ตอนที่แล้วChapter 29: เธอนั้นจมไปกับความอยากรู้อยากเห็นนั่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 31: ผู้นำที่ลึกลับ

Chapter 30: อนาคตนั้นจะไม่สามารถที่จะรู้ได้


“ก๊อง! ก๊อง!”

 

เหวินลู่เคาะไปที่ประตู เธอสงสัยกับสภาพภายในเป็นอย่างมาก หน้าต่างและประตูนั้นเสริมด้วยกระจกติดฟิล์ม แม้ว่าเธอจะเอาหน้าไปแนบชิดกับกระจก เธอก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นสภาพภายในรถจากข้องนอกได้ เมื่อได้ยินเหวินเซี่ยวเทียนอธิบายเกี่ยวกับมัน เหวินลู่นั้นสนใจในรถมินิบัสค่อนข้างมาก เมื่อมองจากข้างนอก มันเหมือนเป็นรถที่เก่าและเป็นรถมินิบัสธรรมดาๆ โดยตามจริงแล้ว มันใช้สำหรับการเดินทางในถนนชนบท รถมินิบัสคันนี้คือบ้านเคลื่อนที่งั้นหรอ? มันค่อนข้างยากสำหรับเหวินลู่ที่จะจินตนาการโดยไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเธอเอง

 

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เจียงลู่ฉีก็หันกลับมาและหลังจากนั้นก็กดปุ่มเปิดประตู

 

เหวินลู่เข้ามาในรถมินิบัสอย่างมีความสุข และเธอนั้นไม่สามารถที่จะอดใจรอได้ และก็เริ่มข้างในรถไปรอบๆ และพูด “สวัสดี ฉันจะมาชวนนายให้ไป..... ว้าววว!”

 

ของตกแต่งภายในของรถมินิบัสนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ทำให้เหวินลู่ได้แต่อุทาน โดยปราศจากการพูดให้จบประโยค

 

การตกแต่งภายในนั้นหรูหราเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าขนาดของมันนั้นจะไม่ใหญ่ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ มันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกถึงความแออัดกับเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ในตัวรถเลย เหวินลู่นั้นรู้สึกมหัศจรรย์เกี่ยวกับการจัดระเบียบเป็นอย่างมาก

 

หลังจากวันโลกาวินาศ ถึงแม้ว่าเธอนั้นจะอาศัยอยู่ในห้องของเธอเอง แต่สภาพการเป็นอยู่นั้นย่ำแย่กว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอาหาร สำหรับเด็กผู้หญิง มันเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างมากที่จะใช้ห้องน้ำโดยไม่มีน้ำ แต่เธอก็ปรับตัวเข้ากับมันได้ เหวินลู่ยืนประหลาดใจอยู่หน้าประตูเป็นเวลานาน ไม่ใช่เพียงแค่ว่ารถมินิบัสนั้นหรูหรา แต่ เพราะว่าเธอนั้นได้เจอกับเจียงลู่ฉี ที่เป็นฮีโร่ของเหวินเซี่ยวเทียนด้วย เหวินลู่นั้นยังไม่เห็นร่องรอยของการซ่อมแซมเลย รถมินิบัสที่เคยหน้าต่างพัง และพื้นผิวนั้นถูกชนนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย....

 

“มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยงั้นหรอ?” จนกระทั่งเจียงลู่ฉีถาม เหวินลู่พึ่งจะรู้สึกตัว

 

“อ๋า ขอโทษค่ะพี่! รถของพี่มันสุดยอดไปเลยและฉันก็เลยช็อคนิดหน่อย” เหวินลู่พูดพร้อมกับรอยยิ้ม

 

“ขอบคุณนะ” เจียงลู่ฉีพูด ลักษณะของเหวินลู่นั้นกระปรี้กระเปร่ามากกว่าเหวินเซี่ยวเทียนมาก แต่สองพี่น้องก็มีบางสิ่งที่เหมือนกัน คือรอยยิ้มจริงใจ

 

“ฉันมาเรียกพี่ให้มากินข้าวหน่ะ พวกเราค่อนข้างโชคดีเป็นอย่างมากในวันนี้ และพวกเรานั้นเจอข้าวครึ่งถุง พวกเราสามารถที่จะกินข้าวผัดด้วยกันได้ มันเป็นเรื่องที่ดีมากที่พี่พาพี่สาวของฉันกลับมา ฉันรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก โชคดี พี่นั้นอยู่ที่นี่ในวันนี้ มิฉะนั้น ฉันจะทำได้เพียงแค่ขอบคุณพี่ โดยไม่ได้ทำอะไรตอบแทนให้พี่เลย” เหวินลู่พูด เธอนั้นรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากกับเจียงลู่ฉี ด้วยอาหารที่ดีที่พวกเธอนั้นสามารถแจกจ่ายให้ได้

 

การกินข้าวผัดนั้นสามารถพิจารณาได้ว่ามันคือการตอบแทนที่ยอดเยี่ยม พวกเธอนั้นแทบจะกินอาหารทั้งหมดในบ้านและบ้านข้างเคียงไปทั้งหมดแล้ว แต่พวกเขานั้นไม่สามารถที่จะเก็บไว้กินสำหรับสองมื้อ เมื่อไม่มีตู้เย็น อาหารจำนวนมากก็เน่าเสีย แต่มีเพียงอาหารบางอย่างที่สามารถหาเจอได้ และมันค่อนข้างที่จะเสี่ยงในการเจอกับซอมบี้ และยังมีแก๊งมอเตอร์ไซค์อันเลวร้ายที่ปล้นทุกอย่างไปจากซูเปอร์มาเก็ตและร้านค้า ซึ่งมันหมายความพวกเธอนั้นสามารถเก็บเกี่ยวอาหารได้เพียงจำนวนน้อยๆ และถุงข้าวนั้นหายากเป็นอย่างมาก

 

เมื่อมองไปที่มุมมองของเหวินลู่ เจียงลู่ฉีและเหวินเซี่ยวเทียน พวกเข้านั้นเลวร้ายไปยิ่งกว่าพวกเธอซะอีก เธอประมาณได้ว่า เจียงลู่ฉีและเหวินเซี่ยวเทียนนั้นจะต้องหิวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันไม่มีอาหารเลย

 

“ขอบคุณนะ แต่ไม่เป็นไร ฉันไม่ต้องการที่จะกิน” คำตอบของเจียงลู่ฉีนั้นน่าแปลกใจเป็นอย่างมาก

 

เหวินลู่นั้นแปลกใจไปสักพักหนึ่ง และหลังจากนั้นก็พูดว่า “มันจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับฉัน ความจริงแล้ว มันก็แค่มื้ออาหารมื้อหนึ่ง ซึ่งมันเทียบไม่ได้กับการที่พี่ดูแลพี่สาวของฉันเลย....”

 

“ฉันจะพูดอย่างตรงๆนะ ฉันไม่ต้องการที่จะกินมันจริงๆ” เจียงลู่ฉียิ้มและพูด กลุ่มคนพวกนี้นั้นมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก และเขาจะสามารถกินอาหารของพวกเขาได้ยังไงกัน? อีกอย่างหนึ่ง ข้าวผัดหรืออะไรก็ตามนั้นไม่น่าดึงดูดต่อเจียงลู่ฉีที่พึ่งกินเนื้อสัตว์กลายพันธุ์มาแล้วด้วยซ้ำไป.....

 

ในอีกแง่มุมหนึ่ง เจียงลู่ฉีนั้นเตรียมตัวสำหรับการจู่โจมโดยฉับพลันของกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ไม่รู้จัก รถของเขานั้นเต็มไปด้วยอาหารและน้ำมัน และก็ยังมีเนื้อดิบถูกเก็บไว้ในรถตู้ ในช่วงเวลาสภาพแวดล้อมหายนะแบบนี้ ไม่มีใครที่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่ามันจะปลอดภัย เหวินลู่นั้นไม่ยอมแพ้และยังพยายามที่จะชวนเขาอีกหลายครั้ง แต่เมื่อเห็นเจียงลู่ฉีนั้นเอาแต่ส่ายหัว สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้

 

เธอนั้นเตรียมตัวที่จะลงจากรถ แต่เธอก็จำบางอย่างขึ้นมาได้ หลังจากนั้นเธอก็กลับมาหาเขา และหยิบของบางอย่างออกมาจากในแขนเสื้อของเธอ

 

“ตอนแรก พวกเรานั้นไม่เชื่อใจพี่เลย เรากลัวว่าพี่จะเป็นหนึ่งในพวกอันธพาลนั่น ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องเร่งรีบไปซ่อนอาหาร แต่พี่ดูแลพี่สาวของฉัน ดังนั้นฉันต้องขอบคุณพี่ และก็ได้โปรดอย่าปฏิเสธฉันเลยเถอะค่ะ!” เหวินลู่พูดโดยปราศจากคำอธิบายและวางของบางอย่างลงมาที่มือเขา

 

เจียงลู่ฉีรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ เมื่อมองเหวินลู่อย่างใกล้ๆ ตามจริงแล้ว เขาค้นพบว่าเธอน่ารักมาก ถึงแม้ว่าหน้าเธอจะเปื้อนดิน เจียงลู่ฉีสามารถเห็นแก้มอันใหญ่ของเธอ ถ้าเขายังคงปฏิเสธเธอต่อ เธอคงจะโกรธเขาแน่นอน

 

.“โอเค ฉันจะยอมรับข้อเสนอของเธอ” เจียงลู่ฉีพูด

 

ที่จริงแล้วมันคือห่อของขนมปังกรอบ ซึ่งมันถูกทำให้แตกละเอียดไปแล้ว แต่ในช่วงเวลาแบบนี้ มันชัดเจนเป็นอย่างมากว่ามันคือของล้ำค่าของเหวินลู่ ถึงแม้ว่าพวกเธอนั้นจะขาดแคลนอาหาร เจียงลู่ฉีหยิบเอาห่อขนมปังกรอบไว้ในมือของเขา

 

“เธอไม่ค่อยมีอาหารงั้นหรอ?” เจียงลู่ฉีถาม

 

“อาหารที่เราเก็บไว้กินนะมี แต่พวกอันธพาลมันยังกับผีดูดเลือด ปล้นพวกเราจนตัวแห้งไปหมด” เหวินลู่ส่ายหัวและพูด

 

“พวกอันธพาลงั้นหรอ?”

 

“ใช่ พี่สาวบอกฉันว่าพี่ไปเจอแก๊งมอเตอร์ไซค์มาแล้วนิ” เหวินลู่พูดทุกสิ่งทุกอย่างให้เจียงลู่ฉีฟัง และก็ไม่ลืมที่จะพูดว่า “กลุ่มคนพวกนั้นมันแย่เป็นอย่างมาก พวกเราออกไปข้างนอกด้วยความโกรธ พี่นั้นยอดเยี่ยมมาก แต่พวกเขานั้นทำสิ่งที่ดีเช่นกัน ในตอนแรกมันมีซอมบี้เยอะมาก แต่ผู้นำของเขาลากซอมบี้ไปยังชานเมืองเล็กๆแทน”

 

“โอ้? ลากซอมบี้งั้นหรอ?” เจียงลู่ฉีค่อนข้างจะสนใจเกี่ยวกับผู้นำที่ถูกพูดด้วยเหวินลู่ ผู้นำนั้นทำยังไงที่ลากซอมบี้ออกไปยังที่ห่างไกลได้?

 

เขานั้นรู้สึกว่าเมืองนี้มันค่อนข้างแปลกที่มีซอมบี้จำนวนนิดเดียว แต่เขาไม่คาดหวังว่าพวกมันจะลากไปที่อื่น

 

พูดตามปกติแล้ว ซอมบี้หนึ่งหรือสองตัวนั้นสามารถที่จะจัดการโดยคนธรรมดาได้ แต่ถ้ามันมีจำนวนมหาศาล คนจำนวนมากก็จะกลายเป็นอาหารของมันแทน แม้แต่การหลบหนีมันก็ยังเป็นไปไม่ได้ แต่ผู้นำนั้นทำได้แม้แต่ลากซอมบี้ไปที่อื่น?

