TWO Chapter 32 อาคารรับสมัครงาน
TWO Chapter 32 อาคารรับสมัครงาน
อาคารรับสมัครงาน ตั้งอยู่ในเขตการศึกษาและวัฒนธรรม ติดกับโรงเรียน
ชื่อ : อาคารรับสมัครงาน
ประเภท : สิ่งก่อสร้างขั้นซ่อนเร้น
ฟังก์ชั่น : สุ่มรับสมัคร ผู้มีความสามารถพิเศษทุกๆเดือน
สุ่มรับสมัครผู้มีความสามารถพิเศษในประวัติศาสตร์ทุกๆปี
คุณสมบัติ : ดึงดูดผู้มีความสามารถพิเศษ เพิ่มขึ้น 20 %
ชื่อเสียงของดินแดนเพิ่มขึ้น 5%
คำอธิบาย : นี่คือสถานที่จ้างงานที่ได้รับการออกแบบมาพิเศษ การสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษ จะใช้เงิน 10 เหรียญทอง และการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษในประวัติศาสตร์ จะใช้เงิน 100 เหรียญทอง
มันช่างสมกับที่ถูกเรียกว่าสิ่งก่อสร้างขั้นซ่อนเร้น มันเปรียบได้กับอาวุธของพระเจ้า คุณสมบัติของมันอธิบายง่ายๆ แต่ยอดเยี่ยม ทำหน้าที่เหมือนหินแรงโน้มถ่วง คอยดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษมาสู่ดินแดน
อัตราการดึงดูดผู้มีความสามารถพิเศษ เพิ่มขึ้น 20% : นี่เทียบได้กับเหรียญการสร้างหมู่บ้านระดับทอง ของหมู่บ้านซานไห่ ความสามารถในการดึงดูดผู้มีความสามารถพิเศษ เพิ่มขึ้นเป็น 40%
ชื่อเสียงของดินแดนเพิ่มขึ้น 5% : นี่เป็นคุณสมบัติที่หายาก ในปัจจุบันมีเพียงสิ่งก่อสร้างขั้นซ่อนเร้นอย่างวัดหม่าโจ้วเท่านั้นถึงจะมี แม้แต่เหรียญการสร้างหมู่บ้านระดับทองก็ยังไม่มีคุณสมบัตินี้
สิ่งที่ดีที่สุด คือ การสรรหา เป็นสิ่งที่ทั้งรักและเกลียด รักเพราะมันง่ายต่อการสรรหาผู้มีความสามารถพิเศษ โดยเฉพาะการสรรหาผู้มีความสามารถพิเศษในประวัติศาสตร์ เกลียดเพราะค่าใช้จ่ายในการรักสมัครนั้นสูงมาก
เหรียญทองเป็นของที่มีค่า และการใช้มันแต่ละครั้งทำให้เขารู้สึกขมขื่น แม้แต่กับโอหยางโชวที่โชคดีมาก และ 6 ทรราชย์แห่งหานตานที่มีกำลังทรัพย์มาก แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีทองจนล้นมือ
ถ้าเขาไม่ได้รับเงิน 600 เหรียญทอง เป็นรางวัล โอหยางโชวคงยังไม่ได้ใช้อาคารรับสมัครงาน
เขายอมสูญเสียโอกาศสรรหาผู้มีความสามารถพิเศษ มากกว่าสูญเสียเหรียญทองอันมีค่าที่มีอยู่อย่างน้อยนิด
ดูจากภายนอก อาคารรับสมัครงานเป็นอาคารไม้ธรรมดา ไม่มีภาพแกะสลักบนผนัง หรือใช้ไม้เนื้อดีในการก่อสร้าง ความแตกต่างจากสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปก็คือ ฝือมือช่างก่อสร้างประณีตกว่าช่างก่อสร้างในหมู่บ้าน
เขาเปิดประตูอาคาร มีภาพของนักปราชญ์โบราณ 12 ภาพ แขวนอยู่บนผนังรอบตัวเขา มีกระทั่งนักบุญที่เกี่ยวข้องกับขงจื้อ
มีที่ประทับตราถัดจากป้ายไม้ โอหยางโชววางมือของเขาลงบนที่ประทับตรานั้น เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบ
“แจ้งเตือนระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ ในการเปิดอาคารรับสมัครงาน นี่เป็นครั้งแรกที่เปิดอาคารรับสมัครงาน ดังนั้น คุณจะได้รับสิทธ์ในการสรรหาผู้มีความสามารถพิเศษ และผู้มีความสามารถพิเศษในประวัติศาสตร์ คุณต้องการรับสมัครหรือไม่?”
