอการต่อสู้นี้ได้ ขาทั้งสองของเขาได้วางอยู่บนพื้นดินอย่างหนักแน่น จากนั้นจึงวิ่งพุ่งไปยังแมงมุมปีศาจยักษ์ ใยแมงมุมได้พุ่งออกมา หยางไค่จึงใช้สองมือบังไว้ และหลบหลีกจากใยแมงมุมที่พุ่งเข้ามา
หลังจากที่หลบหนีจากใยแมงมุมี่พุ่งเข้ามาถึง 3 ครั้ง ระยะห่างระหว่างเขาและแมงมุมปีศาจยักษ์ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ทันที่หยางไค่จะออกหมัด แมงมุมปีศาจยักษ์ได้ยก 2 ขาหน้าของมันและพ่งุโจมตีไปยังหยางไค่
หยางไค่ยกแขนเพื่อป้องกัน ขาหน้าทั้ง 2 ของแมงมุมปีศาจยักษ์พุ่งแทงแขนของเขาจนทะลุ
หยางไค่คำรามออมาด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งกระฉูดออกมา ไหลรวยรินออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่มันไม่ทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนกหรือหวาดกลัว แต่กลับมีความรู้สึกแปลกประหลาดที่ตื่นเต้นและคาดหวังกำลังสั่นสะท้านอยู่ในใจ กระดูกในร่างกายได้ส่งเสียงเสมือนเสียงลากโซ่ออกมา ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกที่อบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา