Chapter 3: การแสกนและการติดตั้ง
นั่งบนรถมินิบัส เจียงลู่ฉีโทรหาน้องสาวคนเล็กของเขา.... แม้เขาจะรู้ว่าโทรไปก็ไม่ได้ไรขึ้นมา มันก็เหมือนการโยนหินลงไปในทะเล
ก่อนที่เมล็ดพันธ์ุแห่งดวงดาวเข้ามาในสมองของเขา น้องสาวของเขานั้นไปที่ภูเขาเพื่อไปทัศนศึกษา สัญญาณมือถือบนภูเขานั้นแย่มาก
เพื่อเกิดสิ่งที่แย่ขึ้น น้องสาวของเขาจะอยู่บนภูเขาในขณะที่จุดจบของโลกกำลังใกล้เข้ามา
แต่โชคดีที่เจียงลู่ฉี รู้ผ่านเมล็ดพันธ์แห่งดวงดาว ว่าทั้งเขาและน้องสาวคนเล็กจะไม่ติดเชื้อไวรัส น้องสาวของเขาจะไปทัศนศึกษาเสร็จภายในสองวัน นั้นทำให้เจียงลู่ฉีรู้สึกมีความสุขมาก เขาและน้องสาวอยู่ด้วยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถ้าเจียงลู่ฉีไม่สามารถติดต่อเธอได้ เขาจะกลายเป็นบ้า
ตามที่เขาคาดไว้ มือถือของเธอนั้นปิดอยู่ เจียงลู่ฉีนั้นส่งข้อความไปหาเธอ ว่าให้ติดต่อไปหาเขาทันทีที่เห็นข้อความนั้น เจียงจะตรวจสอบให้แน่ใจว่ามือถือของเขาเปิดตลอดเวลา24ชม. เขาเชื่อว่าน้องสาวของเขาจะรีบโทรหาเขาทันทีเนื่องจากว่าเขาดูกังวลใจ
“ท่าน มันจะโอเคใช่ไหมที่พวกเราจะจอดรถที่นี่?” พนักงานขับรถจอดที่หน้าบ้านของเจียงลู่ฉี มองไปด้วยความสงสัย พื้นที่แถวนี้เป็นพื้นที่เก่าแก่ของเมืองเจียงเบย บ้านนี้ดูเก่าอย่างมาก และมาจากยุค 90 และแต่ละครัวเรือนนั้นมีหลังคาที่เก่าแก่อย่างมากและมีที่ป้องกันการโจรกรรม
[สถานที่เช่นนี้ คือที่ที่คนรุ่นใหม่ที่ร่ำรวยนั้นมีชีวิตอยู่งั้นหรอ? มันไม่น่าเป็นไปได้ อยู่ที่นี่เพื่อที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตงั้นหรอ?!] แต่มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของพนักงานขับรถ เมื่อเจียงลู่ฉี เซ็นสัญญา พนักงานขับรถก็ให้กุญแจรถกับเขาและจากไป
นั่งอยู่บนรถมินิบัส เจียงหายใจเข้าลึกๆ เขายุ่งกับการเตรียมตัวทุกอย่างเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าทุกอย่างมันจะพร้อมแล้ว เขาก็ยังไม่รู้สึกสงบและรู้สึกถึงอันตรายอยู่ดี คลื่นความตื่นตระหนกวิ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา
นั่งอยู่บนรถเป็นเวลาห้าหรือหกนาที ในที่สุดเจียงลู่ฉีก็ใจเย็นลง ปฏิกิริยาเหมือนปกติเป็นอย่างมากเมื่อพิจารณาถึงจุดจบของโลกที่กำลังใกล้เข้ามา
เมื่อทำตามคำแนะที่ได้รับมาจากเมล็ดพันธ์แห่งดวงดาว เจียงยืนขึ้นและเดินไปที่นั่งคนขับ เขานั่งและใช้มือจับไปที่พวงมาลัยคนขับ หลังจากนั้นเขาก็หลับตาของเขา เขารู้สึกเหมือนเปิดสวิตช์ขึ้น และมีภาพต่างๆเข้ามาในจิตใจของเขาอย่างชัดเจน ก่อนหน้านั้น รูปร่างของรถเมล์คันเล็กก็กลายเป็นโปร่งใส และชิ้นส่วนทั้งหมดของรถก็กลายเป็นมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เจียงรู้ว่าเมล็ดพันธ์แห่งดวงดาวกำลังแสกนรถมินิบัส หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกลึกลับ เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาอยู่ในเกม VR ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถได้รับ อุปกรณ์ VR เมื่อมันปรากฏในตลาด เขายังรู้สึกได้พบกับประสบการณ์ที่ดีกว่า
หลังจากรถมินิบัสถูกแสกนเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเขา
โมเดล : รถเมล์ขนส่งขนาดปานกลาง ( สำหรับ 14ที่นั่ง)
อายุ : 10 ปี
กำลังการขับเคลื่อน : ใช้เบนซินในการขับเคลื่อน
ความเร็วสูงสุด : 110 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง
เครื่องยนต์ : ถังฉีดตรงแบบฉีด 4 สูบฉีดน้ำแบบฉีดความร้อนด้วยน้ำแบบฉีดตรง 5.014 ลิตร
ข้อบกพร่อง: เครื่องยนต์เก่าและชิ้นส่วนรถยนต์ที่ชำรุด
สรุปได้ว่า รถเมล์คันนี้เป็นรถธรรมดาที่หาได้ทั่วไป เจียงประมาณว่ารถคันนี้ถูกเลิกใช้หลังจากขนส่งและถูกซื้อโดยบริษัทเช่ารถ อันที่จริงแล้วรถคันดังกล่าวมีปัญหาเล็กน้อย นั่นคือการมีชิ้นส่วนที่ชำรุด
แต่เจียงลู่ฉีไม่ได้คิดเลยเกี่ยวกับมันทั้งหมด เนื่องจาก มันเป็นวิธีที่คุ้มค่าที่สุดในการใช้จ่าย เขาจ่ายเงินมากกว่า 10000หยวนนิดหน่อย หลังจากเขาติดตั้งมันครั้งแรกเรียบร้อย รถเมล์คันเล็กรุ่นนี้มันจะสามารถปรับตัวเข้ากับการที่จุดจบของโลกกำลังมาถึงได้
มีวิธีหลายทางมากในการติดตั้งจากเมล็ดพันธ์แห่งดวงดาว อย่างไรก็ตาม เจียงลู่ฉีเลือก ยานพาหนะก่อสร้างเคลื่อนที่ (MCV) ถึงแม้ว่า การติดตั้งรถ MCV นั้นจำเป็นจะต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมาก การที่จะทำมันไม่จำเป็นที่จะต้องสงสัย ในไม่ช้า เมล็ดพันธ์แห่งดวงดาวส่งรายชื่อวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ในการติดตั้ง รายชื่อนั้นทำให้เจียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
เขาจำเป็นต้องซื้อเหล็ก 100 ปอนด์ทองแดง 100 ปอนด์ สกรูที่มีลักษณะแตกต่างกัน 10 กิโลกรัมของไทเทเนียม และหนังประมาณ10ฟุต และวัตถุดิบทั้งหมดที่แปลกๆ เจียงลู่ฉีรู้ว่าวัตถุดิบทั้งหมดนี้มีราคาที่แพงมาก แต่ละอย่างของมันนั้นจะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าค่าเช่าของรถซะอีก
รายชื่อของวัตถุดิบทั้งหมดนี้มีราคาสูงเกินกว่างบประมาณของเขาในปัจจุบันซะอีก วัตถุดิบที่จำเป็นนั้นมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้ เนื่องจากเขาเลือกประเภทของรถที่ซับซ้อน เขาไม่รู้ว่าเงินที่เหลือของเขาและเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ของเขาจะเพียงพอในการซื้อของเหล่านี้หรือไม่
ถึงแม้ว่า จะมีเส้นทางที่มีข้อความที่ถูกปกคลุมไปด้วยโฆษณา “หนึ่งนาทีของบัญชี เพียงแค่ใช้ไอดีการ์ดในการยืมเงิน” เจียงลู่ฉีนั้นให้ไอดีการ์ดนักเรียนของเขาแก่ มา เฮ่า และ บัตรประชาชนของเขาก็อยู่กับบริษัทเช่ารถ เขาไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์อะไรเลย ดังนั้นเขาจึงไม่มีเอกสารทางการที่เขาจะใช้ในการยืมเงินได้
[ ดี ฉันจะสั่งอะไรก็ตามที่ฉันสามารถซื้อมันได้ละกัน.... ]
เจียงลู่ฉีนั้นหยิบมือถือของเขาออกมา เมื่อเขาเปิดมัน เขาพบสายที่ไม่ได้รับสองสาย เขาไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่มันดัง และเขาก็ไม่รู้จักเกี่ยวกับเบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้ด้วยซ้ำ
“สวัสดี?” เจียงลู่ฉี โทรกลับไป
“สวัสดี นี่คือเจียงลู่ฉีใช่ไหม?” มันเป็นเสียงของผู้หญิงที่หวานๆ เสียงที่นุ่มนวล
“ใช่ ฉันเอง เธอโทรมาหาฉัน แปลว่ามีเรื่องอะไรใช่ไหม?” เจียงลู่ฉีถาม
“ฉันชื่อ หลี่ ยู่ซิน” เด็กผู้หญิงตอบกลับ
เจียงลู่ฉีไม่ได้คาดหวังไปซะทั้งหมด เขาคิดว่านี่ก็คือการโทรหาทางธุรกิจ ทั้งจากบริษัทเช่าหรือตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้า เขาไม่คาดหวังว่าเขาจะได้รับการโทรหาจาก หลี่ ยู่ซิน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้เวลาเป็นจำนวนมากกับการโทรหาเด็กผู้หญิง เขาก็ไม่มีปัญหาในการพูดคุยกับเธอ เขากำลังสงสัยว่าทำไมเธอโทรหาเขา ที่จริงแล้ว เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกันตอนมปลายก็ตามที
สถานะครอบครัวของหลี่ ยู่ซินนั้นค่อนข้างดี รูปร่างของเธอนั้นดูอ่อนโยนและดูร่าเริง เธอนั้นมีอารมณ์ที่ดีทำให้เธอโด่งดังในห้องเรียน มีฉากพิเศษที่ปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเขา มันคือ รูปร่างของหลี่ ยู่ซิน ที่จ้องมองไปที่หน้าต่าง และผมที่สวยงามของเธอตกลงไปตรงบ่า
หลี่ ยู่ซิน เป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยม แต่เธอไม่ค่อยเก่งในเลข อย่างไรก็ตามเจียงลู่ฉีนั้นเรียนเลขเก่ง และทำให้หลี่ ยู่ซินคอยถามเจียงลู่ฉีตลอดให้อธิบายปัญหาโจทย์คณิตศาสตร์
หลี่ ยู่ซินถูกสนใจเสมอในห้องเรียน เธอไม่ได้สังเกตว่าผมของเธอนั้นโดนมือของเจียน โชคร้ายที่ พ่อแม่ของเขานั้นโดนอุบัติเหตุ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ไปโรงเรียนเป็นเดือน เมื่อเขากลับมาที่โรงเรียน เขาก็เปลี่ยนกลายเป็นอีกคนหนึ่ง เขากลายเป็นคนที่ขี้อายและเก็บตัว และเขาก็เริ่มนั่งที่ด้านหลังห้องเรียนด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่า หลี่ ยู่ซินจะมองไปในทิศทางที่เขาอยู่ก็ตาม เธอพยายามที่จะพูดกับเขาหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้
สุดท้ายแล้ว เจียงลู่ฉีก็ลืมการตายของพ่อแม่ของเขาได้ ถึงแม้ว่า พวกเขาจะเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันในตอนนี้ แต่พวกเขาก็มีทางเดินที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เจียงลู่ฉีก็มีความฝันเกี่ยวกับรักอันสวยงาม
ได้ยินเสียงของหลี่ ยู่ซินอีกครั้ง เจียงรู้สึกดีเข้าไปในหัวใจของเขา เสียงของเธอนั้นคล้ายกับเสียงลมอ่อนๆ
“จริงๆ... มันก็เป็นเวลานานแล้วนะ”เจียงไม่สามารถช่วยได้แต่ถอนหายใจ
“ใช่ พวกเราไม่ได้พูดคุยกันมาเป็นเวลานานแล้ว” หลี่ ยู่ซินตอบ
“ดี มีเรื่องอะไรละ?”เจียง ถาม
“ฉันได้ยินมาว่านายขาดเงิน ฉันไม่ได้สนิทกับ หลี่ จุน แต่ฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มา” หลี่ ยู่ซินพูด
เจียงลู่ฉีขมวดคิ้วทันที “เขาพูดว่าอะไรบ้าง?”