 

“คนเหล่านั้นติดตามเขางั้นสินะ? เธอเคยเห็นหน้าผู้นำมาก่อนไหม?” เจียงลู่ฉีถาม

 

“คนเหล่านี้คือสุนัขเฝ้ายามของเขา เยินยอและติดตามเขา”เหวินลู่พูด “อย่างไรก็ตาม ฉันได้ยินมาว่าเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ระดับคนธรรมดาทั่วไป ใครบางคนไปยั่วยุเขาและก็โดนเขาฆ่า แต่ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าเขาซักครั้งเลย”

 

“เขาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป....” เจียงลู่ฉียิ่งสงสัยมากขึ้น มากขึ้นไปอีก

 

“แต่ว่า...” เหวินลู่ตระหนักได้ถึงบางอย่างและมีท่าทางที่กังวลและพูด “พวกมันจะมาวันนี้เพื่อปล้นวัตถุดิบ ถ้าพวกมันเห็นรถมินิบัสของพี่ พวกมันจะต้องสร้างปัญหาให้พี่อย่างแน่นอน”

 

“ฉันก็คิดว่างั้นเหมือนกัน....”

 

ถึงแม้ว่าเจียงลู่ฉีจะรู้สึกสงสารเหวินลู่ และคนอื่นๆ เขาต้องการที่จะช่วยแต่เขาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ คนพวกนี้มันโหดร้ายอย่างมาก แต่มีซอมบี้จำนวนน้อยเพราะว่าหัวหน้า ถึงแม้ว่าคนอื่นๆจะดุด่าพวกมันและเกลียดพวกมัน แต่พวกเขาก็ไม่มีกำลังพอที่จะต่อต้าน อีกอย่างที่สำคัญ ข้างนอกนั้นมันแข็งแกร่งเกินไป และพวกเขาก็ไม่มีกำลังพอที่จะออกไปข้างนอก

 

พวกเธอนั้นหิวเพราะว่าพวกอันธพาล แต่ถ้าซอมบี้นั้นมีอยู่ทั่วทุกแห่ง พวกเธอก็จะกลายเป็นอาหารเติมเต็มให้ซอมบี้ท้องอิ่ม ถ้าเขาพาเหวินลู่และเหวินเซี่ยวเทียนจากไป พวกเขาก็จะถูกส่งไปสถานที่ปลอดภัยและมั่นคงมากกว่าเดิม เจียงลู่ฉีไม่ได้ต้องการจะทำแบบนั้น แต่เขาไม่รู้ว่าการเดินทางต่อไปจะเป็นยังไง นอกจากนี้เขาก็ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ของเมืองหนานจิงเลย การที่จะพาสองสาวพี่น้องไปนั้นง่าย แต่จะดูแลพวกเธอต่อจากนี้ในอนาคตอย่างไรละ?

 

ดังนั้นหลังจากได้ยินคำพูดของเหวินลู่ เจียงลู่ฉีก็ไม่รู้ว่าเขาจะช่วยยังไง อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาจากไป พวกเธอก็จะถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเขา เนื่องจากเขาฆ่าพวกอันธพาลบางคนไป

 

ความสำคัญอันดับแรกของเขาคือการตามหาน้องสาวของเขา....

 

“ปั๊มน้ำมันของเมืองเธอนั้นอยู่ที่ไหนงั้นหรอ?” เจียงลู่ฉีถามถึงธุรกิจที่สำคัญที่สุดที่จะต้องทำ ปั๊มน้ำมันในเมืองนั้นถูกกองกำลังทหารเอาไปหมดเรียบร้อยแล้ว และในเมืองนี้ มันคือความหวังสุดท้ายของเจียงลู่ฉีก่อนที่จะไปยังเมืองหนานจิง มิฉะนั้นเขาจะสามารถไปต่อโดยเก็บเกี่ยวน้ำมันจากรถที่ถูกทิ้งล้าง มันคงเสียเวลาเป็นอย่างมาก

 

“ปั๊มน้ำมัน? พี่ต้องการที่จะเติมน้ำมันงั้นหรอคะ?” เหวินลู่มองไปที่รถมินิบัส และคิดว่าการใช้น้ำมันของรถประเภทนี้มันต้องใช้เยอะมากแน่ๆ....

 

“ใช่” เหวินลู่ดูท่าทางละอายใจและพูด “พี่จะต้องไม่ไปที่ปั๊มน้ำมันเด็ดขาด แต่มันก็มีรถที่ถูกละทิ้งเป็นจำนวนมากบนถนน ถ้าพี่โชคดี พี่จะเติมน้ำมันได้ขนาดเท่าที่พี่จำเป็นต้องใช้เลย....”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด