ตอนที่แล้วTXV – 53 ศึกของผู้หญิง !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV – 55 ออกไปซะ !

TXV – 54 สโมสรกิตติมศักดิ์ !


TXV – 54 สโมสรกิตติมศักดิ์ !

 

          เซี่ยเหล่ยนั่งรถโดยสารไปยังโกลด์โคสต์และถึงที่บ้านของหลิวหยิงก่อนเวลาหนึ่งทุ่ม เขามีใบขับขี่แล้วแต่เขายังไม่กล้าที่จะขับรถบนถนนจริงๆ เจียงหยูยี่ยึดรถของเขาไว้และเธอใช้รถคันนั้นไปทำงานทุกวัน เมื่อรถน้ำมันหมดเธอจะขอเงินค่าน้ำมันจากเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจียงหยูยี่เป็นหนึ่งในความโชคร้ายของเขา….

 

          เซี่ยเหล่ยลงชื่อที่ยามหน้าประตูและเข้าสู่ย่านโกลด์โคสต์ มีสองสาวเดินผ่านเซี่ยเหล่ยและทั้งคู่ได้มองเซี่ยเหล่ยราวกับว่าพวกเธอจะกลืนกินเขาไปทั้งตัว เขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวผูกเน็คไทสีน้ำตาล กางเกงสูทสีดำและรองเท้าที่เงาแวววับ รูปร่างและหน้าตาที่หล่อเหลาบวกกับชุดของเขาทำให้เขาดูเป็นคนหล่อมากในค่ำคืนนี้

 

          เซี่ยเหล่ยเคาะประตูบ้านของหลิวหยิงและเธอถึงกับอึ้งเมื่อเห็นเขาหน้าประตู เธอยิ้มแล้วกล่าว “ว้าว !! เหล่ย คุณหล่อมากเลยในคืนนี้”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม “พี่หลิว คุณก็สวยมากเช่นกัน”

 

          หลิวหยิงอยู่ในชุดราตรีสีดำกระโปรงเธอผ่าข้างไม่สูงจนเกินไป ชุดของเธอเปิดแผ่นหลัง ผิวซีดที่งดงามสามารถมองเห็นได้จากข้างหน้าและข้างหลังไปพร้อมกัน ก้นที่อวบอิ่มและหน้าท้องที่แบนราบ ในคืนนี้เธอไม่เพียงแค่สวยเท่านั้น เธอยังเซ็กซี่อีกด้วย....

 

          การชมกลับไปของเซี่ยเหล่ยทำให้หลิวหยิงมั่นใจยิ่งขึ้น รอยยิ้มของเธอหวานหยดย้อยและมีเสน่ห์เต็มไปด้วยความน่าสนใจจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดออกมาได้

 

          “พี่หลิว ผมไม่รู้จักใครเลยในหมู่เพื่อนๆของคุณ คุณต้องนำนำพวกเขาให้ผมรู้จักด้วยเมื่อเราไปถึงที่นั้น” เซี่ยเหล่ยกล่าวพร้อมหัวเราะออกมา

 

          หลิวหยิงจับไหล่เซี่ยเหล่ยเบาๆ “ไม่ต้องห่วง ฉันจะแนะนำเพื่อนๆบางคนให้รู้จักคุณเอง สิ่งเหล่านี้จะสามารถช่วยในหน้าที่การงานของคุณด้วย”

 

          “ขอบคุณครับ” เซี่ยเหล่ยกล่าว มันเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาต้องการที่จะไปร่วมงานเลี้ยงกับหลิวหยิง เขาต้องการสร้างเส้นสายลูกค้าของตัวเขาเองและงานเลี้ยงในคืนนี้เป็นอีกหนึ่งหนทางของเขา.....

 

          “ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ เราไปเอารถดีกว่า” หลิวหยิงเดินไปยังห้องเก็บรถ

 

          ไม่กี่นาทีต่อมา รถออดิ คิวเซเวนก็ได้ขับออกจากประตูของย่านโกลด์โคสต์และมุ่งหน้าไปยังชายทะเล พวกเขากำลังไปยังสถานที่ส่วนตัวที่ถูกเรียกว่า สโมสรกิตติมศักดิ์

 

          ผู้คนที่เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรส่วนใหญ่เป็นคนรวยและมีชื่อเสียงกันทุกคนและที่สำคัญทุกคนล้วนเป็นคนสำคัญแห่งเมืองห่ายจู......