“รับสมัครผู้มีความสามารถพิเศษ”
“แจ้งเตือนระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ ในการสรรหาผู้มีความสามารถพิเศษ - การสรรหาเสร็จสิ้น คนหมักเหล้าขั้นสูง เงิน 10 เหรียญทอง จะถูกหักออกไปโดยอัตโนมัติ”
แสงสีขาวกระพริบ และมีชายวัยกลางคนเดินออกมา เมื่อเห็นโอหยางโชว เขาก็คำนับลอร์ดของเขาด้วยความเคารพ และกล่าวว่า “บุรุษแซ่ตู่คำนับนายท่าน”
“มาสเตอร์ตู่เชิญ” โอหยางโชวเชิญมาสเตอร์ตู่ไปไว้ด้านข้างก่อนจะวางมือลงบนตราประทับอีกครั้ง
“แจ้งเตือนระบบ : คุณยังมีสิทธิ์ที่จะได้รับผู้มีความสามารถพิเศษในประวัติศาสตร์ คุณต้องการรับสมัครหรือไม่?”
“รับสมัคร!”
“แจ้งเตือนระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ ในการสรรหาผู้มีความสามารถพิเศษในประวัติศาสตร์ - การสรรหาเสร็จสิ้น ฟ่านจงหยาน(ระดับกษัตริย์) เงิน 100 เหรียญทอง จะถูกหักออกไปโดยอัตโนมัติ”
แสงสีขาวกระพริบอีกครั้ง และนักวิชาการวัยกลางคนก็เดินออกมา “ฟ่านจงหยานคำนับนายท่าน” เขากล่าวทักทายทันที
โอหยางโชวรีบก้าวออกไปข้างหน้า มือของเขาประคองชายวัยกลางคนขึ้น และกล่าวด้วยความจริงใจ “ดีจริงๆที่เป็นท่าน”
โอหยางโชวพวกเขาออกจากอาคารรับสมัครงาน และตรวจสอบสถานะของฟ่านจงหยาน
ชื่อ : ฟ่านจงหยาน[Fan Zhongyan](ระดับกษัตริย์)
ฉายา : ยอดนักวิชาการ
ราชวงศ์ : ราชวงศ์ซ่งเหนือ
อัตลักษณ์ : ชาวบ้านซานไห่
อาชีพ : ข้าราชการพลเรือน
ความจงรักภักดี : 75
ความเป็นผู้นำ : 45
กำลัง : 30
สติปัญญา : 75
การเมือง : 80
คุณสมบัติ : ความชอบธรรมที่น่ากลัว(ความมั่นคงของดินแดน เพิ่มขึ้น 40%)
ความกังวลเกี่ยวกับดินแดน(ประสิทธิภาพของดินแดน เพิ่มขึ้น 20%)
การประเมิน : ราชวงศ์ซ่งเหนือเป็นที่รู้จักในเรื่องของ นักคิด นักการเมือง นักวางกลยุทธ์ทางทหาร นักเขียน วัฒนธรรมที่งดงาม และอัจฉริยะซีอาน(Xian)
กลับมาที่คฤหาสน์ของลอร์ด โอหยางโชวเรียกเอ่อหว้าฉี บอกให้เขาไปหาหัวหน้าฝ่ายต่างๆ และเชิญพวกเขาไปที่ห้องโถงประชุม จากนั้นเขาก็นำฟ่านจงหยานเข้าไปที่ห้องโถงประชุมด้วย
ฟ่านจงหยานมีความรู้ในด้านวรรณกรรมอยู่ในระดับสูง แม้แต่ในเวลาพูดคุยกับเขา โอหยางโชวรู้สึกได้ว่าความรู้ทางประวัติศาสตร์ของเขายังไม่สูงพอ เขาเลือกที่จะเงียบและเป็นผู้ฟังที่ดี
ในเวลาไม่ถึง 20 นาที หัวหน้าฝ่ายต่างๆก็มาถึง มู่ฉิงซีตามขุยหยิงหยูมาด้วย โอหยางโชวเปิดการประชุม เขากล่าวว่า “สงครามเพื่อปกป้องหมู่บ้านสิ้นสุดลงแล้ว และข้ารู้ว่าพวกเจ้ายุ่งมาก เพื่อไม่ให้เสียเวลาของทุกคน ข้าจะย่อเรื่องให้สั้นลง”
เขามองไปที่ฟ่านจงหยาน “เชิญท่านนั่งถัดจากข้า ท่านผู้นี้ คือ ฟ่านจงหยาน เป็นผู้มีความรู้กว้างขวาง ขอให้ทุกคนต้อนรับเขาและทำความรู้จักกันไว้”
ทุกคนทักทายเขาอย่างเป็นธรรมชาติ หัวหน้าฝ่ายต่างๆมีความเคารพอย่างยิ่งต่อนักวิชาการที่มีความสามารถ นอกจากกู่ซิวเหวินและขุ่ยหยิงหยูแล้ว คนอื่นๆเดิมเป็นเพียงชาวไร่ชาวนาเท่านั้น แม้แต่เจ้าเต๋อเสี้ยนที่เป็นผู้ที่มีความสามารถ เขาก็ยังรู้จักตัวอักษรเพียงไม่กี่คำ
“ข้าได้ตัดสินใจที่จะจัดตั้งกรมการบริหาร เพื่อรับผิดชอบหน้าที่ของรัฐในดินแดน ฝ่ายสำรองวัสดุจะยังคงดำเนินงานได้อย่างอิสระ ฝ่ายก่อสร้าง ฝ่ายฟื้นฟูดิน ฝ่ายนาเกลือ และสำนักทะเบียน จะย้ายเข้าไปอยู่ภายใต้กรมการบริหาร”
“ข้าแต่งตั้งให้ท่านฟ่านจงหยานเป็นเจ้ากรมการบริหาร จัดการกิจการประจำวันของดินแดน และแต่งตั้งเขาเป็นผู้นำข้าราชการพลเรือน ในเวลาเดียวกัน ข้ายังแต่งตั้งเขาเป็นหัวหน้าฝ่ายนาเกลืออีกด้วย”
ฟ่านจงหยานมีประสบการณ์การจัดการนาเกลือในอดีต ดังนั้น โอหยางโชวมั่นใจว่าเขาสามารถจัดการฝ่ายนาเกลือได้ หลังจากนี้เขาจะไม่สามารถออกจากดินแดนได้สะดวกนัก นาเกลือขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้านนอกดินแดน เขาไม่สามารถจัดการกับนาเกลือได้เอง
ฟ่านจงหยานลุกขึ้น “จงหยานขอบคุณนายท่าน สำหรับความไว้วางใจของท่าน ข้าจะไม้ทำให้ท่านผิดหวัง”
“กู่ซิวเหวิน ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมการบริการ หน้าที่หลักของเจ้า คือ ช่วยเจ้ากรมการบริหารจัดการกิจการประจำวันของดินแดน และให้เจ้ายังคงดูแลสำนักทะเบียนดังเดิม” โอหยางโชวกล่าวต่อไป
การเตรียมการของเขาเป็นไปด้วยดี เขาหวังว่ากู่ซิวเหวินจะเรียนรู้จากฟ่านจงหยาน เกี่ยวกับความสามารถและประสบการณ์ในการจัดการกิจการของรัฐ
“รักษาการหัวหน้าฝ่ายก่อสร้าง เจ้าเต๋อหวัง ในการต่อสู้เพื่อปกป้องหมู่บ้านของเรา ท่านมีผลงานที่โดดเด่น ดังนั้น ข้าจะแต่งตั้งท่านเป็นหัวหน้าฝ่ายก่อสร้างอย่างเป็นทางการ”
เจ้าเต๋อหวังแสดงความขอบคุณเขาอย่างสุดซึ้ง ในที่สุดเขาก็ได้เป็นหัวหน้าฝ่ายที่เขาดูแลอยู่
“สำหรับบุคลากรคนอื่นๆ ข้าจะจัดการให้เหมาะสม ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนจะช่วยเจ้ากรมคนใหม่ทำงานอย่างขยันของแข็ง ข้าตระหนักถึงการดำเนินการของพวกเจ้า และผู้ที่ทำดี ข้าไม่เหน็ดเหนื่อยที่จะมอบรางวัลแก่พวกเจ้าอย่างแน่นอน”
มู่ฉิงซีนั่งอยู่ด้านหลังขุ่ยหยิงหยู ขณะดูโอหยางโชวออกคำสั่ง เธอเอนตัวไปข้างหน้า และกระซิบกับขุ่ยหยิงหยูว่า “พี่ใหญ่ดูหล่อมากเวลาจัดการงานของรัฐ”
ขุ่ยหยิงหยูน่าแดงโดยไม่ตั้งใจ เธอชำเลืองมองโอหยางโชว หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น และร่องรอยเขินอายปรากฎขึ้นบนแก้มของเธอ เพื่อปกปิดความอับอาย เธอจึงหันมาหา และตีที่ศีรษะของมู่ฉิงซี เธอกล่าวว่า “น้องสาวคนนี้หนิ พี่สาวของเจ้าพาเจ้ามาที่นี่เพื่อให้คุ้นเคยกับงานบริหาร ไม่ใช่ให้มาพูดถึงรูปลักษณ์ของพี่ใหญ่เช่นนี้ เจ้าซนเกินไปแล้วนะ”
ขุ่ยหยิงหยูรู้ว่ามู่ฉิงซียังเด็กอยู่ เธอฉลาดและจริงจังกับงาน เธอต้องการปลูกฝังให้มู่ฉิงซีเข้าสู้ระบบราชการ เพื่อให้มู่ฉิงซีมาเป็นผู้ช่วยของเธอ ดูแลฝ่ายคลังวัสดุในอนาคต เธอไม่คิดว่าน้องสาวคนนี้จะไม่สนใจในทางนี้เลย
“งานบริหารน่าเบื่อออก ข้าไม่ชอบมัน ข้าแค่ต้องการเป็นช่างตัดเสื้อตัวเล็กๆเท่านั้น แฮ่ะ! แฮ่ะ!” นี่เป็นหัวใจที่บริสุทธิ์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเธอถึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในฐานะช่างตัดเย็บ
ขุ่ยหยิงหยูเงียบเพื่อได้ยินสิ่งที่เธอกล่าว แผนการฝึกอบรมข้าราชการพลเรือนของเธอล้มเหลวก่อนที่จะเริ่มด้วยซ้ำ
โอหยางโชวสังเกตเห็นพวกเธอ เขามองไปที่พวกเธออย่างเย็นชา มู่ฉิงซีเห็นดังนั้น รีบเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นสุภาพสตรี กลับไปนั่งนิ่งๆ อย่างเชื่อฟัง มองเข้าไปในดวงตามของเธอเห็นพวกดวงตาที่บริสุทธิ์อยู่ข้างในนั้น
เขายิ้มเล็กน้อยและกลับไปกล่าวต่อ “การประชุมสิ้นสุดลงเท่านี้ พวกเจ้าแยกย้ายไปทำงานได้ เร่งทำความสะอาดหลังสงครามให้เรียบร้อยด้วย”
“พรุ่งนี้เช้า หมู่บ้านซานไห่จะมีประชากรเต็มจำนวนที่จำกัด นั่นหมายความว่า พรุ่งนี้หมู่บ้านซานไห่ของเราจะอัพเกรดเป็นหมู่บ้านระดับ 3 หลังจากอัพเกรดเป็นหมู่บ้านระดับ 3 แล้ว เราจะมีสิ่งที่ต้องทำมากมาย ดังนั้น พวกเจ้าต้องจัดการงานของพวกเจ้าทันที ห้ามทิ้งไว้ทีหลัง”
ทุกคนลุกขึ้นคำนับและรีบออกไป
โอหยางโชวเรียกกูซิวเหวินและอธิบายให้เขาฟัง ให้เขาพาฟ่านจงหยานไปดูรอบๆดินแดน เพื่อให้เขาเข้าใจสถานการณ์ของดินแดนเรา และช่วยให้ฟ่านจงหยานเข้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวซานไห่ นอกจากนี้เขายังจัดที่อยู่ชั่วคราวให้กับฟ่านจงหยานที่ปีกตะวันตกของคฤหาสน์
โอหยางโชวมอบคนหมักเหล้าขั้นสูง ‘ตู่ชุน(Du Chun)’ ให้กูซิวเหวินดูแล
หลังจากนั้น โอหยางโชวก็กลับไปที่สำนักงานของเขา ตอนนี้ดินแดนของเขามีฟ่านจงหนานและขุนพลซี 2 ผู้มีความสามารถพิเศษสำคัญสำหรับการบริหารและกองทัพ
หลังจากเควสการรุกรานของสัตว์ร้าย ชื่อของหมู่บ้านซานไห่ก็ได้ก้าวสู่ระดับโลก ในการดำเนินงานในอนาคตของเขา เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับผลประโยชน์ตามต้องการ เขาจะต้องวางแผนการอย่างรอบคอบ