ตอนที่ 12 แผนการ
ปัก ! ปัก ! ปัก !!! เสียงการทุบตีดังสนั่นไปทั่วบริเวณ แม้ว่าพ่อค้าแม่ค้าและเหล่าฝูงชนที่อยู่ในถนนเส้นนี้เป็นเพียงคนธรรมดาทั้งหมด แต่พวกเขาได้แสดงพละกำลังและจิตวิญญาณแห่งนักสู้ที่มีความแข็งแกร่งออกมา พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ล้วนแต่เคยถูกผู้อื่นรีดไถทรัพย์สิน พวกเขาจึงเกลียดชังคนประเภทนี้อย่างมาก และตอนนี้เมื่อพวกเขาได้รับโอกาสปลดปล่อยความเกลียดชังที่อยู่ในจิตใจ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะผ่อนปรนการกระทำของพวกเขาในครั้งนี้ !!
โดยเฉพาะเสี่ยวเอ้อของร้านเถ้าแก่เห่อ เมื่อถุงกระสอบที่อยู่ในมือได้ครอบคลุมชายหนุ่มทั้ง 2 เขาจึงตะบั้นทุบตีไปยังชายหนุ่มทั้ง 2 โดยไม่มีการยั้งมือแม้แต่น้อย
นอกจากนี้ ฝูงชนจำนวนมากต่างรุมประชาทัณฑ์พวกเขาอย่างสามัคคี ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถมองเห็นว่าคนไหนกำลังทุบตีเขา จึงไม่ตัองกังวลว่าพวกเขาจะมาแก้แค้นในภายหลัง
ฝูงชนจำนวนมากมาย พละกำลังก็มากตาม หยางไค่เพียงเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ยังไม่ทันที่เขาจะได้ลงมือ เขากลับถูกพ่อค้าแม่ค้าเหล่านั้นเบียดออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน พ่อค้าแม่ค้าและเหล่าฝูงชนทั้งหลายค่อยๆ หยุดการประชาทัณฑ์ เหลือไว้เพียงชายหนุ่มทั้ง 2 ที่ขดตัวอยู่บนพื้น ครวญครางด้วยเสียงที่เจ็บปวด ถุงกระสอบที่ครอบคลุมพวกเขาต่างถูกทุบตีจนปลิดหายไป ซูมู่จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาที่เจ็บปวด จิตใจของเขาครวญครางด้วยความหวาดกลัว เส้นเอนที่ขากำลังแข็งตัว ณ ตอนนี้ ชายหนุ่มร่างกำยำทั้ง 2 ถูกทุบตีจนร่างกายเขียวช้ำ จมูกไม่เหมือนจมูก ดวงตาไม่เหมือนดวงตา ใบหน้าบูดบวมแทบจะไม่เหลือเค้าโครงใบหน้าเดิมของพวกเขา
สถานการณ์ได้พลิกผันกลายเป็นเช่นนี้ เพราะชายหนุ่มทั้ง 2 ไม่มีความแข็งแกร่งและความสามารถในการต่อสู้ แม้ว่าเอวของพวกเขาจะมีดาบ แต่เป็นเพียงการสร้างภาพให้ดูน่ากลัว ถ้าหากเป็นยอดฝีมือ พวกเขาจะถูกคนสามัญธรรมดาเหล่านี้โจมตีได้อย่างไร
หากกลับคำพูด ถ้าหากเป็ยอดฝีมือที่เชี่ยวชาญในวิชายุทธ์พวกเขาจะกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้เพื่อสิ่งใด ?
เมื่อสามารถเอาชนะชายหนุ่มทั้ง 2 พ่อค้าแม่ค้าและเหล่าฝูงชนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก และยังรวมตัวโดยไม่มีใครเดินออกไป
ชายหนุ่มทั้งสองที่มีใบหน้าบูดบวม จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ชายหนุ่มคนหนึ่งยื่นมือที่สั่นสะท้านออกมา ชี้ไปยังซูมู่และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา : “ซู……………………….”
ใบหน้าของซูมู่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เขากล่าวตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวโกรธ : “ยังต้องการสิ่งใด !! หรือต้องการให้ข้าเลาะเส้นเอนของพวกเจ้าออกมา !!”
หยางไค่จ้องมองเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เขาแสะยิ้มอยู่ในจิตใจ ก้าวเดินไปข้างหน้าและกล่าวประกาศด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสง่า : “พวกเจ้าทั้ง 2 ที่น่ารังเกียจ ไม่รู้ว่าพวกเจ้าทั้ง 2 ใช้วิธีการเช่นนี้ทำลายการค้าของผู้อื่น สร้างความวิบัติให้แก่ผู้อื่นมามากเท่าไหร่ พวกเจ้าช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก !!”
คำพูดของหยางไค่มีบางคำพูดที่เกินจริง แต่ว่าฝูงชนที่อยู่ในเหตุการณ์เกือบทั้งหมดคือพ่อค้า แม่ค้าละแวกใกล้เคียง เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดเช่นนี้ จึงทให้ความคิดของพวกเขาตกอยู่ในห้วงแห่งความโกรธเกลียด โดยเฉพาะเสี่ยวเอ้อของเถ้าแก่เหอนั้นสบทด่าอย่างรุนแรง : “ถุ้ย !! ไอ่เศษสวะเหม็นเน่า ริอาจมาสร้างความวุ่นวายในสถานที่แห่งนี้ !!”
เสี่ยวเอ้อในร้านเพียงสบทออกมาด้วยความแค้น แต่หยางไค่รีบกล่าวต่ออย่างรวดเร็ว : “ถูกต้อง !! คนเช่นนี้แม้จะตายก็ไม่มีค่าอะไร ศิษย์น้องคนนี้ ข้าว่า พวกเราฆ่าพวกเขาดีกว่า เพื่อเป็นการสั่งสอนให้พวกเขาอย่าริอาจทำสิ่งที่ไร้ซึ่งศีลธรรมเช่นนี้ ถือเป็นการไถ่โทษให้แก่สวรรค์ !!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกไป ฝูงชนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างหวาดกลัวกับสิ่งที่หยางไค่กล่าวออกมา ชายหนุ่มทั้ง 2 ที่ขดตัวอยู่บนพื้นหน้าผากของพวกเขาเต็มไปเหงื่อเย็นที่ผุดออกมาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าเด็กหนุ่มที่มีร่างกายอ่อนแอจะไร้ความปราณีและโหดเหี้ยมเช่นนี้
ซูมู่เบิกตากว้างและจ้องมองไปยังหยางไค่ เพื่อจะมองดูว่าเขาล้อเล่นหรือไม่ แต่ใบหน้าของหยางไค่เคร่งขรึม แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงจัง
เมื่อกล่าวตามความจริง แม้ว่าชายหนุ่มทั้ง 2 จะทำความผิด แต่ความผิดของพวกเขาไม่ร้ายแรงพอที่จะให้บทลงโทษที่เหี้ยมโหดเช่นนี้ คำที่หยางไค่กล่าวมาจึงโหดร้ายเกินไปอย่างมาก
ซูมู่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ : “ศิษย์พี่ท่านนี้ ทำเช่นนี้มันมากเกินไปหรือเปล่า ?”
“มากเกินไป ?” หยางไค่ส่ายหัวไปมา : “ถ้าหากว่าแผนการของพวกเขาประสบความสำเร็จ ถ้าเป็นเช่นนั้นกิจการของเถ้าแก่เหอต้องล้มละลาย ถ้าหากว่ากิจการของเถ้าแก่เหอล้มละลาย แล้วครอบครัวของพวกเขาจะทำมาหากินเช่นไร ? นี้คือการบีบบังคับให้ผู้อื่นต้องพบเจอกับทางตัน ฆ่าพวกเขามันจะมากเกินไปตรงไหน ? จะกล่าวให้รู้ การกระทำของคนคนหนึ่งล้วนมีผลต่อสิ่งที่พวกเขาทำลงไปทั้งสิ้น”
ก่อนหน้านี้ เมื่อฝูงชน พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อได้ยินถ้อยคำที่โหดเหี้ยมของหยางไค่ พวกเขายังคิดว่ามันไม่เหมาะสม แตหลังจากที่ได้ยินคำกล่าวของหยางไค่ในตอนนี้ พวกเขากลับรู้สึกว่ามันมีเหตุผล ในตอนนั้นพวกเขาเองต่างไม่รู้ว่าต้องดำเนินการเช่นไรต่อไป ถ้าหากว่าต้องฆ่าชายหนุ่มทั้ง 2 ไม่จำเป็นที่จะให้พวกเขาลงมือ พวกเขาจึงมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสงบ แต่เมื่อเถ้าแก่เหอต้องการกล่าวบางสิ่งบางอย่างกลับถูกสายตาของหยางไค่หยุดเขาเอาไว้
“แต่………..แต่ถ้าหากมันเป็นเช่นนี้จริง เราก็ไม่ควรฆ่าคนตามใจชอบ” ซูมู่มีความกังวลอย่างมาก เพราะศิษย์พี่ที่อยู่ตรงหน้ามีวิธีการที่โหดเหี้ยมและเลือดเย็น เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ เดิมทีแผนการที่เขาเตรียมการไว้ ดำเนินการไปได้อย่างดีเยี่ยม ประการแรกให้ชายหนุ่มทั้ง 2 ใส่ร้ายเถ้าแก่เหอ จากนั้นตนเองจะเป็นคนขัดขวางและจัดการเรื่องทุกอย่าง ในขณะเดียวกันเขาจะได้รับความซาบซึ้งจากเถ้าแก่เหอ เป้าหมายของพวกเขากำลังจะบรรลุอย่างที่เตรียมการไว้ แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีศิษย์พี่ที่โหดร้ายปรากฏตัวขึ้น และสิ่งเดียวที่เขาต้องการคือฆ่าชายหนุ่มทั้ง 2
นี้คงเป็นคราวซวยของเขา
ซูมู่มองเห็นสายตาที่อ้อนวอนขอให้ช่วยเหลือของชายหนุ่มทั้ง 2 อย่างชัดเจน พวกเขาหวังว่าซูมู่จะสามารถช่วยพวกเขาได้ สายตาที่จ้องมองมายังเขายังมีสัญญานแห่งการกดดันและข่มขู่ ทำไมซูมู่จะไม่เข้าใจความหมายในสายตาของพวกเขา ?
เปรียบเสมือนตั๊กแตนที่ถูกผูกติดไว้ด้วยกัน ถ้าหากว่าเราต้องทุกข์ทรมาณกับสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าก็อย่าคิดว่าจะหนีมันพ้น อืม นั่นคือความหมายในสายตาของพวกเขา……
ทันใดนั้นเอง หยางไค่กล่าวด้วยเสียงหัวเราะ : “ศิษย์น้อง ไม่มีวิธีการที่จะดีกว่านี้ เพราะพวกเขาทำผิดอย่งมหันต์ พวกเราคือมนุษย์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในไต้หล้า ในมือของพวกเรามีชีวิตของคนหลายคนผูกติดไว้ หรือว่าศิษย์น้องไม่กล้าที่จะลงมือ ? หรือว่า………..พวกเจ้ารู้จักกัน ? ดังนั้นศิษย์น้องจึงไม่เต็มใจที่จะฆ่าพวกเขา ?”
หัวใจของซูมู่สั่นสะท้าน ทันใดนั้นเขาหันกลับมองหยางไค่ด้วยสายตาที่โหดร้าย ซึ่งมองเห็นหยางไค่ที่กำลังยิ้มและมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ซุกซน
“คำกล่าวของศิษย์พี่หมายความว่าอย่างไร ?” ใบหน้าของซูมู่เย็นชาในทันที ขณะที่ครุ่นคิดอยู่ในใจว่าแผนการของเขาถูกล่วงรู้โดยหยางไค่ ? แต่แผนการของการของเขาไม่เคยเปิดเผยให้เขาทราบมันก่อน แล้วเขาจะล่วงรู้ได้อย่างไร ?
สิ่งที่เขาไม่ทราบคือ หยางไค่ล่วงรู้แผนการของพวกเขาโดยบังเอิญ ถ้าหากหยางไค่ไม่เคยพบเจอพวกเขามาก่อน ในวันนี้ตัวเขาเองคงจะหลงกลพวกเขาอย่างแน่นอน
เถ้าแก่เหอเป็นคนที่เฉลียวฉลาด เมื่อได้ยินคำกล่าวของหยางไค่ เขาเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่และกล่าวถาม : “เจ้าหนุ่มน้อย พวกเขาวางแผนทำเช่นเพื่อสิ่งใด ? ’
เมื่อหยางไค่เผยให้เห็นธาตุแท้ของซูมู่ เถ้าแก่เหอจะมองไม่เห็นได้อย่างไร ?