 

          “พี่หลิว คุณพบคนที่น่าสงสัยที่อยู่รอบๆตัวคุณบ้างรึยัง ?” เซี่ยเหล่ยถามขณะที่รถกำลังขึ้นทางหลัก

 

          หลิวหยิงส่ายหัวพร้อมพูดว่า “หลังจากที่คุณเตือนฉันเมื่อคืน ฉันก็ได้สังเกตคนรอบๆตัวฉันขณะที่อยู่ในบริษัทวันนี้แต่... ฉันไม่มีประสบการณ์ในการทำอะไรแบบนี้ฉันไม่มีทางรู้เลยตัวเลย แม้ว่าคนๆนั้นจะเดินไปเดินมารอบๆตัวฉันก็ตาม”

 

          “ถ้าคนที่ส่งโจรมาเป็นคนใกล้ตัวละก็ ตอนนี้เขาคงจะอยู่แบบเงียบๆไปสักพัก มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะไม่เจออะไรเลย ตอนนี้คุณจะต้องระมัดระวังตัวไปก่อนเพื่อไม่ให้ผู้ร้ายมีโอกาศลงมืออีก !”

 

          “อืม...” หลิวหยิงพยักหน้า จากนั้นจึงยิ้มให้เซี่ยเหล่ย “ฉันไม่กังวลและไม่กลัวเมื่อมีคุณอยู่ข้างๆ ฉันไม่เคยมีปัญหาแบบนี้เมื่อสามีของฉันอยู่ เห้อ.. ตอนนี้มีแค่ฉันกับลูก บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าเหนื่อยมากๆ”

 

          “ไม่ต้องห่วง ถ้าคุณต้องการให้ผมทำอะไรให้ คุณก็แค่บอกผมมา” เซี่ยเหล่ยพยายามปลอบใจเธอ

 

          รถออดิ คิวเซเวนออกจากถนนหลักในขณะที่พวกเขาพูดคุยกันและมุ่งหน้าไปยังทะเล พวกเขาขับจนถึงสโมสรกิตติมศักดิ์  มันตั้งอยู่บนคาบสมุทรเล็กๆล้อมรอบไปด้วยทะเลทั้งสามด้าน อาคารหลักตั้งอยู่บนเนินเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 300 เมตร มันตั้งอยู่อย่างโดดเด่นสามารถมองเห็นได้จากที่ไกลๆ กำแพงอิฐสีแดง ทำให้นึกถึงวังของจักรพรรดิโบราณ

 

          “นั้นคือสโมสรกิตติมศักดิ์และที่ดินตรงนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของกู๋ยี่ซาน ” หลิวหยิงบอกเรื่องนี้กับเซี่ยเหล่ยในขณะที่เธอขับรถขึ้นเขา....

 

          กู๋ยี่ซานเป็นใคร?” เซี่ยเหล่ยไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย....

 

          “คุณไม่รู้จริงๆหรอ ?” หลิวหยิงแปลกใจ “ตระกูลกู๋ เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงพอๆกับตระกูลเฉินตู พวกเขายังเป็นคู่แข่งในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย”

 

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะด้วยความเขินอาย “ผมก็แค่ผู้น้อย เรื่องแบบนั้นผมจะไปรู้ได้ยังไง ? ตอนนี้ผมก็กำลังยืมแสงสว่าของคุณเพื่อมองโลกภายนอกที่ผมไม่เคยรู้จัก ผมพูดตรงๆเลยว่า ถึงแม้ผมจะเกิดและโตที่นี่ มันเป็นครั้งแรกที่ผมมางานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้”

 

          หลิวหยิงดึงมือขวาออกจากคันเกียร์และวางมือบนต้นขาของเซี่ยเหล่ย เธอวางมือไว้แบบนั้นไม่ขยับไปไหน....

 

          เซี่ยเหล่ยเริ่มรู้สึกเป็นกังวลและอึดอัดใจ เขาไม่รู้เลยว่าทำไมเขาถึงพูดออกไปแบบนั้นเพื่อเรียกร้องความเห็นอกเห็นใจจากเธอ ? เธอไม่ได้พูดอะไรกลับมาแต่วางมือบนต้นขาของเขา ?

 

          หลิวหยิงนำมือของเธอออกจากต้นขาเซี่ยเหล่ยและหัวเราะ “เหล่ย อย่าดูถูกตัวเองเลย คุณฉลาดและมีความกล้า ใครจะไปรู้ว่าอีกไม่กี่ปีหรือสิบปีต่อมา คุณอาจจะมีบริษัทและสโมสรส่วนตัวเป็นของตัวเองก็เป็นได้”

 

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “แค่ฝันถึงผมยังไม่กล้าเลย ผมแค่ต้องการชีวิตที่ดีกว่านี้ ผมอยากให้ชีวิตน้องสาวของผมสุขสบายแค่นั้นเอง”

 

          “คุณมีแฟนหรือยัง?”

 

          “ยังไม่มี” เซี่ยเหล่ยตอบกลับไป ทันใดนั้นใบหน้าของเฉินตู เทียนหยินปรากฏอยู่ในหัวของเขา เธอช่างงดงามและสูงส่งเหลือเกิน......

 

          หลังจากนั้นหลิวหยิงก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีกเลยหลังจากที่เธอได้คำตอบ เธอกำลังใช้สมาธิกับการขับรถ

 

          รถออดิ คิวเซเวนพุ่งขึ้นเขาและมุ่งสู่ที่จอดรถ ในที่จอดรถเต็มไปด้วยรถราคาแพงเช่น เฟอร์รารี่ บูคาติ เบนท์ลีย์ โรลลอยด์แพนทอมด์ เบนซ์ บีเอ็มดับบลิว  รถของหลิวหยิงเป็นออดิ คิวเซเวนเป็นรถราคาถูกไปเลยเมื่อเทียบกับรถคันอื่นๆ

 

          เมื่อเซี่ยเหล่ยเห็นรถราคาแพงเรียงรายเต็มไปหมด มันทำให้เขารู้สึกอายไปเลย ‘ ถ้าเราขับรถของเราเขามาในนี้ พวกเขาคงไม่เปิดประตูให้เราเข้ามาหรอก ’

 

          “ไปกันเถอะ !” หลิวหยิงลงจากรถ

 

          เซี่ยเหล่ยลงจากรถเช่นกันและเดินตามหลิวหยิงเข้าไปยังห้องหนึ่ง !

 

          พรมสีแดงถูกปูทางนำไปยังทางเข้าห้องโถงใหญ่ ทางซ้ายของพรมแดงมีชายหนุ่มที่หล่อเหลายืนเรียงแถวตามพรมและทางขวาของพรมแดงมีหญิงสาวหน้าตาน่ารักยืนเรียงแถวตามพรมเช่นกัน เขาไม่เคยมายังสถานที่แบบนี้ เมื่อเห็นทางเข้าแล้วทำให้เขารู้สึกกังวลในทันที !

 

          หลิวหยิงควงแขนเซี่ยเหล่ยอย่างหลวมๆและเดินเข้ามาใกล้ๆเขา และกล่าวอย่างนุ่มนวลว่า “ฉันก็เคยกังวลเหมือนกันตอนที่มาที่นี่ครั้งแรก มันไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล ฉันอยู่ข้างคุณ !”

 

          เซี่ยเหล่ยรู้สึกดีขึ้นจากนั้นเขาพยักหน้าเล็กน้อย เขาเดินไปยังห้องโถงพร้อมกับหลิวหยิง.....

 

          ห้องโถงเป็นห้องที่กว้างมากและสร้างขึ้นในรูปแบบโบราณ โต๊ะและเก้าอี้ทำมาจากไม้ซีดาร์จีนเคลือบทอง ความแวววาวของทองทำให้มันดูเป็นสิ่งล้ำค่า ไม้ซีดาร์จีนเคลือบทองเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในสือฉวนเท่านั้นไม่มีที่ไหนอีกในโลกอีกแล้ว มันมีมูลค่ามหาศาล ในสมัยก่อนมีเพียงจักรพรรดิเท่านั้นที่จะสามารถใช้เฟอร์นิเจอร์จากไม้ซีดาร์จีนเคลือบทองได้ เฟอร์นิเจอร์ทุกๆชิ้นทำมาจากไม้ซีดาร์จีนเคลือบทองทั้งหมด มันให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในพระราชวังและทำให้รู้เลยว่าผู้จัดงานให้เกียรติแก่แขกของงานมากขนาดไหน.....

 

          มีแขกอยู่จำนวนหนึ่งในห้องโถง มีการพูดคุยกัน บางคนก็ดื่มไวน์ งานปาร์ตี้ดูมีชีวิตชีวาและเงียบสงบในเวลาเดียวกัน เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ทำให้การคุยกันจึงเป็นการคุยแบบเงียบๆ การคุยเรื่องธุระกิจจึงเป็นเรื่องลับๆเช่นกัน ทำให้คนอื่นไม่สามารถรู้เลยว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกันและทุกๆธุระกิจมีผลกระทบต่อสภาวะเศรฐกิจเป็นอย่างมาก.....

 

          เซี่ยเหล่ยรีบหาคนรู้จักในห้องโถงนี้อย่างรวดเร็ว เขาเจอกลุ่มคนหน้าคุ้นๆอยู่สามคนคือหนิงเหยี่ยซาน เหยี่ยนเหวินเฉียนและหนิงจิง เมื่อเขาเจอทั้งสามคน พวกเขากำลังคุยกันเบาๆที่มุมของห้องและบรรยากาศรอบๆดูกลมกลืนอย่างมาก

 

          “คุณเจอคนรู้จักหรอ?” หลิวหยิงถามเบาๆ

 

          “ใช่ อยู่ตรงนั้น !” เซี่ยเหล่ยชี้ไป “เห็นพวกเขาไหม? ประธานของบูรพาอุตสาหกรรมหนิงเหยี่ยซานและหลานของเขาหนิงจิง ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเธอคือเหยี่ยนเหวินเฉียนเขาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเฉินตู พวกเขาบอกว่าเหยี่ยนเหวินเฉียนเป็นคนดูแลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมของตระกูลเฉินตู”

 

          “ฉันรู้จักหนิงเหยี่ยซานแต่ไม่รู้จักสองคนนั้นที่คุณพูดออกมา เหยี่ยนเหวินเฉียน เป็นคนดูแลโครงการใหญ่โตตั้งแต่หนุ่มๆเลยสินะ  เขายังอายุน้อยอยู่เลยอนาคตของเขาต้องสดใสอย่างแน่นอน”

 

          “พี่หลิว คุณต้องการไปตรงโน้นเพื่อพูดคุยกับหนิงเหยี่ยซานไหม ?” เซี่ยเหล่ยถาม

 

          “ไม่ ! ฉันไม่อยากคุย ตอนนี้ฉันร่วมงานกับคุณแล้วดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปคุยกับเขา” หลิวหยิงกล่าว “เขาเป็นประธานของบริษัทยักษ์ใหญ่และฉันก็แค่เจ้าของธุระกิจเล็กๆดังนั้นเราจึงไม่มีอะไรจะคุยกัน การค้าขายเล็กๆน้อยๆของฉันไม่ระแคะระคายบริษัทใหญ่ๆแบบนั้นอยู่แล้ว”

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “จริงๆแล้วผมก็ไม่อยากไปที่นั่นเหมือนกัน ผมไม่ค่อยถูกชะตากับเหยี่ยนเหวินเฉียน

 

          “เอ๊ะ ? ทำไมหรอ ?” หลิวหยิงสงสัย

 

          ก่อนที่เซี่ยเหล่ยจะพูดถึงเรื่องนั้น ชายวัยกลางคนได้เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วไวน์สามแก้วเขายิ้ม “ผู้บริหารหลิว ผมกำลังมองหาคุณอยู่เลยไม่คิดว่าคุณก็มางานนี้เหมือนกัน” หลังจากที่เขาพูดจบ เขายื่นแก้วไวน์แก่หลิวหยิงและอีกแก้วแก่เซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยพยักหน้าในน้ำใจของเขา “ขอบคุณครับ”

 

          หลิวหยิงกล่าว “เหล่ย ขอแนะนำให้รู้จัก คุณหลินบู่เหวิน ผู้จัดการของฝ่ายวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์กีฬาของบริษัทไนท์มูฟ”

 

          เซี่ยเหล่ยยื่นมือออกไปจับมือ “คุณหลิน ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

 

          หลินบู่เหวินยิ้มและกล่าว “คุณไม่จำเป็นต้องแนะนำตัว ผมรู้จักคุณอยู่แล้ว ผู้ผลิตชิ้นส่วนของบริษัทเรา เซี่ยเหล่ย” เขาจับมือกับเซี่ยเหล่ยและพูดว่า “ยินดีที่ได้พบคุณ”

 

          เซี่ยเหล่ยเริ่มสงสัย เขาคิดว่า ‘ คนอย่างหลิวหยิงคือคนที่มีฐานะที่ต่ำที่สุดของงาน เขาเป็นเพียงแค่ผู้จัดการแล้วทำไมถึงได้รับคำเชิญจากงานเลี้ยงระดับสูงเช่นนี้ ? ’

 

          พวกเขาทั้งสามคนชนแก้วและจิบไวน์เล็กน้อย....

 

          ดูเหมือนว่าหลิวหยิงจะมีความคิดเหมือนกับเซี่ยเหล่ย เธอมองไปยังหลินบู่เหวินและถามว่า “บู่เหวิน คุณมาทำอะไรที่นี่ ?”

 

          “ผมมากับน้องสาว เธอเป็นเพื่อนสนิทกับท่านหญิงลำดับที่สองของตระกูลกู๋  งานนี้ถูกจัดโดยกู๋เค่อเหวิน ดังนั้น.... ฮิฮิ ผมแค่อาศัยสิทธิพิเศษของน้องสาวเข้างานมาแค่นั้นแหละ” หลินบู่เหวินกล่าว

 

          “อ่อ...เป็นแบบนี้นี่เอง” หลิวหยิงกล่าว “กู๋ยี่ชางมีลูกสาวสองคน กู๋เค่อหวู่และกู๋เค่อเหวิน ทั้งคู่เป็นผู้หญิงที่เก่งมากๆ ฉันกลัวว่าคนที่จะสู้สองพี่น้องในโลกธุระกิจนี้ได้คงมีแต่เฉินตู เทียนหยินเท่านั้น   ”

 

          “พวกเขาทั้งคู่ขาที่เป็นคนเก่งมากๆ มีประสบการณ์และเปี่ยมไปด้วยแผนการณ์” หลินบู่เหวินกล่าวต่อว่า “ผู้บริหารหลิว คุณเซี่ย ผมขอตัวก่อน ต้องไปหาน้องสาวก่อน”

 

          “อือ.... ตามสบายเลย” หลิวหยิงกล่าว

 

          เซี่ยเหล่ยดูเขาเดินจากไปและถาม “น้องสาวเขาเป็นใครหรอ พี่หลิว?”

 

          หลิวหยิงยิ้ม “ทำไมคุณถึงสนใจน้องสาวเขา ?”

 

          เซี่ยเหล่ยเขินอายและพูดว่า “พี่หลิว อย่าแกล้งผมสิผมยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย แล้วผมจะสนใจเธอได้ยังไง?”

 

          “แล้วคุณถามทำไม?”

 

          “ผมแค่สงสัย ลองคิดดูนะ ถ้าน้องสาวของเขาเป็นเพื่อนสนิทกับลูกสาวลำดับที่สองของตระกูลกู๋ เขาสามารถใช้เส้นสายเพื่อให้ได้ตำแหน่งดีๆในตระกูลกู๋ แล้วทำไมเขายังอยู่ในบริษัทของคุณล่ะ ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “คุณ... คุณสงสัยเขาหรอ?” หลิวหยิงคิดได้ว่ากรณีนี้มีความเป็นไปได้...

 

          เซี่ยเหล่ยส่ายหน้า “เปล่า ผมแค่สงสัย ผมเป็นคนนอกและผมก็ไม่มีหลักฐานใดๆ ผมจะไปสงสัยในตัวผู้จัดการของฝ่ายวิจัยและพัฒนาได้ยังไงล่ะ ?”

 

          หลิวหยิงเงียบไปสักครู่ก่อนที่เธอจะกล่าว “น้องสาวของเขาคือหลินหย่าหยู่ เราเคยพบกันครั้งหนึงแต่ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ ฉันรู้มาว่าเธอรู้จักคนเยอะมากและเธอรู้จักคนหลากหลายวงการอีกด้วย

 

          “เป็นแบบนี้นี่เอง” เซี่ยเหล่ยไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่ม...

 

          ตอนนั้นเองหนิงจิงก็เริ่มที่จะเดินไปเข้ามาหาเซี่ยเหล่ย และเธอมองตรงไปที่เซี่ยเหล่ย เธอจ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา......

 

          เซี่ยเหล่ยกำลังโอดครวญอยู่ในใจเพราะว่าเมื่อหนิงจิงเห็นเขา เหยี่ยนเหวินเฉียนก็น่าจะเห็นเขาด้วยเช่นกัน เหยี่ยนเหวินเฉียนจ้องมองเขาเหมือนกับมีดที่กำลังทิ่มแทงตัวเขา.....

 

          ติดตามตอนต่อไป....

 

         

         

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด