ตอนที่ 55 ซื้อคฤหาสน์ [อ่านฟรีวันที่ 25 มกราคม 2561]
“นายต้องการชวนฉันออกไปเดท?”
มันเป็นคำถามที่ไม่คาดคิดที่ทำให้ห้องเงียบ
“อะไร?!” เจียงเฉินก็ตระหนักถึงสิ่งที่เธอถามและเกือบจะตกจากโซฟา เขาจ้องไปที่เซียชียูและก็ตะลึงกับคำถาม
เขาไม่เข้าใจตรรกะของเธอมาจากไหน ทำไมเธอถึงมากับ “ฉันจะชวนคุณไปออกเดท?” ได้อย่างไร?
“การดำรงอยู่ของบริษัทนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างผลกำไร ถ้าคุณมีวิธีการที่คุณสามารถสร้างผลกำไรได้มากกว่าหนึ่งร้อยล้านภายในครึ่งปีแล้วทำไมคุณถึงต้องลงทุนผลกำไรที่หาได้ยากลงไปในอุตสหกรรมเทคโนโลยีซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงที่สุด?” เซียชียูได้หยุดชั่วคราวก่อนที่เธอจะอธิบาย
เอาตรงๆเลยถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกผิดหวังกับรอยยิ้มกว้างและทัศนคติที่ไม่ค่อยจริงจังของเขาเป็นครั้งคราว เธอไม่เคยไม่ชอบเจียงเฉิน นอกจากนี้เธอรู้สึกถึงอารมณ์ที่เธอไม่เคยมีประสบการณ์ก่อนที่จะทำงานร่วมกับเขา
โล่งใจ? ผ่อนคลาย? มันยากที่จะพูด
ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้เธอสับสน
คำถามตรงไปตรงมาและไม่คาดฝันเป็นผลมาจากความรู้สึกสับสนของเธอ
เธอสงสัยมาก่อนว่าเจียงเฉินได้สร้างบริษัทนี้เป็นข้อแก้ตัวชวนเธอเดท
[เขาเริ่มชอบฉันเมื่อไหร่? เมื่อเขาทำงานที่ร้านขายเสื้อผ้า? ฉันดูเหมือนจะทำร้ายเขา เพราะความเจ็บปวดที่ฉันนำมาให้เขาแล้วมันได้บังคับให้เขาเปลี่ยนไปเป็นที่เขาอยู่ในขณะนี้]
เซียชียูรู้สึกขัดแย้งกัน เธอเกลียดความคิดที่จะกลายเป็นรางวัล เธอต้องการใช้ความมุ่งมั่นของเธอในการพิสูจน์ความสามารถและสร้างคุณค่าส่วนตัวของตัวเอง
เมื่อเธออยู่ในมหาวิทยาลัยมีคนรวยจำนวนมากไล่ตามเธอและแม้กระทั่งสัญญาว่าจะให้งานในตำแหน่งที่เป็นที่เคารพให้เธอและแม้กระทั่งตำแหน่งผู้บริหารทันที แต่เซียชียูปฏิเสธพวกเขาทั้งหมด เธอมีความภาคภูมิใจของตัวเองและความภาคภูมิใจถูกสนับสนุนโดยความสามารถของเธอ แม้ว่าเธอจะเกิดมาในครอบครัวธรรมดาและสิ่งที่เธอครอบครองก็เป็นอะไรที่ธรรมดา
หน้าตามีความสำคัญในวันนี้และอายุแต่ไม่ใช่ทุกอย่าง คนส่วนใหญ่ยังคงทำงานอย่างขยันขันแข็ง
อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกขัดแย้งกับเจียงเฉิน
เธอเดาว่าเจียงเฉินสร้างบริษัทนี้ขึ้นเพื่อเก็บเธอไว้ที่นี่ เขาไม่มีแรงบันดาลใจใดๆกับบริษัท พิมพ์เขียวที่เขาวาดเป็นแค่คำพูดปากปล่าวที่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น
[เพราะฉันเป็นหนี้เขา? ไม่แล้วมันคือะไรล่ะ?] เซียชียูไม่สามารถคิดมันได้
ผู้หญิงเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ดื้อดึงเมื่อพวกเขาตัดสินใจอะไรเองแล้วพวกเขาก็จะเพิเกเฉยต่อประเด็นอื่นๆที่จะคัดค้านประเด็นนี้ ตัวอย่างเช่นมูลค่าที่มีศักยภาพของเกมบนมือถือและการลงทุนหนึ่งร้อยล้านที่เพิ่งให้กับเธอ
ข้อโต้แย้งทั้งหมดที่ได้รับการคัดค้านได้รับการละเลยอย่างเต็มที่
“ฉันไม่เข้าใจเกี่ยวกับหนึ่งร้อยล้านหยวน ถ้าคุณลงทุนมันในอสังหาริมทรัพย์แล้วจะได้กลับมาตอนนี้...”
“เพราะฉันอยากจะสัมผัสกับความรู้สึกที่อยู่ข้างบน” เจียงเฉินขัดจังหวะเธอ
เซียชียูรู้สึกสับสนกับคำตอบที่แปลกๆขณะที่เธอจ้องมองที่เจียงเฉินอย่างว่างเปล่า
“หนึ่งร้อยล้าน? ฮิฮิ มันเป็นเพียงตัวเลขทศนิยมเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดหุ้นในอนาคตของฟิวเจอร์เทคโนโลยี ฉันจะทำเงินเป็นจำนวนมากแต่ถ้าใส่เงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์จะไม่ทำให้ฉันไปสู่ด้านบน ดอกเบี้ยหนึ่งล้านต่อปีจะใช้เวลาหลายปีในการเพิ่มเป็นสองเท่าจากทุนของฉัน ถ้ามันเป็นสำหรับคุณ? ฮิฮิ ฉันสามารถปังสาวๆได้หลายปีด้วยเงินหนึ่งล้อยล้าน” เขาไม่ได้หลีกเลี่ยงคำพูดที่ออกแนวลามกในขณะที่เขาลุกขึ้นยืนและมุ่งหน้าตรงไปที่ประตูทำให้เซียชียูตกใจในสถานที่
[ดังนั้นนั่นเป็นเหตุผล? แล้วมันก็ไม่เป็นไร...]
เธอจ้องอย่างไม่มีเหตุผลไปที่ประตูขณะที่เธอไม่รู้ว่าเขามีความมั่นใจในการพูดสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไรและไม่อาจเชื่อได้ว่าเธอเห็นด้วยกับมัน
[ไม่ใช่เพราะฉัน?]
เธอไม่รู้ว่าทำไมความผิดหวังพุ่งเข้าไปในหัวใจของเธอ
เขาปิดประตูและบังคับรอยยิ้มที่ด้านหลังประตูให้กับเธอ
[ฉันเข้มงวดเกินไปหรือไม่? แต่หญิงสาวคนนี้เธอมั่นใจกับตัวเองได้อย่างไรถึงได้สรุปมาอย่างนั้น?]
เขาส่ายหัวขณะที่เขาหายใจเข้าลึกๆและปล่อยออกมาและเดินลงบันได
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ตระหนักว่าช่วงที่แยกจากกันการเต้นของหัวใจของเขาเต้นอย่างรวดเร็ว
เช้าวันรุ่งขึ้นเจียงเฉินพาอเยชาไปลองขนมปังร้อน เขาเฝ้ามองขณะที่หญิงสาวกินอาหารและเขารู้สึกว่าหัวใจของเขาหว้าเหว่ตรงจุดนั้น ภาพดังกล่าวเตือนเขาถึงซันเจียว เธอทำอะไรอยู่? เย้าเย้า? ร่างกายของเธอเริ่มดีขึ้นหรือไม่?
