TXV – 50 ชิ้นใหญ่แค่ไหนก็ไหว !
TXV – 50 ชิ้นใหญ่แค่ไหนก็ไหว !
ติดตามข่าวสารก่อนใครได้ที่ https://www.facebook.com/Tran.xend.vis/
ไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์เป็นบริษัทเอกชนที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยสามีของหลิวหยิงแต่เขาก็ได้เสียชีวิตเนื่องจากเขาได้ทำการศึกษาและค้นคว้ากระดานโต้คลื่นอัตโนมัติอยู่ในห้องทดลอง เขาหักโหมและทำงานหนักเกินไป..... หลิวหยิงจึงได้รับตำแหน่งผู้บริหารบริษัทแห่งนี้แทน จากนั้นไม่นานเธอประสบความสำเร็จในการวิจัยผลิตภัณท์ชิ้นนี้และมุ่งมั่นที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์นี้เข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตามสิ่งนี้มันเป็นความลับขั้นสุดยอดของบริษัทไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ไม่มีทางเลยที่คนนอกจะรู้ว่าโครงการนี้มีอยู่…..แล้วชายหนุ่มคนนี้รู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ?
“คุณเซี่ย บอกฉันมาว่าคุณรู้เรื่องโครงการกระดานโต้คลื่นอัตโนมัติของบริษัทเราได้อย่างไร ?”หลิวหยิงจ้องมองไปที่ดวงตาของเซี่ยเหล่ยคำพูดของเธอดุดันแต่ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยความกลัวและความกังวลกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
เซี่ยเหล่ยยิ้มเล็กน้อย “โครงการของบริษัทของคุณเกี่ยวกับกระดานโต้คลื่นอัตโนมัติหรอ ? ผมไม่ทราบว่าผมบอกเรื่องนี้กับคุณไปตอนไหนแต่ถ้ามันเป็นเรื่องบังเอิญ ผมก็มีความคิดดีๆที่จะทำธุรกิจทางด้านนี้และกำลังมองหาใครสักคนเพื่อร่วมงานกับผม คุณจดสิทธิบัตรแล้วหรือยัง ? ถ้ายังผมคงต้องทำงานให้เร็วขึ้นและผมก็คิดว่าคงมีใครหลายๆคนสนใจจะทำธุรกิจนี้กับผม”
“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน !” ในตอนนี้หลิวหยิงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้และเธอได้ตะคอกเสียงใส่เซี่ยเหล่ย
เด็กๆภายในบ้านเริ่มร้องไห้ออกมาจากอาการตกใจ….
ชายชราคนนั้นจ้องมองโทรทัศน์ต่อไปโดยไม่สนใจกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่รอบๆตัวเขาเลย ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นโรคอัลไซเมอร์....
พี่เลี้ยงเด็กคนนั้นหยุดงานที่เธอกำลังทำอยู่ทันทีและมองไปที่หลิวหยิงอย่างเป็นกังวล
เซี่ยเหล่ยยักไหล่และพูดว่า “ฉันไม่สามารถคุยกับคุณได้ในตอนนี้เราค่อยคุยกันตอนคุณใจเย็นลงแล้วดีกว่า” เขาจึงเดินอ้อมตัวเธอและเดินไปที่ประตูบ้าน…..
ในขณะนั้นหลิวหยิงยื่นมือออกไปคว้าตัวของเซี่ยเหล่ยไว้…..เธอจับเซี่ยเหล่ยไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมีราวกับว่ากำลังรั้งคนรักไม่ไห้ไปมีคนใหม่ในวินาทีสุดท้าย…..
หน้าอกที่นุ่มนวลของเธอโดนแขนของเซี่ยเหล่ย มันเป็นความรู้สึกที่ดีจนอธิบายออกมาไม่ได้จากนั้นเธอพูดกับเซี่ยเหล่ยว่า “เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน ฉันมีเรื่องต้องคุณกับคุณ”
“เรามาคุยกันเถอะ” หลิวหยิงปล่อนแขนเซี่ยเหล่ยและเดินขึ้นไปยังชั้น 2
เซี่ยเหล่ยเดินตามเธอขึ้นไปยังชั้น 2และเดินเข้าไปในห้องของเธอ
หลิวหยิงเดินไปที่ด้านหน้าของตู้แช่ไวน์จากนั้นเธอเลือกไวน์แดงมา 1 ขวดและรินลงแก้ว 2 ใบจากนั้นยื่นแก้วให้กับเซี่ยเหล่ย “ไวน์แดงขวดนี้ถูกบ่มมาจากประเทศฝรั่งเศส สามีของฉันชอบดื่มไวน์ขวดนี้เป็นอย่างมากเมื่อตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ ปกติแล้วฉันจะไม่ต้อนรับแขกด้วยไวน์แดงขวดนี้…..”
ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลิวหยิงไม่ได้ให้น้ำดื่มแก่เซี่ยเหล่ยด้วยซ้ำ แต่ในตอนนี้เธอกำลังมอบไวน์ที่ราคาแสนแพงให้เขาดื่มแสดงว่าเธอเริ่มสนใจอะไรบางอย่างในตัวเขา
เซี่ยเหล่ยไม่ได้สนใจกับท่าทีที่เธอแสดงให้มากนัก เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าไวน์ขวดนี้ราคาแพงมาก เขาหมุนแก้วไปรอบๆและจิบไวน์เพื่อดื่มด่ำกับรสชาติ.....
“อย่ามาพูดอ้อมค้อมอยู่เลยพูดมาตรงๆเลยดีกว่า คุณรู้เรื่องโครงการกระดานโต้คลื่นอัตโนมัติของบริษัทเราจากที่ไหน ?” หลิวหยิงยังคงถามเรื่องนี้ต่อ
เซี่ยเหล่ยยิ้มและพูดว่า “ไวน์รสชาติดีมาก...”
“คุณเซี่ย !” หลิวหยิงตะโกนออกมาพร้อมกับจ้องเขม็งไปที่เซี่ยเหล่ย “คุณเซี่ย ได้โปรดบอกฉันเถอะ”
“ผมจะพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีใครบอกผมแล้วผมก็ไม่ได้ขโมยความลับจากบริษัทของคุณผมแค่ชอบการโต้คลื่นเฉยๆและผมก็คิดขึ้นมาว่ามันคงจะดีถ้ามีกระดานโต้คลื่นที่สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติมันคงจะดีไม่ใช่น้อยเมื่อผมลองพยายามทำแต่มันก็ล้มเหลวเสมอ แต่เมื่อผมเห็นชิ้นงานที่คุณในวันนี้ ความทรงจำในตอนนั้นก็หวนกลับมาอีกครั้งคุณอาจไม่เชื่อว่าผมเคยทำสิ่งนี้มาก่อนล่ะสิ !” เซี่ยเหล่ยกล่าว
หลิวหยิงจ้องมองที่เซี่ยเหล่ยอย่างสงสัยและไม่ได้พูดอะไรออกมาจากนั้นไม่นานเธอพูดขึ้นมาว่า “สิ่งที่คุณพูดเป็นเรื่องจริงใช่มั้ย ?”
“แน่นอน มันเป็นเรื่องจริง” เซี่ยเหล่ยกล่าว
ความซื่อสัตย์สุจริตและการโกหกเปรียบเสมือนเหรียญ 2 ด้าน ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จโดยไม่มีคนหนุนหลังนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้หรือจะมีใครบอกว่าสามารถมีความมั่งคั่งร่ำรวยในการทำธุรกิจด้วยมือที่ใสสะอาด ?
เซี่ยเหล่ยใช้ความลับทางธุรกิจของหลิวหยิงเพื่อหลอกล่อให้เธอมาทำงานร่วมกับเขา เขาไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเธอเลย เขาต้องการให้เธอสั่งซื้อสินค้าจากเขาเท่านั้น ถ้าเธอยินดีร่วมงานกับเขาตั้งแต่แรกเขาคงไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ และอีกอย่างเขาอยากให้สือจิงชิวออกจากการเป็นนายหน้าของเขา ถ้าเขาไม่ทำอย่างนี้ เธอคงไม่เชื่อใจเขาและคงไม่อยากพูดกับคนอย่างเซี่ยเหล่ย ดังนั้นเขาต้องการที่จะใช้วิธีการและเคล็ดลับเล็กน้อยเพื่อที่จะให้ธุรกิจนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี....
“ฉันไม่เชื่อสิ่งที่คุณพูด” หลิวหยิงกล่าว
เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “ผมเข้าใจ ผมก็ไม่เชื่อความคิดของตัวเองเหมือนกัน แต่มันเป็นความจริง”
“คุณบอกว่าคุณมีแนวคิดนี้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กและพยายามสร้างมันด้วยตัวคุณเองหลายครั้งดังนั้นคุณจึงสร้างฝันขึ้นมาง่ายๆอย่างนี้หรอ ?” หลิวหยิงยังคงถามเขาต่อไป
“ใช่” เซี่ยเหล่ยเดินไปที่โต๊ะและหยิบดินสอขึ้นมาวาดภาพบนกระดาษ….
เซี่ยเหล่ยคิดถึงการออกแบบของบริษัทไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์ เขาสามารถบันทึกภาพที่เขาเห็นจากตาซ้ายได้ทั้งหมด เขาจดจำได้ทุกรายละเอียดอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้วาดเหมือนต้นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เขาพยายามเปลี่ยนแปลงบางอย่างและทำให้มีความคล้ายคลึงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
หลิวหยิงตั้งใจมองเซี่ยเหล่ยมากในขณะที่เธอกำลังปกปิดความกลัวที่เกิดขึ้นในจิตใจของเธอ ถึงแม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะวาดรูปชิ้นงานอกมาได้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเขานำสิ่งเหล่านี้ไปยื่นให้กับบริษัทอื่น พวกเขาคงสามารถทำให้มันสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ได้ทันทีสิ่งที่แย่ที่สุดในตอนนี้ก็คือบริษัทไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์ ยังไม่ได้รับการอนุมัติการจดสิทธิบัตรอย่างเป็นทางการ ถ้าเซี่ยเหล่ยนำข้อมูลเหล่านี้ออกไป พวกเขาสามารถทำเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็วและยื่นขอจดสิทธิบัตรชิงตัดหน้าได้โดยทันทีและไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์ต้องสูญเสียชิ้นงานที่ค้นคว้ามาตลอดชีวิตไป…
เซี่ยเหล่ยวางดินสอและพูดเบาๆว่า “นี่คือการออกแบบของผม คุณเชื่อผมรึยังล่ะ ?”
หลิวหยิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเธอจะพยักหน้า เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่สัมผัสได้ว่าเธอกำลังทึ่งในสิ่งที่เซี่ยเหล่ยวาดออกมา…
“โอ๊ะ นี่มันก็ดึกแล้ว ผมไม่ควรมารบกวนเวลาพักผ่อนของผู้บริหารหลิว ถ้างั้นผมขอตัวก่อน !”
“เดี๋ยว !” หลิวหยิงกัดริมฝีปากตัวเอง “คุณต้องการอะไร ?”
“ผมต้องการอะไร ? ผมก็พูดตั้งแต่แรกที่ผมมาถึงแล้ว ผมต้องการทำงานร่วมกับคุณ เวิกค์ช็อปของเรามีประสิทธิภาพเพียงพอที่สามารถทำชิ้นงานให้คุณได้”
“แค่นี้ ?” สิ่งที่เซี่ยเหล่ยต้องการมันน้อยจนน่าตกใจ
เซี่ยเหล่ยยักไหล่ “มันก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่เราต้องการ พวกเรายังต้องทำงานร่วมกันอีกนาน ถ้าคุณหาบริษัทอื่นก็คงจะมีคุณภาพไม่ดีเท่าเวิกค์ช็อปของผม ผมสามารถปรับปรุงให้ผลิตภัณฑ์ของคุณดีขึ้นได้อย่างแน่นอน มีของดีอยู่ตรงหน้าคุณแล้วทำไมคุณไม่เลือกผมล่ะ ? คุณจะต้องการอะไรอีก ?”
“ดี ฉันจะร่วมงานกับคุณ แต่มีข้อแม้ว่าความลับนี้จะต้องไม่รั่วไหลไปยังคนอื่น” หลิวหยิงกล่าว
เซี่ยเหล่ยยิ้ม “ไม่มีปัญหา ! ผมรับประกันได้เลย”
“แค่คำพูดหน่ะไม่เพียงพอหรอก ! ฉันต้องการให้คุณเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรให้เรียบร้อย”
“ไม่มีปัญหา !”
“ฉันจะร่างข้อตกลงระหว่างเราและลงนามคุณและฉันลงในสัญญาฉบับนี้” หลิวหยิงกล่าว
“ผมเห็นด้วย” หลังจากที่เขาเงียบไปซักพักหนึ่งเขาพูดขึ้นมาว่า “แต่ผมมีข้อแม้”
“ข้อแม้ ?”
“ทุกส่วนประกอบของกระดานโต้คลื่นอัตโนมัติจะต้องให้เราทำ ยกเว้นสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้จริงๆ คุณสามารถเสนอให้บริษัทอื่นทำได้ !”
หลิวหยิงมองที่เซี่ยเหล่ยอย่างแข็งกร้าว “มันเป็นข้อเสนอที่ใหญ่มาก ? คุณจะกินมันหมดหรอ ?”
