TWO Chapter 36 การปฏิรูป ตอนที่ 2
TWO Chapter 36 การปฏิรูป ตอนที่ 2
สำหรับข้อสงสัยของทุกคน โอหยางโชวไม่สนใจอธิบาย
“ข้าได้ตัดสินใจที่จะจัดตั้ง ฝ่ายการเงิน เพื่อรับผิดชอบด้านการเงิน และการเก็บภาษีของดินแดนหลังจากการปฏิรูป โดยฝ่ายการเงินจะดำเนินการโดยอิสระ และธนาคาร 4 สมุทร จะอยู่ภายใต้การดูแลของฝ่ายการเงิน หัวหน้าฝ่ายการเงิน คือ ขุ่ยหยิงหยู”
ทุกคนตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หัวหน้าฝ่ายการเงิน และผู้จัดการธนาคาร 4 สมุทร คือ ผู้ดูแลความมั่งคั่งทั้งหมดของดินแดน สถานะของตำแหน่งนี้เทียบได้กับเจ้ากรมการบริหาร
หยิงหยูตื่นเต้นอย่างมาก หลังจากพูดคุยกับโอหยางโชวเมื่อวานนี้ ธอไม่คิดว่าเขาจะปลดเธอออกจากฝ่ายคลังวัสดุ และให้เธอรับผิดชอบการเงินที่สำคัญยิ่งกว่า เธอค่อยๆลุกขึ้น และกล่าวออกมาว่า “ข้าจะไม่ทำให้พี่ใหญ่ผิดหวัง!”
โอหยางโชวพยักหน้าให้เธอ “หลังจากก่อตั้งฝ่ายการเงินแล้ว งานแรกของเจ้าคือการสร้างระบบภาษีที่มีประสิทธิภาพ หลังจากนี้ เราจะพูดคุยถึงรายละเอียดของระบบภาษี และการกู้ยืมเงินจากธนาคาร 4 สมุทร ฝ่ายการเงินจะรับผิดชอบในการทำรายงานนี้”
หยิงหยูหยักหน้า แสดงให้เห็นว่าเธอเข้าใจ
“ด้านภาษี เราจะแบ่งง่ายๆเป็น 2 ประเภท คือ 1.ภาษีการเกษตร และ 2.ภาษีธุรกิจ ภาษีการเกษตร เราจะตั้งให้ค่อนข้างต่ำที่ 3.3%”
“ภาษีธุรกิจ จะแบ่งออกเป็น ภาษีศุลกากร และภาษีทุรกิจ สำหรับภาษีศุลกากร เราจะต้องขยายดินแดน และติดต่อกับโลกภายนอกเสียก่อน จึงจะเริ่มจัดเก็ยภาษีได้ ดังนั้น วันนี้เราจะพูดถึงภาษีธุรกิจ เพื่อสนับสนุนงานฝีมือ และการพานิชย์ เราจะกำหนดภาษีธุรกิจไว้ที่ 3.3%”
“ภาษีจะเป็นแหล่งการเงินที่สำคัญของดินแดนในอนาคต เราต้องรักษาเสถียรภาพของอัตราภาษี เพื่อสนับสนุนการเติบโตของดินแดน หากใครมีข้อคิดเห็น พวกเจ้าสามารถกล่าวออกมาได้”
ฟ่านจงหยานลุกขึ้น และกล่าวออกมาว่า “นายท่านเป็นคนใจกว้างและรักประชาชนของท่าน อัตราภาษีนี้ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว ข้ากลัวเพียงแต่ว่า อัตราภาษีที่ต่ำเช่นนี้ จะไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายประจำวันของรัฐบาล ไหนจะค่าใช้จ่ายทหารอีก”
“เหตุที่ภาษีทั้ง 2 ต่ำนั้น ก็เพื่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วของดินแดน แม้ว่าเราจะเก็บเกี่ยวได้เล็กน้อย แต่ถ้าเค้กที่เราเก็บเกี่ยวก้อนใหญ่ขึ้น การเก็บเกี่ยวก็จะใหญ่ขึ้นด้วยเช่นกัน ในทางกลับกัน ถ้าเค้กก้อนเล็ก แม้ว่าเราจะเก็บเกี่ยวถึงครึ่งหนึ่งของมัน มันก็จะได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดของดินแดน คือ อุตสาหกรรมที่ไม่ได้ปฏิรูป กำไรทั้งหมดจะถูกส่งให้ฝ่ายการเงินจัดการ เพื่อที่เราจะไม่ต้องกังวลเรื่องเงินของดินแดนอีก” โอหยางโชวตอบเขา
