TWO Chapter 17 อุตสาหกรรม
TWO Chapter 17 อุตสาหกรรม
หลังจากสำรวจคฤหาสน์เสร็จสิ้น ทุกคนก็กลับเข้าห้องโถงประชุม ขณะนี้หมู่บ้านซานไห่ได้อัพเกรดเป็นหมู่บ้านระดับ 2 แล้ว ถึงเวลาที่จะให้ทุกคนรู้ว่าขั้นต่อไปพวกเขาควรจะทำอะไร
ทุกคนนั่งลงและโอหยางโชวก็เข้าเรื่อง “ในที่สุดหมู่บ้านซานไห่ก็อัพเกรดเป็นระดับ 2 และเรายังเป็นดินแดนลำดับที่ 6 ของประเทศจีน นี่เป็นผลมาจากการทำงานหนักของชาวบ้านทุกคน รวมถึงทุกคนที่มารวมกันอยู๋ที่นี่ด้วย มันช่างเหมาะที่จะฉลองยิ่งนัก ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจว่าคืนนี้ เราจะจัดงานฉลองกัน และให้ขุ่ยหยิงหยูเป็นผู้รับผิดชอบงานนี้”
ขุ่ยหยิงหยูพยักหน้า “พี่ใหญ่ท่านมั่นใจได้เลย ข้าจะทำให้มันยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และนี่เป็นงานฉลองครั้งแรกของดินแดน ดังนั้น ท่านควรจะทำการแสดงด้วยตัวเองนะ”
หลังจากที่เธอกล่าวเสร็จ ขุนพลซีปรบมือเห็นด้วยกับความคิดนี้ แม้แต่คนที่สงบเยือกเย็นอย่างเจ้าเต๋อเสี้ยนก็ยังตื่นเต้นกับความคิดนี้
โอหยางโชวยิ้มแหยๆ “หยิงหยู เจ้าพยายามต้อนข้าให้จนมุมซินะ เอาเถอะความคิดของเจ้าก็ดีเช่นกัน ข้าสนับสนุนความคิดนี้ ความสนุกสนานควรแบ่งปันให้คนอื่น ดีกว่าเก็บไว้คนเดียว ทุกคนที่นี่จะต้องเข้าร่วมการแสดงเช่นกัน ถ้าลอร์ดของพวกท่านทำการแสดง พวกท่านก็ควรร่วมด้วยเช่นกัน”
หยิงหยูหัวเราะ การแสดงเป็นสิ่งที่เธอต้องเข้าร่วมอยู่แล้ว เธอจึงไม่ได้ฝืนอะไร แต่คนอื่นๆกลับไม่สนุกด้วยและดูหดหู่ ราวกับพวกเขายกก้อนหินขึ้นมาและวางลงบนเท้าตัวเอง
“หลังการอัพเกรดเรามีหลายสิ่งที่ต้องทำ เราจะจัดเตรียมเรื่องต่างๆที่นี่ เรามีเรื่องมากมายต้องทำ ดังนั้น โปรดให้คำแนะนำ และเสนอข้อคิดเห็นของทุกท่าน จนกว่าเราจะเตรียมพวกมันเสร็จ”
“ก่อนอื่น เตรียมงานสำหรับการก่อสร้าง โรงเรียน โรงหมอ และสิ่งก่อสร้างอื่นๆยังไม่สามารถสร้างได้ในตอนนี้ เนื่องจาก เราขาดแบบแปลนสิ่งก่อสร้างเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งก่อสร้างที่ไม่จำเป็นต้องใช้แบบแปลนในการก่อสร้าง นั่นคือ เหมืองแร่ขั้นต้น และหอธนูง่ายๆ ดังนั้น สร้างพวกมันให้เร็วที่สุด เราจะสร้างหอธนู 2 แห่งในแต่ละด้านเข้าหมู่บ้าน นอกจากนี้ ในเฟสที่ 2 ของที่อยู่อาศัยขนาดเล็กอีก 15 แห่ง ต้องทำอย่างรวดเร็ว ท่านต้องดูแลมันอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญที่สุด คือการร่วมมือกับนาเกลือ เพื่อก่อสร้างนาเกลือเขตเหนือ เฟสที่ 2”
“นาเกลือเขตเหนือเป็นอุตสาหกรรมเดียวในดินแดนของเราตอนนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญของดินแดนในอนาคต ข้าตัดสินใจว่า นาเกลือเขตเหนือ เฟสที่ 2 จะมีขนาด 400 หมู่ รวมทั้งหมดเป็น 500 หมู่ นี่จะต้องใช้แรงงานจำนวนมาก สำนักทะเบียนจะต้องเตรียมการให้พร้อม ให้ความสำคัญกับการเชิญชวนคนไปทำงานที่นาเกลือ เพื่อที่จะรักษาการผลิตให้อยู่ในจุดสูงสุด เราต้องการจำนวนคนงานนาเกลือมากถึง 250 คน”
