ตอนที่แล้วตอนที่ 53 ห้าร้อยล้านสหรัฐ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 55 ซื้อคฤหาสน์ [อ่านฟรีวันที่ 25 มกราคม 2561]

ตอนที่ 54 การล้มเหลวของอีเกิ้ลส่วนที่ 2


(เชื่อมต่อกับตอนที่ 29)

 

<การสื่อสารสิ้นสุดลง>

 

“แม่งเอ้ยยย!”

 

เขาต่อยเหล็กที่ห้อยอยู่ขณะที่ตัวอักษรสีส้มบนหน้าจอแกว่งไปแกว่งมาทำให้ชูหนานรำคาญมากขึ้น

 

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหายปล่อยประกายไฟออกมาขณะที่วงจรถูกไฟฟ้าลัดวงจรหรือถูกทำลาย ตัวเฮลิคอปเตอร์สั่นทำให้เขากลั้นลมหายใจของเขา

 

เมื่อตัวของเฮลิคอปเตอร์มีความเสถียรแล้วเขาก็กัดฟันขณะที่เขาผลักกรอบโลหะออกจากร่างกายของเขาด้วยแรงทั้งหมดของเขา เขาเหลือบไปหาผู้ช่วยนักบินข้างๆเขา สภาพดูเลวร้ายยิ่งกว่าเมื่อโครงเหล็กงอทะลุผ่านโครงกระดูกของเขาไปโดยตรงและเลือดของเขากระเด็นไปทั่ว เขามองไปที่กรอบโลหะที่แทงผ่านแขนของเขาและหายใจเอากาศเข้าไป อย่างไรก็ตามเขารู้สึกโชคดีที่มีชีวิตอยู่

 

ห่างจากอากาศประมาณ 1200 เมตร

 

นอกเหนือจากทักษะในการดำเนินงานของเขาแล้วมันเป็นความโชคดีที่จะรอดจากการตกจากที่สูง

 

ชูหนานใช้ความพยายามที่ดีที่สุด เมื่อเครื่องสูญเสียพลังงานแล้วเขาก็เปิดกังหันหมุนเชิงกลขึ้นที่ด้านข้างของเฮลิคอปเตอร์ นั่นเป็นเรื่องสำคัญเพราะถ้าเขาไม่สามารถเปิดประตูได้ในระยะเริ่มแรกแล้วการไหลของอากาศความเร็วสูงอาจทำลายมันได้

 

ยังดีที่มันยังคงทำงานอยู่

 

เขาเชื่อมต่อกับแผงวงจรสำรองแต่สถานการณ์กำลังดูน่ากลัว ผู้ช่วยของเขาพยายามที่จะติดต่อกับสำนักงานใหญ่ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รับการตอบกลับอะไรเลย

 

เขาเปลี่ยนไปใช้ระบบบังคับด้วยตัวเองขณะที่เขาใช้พลังงานทั้งหมดเพื่อรักษาเสถียรภาพร่างกายของเฮลิคอปเตอร์ ระบบป้องกันเสถียรภาพอัตโนมัติถูกทำลายเพราะฉะนั้นถ้าพวกเขาเริ่มหมุนในอากาศหรือปีกหลังได้รับความเสียหายแม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ กันหันสำรองเริ่มหมุนเร็วขึ้นเรื่องจากการไหลของอากาศขณะที่แรงความเร็วสูงสร้างที่ “ยึด” ไว้บนเฮลิคอปเตอร์เช่นร่มชูชีพ ภายใต้แรงโน้มถ่วง หัวของเฮลิคอปเตอร์เริ่มขยับไปข้างหน้า เมื่อเฮลิคอปเตอร์หันไปที่มุมเฉพาะเจาะจงแล้ว ชูหนานทันทีดึงที่บังคับขึ้นและเพิ่มแรงของเฮลิคอปเตอร์ขึ้นสูงสุด

 

หัวของเฮลิคอปเตอร์ยกขึ้นทันทีขณะที่ลดแรงจากการแตกโดยที่แรงเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหันจากหังหันเชิงกล มันมีปัญหาเกี่ยวกับที่จะลงจอดที่ด้านบนของหลังคาที่พวกเขาชนเข้า

 

จากนั้นพวกเขาก็ชนเข้ากับตึกชั้นบนสุด

 

การควบคุมทำได้ดีแต่ก็ยากที่จะเลือกจุดจอดลงในภูมิประเทศของเมือง

 

จากนั้นเลือดที่อุ่นๆสาดไปทั่วใบหน้าของชูหนานขณะที่เขาได้เห็นด้วยตาของตัวเองผู้ช่วยของเขาถูกเจาะด้วยกรอบโลหะ

 

[นี้ไม่สมเหตุสมผล]

 

จู่ๆมีการระเบิดของระเบิดอีเอ็มพี มันไม่ใช่อีเอ็มพีที่เรียบง่าย เฮลิคอปเตอร์-51 ติดตั้งอุปกรณ์ที่ป้องกันอีเอ็มพีซึ่งเป็นจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมแต่เฮลิคอปเตอร์เป็นอัมพาตโดยที่ไม่โดนโจมตีโดยตรง

 

[สิ่งนั่นคืออะไร...]

 

ชูหนานต่อต้านความเจ็บปวดขณะที่เขาหยิบกริชออกมาและตัดเข็มขัดนิรภัยที่ล็อคอยู่ เขาเหลือบมองที่มุมมองด้านนอกอย่างระมัดระวังขณะที่เขางอขาของเขาออกจากแผงควบคุมที่ผิดรูปและค่อยๆคลานออกไปข้างนอก

 

ตอนนี้เฮลิคอปเตอร์นี้มีลักษณะอย่างไร?

 

ส่วนเล็กๆของเฮลิคอปเตอร์กระแทกผ่านกำแพงของอาคารสูง 12 ชั้นขณะที่มันถูกตรึงไว้โดยกรอบโลหะที่ยื่นออกมา ปลายของเฮลิคอปเตอร์แขวนอยู่ที่ขอบ คุณภาพของอาคารเป็นเลิศเพื่อให้สามารถทนต่อแรงกระแทกหลังสงครามนิวเคลียร์ได้ กรอบโลหะเกินมาตรฐานการก่อสร้าง

 

การสั่นเล็กน้อยที่สุดของร่างกายเฮลิคอปเตอร์ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปที่ร่างกายอย่างเต็มที่ เสียงเสียดสีทำให้เขารู้สึกกังวลมากขึ้น

 

กระจกกันกระสุนในด้านหน้าของเฮลิคอปเตอร์แตกกระจายอย่างสมบูรณ์ซึ่งช่วยให้เขาหลบหนีได้ง่าย เมื่อเขากำลังจะปีนขึ้นไปเขาลังเลและหันกลับไปคว้าจี้ที่คอของเพื่อนฝูงของเขาและแม็คกระสุน

 

หลังจากที่ดิ้นรน ชูหนานในที่สุดก็ลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง เขามองกลับไปที่ตัวเฮลิคอปเตอร์ที่มีรูปร่างผิดปกติแล้วเขาก็ตรวจสอบจี้คือในฝ่ามืออย่างเงียบๆ

 

จี้ถูกปกคลุมด้วยชั้นหน้าของเลือด

 

<คาร์โล บิลแมน>

 

เขาพลิกไปด้านหลังขณะที่มีประโยคถูกสลักอยู่ที่นั่น

 

<ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากถูกแขวนสิ่งนี้ไว้ในสุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน>

 

ผู้ช่วยนักบินเป็นที่เสียชีวิตเป็นลูกครึ่งอเมริกาและสเปน เขาเคยเป็นนักบินในนาโต อย่างไรก็ตามแนวคิดของประเทศไม่ได้มีอยู่อีกต่อไปเนื่องจากชาวต่างชาติจำนวนมากอาศัยอยู่ในเมืองหลิวติงโดยส่วนใหญ่เป็นทหารของนาโตก่อนสงคราม

 

เมื่อพีเอซี นาโต้และซีซีซีพีนำคณะพันธมิตรโลกออกจากแผ่นดินโดยส่งทั้งหมดของ “ความหวัง” ไปที่อวกาศแล้วก็ไม่มีใครเชื่อในผู้มีอำนาจอีกต่อไป เมื่อต้องเผชิญกับซอมบี้และพวกกลายพันธุ์แล้วมนุษย์ทุกคนถือว่าเป็นพวกเดียวกัน

 

ไม่รวมมนุษย์กลายพันธุ์หรือมนุษย์กินคน

 

เขาตรวจสอบอุปกรณ์บนร่างกายของเขาก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นและแตะที่หลังคอด้วยนิ้วมือ

 

มันเป็นชิปที่เรียกว่า "ชิปเผด็จการ" แต่เนื่องจากมีการเพิ่มฟังก์ชันที่ซับซ้อนเช่นการสื่อสารระยะไกลแต่ชิปมีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อเทียบกับ “ชิปทาส” ที่ถนนหกผลิต

 

<ออฟไลน์>

 

ชูหนานพยายามหลายครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อใดๆได้

 

“แม่งเอ้ยย นี้ถูกทำลายใช่มั้ย?”

 

“ระเบิด” ที่ด้านหลังคอของเขาถูกทำลายแต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าเขามีความสุขหรือความเศร้า

 

ความสุขที่ได้เป็นอิสระ

 

ความเศร้าที่อิสรภาพไม่ได้มีความหมายอะไรบนดินแดนรกร้าง มีอาหารในเมืองหลิวติงดังนั้นใครจะสนใจเรื่องเกี่ยวกับอิสรภาพ

 

การกลับไปที่เมืองหลิวติงไม่น่าเป็นไปได้เนื่องจากที่นั่นอาจบันทึกว่าเขาตายแล้ว การกู้ภัยก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้มากขึ้นเนื่องจากมีเพียงเศษโลหะของอุปกรณ์ราคาหนึ่งแสนคริสตัลที่ยังคงอยู่ที่นี่ มูลค่าของนักบินไม่ยิ่งใหญ่กว่าชิปที่อยู่หลังคอของเขา

 

“ไม่ว่าอะไรก็ตามฉันจะต้องเห็นมัน”เขาบังคับรอยยิ้มขณะที่เขาใส่จี้ลงในกระเป๋าและเอาปืนพกของเขาออกมา

 

เขายังเหลืออยู่ห้าแม็คและรวมถึงหนึ่งแม็คที่อยู่ในปืน เข็มเลือดสองเข็ม ผ้าพันแผลหนึ่งมวนและอีพีได้กลับมาเป็นปกติ กริชหนึ่งเล่มและสารอาหารเกรตบีหกอัน เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศจึงมีสารอาหารคุณภาพสูง

 

เขาเปิดระบบตรวจสอบรังสีในอีพีและพิจารณาตามระดับรังสีที่ปลอดภัยนี้น่าจะเป็นพื้นที่ชนบทแต่เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน

 

อีพีไม่ได้ดาวน์โหลดแผนที่ในพื้นที่

 

เขาตรวจดูอุปกรณ์ของเขาอีกครั้งก่อนที่เขาจะหันศีรษะไปที่ตัวเฮลิคอปเตอร์ที่พัง เขาก้มหัวลงและเดินจากไป

 

แม้ว่าเขาจะได้รับการฝึกภาคปฏิบัติแล้วแต่เขาก็ไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้ ผู้รอดชีวิตสามัญจะไม่กำหนดเป้าหมายเครื่องบิน อาวุธอีเอ็มพีที่ใช้บนอากาศมีอยู่จริงแต่หายากมาก ส่วนใหญ่ถูกทำลายในสงคราม

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่าพวกกลายพันธุ์ใช้อีเอ็มพีหรืออาวุธชีพจรที่คล้ายกัน

 

บางทีผู้ช่วยนักบินของเขาได้พบกับสถานการณ์ของเขามาก่อนแต่เขาไม่สามารถจัดการให้รอดได้

 

"บันไดเคลียร์"

 

เช่นเดียวกับการปฏิบัติ ชูหนานพึมพำขณะที่เขาชี้ปืนพกไปข้างหน้าและเดินลงบันได

 

[ถ้ามันเป็นซอมบี้แล้วใช้กริชเพื่อแทงบริเวณดวงตา ถ้าเป็นอมนุษย์แล้วใช้ระเบิดช็อกสำหรับกัมบัง ถ้ามันเป็นโรชานหรือกรงเล็บแห่งความตาย...หวังว่าจะไม่เจอมัน]

 

ลิฟท์ไม่ทำงาน อาคารหลังนี้เป็นอาคารสำนักงานก่อนสงคราม ส่วนใหญ่ของซอมบี้กระจุกอยู่ในห้องโถงใหญ่ขณะที่พวกเดินเตร็ดเตร่ในทางเดินห้องโถงถูกฆ่าตายด้วยการกระทำในการใช้มีดของเขาอย่างรวดเร็ว สำหรับปัญหาเล็กๆแล้วมันจะดีกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ปืนของเขา สภาพร่างกายของเขาด้วยวัคซีนพันธุกรรมระดับดีสามารถจัดการกับความต้องการในการสู้รบได้อย่างง่ายดาย

 

ข้อเท็จจริงที่น่าผิดหวังเพียงอย่างเดียวก็คือเขาไม่ได้ปลดล็อคความสามารถทางพันธุกรรม

 

เมื่อทั้งสองเท้าของเขาแตะพื้นดินแล้วชูหนานก็ถอนหายใจออกมา เขาจ้องไปที่ท้องฟ้าและคิดว่าเป็นเวลาสามโมงเย็น  ห้าโมงเย็นจะเป็นเวลาที่ถนนไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ค่ำคืนจะมาถึงเมื่อเข็มนาฬิกาตกเลข 6 ซึ่งหมายความว่าการเดินบนถนนจะเท่ากับการฆ่าตัวตาย

 

ค่ำคืนในเมืองหวังไห่เป็นของซอมบี้

 

“ฉันต้องหาค่ายผู้รอดชีวิตหรือหาสถานที่ผักค้างคืน” ชูหนานค้นหารอบๆขณะเดินไปสุดถนน

 

รถที่ถูกปล่อยปละละเลยบนถนนยังคงอยู่ในรูปลักษณ์เดิมตั้งแต่เกิดสงคราม ตั้งแต่จุดเดือนของสงครามอยู่ในกลางเมืองแล้วผู้คนก็หลบหนีไปยังพื้นที่ชนบท

 

ดังนั้นส่วนใหญ่ของยานพาหนะจะชี้ไปในทิศทางของพื้นที่ชนบท

 

เขาได้ตรวจสอบรถก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในทิศทางที่ห่างจากใจกลางเมือง

 

ที่ไหนก็ดีกว่าใจกลางเมือง

 

นั่นคือแนวคิดทั่วไปที่ผู้รอดชีวิตทุกคนมี

 

 

ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อดวงอาทิตย์ตกสู่ขอบฟ้า ลำแสงของรังสีสีเขียวที่ค่อนข้างเหลืองส่องผ่านฝุ่นกัมมันตภาพรังสีกลิ่นอายของมันเป็นลางที่ไม่ดี

 

เขาไม่รู้ว่าเขาเดินนานแค่ไหนก่อนที่มันจะมืด ชูหนานเหลือบมองไปที่ซอมบี้ข้างๆเขาขณะที่พวกมันเริ่มจะโหดร้ายขึ้น ในขณะที่ซอมบี้เหล่านั้นจะเริ่มหาเหยื่อที่มีชีวิต

 

[ฉันควรหาที่ไหนสักแห่งเพื่อพักค้างคืนที่ไหนดี?]

 

ชูหนานคิดขณะที่เขาเริ่มเร่งฝีเท้าของเขา

 

เมื่อเขาหันไปอีกมุมหนึ่งเขาเห็นฉากที่ทำให้เขาตกใจ

 

ผู้หญิงถูกผูกติดอยู่กับเสาไฟฟ้าตรงกลางถนน เธอเกือบไม่มีสิ่งใดสวมขณะที่ซอมบี้วนไปรอบๆ เธอกลัวที่จะขอความช่วยเหลือ

 

ด้วยวิสัยทัศน์ของนักบิน เขาสามารถแม้แต่เห็นรูปลักษณ์ของความสิ้นหวังบนใบหน้าที่ค่อนข้างน่ารัก

 

มีบางคนผูกเธอไว้อย่างเห็นได้ชัด

 

“เหี้ย ไอ้เลวนั้นทำเหมือนเรื่องตลกที่น่ารังเกียจ” ชูหนานสาปแช่งขณะที่เขาได้ตรวจดูรอบๆก่อนที่เขาจะเดินไปทางผู้หญิง

 

เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้เธอ ดวงตาที่เต็มไปด้วยการอ้อนวอนของความหวังล็อคมาที่เขา เขาหยิบกริชออกมาและตัดเชือกออก

 

บางทีอาจเป็นเพราะเธอรอดพ้นจากประสบการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่ผูกมัดเธอไว้ที่นั่นผู้หญิงคนนั้นกอดเขาขณะที่เธอร้องไห้

 

“ขอบคุณ ขอบคุณ” มันเป็นเสียงที่มีความรู้สึกประโลมใจ

 

“โอเค ไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้มันโอเคแล้ว” มันเป็นครั้งแรกที่เขาพบกับสถานการณ์เช่นนี้ซึ่งทำให้เขาไม่แน่ใจว่าเขาควรจะทำอย่างไร เขาเพียงแค่ลูกหลังผู้หญิงอย่างงุ่มง่ามเพื่อปลอบโยนเธอ

 

[ผู้รอดชีวิตในเมืองหวังไห่โหดร้ายถึงจุดนี้เลยเหรอ?]

