TWO Chapter 15 เด็กฝึกงาน
TWO Chapter 15 เด็กฝึกงาน
เมื่อโอหยางโชวนำกองทหารอาสากลับเข้าหมู่บ้าน ชาวบ้านมองเข้าไปที่กรงไม้ เห็นลูกหมูป่าตัวเล็กๆอยู่ภายใน
ลูกหมูมีอายุเพียงครึ่งเดือน มีขนสีน้ำตาล และแทบขนสีดำที่ด้านหลังของพวกมัน ดูน่ารักมาก เขาตรวจสอบสถานะของพวกมัน
ลูกหมูป่ากลายพันธ์ : เกิดจากราชาหมูป่า และหมูป่ากลายพันธ์ชั้นสูง ลูกหมูป่าเหล่านี้มีความสามารถในการปรับตัวสูง เนื้อของพวกมันอร่อย และเจริญเติบโตเต็มที่ใน 3 เดือน
ก่อนที่พวกเขาจะกลับมา เจ้าเต๋อหวังได้สั่งให้คนงานสร้างคอกหมูไว้แล้ว มันถูกสร้างขึ้นด้านหลังโรงครัว เพื่อให้สะดวกในการเลี้ยงพวกมัน
คอกหมูมีห้องเล็กๆด้านในความกว้าง 2.5 เมตร และยาว 3.5 เมตร เพื่อให้มันใช้พักผ่อนและกินอาหาร ด้านนอกมีพื้นที่ใหญ่กว่าด้านใน 50 % มีรางน้ำ และเปิดรับแดด สำหรับให้พวกมันวิ่งเล่นและขับถ่ายของเสีย ซึ่งจะง่ายต่อการทำความสะอาด
เมื่อนำลูกหมูใส่ไว้ในคอกเสร็จสิ้น เขาเห็นขุ่ยหยิงหยูและเจ้าเต๋อหวังรอเขาอยู่ข้างๆ ด้านหลังเป็นชายวัยอายุ 30 ปี มีใบหน้าที่ซื่อตรงแต่รอบคอบ หยิงหยูแนะนำเขา ชื่อของเขาคือ จู้เบ่าไค่(Zhu Baocai) ในหมู่บ้านเดิมของเขา เขาเป็นคนเลี้ยงหมู เขาได้รับการคัดเลือกจากหยิงหยูให้เป็นผู้ดูแลหมู
เมื่อเห็นเจ้านายของเขาเป็นคนง่ายๆ จู้เบ่าไค่ไม่ได้ระมัดระวังมากนัก เขาพูดถึงความสามารถในการเลี้ยงหมูของเขา เขาดูเหมือนจะมีความมั่นใจมาก เขากล่าวว่า “นายท่านอย่าได้กังวลเรื่องการเลี้ยงหมู ข้ามีประสบการณืมาบ้างแล้ว เมื่อได้ดูลูกหมูตัวน้อยเหล่านี้แล้ว บอกได้ว่าพวกมันทั้งหมดแข็งแรงดี และเป็นสายพันธ์ที่ดีด้วย ข้าเชื่อมันอย่างมากว่าจะสามารถดูแลพวกมันได้เป็นอย่างดี”
หลังจากเสร็จเรื่องผู้ดูแลหมู โอหยางโชวกลับมาที่ห้องทำงานของเขา ขณะที่เขานั่งลง กูซิวเหวินก็เข้ามา โอหยางโชวให้เขานั่ง และถามเขาว่ามีเรื่องจะรายงานหรือไม่
กู่ซิเหวินกล่าวว่า “นายท่าน ข้าได้พูดคุยกับผู้รับผิดชอบ 3 ฝ่ายในวันนี้ และได้มีการกระจายคนไปยัง 5 อุตสาหกรรม คือ การก่อสร้าง การประมง การปศุสัตว์ ช่างฝีมือ และการเกษตร กรุณาอนุมัติด้วยครับ”
“โอ้ เจ้าทำงานได้เยี่ยมมาก ลองพูดถึงวืธีที่เจ้าจัดสรรให้ข้าฟังทีซิ”
“ในดินแดนของเรามีชาวบ้าน 130 คน จัดสรรให้ ฝ่ายฟื้นฟูดิน 39 คน
การเกษตร 40 คน หลังจากเริ่มเพาะปลูก ย้ายไปอยู่ฝ่ายคลังวัสดุ
การประมง 25 คน หลังจากเริ่มจับปลา ย้ายไปอยู่ฝ่ายคลังวัสดุ
ปศุสัตว์ 2 คน ดูแลเล้าหมู ย้ายไปอยู่ฝ่ายคลังวัสดุ
ช่างก่อสร้าง 24 คน กำลังก่อสร้างนาเกลือ ภายใต้การดูแลของขุนพลซี”
โอหยางโชวครุ่นคิดครู่หนึ่งและถามเขาว่า “อูต่อเรื่อมีรายงานความคืบหน้าของการสร้างเรือประมงหรือไม่?”
“ตามความเข้าใจของข้า เรือประมงทั่วไปใช้ไม้ในการสร้าง 50 หน่วย และเรือลำหนึ่งสามารถนำชาวประมงออกไปจับปลาได้ 2 คน อยู่ต่อเรือในปัจจุบันสามารถสร้างเรือประมงไปวันละ 1 ลำ และเรือประมงลำแรกได้ถูกใช้โดยขุนพลซี เพื่อขนส่งวัสดุในการก่อสร้างนาเกลือ” กู่ซิวเหวินเป็นเหมือนเลขาธิการของดินแดน คอยรายงานและติดตามความคืนหน้าของทุกฝ่าย
“ไม่เลว พรุ่งนี้เจ้าลองคิดแผนจัดสรรผู้มีความสามารถพิเศษมา และนอกเหนือจากผู้มีความสามารถพิเศษ ทุกคนที่ยังว่างจะได้รับมอบหมายให้ทำงานในฝ่ายเกลือ ในเวลาเดียวกัน ข้อมูลบุคลากรมีความสำคับ เทียบเท่ากับข้อมูลทางทหารและต้องเก็บเป็นความลับ ส่วนฝ่านเกลือ เจ้าต้องให้ความสำคัญกับมันเป็นพิเศษ แล้วข้าจะคุยกับขุนพลซีในเรื่องนี้เอง”
“นอกจากนี้ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะเปลี่ยนการประชุมเป็นสัปดาห์ละครั้ง ผู้เข้าร่วมตามหลักคือหัวหน้าฝ่ายต่างๆ เท่านั้น หากมีความจำเป็น เจ้าสามารถเชิญเจ้าหน้าที่ 1 หรือ 2 คนเพื่อเข้าประชุม หากมีปัญหาอะไร รายงานข้าได้โดยตรง”
กูซิวเหวินพยักหน้า และเมื่อเขาเห็นว่าเจ้านายของเขาไม่มีอะไรจะกล่าวเพิ่มอีก เขาจึงลุกขึ้นและออกไป
……………………………………………
วันต่อมาโอหยางโชวพูดคุยกับขุนพลซี เกี่ยวกับการก่อสร้างนาเกลือ
ถึงเขาจะเป็นทหาร แต่ขุนพลซีก็คุ้นเคยกับการอ่านหนังสือ แม้สิ่งนี้เขาจะไม้คุ้นเคย แต่เขาก็สามารถทำมันได้ เขากล่าวอย่างจริงจังว่า “ตามหลักการที่แท้จริงของเทคนิคการอบเกลือให้แห้ง และประสบการณ์ที่ผ่านมา เราต้องเฉลี่ยคนงาน 1 คน ต่อพื้นที่ 2 หมู่ การเก็บกี่ยวในแต่ละเดือนจะได้เกลือ 200 หน่วย/หมู่ ขณะนี้เรามีคนนจำกัด ข้าแนะนำให้ก่อสร้างในขั้นแรกที่ 100 หมู่ หลังจากนั้นเราสามารถขยายเป็นหมื่นๆหมู่ได้ในอนาคต”
โอหยางโชวทำการคำนวณในใจ ในตลาด ราคาขายเกลือ หน่วยละ 20 เหรียญทองแดง กล่าวอีกในหนึ่ง 1 หมู่สามารถผลิตกำไรเป็นเหรียญทองได้ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก แต่น่าเสียดายเกลือใช้เวลาในการผลิตทั้งเดือน ในการเก็บเกี่ยวครั้งแรกคงไม่ทันหมู่บ้านระดับ 2
โอหยางโชวรู้ว่าขีดจำกัดประชากรของหมูบ้านระดับ 2 คือ 500 คน มากกว่าหมู่บ้านระดับแรกอยู่ 300 คน ตามอัตราการอพยพ คงต้องใช้เวลา 20 วัน ประชากรจึงจะเต็มหมู่บ้าน เนื่องจากพวกเขาต้องการใช้เงินเพิ่มเติม สำหรับหมู่บ้านระดับ 2 เราจึงเริ่มคิดถึงอีกวิธีหนึ่ง
ขุนพลซียืนอยู่ข้างๆเขา มองเขาด้วยความงุนงง และขบขันกับการแสดงออกของโอหยางโชวที่กำลังคิดวิธีแก้ปัญหา
โอหยางโชวกระพริบตาขณะที่เขากลับมาเป็นปกติ และถามขุนพลซีว่า “การก่อสร้างนาเกลือขนาด 100 หมู่ เสร็จสิ้นแล้วหรือยัง ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องแรงงาน ข้าได้คุยกับซิวเหวินเมื่อวานนี้แล้ว”
ขุนพลซีผ่อนคลายและกล่าว “ตามความคืบหน้าในปัจจุบัน มันจะเสร็จสิ้นทั้งหมดในบ่ายวันพรุ่งนี้”
“เยี่ยม! แล้วข้าจะรอข่าวดีจากท่าน!”
ขุนพลซีพยกหน้า และเดินออกไป จากนั้นก็มีประกาศจากระบบ
“ประกาศระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นชุนเซิ่นจุน สำหรับการเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ในประเทศจีน ที่อัพเกรดหมู่บ้านเป็นระดับ 2 รางวัลพิเศษ คะแนนการกุศล 1000 แต้ม”
“ประกาศระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นชุนเซิ่นจุน สำหรับการเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ในประเทศจีน ที่อัพเกรดหมู่บ้านเป็นระดับ 2 รางวัลพิเศษ คะแนนการกุศล 1000 แต้ม”
“ประกาศระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นชุนเซิ่นจุน สำหรับการเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ในประเทศจีน ที่อัพเกรดหมู่บ้านเป็นระดับ 2 รางวัลพิเศษ คะแนนการกุศล 1000 แต้ม”
กลุ่มเทียนเหอมีแหล่งเงินทุนที่แข็งแกร่งมาก ชุนเซิ่นจน ได้เป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน ในการอัพเกรดหมู่บ้านเป็นระดับ 2
โอหยางโชวไม่สะทกสะท้าน เขารู้ดีว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำ คือ สิ่งต่างๆที่อยู่ในมือ และวันนี้เขาพร้อมจะทำเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือ การเยี่ยมชมกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษ ทีละคนๆ เพื่อกระตุ้นให้พวกเขา ทำการฝึกอบรมเด็กฝึกงาน
ในจำนวนนั้นผู้ดูแลอู่ต่อเรือเจิ้งต้าไห่ ได้ฝึกอบรมเด็กฝึกงานทั้งสิ้น 4 คน จึงไม่จำเป็นต้องไปเยี่ยมเขาในตอนนี้ ส่วนช่างไม้เจ้าโยวฟางและช่างหินเจิ้งซานเปา แม้ถูกจัดเป็นส่วนหนึ่งของขุนนางพลเรือน แต่ไม่เหมาะสมที่จะฝึกอบรมเด็กฝึกงาน
หยิงหยูได้รับเด็กฝึกงาน 2 คน ชาย 1 หญิง 1 ชายชื่อว่า ‘เฉียนหลี่เฟย(Qian Lifei)’ เดิมเป็นเจ้าของหอนางโลม หมู่บ้านของเขาถูกปล้น และเขาก็หนีมาจนถึงหมู่บ้านซานไห่ ผู้หญิงชื่อ ‘ตู่เสี่ยวหลาย(Du Xiaolan)’ ซึ่งเป็นลูกสาวนักธุรกิจ หยิงหยูพาเธอเข้ามา และดูแลเธอเป็นพิเศษ ทั้งคู่ได้รับหน้าที่ในฝ่ายคลังวัสดุโดยเป็นผู้ช่วยของหยิงหยู
ที่แรกที่โอหยางโชวไปเยี่ยมคือ ลานเล็กๆของหมอซ่ง เขาเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษสูงสุดของหมู่บ้านซานไห่ แต่เขายังไม่ได้คัดเลือกเด็กฝึกงาน โอหยางโชวจึงไม่พอใจเล็กน้อย คิดถึงเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่ดีที่มีหมออยู่ในคฤหาสน์ของลอร์ด และมันเหมือนสัญลักษณ์ของอำนาจของลอร์ด แต่ชายชราคนนี้ นอกเหนือจากการออกไปเก็บรวบรวมสมุนไพร และผสมยาสีทองของเขาแล้ว เขาแทบจะไม่ทำอะไรเลย
เมื่อโอหยางโชวเข้ามา หมอซ่งอยู่ในห้องอ่านหนังสือ และกำลังอ่านหนังสือทางการแพทย์อยู่ “ข้าไม่รู้ว่านายท่านจะมา ท่านไม่ค่อยสนใจข้า มันแปลกจริงๆที่ข้าเห็นท่าน”
เมื่อโอหยางโชวเห็นทัศนคติของหมอซ่ง เขาก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา แต่เขาก็ต้องการความช่วยเหลือจากหมอผู้นี้ เขาจึงอดทน และกล่าวว่า “งานในดินแดนทำให้ข้ายุ่งและละเลยผู้อาวุโส โปรดอย่าได้กังวลใดๆ”
ความรู้สึกของหมอซ่งถูกกระตุ้น และเขากล่าวว่า “คำพูดของนายท่านช่างแข็งกระด้างนัก ข้าสุขสบายดี นายท่านเป็นผู้นำหมู่บ้าน เห็นได้ชัดว่าท่านมีหลายสิ่งต้องทำ”
เมื่อพูดคุยกัลเขา ในที่สุดโอหยางโชวก็เริ่มเข้าใจประเด็นสำคัญของปัญหานี้อย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้เขาคิดเอาเองว่าชายชราคนนี้ไม่สนใจชื่อเสียง และความมั่งคั่ง โอหยางโชวกล่าวคำสุภาพบางคำ และเขาก็ตั้งใจฟัง
ความหมายของหมอซ่งนั้นชัดเจน เขาอาศัยอยู่ในลานเล็กๆนี้เพียงลำพัง ขณะที่คนอื่นๆได้รับหน้าที่อย่างเป็นทางการ ในขณะนี้คนอื่นแทบจำจดจำเขาไม่ได้ หลายวันแล้วที่เขาไม่ได้พูดคุยกับใคร แม้กระทั่งหญิงสาวคนนั้น ที่ยุ่งๆมากๆจนไม่มีเวลามาพบเขา เอ่อหว้าฉีก็ไม่ได้พูดคุยกับเขา เขาจึงไม่มีวิธีให้ระบาย เมื่อโอหยางโชวเข้ามา และปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ เขาจึงเริ่มระบายออกมา
โชวไม่ได้คาดว่าจะเป็นเช่นนี้ ชายชราดูยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง แต่เขายังคงมีความปรารถนาในชื่อเสียงและความมั่งคั่ง ความปรารถนาที่จะได้รับการยอมรับเป็นสิ่งที่ดี
โอหยางโชวยิ้มและกล่าวว่า “เร็วๆนี้ข้าจะสร้างโรงหมอ เพื่อดูแลงานทางการแพทย์ทั้งดินแดน ในการจะทำเช่นนั้นต้องมีคนมากพอ ผู้อาวุโสเป็นคนชั้นสูง ดังนั้นข้าจึงไม่ควรรบกวนท่าน แต่ไม่มีใครในดินแดนของเราช่วยเหลือข้าได้ในเวลานี้”
หมอซ่งขยับตัว และกล่าว “นายท่านไม่ต้องกังวล ข้าอาจจะแก่แล้ว แต่ข้าสามารถฝึกผู้เยาว์ 3-4 คนได้ไม่มีปัญหา”
โอหยางโชวหัวเราะ “แล้วข้าจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ท่านผู้อาวุโสแห่งหมู่บ้านซานไห่โดยไม่กังวล!”
หลังจากกลับจากไปเยี่ยมหมอซ่ง เขาก็ไปเยี่ยมผู้มีความสามารถพิเศษคนอื่นๆ พวกเขาพูดคุยง่ายกว่ามาก สำหรับช่างตีเหล็กหลี่ไท่จู และภรรยาของเขาลีซึ่งเป็นแม่ครัวขั้นต้น โอหยางโชวสัญญาว่าจะจัดที่พักเล็กๆแยกออกต่างหาก เพื่อให้พวกเขาอาศัยอยู่ ทั้งคู่มีความยินดี และสัญญาว่าจะรับสมัครเด็กฝึกงาน คนละ 2 คน
พ่อค้าหลี่ฟ่กุ้ย ได้ทำการคัดเลือกเด็กฝึกงานเมื่อวาน แต่ยังไม่ได้รายงานตัว วันนี้โอหยางโชวสัญญากับช่างไม้ขั้นต้น ‘หลู่ กวงจี(Lu Guangzhi)’ ว่าจะสร้างโรงงานไม้ เพื่อให้เขาทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น และมอบคู่มือเทคโนโลยีรถชี้ทิศใต้ให้เขาใช้วิจัย เขาเห็นด้วยทันทีและรับสมัครเด็กฝึกงาน 2 คน
หลังจากเยี่ยมชม และพูดคุยกับผู้มีความสามารถพิเศษ โอหยางโชวก็แทบจะเสียงแหบแห้ง แต่มันก็คุ้มสำหรับดินแดนของเขา ที่มีเด็กฝึกงานเพิ่มอีก 10 คน รวมการเพิ่มการฝึกอบรมโดยสมัครใจ ทำให้เด็กฝึกงานตอนนี้มีถึง 17 คน เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นการฝึกอบรมขั้นต้น หมู่บ้านก็จะมีผู้มีความสามารถพิเศษมากขึ้น