“สำหรับฝ่ายคลังวัสดุ จำนวนคนงานที่ทำงานในเหมืองหิน และลานไม้ยังคงเหมือนเดิมคือสิ่งก่อสร้างละ 20 คน หลังจากเหมืองแร่ขั้นต้นสร้างเสร็จก็ให้จำนวนคนงานที่ 20 คนเช่นกัน จำนวนชาวประมงจะค่อยๆเพิ่มเป็น 30 คน”
“สำหรับกองทหารอาสา เราจะขยายเป็น 50 คน จัดเตรียมเป็นหมู่หมู่ละ 10 คน มีหัวหมู่เป็นผู้นำในแต่ละหมู่ และ5 หมู่รวมเป็นหมวด มีนายกองเป็นผู้นำ ส่วนที่เหลือของแรงงานจะถูกส่งไปฝ่ายฟื้นฟูดิน เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกเป็น 2000 หมู่ ตามที่ข้ากล่าวข้างต้น สำนักทะเบียนจัดแจงคนตามความจำเป็น และยืนยันผู้ที่อพยพเข้ามาใหม่ หากมีคำถามใดๆ พวกเจ้าสามารถถามได้”
หลังจากทำความเข้าใจคำสั่งที่โอหยางโชวกล่าวก่อนหน้านี้ พวกเขาเริ่มขอคำแนะนำ
ขุนพลซีเป็นคนแรกที่ยืนขึ้น “นายท่านข้ามีบางอย่างจะกล่าว ด้วยการขยายกองทหารอาสาเป็น 50 นาย เราจำเป็นต้องมีผู้ออกคำสั่ง 5 นาย”
“ท่านขุนพล จากคำแนะนำของท่าน ข้าให้ท่านเลือกจากทหารที่มีประสบการณ์ และแน่ใจว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ อย่าส่งเสริมพวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข”
“อ้างอิงจากความสามารถเป็นหลัก นอกจากนี้ จางต้าหนิว และสานโก่วฉียังสามารถเลื่อนเป็นหัวหมู่ได้โดยตรง ผู้นำหมวดของทหารอาสาข้าให้ท่านจัดการ ขณะที่นาเกลือเขตเหนืออยู่ในลู่ทางของมันแล้ว ถึงเวลาที่ท่านต้องมีสมาธิกับการฝึกอบรมทหารอาสา สำหรับความปลอดภัยของดินแดน ให้จางต้าหนิว สานโก่วฉีกับกองทหารอาสาจัดการ”
ขุนพลซียิ้ม เขาจะไม่ต้องไปประจำที่นาเกลืออีก ซึ่งทำให้เขามีความสุขมาก อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้โง่ เขาได้คาดการไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น จากคำพูดของโอหยางโชว เขาถามตรงๆว่า “นายท่าน อะไรคือเหตุผลหลักของการขยายกำลังทหารในครั้งนี้เหรอ?”
โอหยางโชวพยักหน้าอย่างจริงจัง “การขยายตัวของกองทหารอาสาในครั้งนี้ ก็เพื่อเตรียมการจัดการกับความท้าทายความมั่นคงใหม่ๆ ด้วยการอัพเกรดหมู่บ้านเป็นระดับ 2 อาณาเขตของดินแดนเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าจากอาณาเขตเดิม ข้าคาดว่าอีกครึ่งเดือน พวกสัตว์ร้ายจะบุกมาจากเขตทุรกันดาน และเราจะพบกับการโจมตีของสัตว์ร้าย ดังนั้น ขุนพลซี ท่านต้องไม่มัวแต่สนใจการพัฒนากองทหารอาสา แต่ท่านต้องเตรียมแผนการป้องกันอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อป้องกันการโจมตีของสัตว์ร้าย และรายงานแผนการให้ข้าตรวจสอบด้วย”
ขุนพลซีกล่าวตอบว่า “นายท่าน ข้าจะทำตามนั้น”
ขุ่ยหยิงหยูลุกขึ้นเป็นคนต่อไป “พี่ใหญ่ เกี่ยวกับจำนวนของชาวประมง ข้ามีมุมมองที่แตกต่าง ในขณะที่เรามีเรือเพียง 4 ลำเท่านั้น และเรือแต่ละลำสามารถให้คนใช้งานได้เพียง 2 คนเท่านั้น และอู่ต่อเรือก็สร้างเรือได้เพียงวันละลำเท่านั้น หากต้องการให้ชาวประมง 30 คนทำงานเต็มกำลัง ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 11 วัน เท่าที่ข้ารู้ ชาวประมงสามารถเก็บเกี่ยวปลาโดยเฉลี่ยได้ 50ตัว/วัน จำนวนปลาที่เก็บเกี่ยวได้เราไม่สามารถกินมันได้ทั้งหมด ทำไมท่านถึงต้องการชาวประมงจำนวนมากกัน”
โอหยางโชวเข้าใจประเด็นของเธอ ปลาไม่สามารถใช้เป็นอาหารหลัก และไม่สะดวกที่จะเก็บเป็นเวลานาน จึงไม่สามารถแทนที่ธัญพืชได้ สำหรับเรื่องนนี้ เขามีแผนของเขาเอง
“หยิงหยู สิ่งที่เจ้าพูดนั้นก็จริง แต่เจ้ายังไม่ได้พิจารณา ‘ปลาเค็มตากแห้ง’ ปลาตากแห้งไม่ใช่สิ่งมีชีวิต และสามารถจัดเก็บได้ง่าย ราคาของปลาตากแห้งคือ 15 เหรียญทองแดง ใช้ปลา 2 ตัว และเกลือเพื่อทำปลาตากแห้ง เกลือ 1 หน่วย สามารถใช้สำหรับทำปลาตากแห้งได้ 50 หน่วย หากไม่รวมค่าใช้จ่ายของเกลือ การเก็บเกี่ยวรายวันของชาวประมงรายเดียวสามารถสร้างรายได้ 355 เหรียญทองแดง ให้กับดินแดนได้ เมื่อเกลือก้อนแรกในนาเกลือเกิดขึ้น กองทุนการก่อสร้างดินแดนอาจจะได้เงินจากการสนับสนุนทางการเงินจากทะเล สำหรับชาวประมงที่ยังไม่มีเรือ จัดให้พวกเขาล้างปลาไปก่อน”
ขุ่ยหยิหยูเห็นว่าโอหยางโชวได้คำนวณทุกอย่างไว้แล้ว และเธอได้กล่าวชื่นชมเขาอย่างจริงใจ “ได้ฟังคำแนะนำของท่านแล้ว ข้าช่างห่างไกลจากระดับของท่านนัก”
โอหยางโชวโบกมือ “ข้าไม่ใช่อัจฉริยะ ข้ามีความกังวลเกี่ยวกับเงิน และคิดแผนสำหรับดินแดนในเวลาว่าง และข้าแค่บังเอิญคิดได้ในตอนนั้น”
นี่ไม่ใช่ว่าโอหยางโชวเพิ่งคิดขึ้น เขาได้พิจารณาแผนการนี้ตั้งแต่ที่เขาเลือกลุ่มน้ำเหลียนโจวเป็นที่ก่อตั้งหมู่บ้านของเขาแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้เล่นลอร์ด ถ้าไม่สามารถใช้แหล่งทรัพยากรทางทะเลได้อย่างเต็มที่ เขาก็เป็นเพียงคนตาบอดที่มองไม่เห็นข้อได้เปรียบของภูมิประเทศของเขา
เกลือทะเล และปลาตากแห้ง เป็น 2 วิธีในการสะสมเงินทุนในช่วงเริ่มต้น ที่เขาต้องการสร้างขึ้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ลังเลที่จะใช้เงินรางวัลก่อนหน้านี้ ซื้อคู่มือเทคโนโลยีการผลิตเกลือ และแบบแปลนทางน้ำทั้ง 3
นี้เป็นข้อดีของการเกิดใหม่ ในขณะที่ตัวแทนผู้มีอำนาจจ่ายเครดิตจำนวนมากเพื่อซื้อสกุลเงินในเกมส์ ส่วนเขากำลังพัฒนาอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์แบบ เพื่อสร้างกระแสเงินทุน ข้อได้เปรียบนี้จะมีผลมากขึ้นเรื่อยๆในภายหลัง
อุตสาหกรรมของเขาเพิ่งเริ่มต้น ทำให้กำไรที่เกิดขึ้นมีจำกัด แต่เขาเพิ่งเริ่มต้น เมื่อเขาขยายขอบเขตการพัฒนา ผลกำไรจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า
เป็นที่ถกเถียงกันในเรื่องของลอร์ดที่เข้มแข็งในอดีต ว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนของพวกเขา คือ ต้องพัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเอง เพราะพวกเขาสามารถใช้เครดิตในการซื้อเงินในเกมส์ได้ไม่ถึง 1 ปี
ในที่สุดเจ้าเต๋อเสี้ยนก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า “นายท่าน ข้ามีคำถาม ในขณะที่นายท่านได้กำหนดให้จัดเตรียมพื้นที่เพาะปลูกอีก 1500 หมู่ คำถามของข้าคือ สำหรับพื้นที่เพาะปลูกเหล่านี้ เราจะปลูกพืชพันธ์ชนิดไหน”
โอหยางโชวตัดสินใจที่จะทดสอบเขา เขาถามว่า “ผู้อาวุโสเจ้า ตามสภาพภูมิอากาศในลุ่มน้ำเหลียนโจวแห่งนี้ ท่านคิดว่าพืชพันธ์ชนิดไหนเหมาะที่จะเพาะปลูกที่สุด?”
เจ้าเต๋อเสี้ยนเป็นชาวไร่ และมีประสบการณ์ตลอดชีวิตในการทำไร่ของเขา เขารู้ว่าช่วงเวลาเพาะปลูกพืชทุกชนิดมีความชัดเจน เขาตอบว่า “นี่คือช่วงกลางของฤดูเพาะปลูก ฤดูหนาวยังไม่ผ่านพ้น ฤดูใบไม้ผลิก็ยังมาไม่ถึง มันยังไม่เหมาะที่จะปลูกพืชใดๆในเวลานี้”
โอหยางโชวยิ้มและกล่าวว่า “เป็นคำตอบที่ดี อย่างไรก็ตามลุ่มน้ำเหลียนโจวมีสภาพอากาศพิเศษ และมีพืชที่สามารถเพาะปลูกในฤดูหนาวที่นี่ได้ นั่นคือมันฝรั่งหวาน แม้ว่าเราจะพลาดฤดูการเพาะปลูกที่เหมาะสมในการปลูกพืชที่สุด ในเดือนพฤศจิกายน แต่เรายังมีสภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต ถ้าเราปลูกตอนนี้ เราสามารถเก็บเกี่ยวได้ในเดือนเมษายน และพฤษภาคม มันจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนธัญพืชได้”
เจ้าเต๋อเสี้ยนประหลาดใจ และไม่นานเขาก็ตอบด้วยความเศร้าโศก “ข้ารู้สึกละอายที่ข้าไม่ได้คิดถึงการเพาะปลูกพืชชนิดนี้” ในความเป็นจริงสิ่งนี้ไม่อาจตำหนิเขาได้ หมู่บ้านเจ้าเคยอยู่ในป่า และไม่เคยปลูกมันฝรั่ง จึงแทบไม่เคยนึกถึงการเพาะปลูกพืชชนิดนี้
โอหยางโชวยิ้ม และกล่าวว่า “ดังนั้น พื้นที่เพาะปลูกควรปลูกมันฝรั่งหวานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และต้องเสร็จสิ้นก่อนสิ้นเดือน สำหรับต้นกล้า ข้าจะซื้อมาจากในตลาด”
หลังจากตอบคำถามของเจ้าเต๋อเสี้ยน ข้อสงสัยของคนอื่นๆได้ถูกทำความเข้าใจ และโอหยางโชวได้ประกาศปิดการประชุม รอจนทุกคนกระจายกันไปทำงาน เขามุ่งหน้าไปยังตลาดขั้นต้น เพื่อซื้อสินค้าบางรายการ
เขามีเงินเหลือเพียง 10 เหรียญทองในขณะนี้ เขาเก็บเงินไป 4 เหรียญทองเพื่อใช้เลื่อนขั้นให้กองทหารอาสา ดังนั้นเขาจึงใช้ได้เพียง 6 เหรียญทองเท่านั้น
เขาใช้ 1 เหรียญทอง สำหรับต้นกล้ามันฝรั่ง ให้เพียงพอกับพื้นที่เพาะปลูก 3000 หมู่ 3000 หมู่ คือพื้นที่ที่เขาทุ่มเทให้กับมันฝรั่งมากที่สุดในตอนนี้
หลังจากนั้นเขาก็ใช้เหรียญทองอีกเหรียญ ซื้อเกลือ 500 หน่วย เกลือพวกนี้เพียงพอจะใช้ผลิตปลาตากแห้งในตอนนี้ ต่อจากนี้นาเกลือของเขาจะผลิตเกลือได้มากพอ
สำหรับเงินที่เหลืองอีก 4 เหรียญทอง เขาซื้ออาหารโดยตรง 4000 หน่วย เมื่อรวมกับอาหารที่เหลือ 3100 หน่วย และการเก็บเกี่ยวของชาวประมง ก็จะเพียงพอสำหรับเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านที่อัพเกรดเป็นระดับ 2
เขาซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกระเป๋าของเขาก็ว่างเปล่า หลังจากให้คนนำของที่ซื้อมาไปเก็บไว้ในโกดัง และยุ้งฉาง เขาก็ไม่ได้ทำอะไรในตอนนี้