ได้ยินโอหยางโชวกล่าวถึงผลกำไรของ นาเกลือ และอุตสาหกรรมอื่นๆ พวกเขาหันไปทางหัวหน้าฝ่ายการเงินขุ่ยหยิงหยู ส่วนฟ่านจงหยานก็สงบลง เขากังวลเกี่ยวกับดินแดน และคิดว่าภาษีต่ำเกินไป แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว ตอนแรกเขากังวลว่าโอหยางโชวจะปฏิรูปอุตสาหกรรมทั้งหมด แต่โอหยางโชวกล่าวว่าเขาจะถือสิทธิ์ในอุตสาหกรรมบางประเภท มิฉะนั้น ดินแดนของพวกเขาจะประสบปัญหาทางการเงิน และพวกเขาก็คงจบสิ้นเช่นกัน
นี่เป็นข้อจำกัดของบุคคลทางประวัติศาสตร์ แม้ฟ่านจงหยานจะมีปัญญามาก เขากลับไม่เข้าใจว่า พลังของดินแดนก็คือพลังของผู้เล่นลอร์ด แม้ว่าคลังส่วนตัวของเขาจะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่โอหยางโชวก็ไม่สนใจนัก
หลังจากตอบคำถามฟ่านจงหยานเสร็จสิ้น เจ้าเต๋อเสี้ยนก็ลุกขึ้นมา “นายท่าน ข้ามีคำถาม สำหรับชาวไร่ชาวนา เราจำเป็นต้องจ่ายภาษีการเกษตร ร่วมกับการจ่ายค่าเช่าพื้นที่เพาะปลูกหรือไม่”
“หัวหน้าฝ่ายฟื้นฟูดินจะแบ่งพื้นที่เพาะปลูก และอุปกรณ์ทางการเกษตรให้พวกเขาฟรี ให้พวกเขาทำงานในรูปแบบการเป็นเจ้าของพื้นที่เพาะปลูกของตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่า พวกเขามีส่วนได้ส่วนเสียในผลผลิตนั้นๆ อย่างไรก็ตาม เราไม่อนุญาตืให้พวกเขาขยายพื้นที่เพาะปลูกใหม่ของตัวเอง เฉพาะฝ่ายฟื้นฟูดินเท่านั้นถึงจะทำเช่นนั้นได้” โอหยางโชวอธิบายสั้นๆ “สำหรับพื้นที่เพาะปลูกที่ชาวไร่ชาวนาจะได้รับ เป็นสิ่งที่พวกเราต้องร่วมพิจารณาหารือกัน”
เจ้าเต๋อเสี้ยนพยักหน้าอย่างเข้าใจ
เมื่อได้ยินโอหยางโชวกล่าวจบ รักษาการหัวหน้าฝ่ายคลังวัสดุ เจ้าโหยวฟาง ก็ลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า “นายท่าน เราต้องรู้เกี่ยวกับอัตราภาษีของคนเลี้ยงสัตว์ และชาวประมงด้วยเช่นกัน”
“อย่างแรก ชาวประมง ชาวประมงมีการเก็บภาษี 2 แบบ คือ การเสียภาษีการขายปลาโดยตรงในตลาด เพื่อให้แน่ใจว่าการเก็บภาษีจะราบรื่น และไม่ติดปัญหา ปลาต้องขายที่แผงของส่วนกลาง อีกวิธีหนึ่ง คือ สามารถขายได้โดยตรงกับฝ่ายคลังวัสดุ ซึ่งจะถูกคิดภาษีตามภาษีธุรกิจ อย่างไรก็ตาม การค้าเล็กๆน้อยๆจะได้รับการเว้นภาษี”
โอหยางโชวรู้ว่าด้วยบทบัญญัติดังกล่าว ยังมีช่องว่าง และวิธีเลี่ยงภาษีที่เปิดกว้าง แต่เนื่องจากฝ่ายการเงิน ทั้งหัวหน้าฝ่ายและหนักงานยังใหม่กับงานอยู่ เขาจึงไม่ทำให้มันซับซ้อนจนเกินไป มิฉะนั้นอาจทำให้มันติดขัดได้
รอจนกระทั่งเจ้าโหยวฟางนั่งลง มู่ฉิงซีจึงลุกขึ้นยืน และกล่าวอย่างมีความสุขว่า “น้องสาวมีคำถาม ถ้าข้าซื้อร้านตัดเย็บมาเป็นของตัวเอง ข้อกำหนดของชุดเสื้อผ้า 1 ชุด ต่อ 1 คน ในสวัสดิการขั้นพื้นฐานจะเป็นอย่างไร? ถ้าข้ายังทำต่อ ข้าได้ได้รับค่าตอบแทนอย่างไร?”
“มี 2 วิธี สำหรับค่าตอบแทน วิธีแรก ดินแดนจะจัดส่งวัตถุดิบสำหรับตัดเย็บ ส่วนร้านตัดเย็บจะรับผิดชอบในการตัดเย็บเท่านั้น สำหรับเสื้อผ้าที่ทำขึ้น ดินแดนจะจ่ายให้สำหรับการทำงานของร้านตัดเย็บ”
“วิธีที่2 เจ้าสามารถซื้อผ้าด้วยตัวเอง เพื่อตัดเย็บเสื้อผ้า ดินแดนจะรับซื้อเสื้อผ้าที่เจ้าตัดเย็บในราคาตลาด”
หลังจากร้านค้าต่างๆเปิดตัว ประเภทของสินค้าในตลาดทุกประเภทจะผ่านการตรวจสอบ แน่นอน หลังจากการปฏิรูป สินค้าทางทหารบางอย่าง เช่น ลูกศร ชุดเกราะ ไม่สามารถผลิตได้โดยพลการ เฉพาะโรงผลิตอาวุธของรัฐเท่านั้น ที่สามารถผลิตสินค้าทางทหารได้
การอภิปรายเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี กินเวลานานเกือบชั่วโมงครึ่ง ในช่วงเวลานี้ ตัวแทนอุตสาหกรรมต่างๆ พูดถึงปัญหาในอุตสาหกรรมของตน โอหยางโชวตอบคำถามทั้งหมดของพวกเขา
ขุ่ยหยิงหยูนั่งอยู่ตรงนั้น เธอรู้สึกกดดัน เธอต้องเขียนคำถาม-คำตอบเหล่านี้ทั้งหมด จนเธอแทบไม่มีเวลาที่จะคิดเกี่ยวกับพวกมัน เธอทำได้เพียงเขียนคำตอบของโอหยางโชวลงไปเท่านั้น หลังจากเธอมีเวลา เธอจะจัดเรียงคำตอบที่เธอเขียนลงไปในรูปแบบของฝ่ายการเงิน ซึ่งเธอยังไม่ทราบว่าจะทำอะไรอย่างอื่นอีก
เมื่อปัญหาเรื่องธนาคาร และภาษีถูกจัดการ รายการที่เหลือก็ง่ายกว่ามาก โอหยางโชวกล่าวว่า “ในการพัฒนาระดับค่าจ้าง ระดับราคาสินค้า ข้าจะให้กรมการบริหารรับผิดชอบอย่างเต็มรูปแบบในการเตรียมรายละเอียด แล้วนำเสนอให้ข้าเห็นชอบ สำหรับร้านค้าประเภทต่างๆ และการกระจายสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ฝ่ายคลังวัสดุ และฝ่ายก่อสร้างจะรับผิดชอบ”
เมื่อคำสั่งเหล่านี้ ฟ่านจงหยาน เจ้าโหยวฟาง และเจ้าเต๋อเสียนพยักหน้าแสดงความเห็นด้วย และตอบรับคำสั่ง
“เราจะหารือเกี่ยวกับราคาร้านค้า และอสังหาริมทรัพย์ด้วย” โอหยางโชวกล่าวต่อ “สิ่งต่างๆที่พัฒนาขึ้น จะมีการปรับแผนการดำเนินงานในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะเกี่ยวกับที่ดินจำนวนมาก รวมถึงการรื้อถอนร้านค้าที่มีอยู่ ดังนั้น ก่อนที่เราจะกำหนดราคา เราจำเป็นต้องกำหนดสิทธิในอสังหาริมทรัพย์อย่างเข้มงวด นั่นคือ แม้ชาวบ้านจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ แต่ที่ดินก็ยังคงเป็นของรัฐ”
“ถ้าต้องการเป็นเจ้าของร้านค้า และอสังหาริมทรัพย์ พวกเขาต้องปฏิบัติตามคำตัดสินและยอมรับเงื่อนไขของรัฐ หากมีการรื้อถอน รัฐจะมีการสร้างร้านค้า หรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดเท่าเดิมให้ใหม่ในที่ตั้งใหม่ เป้นค่าตอบแทน”