“เขา ชวนเพื่อของฉันให้ไปกินอาหารเย็นกับเขา แต่เขามัวแต่ดูแต่มือถือ สรุปแล้ว เพื่อนฉันถามเขาว่าทำไม เขาพูดว่านายขอยืมเงินเขา ฉันคิดว่านายน่าจะมีปัญหา ดังนั้นฉันถึงขอเบอร์โทรศัพท์ของนายจากเขา....” หลี่ยู่ซินตอบมาตรงๆ
“หลี่ จุน....”เจียงลู่ฉีพูดไม่ออก หลี่ จุนไม่ได้จ่ายเงินคืนเขา แต่เขาไปพูดเรื่องส่วนตัวของเขาให้คนอื่นฟัง เขาจำเป็นที่จะเรียนเกี่ยวกับการแสดงในที่สาธารณะ!
“ความจริงแล้วคือ....” เจียงลู่ฉีอธิบายความจริง
หลังจากได้ยินแล้ว หลี่ ยู่ซิน รู้สึกโกรธมาก “ฉันรู้ว่านายไม่ใช่คนประเภทนั้น นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า นายกล้าเหมือนกับทองเหลือง ฉันจะรีบไปบอกเพื่อนฉันให้อยู่ให้ห่างกับเขา แล้วนายยังต้องการเงินไหม?”
“มันโอเคละ ฉันจะหาทางแก้ไขมันเอง....” เจียงลู่ฉีพูด
“เบอร์ Alipay คือเบอร์ของนายใช่ไหม? ฉันจะได้โอนเงินจำนวนหนึ่งไปให้นาย นายสามารถคืนเงินฉันได้เมื่อนายดีขึ้น พวกเราเป็นเพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องห่วง เมื่อตอนที่พวกเรายังอยู่มปลาย นายยังช่วยฉันในแก้โจทย์เลขทุกวัน เราใช้เวลาด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ฉันไม่เคยได้ขอบคุณนายเลย”หลี่ ยู่ซินหัวเราะ
เจียงลู่ฉี รู้สึกตกใจในเวลานั้น เสียงหัวเราะของหลี่ ยู่ซินนั้นช่างนุ่มนวมเหลือเกิน
“ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ....”
“ด้วยความยินดี นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าเพื่อนใช่ไหมละ?” หลี่ ยู่ซินหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของเธอนั้นเหมือนเสียงลมเบาๆ
“แน่นอน”เมื่อวางสายลง เจียงลู่ฉีรู้สึกอบอุ่น
ไม่ได้คาดหวังว่าหลี่ ยู่ซินจะช่วยเหลือเขาและไม่ถามเขาด้วยว่าเขาจะยืมเงินไปทำไม ตั้งแต่ต้นจนจบ
เขาได้รับข้อความ เขารู้สึกตกใจเมื่อเห็นจำนวนเงินที่โอนมา เป็นเงิน 20000 หยวน พร้อมกับข้อความใหม่ที่กล่าวว่า “นายจะดีขึ้นด้วยเงินนี้ ดีขึ้นไปอีก”
เจียงตื้นตันไปกับคำพูดของเธอ ถึงแม้ว่า ครอบครัวของหลี่ ยู่ซินจะรวยก็ตาม แต่เธอใช้ชีวิตอย่างประหยัด บางที 20000หยวนนี้จะต้องเป็นเงินของเธอ แต่เมื่อเธอได้ยินเกี่ยวกับความยากลำบากของเขา เธอโทรหาเขาในทันที หลายๆครั้ง...”
เจียงลู่ฉีตัดสินใจที่จะโทรกลับไปในทันที อย่างไรก็ตาม เมื่อหลี่ ยู่ซินตอบรับโทรศัพท์ของเขา เธอก็พูดด้วยเสียงไม่ค่อยดี “เกิดอะไรขึ้น?”
เจียงลู่ฉีช่วยไม่ได้ที่หัวเราะ เขาขยับและรู้สึกมีความสุข “ไม่ต้องกังวล ฉันไม่โทรมาเพื่อจะคืนเงินเธอ”
“โอ้...” หลี่ ยู่ซินรู้สึกเชื่อมั่นและรีบพูดว่า “ฉันไม่ได้ต้องการที่ได้รับคำขอบคุณ ถ้าไม่ได้นายช่วยเหลือ ฉันจะทำยังไงเพื่อเขามหาวิทยาลัยเจียงเบยละ....”
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย” เจียงลู่ฉีรู้สึกเขินอาย และแตะไปที่หัวของเขา หลังจากนั้นก็ไอออกมา หลังจากนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ได้โปรดส่งที่อยู่ของเธอมา”
“ที่อยู่ของฉัน? ทำไมละ? นายต้องการที่จะคืนเงินของฉันต่อหน้างั้นหรอ?”หลี่ ยู่ซินหัวเราะกลับมา
“ไม่ต้องกังวล แค่บอกฉัน ฉันจะไม่ทำสิ่งแย่ๆ”เจียงลู่ฉีทำเสียงล้อเลียน
“ดี โอเค งั้นที่อยู่ของฉันคือ....”
“แปปนึงนะ ขอฉันจดมันก่อน”เจียงลู่ฉีขยับมือที่ว่างของเขา และเขียนบันทึกที่อยู่ของเธอไว้ในกระดาษ
“เอาจริงสิ? ทำไมนายต้องเขียนมันละ? ฉันรู้สึกกระวนกระวายนิดหน่อยละนะเนี่ย เมื่อไหร่ที่นายจะโผล่มา? แต่ถ้านายเยี่ยมฉัน ฉันจะมีความสุขมากเลยละ” หลี่ ยู่ซินพูด
ตามจริงแล้ว เธอรู้สึกอายนิดหน่อย และเจียงลู่ฉีรู้ว่าการขอของเขานั้นทันทีเกินไป แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น ถึงแม้ว่ามันจะทันทีเกินไปนิด แต่มันก็จำเป็น
“ยู่ซิน วังอังคารหน้า เธอต้องอยู่บ้านกับครอบครัวของเธอ เธอจะต้องไม่ออกไปไหน นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดถ้าเธออยู่คนละห้อง และเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นเธอก็แค่ล็อคห้องของเธอจากข้างใน ฉันจะไปหาเธอ นี่คือเรื่องที่สำคัญมากๆ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตาย!”เจียงลู่ฉีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและเสียงที่แข็งกร้าว
เจียงลู่ฉีได้รับรู้ว่าถ้าเขาบอกหลี่ ยู่ซินเกี่ยวกับเรื่องจริง เธอจะไม่เชื่อเขา และพ่อแม่ของเธอก็จะไม่เชื่อเช่นกัน ถ้าเขาบอกว่าเกี่ยวกับความเป็นความตาย ครอบครัวของเธอจะคิดว่าเขาเป็นบ้า
“ล็อคตัวเองในห้องที่แตกต่างกัน?”หลี่ ยู่ซินพูดด้วยเสียงงงๆ จะมีใครบางคนมาทำร้ายพวกเขางั้นหรอ?
“เจียงลู่ฉี นายกำลังพบกับปัญหาบางอย่างหรือปล่าว? นายกู้เงินนอกระบบและไม่ได้คืนเงินพวกเขางั้นหรอ?”หลี่ ยู่ซินถามอย่างกระวนกระวาย
“ไม่ใช่ แต่มันคือเรื่องสำคัญจริงๆ เธอจำเป็นที่จะต้องเชื่อฉัน เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ได้โปรดละ!”เจียงลู่ฉีพูด
เขาได้ยืมเงิน แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่สำคัญ... เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด
“เรื่องนี้ ฉัน.. ไม่แน่ใจ....”หลี่ ยู่ซินตอบอย่างไม่เต็มใจ เรื่องนี้มันดูเป็นเรื่องที่ดูอันตราย
“เชื่อฉันเถอะนะ! และทำตามสิ่งที่ฉันพูด!”เจียงพูดอีกครั้ง
“เรื่องนี้...”
“สัญญากับฉันสิ!”เจียงพูดอย่างจริงใจ
“โอเค ได้.....”
เมื่อวางสายโทรศัพท์ เจียงลู่ฉีถอนหายใจออก เขาพยายามที่สุดแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ หลี่ ยู่ซิน แต่ถ้าเธอเลือกที่จะอยู่บ้าน เธอเป็นเด็กที่ใจดี มีเพียงแต่พระเจ้าที่รู้ว่า หลี่ ยู่ซินนั้นสามารถมีชีวิตรอดหรือไม่ หวังว่าพระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เด็กที่ดีอย่างเธอตายในภัยพิบัติ และตราบเท่าที่เธอยังมีชีวิตรอด เจียงลู่ฉีเชื่อมั่นว่าเขาจะสามารถหาเธอเจอ.
ฝากติดตามเพจผมด้วยนะครับ