หยางไค่ส่ายหัวและไม่กล่าวตอบ แต่เขายังคงจับจ้องไปยังซูมู่ : “ศิษย์น้อง ข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนที่กล้าหาญคนหนึ่ง ในวันนี้ถ้าหากเจ้ายอมรับและกล่าวรับโทษในสิ่งที่จะกระทำลงไปมันจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี อีกอย่าง เจ้ายังมีศิษย์พี่เคียงข้างเจ้า เจ้าจะกลัวอะไร ?”
“ข้าจะกลัวอะไร ?” ซูมู่หัวเราะออกมาดังๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย และกล่าวพึมพำกับตนเอง : “ข้าจะกลัวอะไร ? เพียงแค่ฆ่าคน ? ใครละที่ยังไม่เคยผ่านการฆ่าคนมาบ้าง”
มันเปรียบเสมือนว่าเขากำลังยอมรับว่าตนเองไม่เคยผ่านการฆ่าคน แต่เขากลับลดศีรษะของเขาต่ำลงต่อหน้าหยางงไค่
สุดท้ายเขาได้เผยให้เห็นจิตใจที่อ่อนแอของเขา เมื่อถูกหยางไค่บีบบังคับ ซูมูไม่สามารถที่จะหลบหนีจากสถานการณ์เช่นนี้ได้เลย
อดทนไว้ ซูมู่มองไปยังชายหนุ่มทั้ง 2 ด้วยสายตาที่ไร้ความปราณี ชายหนุ่มทั้ง 2 เมื่อมองเห็นสายตาของซูมู่พวกเขาทราบอย่างชัดเจนว่าพวกเขาต้องเจอกับสิ่งที่น่าหวาดกลัว ไอ่เด็กคนนี้ถูกหยางไค่หว่านล้อม กดดันจนไม่สามารถจะทำอะไรต่อไป สติของเขากำลังจะสูญสิ้นไปแล้ว
“ศิษย์น้อง พวกเราจัดการพวกเขาดีกว่า” หยางไค่ยังคงเทน้ำมันลงบนเปลวไฟที่กำลังโหมกระหน่ำ
ซูมู่ถอนหายใจอย่างรุนแรง จากนั้นจึงพยักหน้าอย่างแผ่วเบา
เมื่อชายหนุ่มทั้ง 2 มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขารู้ทันทีว่าปลายทางชีวิตของพวกเขากำลังใกล้เข้ามา พวกเขาจะไม่ทนต่อการกระทำที่ไร้ความปราณีเช่นนี้ พวกเขากระโดดลุกขึ้นมา ชี้ไปยังซูมู่และกล่าวด้วยเสียงที่ดังสนั่น : “ซูมู่ แกไอ่คนทรยศ วางแผนให้พวกเราทั้ง 2 มาสร้างความวุ่นวายที่นี้ จากนั้นจึงออกมาช่วยเถ้าแก่เหอ เสมือนเป็นวีรบุรุษที่มีศีลธรรม แต่ในวันนี้ เจ้ากลับทำเช่นนี้กับพวกเราทั้ง 2 เจ้ามันเศษสวะที่ไม่มีค่า เศษสวะเหลือเดนที่ไม่มีใครต้องการ !!”
“เจ้าโกหก !!” เมื่อแผนการของเขาถูกเปิดเผย ซูมู่ได้ตะโกนออกมาด้วยความเกรี้ยวโกรธ
“ฮึฮึ !! ชายหนุ่มทั้ง 2 หัวเราะอย่างเยือกเย็น โดยไม่สนใจบาดแผลบนใบหน้าของพวกเขา จากนั้นชายหนุ่มที่มีร่างกายกำยำได้กล่าวออกมาด้วยเสียงที่ดังลั่น :”พี่น้องทุกๆ คน การที่พวกเราทั้ง 2 มาก่อความวุ่นวายในร้านของเถ้าแก่เหอ เป็นแผนการของเด็กหนุ่มคนนั้นทั้งหมด เพราะเขาชอบลูกสาวของเถ้าแก่เหอ แต่ว่าเธอปฏิเสธต่อเขา ดังนั้นเขาจึงคิดแผนการที่น่ารังเกียจเช่นนี้ขึ้นมา !! ’