“ดังนั้น ในขั้นตอนนี้ เราต้องประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ และร้านค้าต่างๆ โดยพวกเจ้าจะต้องไม่พิจารณาในการใช้ประโยชน์จากที่ดิน ตัวอย่างเช่น ร้านตัดเย็บ ใช้ไม้ 40 หน่วย หิน 20 หน่วย ควบคู่กับแรงงานที่จำเป็น ค่าใช้จ่าย คือ ผลรวมของค่าก่อสร้างทั้งหมด ในตลาดไม้หน่วยละ 20 เหรียญทองแดง หินหน่วยละ 30 เหรียญทองแดง ดังนั้น ค่าใช้จ่ายของวัสดุทำร้านตัดเย็บขั้นต้น คิดเป็นเงิน 1400 เหรียญทองแดง ค่าแรงจะถูกกำหนดโดยฝ่ายก่อสร้าง”
“ในความเห็นของข้า อสังหาริมทรัพย์ทั่วไปควรจะอยู่ในราคา 1.5 เท่าของต้นทุนการก่อสร้างสำหรับสิ่งก่อสร้างประเภทที่พักอาศัย และ 2 เท่า สำหรับร้านค้าธุรกิจ สำหรับการเช่าอาคารไม้ ให้ใช่อัตราค่าเช่า 1:200 เป็นค่าเช่ารายเดือน ซึ่งเท่ากับ 0.5% ของราคาสิ่งก่อสร้าง”
เมื่อโอหยางโชวพูดเสร็จ มูฉิงซีก็พึมพำอยู่ด้านข้าง “พี่ใหญ่หน้าเลือด ท่านคิดราคา 2 เท่า เพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือ?”
โอหยางโชวมองไปที่เธอ ขณะที่เขาอธิบาย “ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมถึงไม่คิดตามราคาต้นทุนการก่อสร้าง อย่างแรก เราต้องเคารพกฎของตลาด หากเราไม่คว้ากำไรไว้บ้าง มันจะเป็นการทำลายตลาด อุปทานยังคงต้องสมดุลกับต้นทุนการก่อสร้าง มิฉะนั้น ราคาที่ต่ำเกินไป จะทำให้มีผู้ซื้อจำนวนมากเกินไป”
“ตัวอย่างเช่น ที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก สามารถอยู่อาศัยได้ 20 คน หากราคาต่ำเกินไป ครอบครัว 3 คน ก็สามารถซื้อได้ ทันใดนั้นก็จะเกิดความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยในดินแดน ด้วยการปฏิรูปครั้งนี้ ความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีขึ้นอย่างมาก ดังนั้น ฝ่ายก่อสร้างจะต้องปรับตัวให้เข้ากับกฎของตลาด โดยมีความยืดหยุ่นในการปรับขนาด และจำนวนที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก และสิ่งก่อสร้างอื่นๆให้เหมาะสมกับผู้ซื้อ”
เจ้าเต๋อหวังลุกขึ้นและกล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว”
“การกำหนดราคาที่อยู่อาศัย การติดตามเรื่องการขาย และเงินที่ได้รับจากการดำเนินการเป็นความรับผิดชอบของกรมการบริหาร ทำเป็นรายได้ของดินแดน และฝากเข้าธนาคาร 4 สมุทร”
เมื่อมาถึงจุดนี้ การอภิปรายเกี่ยวกับการปฏิรูปดินแดนก็สิ้นสุดลง มีงานจำนวนมากรอให้หน่วยงานต่างๆจัดการ และส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน