Chapter 7: การที่จะแซงรถคนอื่นมันต้องมีความสามารถ!
เมล็ดพันธ์แห่งดวงดาวนั้นรวมเข้ากับMCV ตราบเท่าที่เจียงลู่ฉีนั้นจดจ่อกับบางอย่าง ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ MCV นั้นจะปรากฏขึ้นมาในทันทีในจิตใจของเขา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเขาตั้งจุดชมภาพบนแผงควบคุม มันใช้ปุ่มแผงควบคุมการใช้ทุกปุ่มและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้อาวุธของรถนั้นปรากฏขึ้นทันทีข้างในใจของเขา
“ออกตัว” “เร่งเครื่อง” “อาวุธ” “การชน”
ตามตรงแล้ว เจียงลู่ฉีนั้นไม่ใช่คนขับรถที่ดี เขาเคยขับรถมินิบัสครั้งเดียว โดยพื้นฐานแล้ว เขาเชื่อมั่นในความเข้าใจเกี่ยวกับการขับรถของเขาแล้ว เขาต้องการที่จะทดสอบการขับรถเพื่อที่จะทดสอบเพื่อปรับปรุงมัน แต่ มันค่อนข้างแพงที่จะแพงเกินไปสำหรับเขา ตามจริงแล้ว เขาขับรถเล็กๆนั้นง่ายมาก แต่มันค่อนข้างยากขึ้นเมื่อขับรถมินิบัส มันไม่สามารถเปรียบเทียบได้เลย
เมล็ดพันธ์ นอกจากความสามารถพื้นฐานแล้ว มันยังสามารถให้คำแนะนำและคำเตือนถึงเจียงลู่ฉีในขณะที่เขาขับรถด้วย ขึ้นอยู่กับที่เมล็ดพันธ์ุแห่งดวงดาวจะช่วยให้เจียงลู่ฉี ใครที่รู้สึกง่วงนอนและมึนงง ขับรถมินิบัสอย่างช้าๆและไปยังพื้นที่ว่างๆ มันไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกจากท้องฟ้าสีเทาและเจียงลู่ฉียังมองเห็นถนนอย่างลางๆ เขารู้สึกว่าการขับรถแบบนี้มันเหมือนกับขับบนเส้นทางที่มองไม่เห็น กับแสงไฟที่ทำให้ปวดหัว เขาเหล่ตาของเขาลงเล็กน้อย และขับรถอย่างช้าๆ เขาพยายามที่จะหาเส้นทางที่ที่สุดและถูกต้อง รวมทั้งเขาขับรถมินิบัสไปยังถนนหลัก เงาสีดำตัวใหญ่อยู่ๆก็พุ่งเข้ามาจากข้างนอกและกระแทกกับประตูของคนขับรถ
เจียงลู่ฉีรู้สึกตกใจ เขาหันไปมองและเห็นใบหน้าที่แนบมากับกระจกในขณะที่มือของมันพยายามที่จะข่วนกระจกและประตู ครึ่งหน้าของมัน ปากและฟันนั้นเต็มไปด้วยเลือด มันทำให้เจียงลู่ฉีรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าเขารู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้านี้มาก มันเป็นคนเฝ้าประตูที่อ้วกในตอนแรก แม้เจียงลู่ฉีจะเตรียมตัวเจรียมใจมาเรียบร้อยแล้ว มองไปที่คนๆหนึ่งซึ่งเปลี่ยนกลายเป็นสัตว์ประหลาด มันก็ยังทำให้เขารู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูก หัวของเขารู้สึกเสียวแปลบ ขึ้นมากับฉากนี้
เพื่อสร้างสิ่งที่มันแย่ คนเฝ้าประตูนั้นแตกต่างจากพวกซอมบี้ที่เดินอย่างช้าๆในหนัง เขากระโดดขึ้นพร้อมกับมีการกระทำที่รวดเร็ว เขาข่วนไปที่ประตู มันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพลังกายของเขานั้นดีเยี่ยม พร้อมกับดวงตาสีเลือด เขาจ้องไปที่เจียงลู่ฉีและกรีดร้องใส่เขา มันเป็นเสียงที่ดังที่ถูกสร้างขึ้นมาจากสัตว์ประหลาดเฝ้าประตู นั้นทำให้เจียงลู่ฉีนั้นมองหาเงาอื่นๆในหมอกหนาทึบ เจียงลู่ฉีนั้นฟื้นตัวในทันทีกับเรื่องอันน่าหลอนและขยับไปที่ปุ่มเร่งความเร็วอย่างทันที แรงเฉื่อยนั้นโยนร่างของสัตว์ประหลาดออกไปจาก MCV และวิ่งไปที่ถนน
มองไปที่สถานการณ์บนถนนนั้น ทำให้หน้าของเจียงลู่ฉีนั้นเต็มไปด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด เสียงกรีดร้องนั้นสามารถได้ยินทุกที่ ผู้คนวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดและซอมบี้กำลังวิ่งไล่ล่าผู้คน
ไม่นานหลังจากที่เจียงลู่ฉีขับรถ MCV มาบนถนน ก็มีผู้คนวิ่งมาหารถของเขาและตะโกน “ช่วยด้วย! ช่วยด้..” ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เขาก็ถูกจับโดยซอมบี้ที่ใส่สูท พร้อมกับเสียงกรีดร้องและเลือดที่กระเด็นไปทุกที่ ผู้ชายคนนั้นตายอย่างน่าสังเวช หลังจากนั้น ซอมบี้ที่ใส่สูทก็เงยหน้าขึ้นมาข้างบน เผยให้เห็นถึงใบหน้าอันแสนดุร้ายและดวงตาสีเลือด
ซอมบี้มากกว่าโหลพุ่งเข้าไปในทันทีและแทบจะล้อมรอบร่างของชายที่พึ่งตายไป เขากรีดร้องออกมาและมีกลิ่นเหม็นของเลือดของเขาโฉยออกมา ซึ่งแผลออกมาจากบาดแผลทำให้พวกมันตื่นตัว หลังจากที่เขาตาย ซอมบี้ก็เริ่มต้นที่จะกินเขาอย่างสดๆ จนร่างกายของเขาไม่เหลืออะไรเลย ฉากนองเลือดแบบนี้แทบจะเป็นทุกๆที่ แต่มันเป็นครั้งแรกที่เจียงลู่ฉีเป็นสักขีพยานในครั้งแรก
เรื่องที่สำคัญก่อนเรื่องอย่างอื่นนั้น ซอมบี้หาเจียงลู่ฉีเจอ และพวกมันแทบจะพุ่งเข้าไปหารถมินิบัสในทันที เจียงลู่ฉีนั้นเร่งความเร็วขึ้นในทันที ผลักพวกมันออกไปและขับรถตรงต่อไปข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ความแออัดและสิ่งกีดขวางทำให้ทุกสิ่งมันยากขึ้นมาก เขาไม่มีทางเลือกแต่ต้องเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของรถมินิบัส
ซอมบี้มากมายได้สังเกตเห็นถึงรถมินิบัส พวกมันพยายามที่จะพุ่งเข้าหารถมินิบัส แต่เจียงนั้นกำจัดพวกมันโดยการเร่งความเร็วและการเลี้ยว พลังของพวกซอมบี้นั้นมันน่าอัศจรรย์ แม้แต่ซอมบี้เด็ก ซอมบี้ผู้หญิง หรือแม้แต่ซอมบี้คนแก่ ในที่สุดหลังจากการโจมตีของซอมบี้มากมาย เจียงลู่ฉีก็รู้สึกได้ว่ารถมินิบัสกำลังสั่นเล็กน้อย มันทำให้เขารู้สึกตกใจ มันมีซอมบี้จำนวนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขาจากข้างหน้า แต่มันก็ถูกผลักให้ล้มโดยเจียงลู่ฉี เจียงนั้นไม่หันหลังกลับไปมองมัน การทำลายซอมบี้บางตัวนั้นมันไม่ได้อะไรเลย อีกอย่างหนึ่งเขาก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ดังนั้น เจียงลู่ฉีนั้นไม่ต้องการเห็นฉากนองเลือด