เขาจำได้ว่าครั้งนั้นในโลกหายนะขณะที่รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
อเยชาชำเหลืองไปที่รอยยิ้มขณะที่เธอรู้สึกว่ามีกระแสความอบอุ่นไหลเข้ามาภายในตัวของเธอ
บางทีมันถึงเวลาที่จะกลับไปเยี่ยมพวกเขา เจียงเฉินอยู่ในความคิดลึกโดยไม่ได้สังเกตเห็นวิสัยทัศน์ของหญิงสาวขณะที่เขาจ้องที่ไอน้ำที่ลอยขึ้นจากข้าวต้มเครื่อง
หลังจากอาหารเช้า อเยชาไปเรียนภาษาจีนของเธอ เจียงเฉินแทนที่ขึ้นแท็กซี่ไปยังสถานที่ของเซียชียูและพาเธอไปที่สำนักงานเพื่อดำเนินการแช่หุ้น
เจียงเฉินรู้สึกหงุดหงิดในขณะที่เขากลัวว่าจะเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจเพราะเมื่อวานนี้เขาทิ้งคำอธิบายสั้นๆไว้ก่อนที่จะวิ่งหนี ตอนนี้เขาคิดถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็คิดเกี่ยวกับการหนีการสนทนา
แต่เขาเห็นได้ชัดว่าเซียชียูทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเธอเห็นว่าเขาไม่ตอบสนองต่อสิ่งใดๆแล้วเธอก็เข้าไปในแท็กซี่และนั่งข้างๆเขา
“เมื่อคืนคุณนอนหลับฝันดีไหม?” เจียงเฉินไม่ทราบวิธีการเริ่มต้นสนทนาดังนั้นเขาจึงถามอย่างเมินเฉย
เซียชียูกลิ้งตาและไม่ตอบ เธอหยิบเอกสารชิ้นหนึ่งออกมาและวางมันลงไปที่ตักของเจียงเฉิน
“มีงานอาชีพในวันพุธที่มหาวิทยาลัยหวังไห่ ฉันได้จับจองจุดที่นั่นและฉันหวังว่าคุณจะสามารถมากับฉันในฐานะประธานบริษัทได้”
“ไม่มีปัญหา คุณมีเวลาในช่วงบ่ายนี้ไหม” เจียงเฉินตกลงโดยไม่ลังเลเพราะเขาถามคำถามอื่นทันที
“มี ทำไมมีอะไรเกิดขึ้น?”
“ไปหาบ้านกับฉัน” เจียงเฉินยักไหล่ขณะที่เขาถามอย่างหน้าไม่อาย
“นี่ถือว่าเกี่ยวกับธุรกิจหรือส่วนตัว?” เซียชียูถอนหายใจ
“อืมม คุณสัญญากับฉัน มันควรถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว”
เซียชียูมองไปที่ด้านข้างของใบหน้าของเจียงเฉินเมื่อจิตใต้สำนึกสั่งให้เธอกัดริมฝีปากของเธอ
เธอกำลังจะปฏิเสธเขาแต่คำพูดไม่ออกมา เหตุใดจึงเกิดขึ้น? เธอยังไม่ค่อยเข้าใจ
กลางคืนก่อนเจียงเฉินได้รับคำแนะนำจากโรเบิร์ตโอนเงินหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐจากบัญชีธนาคารสวิสของเขาไปยังบัญชีของเขาที่นี่ แน่นอนว่าเงินถูกแปลงแล้วตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันพร้อมกับค่าธรรมเนียมบางอย่างที่เปลี่ยนเป็นหยวน
มันเป็นวิธีที่น่าสนใจในราคาที่ต่ำ โรเบิร์ตสัญญาว่าจะไม่มีปัญหาทางกฎหมาย
เขามองไปที่เลขศูนย์ยาวในบัญชีธนาคารของเขาบนโทรศัพย์ขณะที่เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งที่หน้าจอก่อนในที่สุดเขาจะปิดโทรศัพย์ของเขา ในขณะที่สายตาของเซียชียูจ้องอย่างอยากรู้อยากเห็นแต่เขาไม่สนใจที่จะอธิบายมันและเพียงแค่ปิดตของเขา
[ฉันควรจะขับรถแลมโบกินี่? หรือเบนท์ลีย์ดี? นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก]
เซียชียูแน่นอนเป็นคนที่มีระเบียบขณะที่เธอดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในการทำหน้าที่ผู้ช่วย ไม่ใช่แล้วเป็นงานซีอีโอ เจียงเฉินสามารถ “ทำ” บทบาทผู้ช่วยได้
เซียชียูเตรียมเอกสารที่จำเป็นไว้แล้วและทำความคุ้นเคยกับกระบวนการทางกฎหมาย เจียงเฉินได้ตรวจสอบเอกสารก่อนที่เขาจะลงนาม กรรมสิทธิ์หุ้นของฟิวเจอร์เทคโนโลยีมีเส้นทางเริ่มต้นจากศูนย์ก่อนที่มันจะถูกเพิ่ม
เจียงเฉินสังเกตเห็นว่าเมื่อเขาเขียนหนึ่งร้อยล้านลงไปในเอกสาร ดวงตาของตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้ารอบๆเคาน์เตอร์ก็พริบตาจ้องมองเขา
เงินเป็นรากเหง้าแห่งความชั่วร้าย นี่ตลกเกินไป
แต่ก่อนเขาดูถูกมันแต่ตอนนี้เขาแค่อยากหัวเราะ
“หนึ่งร้อยล้านของสินทรัพย์สภาพคล่องตัว นี่ไม่น่าเชื่อเลย” ด้วยมือที่สั่นเทาของเซียชียูที่มองไปที่เอกสาร เธอยังคงตกใจกับชนิดของเหตุการณ์
แม้ว่าเธอจะเป็นผู้จัดการร้านที่เคยสัมผัสกับโลกมาก่อน แต่เธอยังเด็กเกินไป
“นี่เป็นเพียงแผนเริ่มแรกที่ผมวางแผนไว้ที่จะทำเกมมือถือให้เป็นงานชิ้นเอกระดับโลก ด้วยแผนนี้มันจะไม่ยากที่จะกู้คืนการลงทุนครั้งแรก” เจียงเฉินเปิดประตูให้เซียชียูเหมือนสุภาพบุรุษ
“งั้นคุณก็รู้อะไรสักอย่าง” เซียชียูเหลือบไปที่เจียงเฉินด้วยความประหลาดใจในสายตาของเธอ เธอคิดว่าเจียงเฉินต้องการให้เธอจัดการกองขยะนี้
สำหรับเกมบนมือถือ มันอาจส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรในระยะยาวหากบริษัทไล่ตามผลตอบแทนระยะสั้นและการสร้างกระแสเงินสด กลยุทธ์ที่ดีกว่าคือการไม่ให้ความสำคัญกับการสูญเสียในระยะสั้น
“คุณต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างองค์จักรพรรดิกับแม่ทัพ คุณกำลังรับผิดชอบในการสู้ศึกแต่ฉันเพียงแค่บอกให้คุณรู้ว่าจะต่อสู้ที่ไหน” เจียงเฉินค่อยๆยกมือขึ้นและชี้ไปรอบๆซึ่งทำเซียชีหยูหมุนดวงตาของเธอ
"ฉันรู้สึกเหมือนฉันกำลังทำงานของคนรับใช้"
“ฮ่าๆ นั่นเป็นภาพลวงตาของคุณ แต่เพื่อความเป็นธรรมอารมณ์ของคุณดูเหมือนจะสดใสขึ้นมาก คุณสามารถแม้แต่จะเล่นตลกด้วยกันสองคนในตอนนี้” เจียงเฉินมองเซียชียูด้วยความประหลาดใจในขณะที่เขาชมเธอ
“เราจะไปที่ไหนตอนนี้? ท่านประธาน” เซียชียูเปลี่ยนหัวข้อย่างดื้อๆ
“อสังหาริมทรัพย์หว่านฮั่วที่เป็นหนึ่งในใจกลางเมือง” เจียงเฉินบอกคนขับรถแท็กซี่ขณะที่พวกเขาทั้งสองตัดสินใจอย่างชัดเจนในด้านหลัง ถ้าเขาต้องการซื้อคฤหาสน์แล้วเขาก็เห็นได้ชัดว่าจะต้องไปที่บริษัทที่ดีที่สุด มันจะเป็นระดับต่ำเกินไปที่จะพักอยู่ในโรงแรม
"..." เซียชียูไม่ได้พูดอะไรในขณะที่เธอเงียบตามคำแนะนำของเขา
อสังหาริมทรัพย์หว่านฮั่วซึ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในเมืองหวังไห่ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวม 1.327 ล้านล้านและเป็นเจ้าของบริษัทกว่า 500 แห่ง เหตุผลที่เขาเลือกที่จะซื้อคฤหาสน์ที่นี่คือการที่เขาไม่มีความเข้าใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่เขาได้ยินชื่อของบริษัทมาก่อนสองสามครั้งในข่าวแล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะซื้อมันที่นั่น
เมื่อเขาลงจากรถแท็กซี่แล้วก็ได้เห็นอาคารอันงดงามที่อยู่ตรงด้านหน้าเขา พื้นหินอ่อนปกคลุมด้วยพรมสีแดงสะอาด การแกะสลักที่เป็นเอกลักษณ์ตกแต่งด้านข้างของบันได การรวมกันของความทันสมัยและความคลาสสิคเข้าด้วยกันอย่างลงตัวเพื่อแสดงความสง่างามระดับสูงของอาคาร กลิ่นอายของการออกแบบทำให้ผู้คนชะงักและอิจฉาความยิ่งใหญ่ของอาคาร ผู้สัญจรไปมาเป็นครั้งคราวจะหลีกเลี่ยงพรมแดงที่มีชีวิตชีวา
มันเหมือนกับพระราชวังที่ตั้งอยู่ในสวรรค์เหนือพื้นดิน
การออกแบบอาคารเพื่อเน้นระดับของผู้ซื้อและบังคับชาวนาให้อยู่ห่างๆ
พูดง่ายๆก็คือพวกเขาไม่ต้องการนให้คนที่ไม่สามารถจ่ายได้เข้ามาในอาคาร
ขณะที่เจียงเฉินยืนอยู่บนพรมเขาก็กลัวที่จะก้าวต่อไปแต่แล้วเขาก็จำได้ว่าตอนนี้เขาเป็นเศรษฐีดังนั้นทำไมเขาจึงไม่สามารถที่จะมีความมั่นใจ ดังนั้นเขาจึงก้าวยาวๆไปทางประตู
อสังหาริมทรัพย์หว่านฮั่วไม่ทราบว่าพวกเขาเกือบพลาดข้อตกลงนับล้านเพราะการออกแบบโง่ๆ
นี่เป็นยุคของเศรษฐีใหม่
เซียชียูแทนที่ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจอะไรขณะที่เธอเดินตามเจียงเฉินอย่างธรรมชาติ ไม่ใช่เพราะเธอใช้ชีวิตชั้นสูงเพียงแค่เธอไม่ใช่คนที่ซื้อบ้าน
“ยินดีต้อนรับทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย” คนสองคนคำนับเซียชียูและเจียงเฉินพร้อมๆกัน พวกเขาสวมใส่ชุดกี่เพ้าที่ดูสะอาดและสง่างามด้วยผมที่มัดไว้แบบหางม้าพร้อมกับผิวที่สมบูรณ์แบบของพวกเขาและใบหน้าที่ละเอียดอ่อน แม้แต่การคำนับก็เป็นสาวสวยที่ให้ความสำคัญกับความหรูหราของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งนี้
คนที่คำนับเฝ้ามองไปที่เจียงเฉินแบบแปลกๆขณะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นคนบางคนใช้รถแท็กซี่ไปซื้อบ้านที่อสังหาริมทรัพย์
แม้ว่าเธอจะสับสนแต่เธอก็ยังคงปฏิบัติตามกฏของบริษัทและทำตัวสุภาพ กฎของบริษัทระบุไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ควรตัดสินคนที่ภายนอกควรทำตามพื้นฐานที่ให้ความประทับใจ ผู้ฝ่าฝืนจะถูกไล่ออกแม้ว่าจะเป็นผู้จัดการที่ทำผิดกฎ เพื่อหลีกเลี่ยงการดูหมิ่นคนร่ำรวยโดยบังเอิญในชุดปกติ
มีคนจำนวนมากที่ชอบทำโปรไฟล์ต่ำ
เงินเดือนสูงเท่ากับความคาดหวังที่สูงซึ่งเป็นการอบรมของอสังหาริมทรัพย์หว่านฮั่ว
เธอเป็นพนักงานต้อนรับและม่าจำเป้นต้องกังวลกับสิ่งเหล่านี้ แม้ว่าเจียงเฉินจะอยู่ที่นี่เพื่อมองหาปัญหานั่นจะเป็นความกังวลของผู้รักษาความปลอดภัย
เจียงเฉินไม่ได้กังวลกับสิ่งที่พวกเขาคิดขณะที่เขาเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ด้วยความมั่นใจอย่างเต็มที่ เซียชียูอยู่ข้างหลังเขาเพียงจ้องไปที่พนักงานต้อนรับแล้วก้มศีรษะของเธอต่ำเล็กน้อยก่อนที่จะจากไป
เสาหินอ่อนด้วยชั้นของหิน โคมระย้าคริสตัลยักษ์ที่ดึงดูดความสนใจของผู้มาเยือนทุกคนเหมือนกับเพรชที่สดใส การออกแบบที่สง่างามของห้องโถงใหญ่เติมเต็มเจียงเฉินด้วยความคาดหวังของคฤหาสน์ที่กำลังจะซื้อ ถ้าพวกเขาจะออกแบบสำนักงานใหญ่ด้วยความโปร่งใสเช่นนี้บ้านที่พวกเขาขายจะต้องเทียบเคียงกันได้
อาคารมันเป็นตัวโฆษณายอดเยี่ยม
แต่เมื่อเขาเห็นพนักงานต้อนรับเขาก็ตกใจในสถานที่