“ผมจะไม่พูดถ้าผมไม่สามารถทำได้ คุณยอมรับข้อเสนอของผมมั้ยล่ะ ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว
หลิวหยิงยิ้มแบบเก้ๆกังๆ “คุณจ่อมีดไว้ที่คอฉัน ? จะให้ฉันปฎิเสธยังไงล่ะ ?”
“อย่าพูดแบบนั้นสิท่านบริหารหลิว ผมคงไม่ได้เอาความคิดเหล่านี้ไปขายหนิถ้าผมนำไปขายผมก็ได้เงินไม่มากนักหรอก” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ฉันจะร่างข้อตกลงนี้ขึ้นมาและหลังจากนี้เราจะไม่พูดถึงความลับเหล่านี้อีกได้ไหม ?” หลิวหยิงกล่าวออกมาอย่างทันที
“ได้เลย ไม่มีปัญหา” เซี่ยเหล่ยตอบตกลงทันที
การที่เซี่ยเหล่ยใช้วิธีขู่เข็ญเธอแบบนี้ เขาทำผิดกฎศีลธรรมอย่างแน่นอนแต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะขายความคิดเหล่านี้ให้กับบริษัทอื่นถึงแม้ว่าหลิวหยิงปฏิเสธที่จะร่วมงานกับเขาก็ตามแต่เมื่อเขามีโอกาสแล้ว เซี่ยเหล่ยจึงไม่อยากที่จะมาละทิ้งโอกาสของเขา ความซื่อสัตย์สุจริตมันไม่สามารถทำให้เขาได้งาน เขาจึงต้องใช้วิธีเช่นนี้และอีกอย่างธุรระกิจนี้จะสร้างรายได้ให้กับอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปอย่างมหาศาล
3 ชั่วโมงต่อมาเซี่ยเหล่ยได้ลงนามในสัญญานั้นและเขาก็สัญญากับหลิวหยิงว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
เซี่ยเหล่ยจับแก้วไวน์ขึ้นมา “ฉลองให้กับความสำเร็จของพวกเรา !”
หลิวหยิงยกแก้วของเธอขึ้นมาเพื่อชนแก้วกับเซี่ยเหล่ย “แด่ ความสำเร็จของพวกเรา”
หลังจากที่เซี่ยเหล่ยดื่มไวน์เสร็จแล้วเขาบอกลาหลิวหยิงในตอนนี้เขาพูดช้ามาก...... “ตอนนี้มันดึกมาก....แล้ว ผม....ควรกลับไปนอน ลาก่อน.....ผู้บริหารหลิว”
หลิวหยิงเหลือบมองที่นาฬืกาบนผนังและพูดว่า “นี่มันก็ดึกแล้ว ทำไมคุณไม่นอนที่นี่เลยล่ะ ?”
“เอ่อ...มันคงไม่ดีมั้ง ?” เซี่ยเหล่ยอึดอัดใจเป็นอย่างมากเขาอยากกลับบ้านแทบใจจะขาดแต่มันคงเป็นเรื่องยากที่จะหารถโดยสารในเวลานี้ เขาไม่สามารถบอกให้หลิวหยิงรู้ได้ว่าเขาเดินทางโดยรถโดยสาร อย่างไรก็ตามการที่ค้างคืนที่บ้านของเธอมันก็คงไม่ได้แย่อะไร…….
“งั้นดีเลย ค้างที่นี่ซะเลย เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ทำไมคุณจะค้างคืนที่นี่ไม่ได้ล่ะ ? ฉันจะไปเอาเสื้อผ้าของสามีของฉันมาให้คุณใส่ เขาคงไม่ได้ใส่อีกต่อไปแล้ว” ความเจ็บปวดปรากฏในดวงตาของเธอทุกครั้งเมื่อพูดถึงสามีที่จากเธอไป
“เอาล่ะ ผมคงต้องรบกวนคุุณแล้ว” เซี่ยเหล่ยตอบตกลง
หลิวหยิงนำตัวเซี่ยเหล่ยมาไว้ที่ห้องพักชั้น 2 ติดกับห้องของเธอหลังจากนั้นเธอก็นำชุดนอนและรองเท้าของสามีมาให้เซี่ยเหล่ยใส่
“ขอบคุณ” เซี่ยเหล่ยรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่มีผู้บริหารสาวมาทำแบบนี้ให้กับเขา….
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันเลย ไปนอนเถอะ หลับฝันดีนะ” หลิวหยิงกลับไปยังห้องนอนของเธอหลังจากที่บอกฝันดีกับเซี่ยเหล่ย…..
ติดตามตอนต่อไป