“ทางเข้า เชนเบย...” มองเห็นสถานการณ์ที่น่าเศร้าตลอดทาง เจียงลู่ฉีนั้นต้องการที่จะรู้หลี่ ยู่ซินนั้นกำลังทำอะไรอยู่ เขาจะต้องไปหาและตรวจสอบเธอ แน่นอน เจียงลู่ฉีนั้นไม่ต้องการที่จะไปยัง เกาะเฉินไฮ แต่จำเป็นต้องผ่าน ทางเข้าเชนเบยเพื่อที่จะไปยังเมืองหนานจิง และหาเจียงจู้อิง ภัยพิบัติที่หลักเลี่ยงไม่ได้ และผ่านไปยังถนนใหญ่ เขาเร่งรีบที่จะไปเมืองหนานจิง เพียงหนึ่งและหาเจียงจู้อิง ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าน้องสาวของเขานั้นมีภูมิคุ้มกันสำหรับไวรัส มันก็ยังมีอาการติดเชื้อของไวรัสที่ทำให้น่ากลัว ถ้าเจียง จู้อิงทำตามคำแนะนำของเขาและป้องกันตัวเอง เจียงลู่ฉีนั้นก็ยังกังวล เพราะว่าเธอนั้นเป็นเพียงญาติเพียงคนเดียวของเขา
เมื่อเข้าไปใกล้ยังทางเข้าเชนเบย พวกเขามองเห็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาเหล่านั้นส่วนมากนั้นขับรถ ซึ่งทำให้เกิดความแออัดของถนน มันไม่จำเป็นที่จะต้องกลายเป็นการจราจรติดขัด แต่ก็ยังมีบางคนที่พยายามที่จะถอยหลังกลับมาและพยายามเอาตัวพวกเขาเข้าไปในการจราจรที่ติดขัด เจียงลู่ฉีนั้นแทบจะถูกให้ขยับไปไม่ได้ รถข้างๆเขานั้นเปิดหน้าต่างออกมา และคนขับรถก็ด่าเขา “มึงแม่งเหี้.. และ รถมึงด้วย!” หลังจากนั้นรถก็ขับตัดหน้ารถของเจียงลู่ฉี
พร้อมกับรถข้างหลังของเขานั้นก็บีบแตรอย่างบ้าคลั่ง ตามจริงแล้วบางคนนั้นด่าเขาด้วย “ไอเหี้... ออกไป!”รถเหล่านั้นเหมือนมาด้วยกันเพราะว่าพวกเขามีป้ายรถที่เหมือนกัน มันสามารถประเมินได้ว่ารถเขาพวกเขานั้นเป็นรถของบริษัทเนื่องจากมีข้อความ บริษัท XXX ข้างบนป้าย มากกว่านั้น พวกเขาต้องการที่จะออกไปจากเส้นทางนี้
คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ขับแซงเขาไปข้างหน้า แต่พวกเขายังด่าเขา เจียงลู่ฉีรู้สึกหงุดหงิด “อะไรที่พวกมึงคิดว่าพวกมึงสามารถแซงรถกูได้?” เขาต้องการให้พวกมันรู้ว่าการที่จะแซงรถของเขาได้มันจะต้องมีความสามารถ!
เขาเหยียบไปที่คันเร่ง ปัง! รถที่พยายามที่จะแซงไปข้างหน้าของเจียงลู่ฉี ทันทีนั้นก็ถูกสั่น และหลังจากถูกชนไปด้านข้าง คนขับรถก็รู้สึกแปลกใจในเวลานั้น หลังจากนั้นเขาก็โกรธ แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกทำให้รู้สึกตะลึงอย่างแท้จริง เขามองไปที่รถมินิบัสที่มีการกระทำที่หยาบคายโดยไม่มีเหตุผลคล้ายกับเฮอร์คิวลิส และชนทุกอย่างที่ขวางทางเขา และรถทั้งหมดที่แซงเขา นั้นก็ถูกชนไปอยู่ด้านข้างด้วยกันโดยเจียงลู่ฉี!