 

เขาสาปแช่งต่อการกระทำที่ชั่วร้ายของคนที่ผูดมัดเธอไว้ขณะที่ชูหนานกำลังจะถามว่าค่ายที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน

 

แต่ในขณะนั้นมีวัตถุที่คล้ายกระบอกปืนทุบเข้ากับหัวของเขา

 

“ฮา เพื่อน คุณเป็นคนโง่เง่าคนแรกที่ติดกับมัน”

 

เหงื่อเริ่มไหลลงจากหลังของเขาขณะที่มือขยับเล็กน้อยแต่เขาตระหนักว่ากริชกรดลงกับด้านหลังของเขา

 

กริชถูกจับด้วยมืออันละเอียดอ่อน

 

ในเวลาเดียวกันกลุ่มชายในทรงผมโมฮอกและมีรอยสักเดินออกจากร้านค้าที่ว่างเปล่า พวกเขาบางส่วนถือปืนไรเฟิลและหนึ่งคนที่ถือเพียงกระบอง

 

ชายหัวโล้นที่ถือบุหรี่เป็นหัวหน้ากลุ่มขณะที่เขาเดินตรงมาด้านหน้าชูหนาน เขายกคิ้วขึ้นขณะที่เขาตบหน้าผู้หญิงและพูดด้วยเสียงเยาะเย้ย

 

“งานดี นางร่าน”

 

เช่นเดียวกับสุนัข

 

สีแดงที่เหมือนคนสุขภาพไม่ค่อยดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอชณะที่เธอพยายามจะทำผู้ชายคนนั้นพอใจที่เพิ่งทำให้เธอดูน่าอาย

 

ความเป็นจริงที่โหดร้ายสั่นไปถึงกระดูกสันหลังขอชูหนานขณะที่เหงื่อไหลท่วมใบหน้าของเขา

 

แม้จะมีชีวิตอยู่ในโลกหายนะมาหลายปีแต่มันก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอะไรแบบนี้

 

[เธอยังคงเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่?]

 

“สองเข็มเลือด หนึ่งผ้าพันแผล ว้าวว สารหาหารเกรดบีหกอัน! หัวหน้า มันเป็นปลาตัวใหญ่!” ชายคนหนึ่งที่ยึดเอาปืนพกของเขาและค้นตัวเขาแล้วตะโกนด้วยความประหลาดใจ

 

ซอมบี้จ้องมองไปในทิศทางของพวกเขาแต่แม้จะมีเสียงรบกวนก็ตามยังคงมีอยู่สองชั่วโมงก่อนค่ำคืน

 

หัวล้านมองไปที่ชูหนานเต็มไปด้วยความสนใจ

 

“ชื่อ?”

 

“ชูหนาน” ไม่มีอะไรที่จะต้องซ่อนเนื่องจากข้อมูลทั้งหมดของเขามีอยู่บนอีพี

 

 

"คุณมาจากไหน?"

 

“เมืองหลิวติง นักบิน”

 

"เครื่องบินของคุณอยู่ที่ไหน?" ความโลภกระพริบผ่านสายตาหัวล้าน เขาไม่ได้คิดอย่างรอบคอบเมื่อได้ยินชูหนานกล่าว

 

“เกิดการชน”

 

“ฮิฮิ” หัวล้านยิ้มและไม่ได้พูดอะไรอีก เขาส่งสัญญาณให้คนมาผูกเขา

 

“ถ้าคุณเพียงอยู่ที่นี่เพื่อปล้นผม คุณก็ทำได้สำเร็จแล้ว คุณสามารถเอาไปได้ทุกอย่างแต่ปล่อยผมไปได้ไหม?” ชูหนานกล่าวอย่างใจเย็น

 

หัวล้านยกคิ้วขึ้นขณะที่เขาจู่ๆก็ต่อยหน้าเขา

 

เขาระงับความโกรธของเขาขณะที่เขาต่อต้านความเจ็บปวดที่แก้มซ้ายของเขา ชูหนานจ้องที่หัวล้าน

 

“คุณเป็นเชลยดังนั้นหุบปาก” เขาสาปแช่งขณะที่เขาดับบุหรี่ด้วยการจี้บนใบหน้าของชูหนานก่อนที่เขาจะโบกมือ “พาเขากลับไป”

 

เขามองไปที่รูปลักษณ์ที่โง่เขลาที่ถูกใช้เป็นเหยื่อขณะที่เขาหัวเราะเยาะเย้ย จากนั้นเขาก็เตะผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแต่เหมือนกันกับคนป่วยสีแดงโลหิตกระเด็นออกมาจากปากและรอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏขึ้น

 

ผู้หญิงนั้นไม่มีชื่อและเป็นเพียงแค่ทาส บางทีเธออาจจะเป็นนักเดินทางอิสระมาก่อนก็ได้? เขาจำไม่ได้แม้กระทั่งเมื่อเธอถูกจับตอนไหนและเขาไม่สนใจว่าพวกเขาจะฝึกเธอให้เป็นแบบนี้อย่างไร แต่เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าเธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ของเขาอย่างไร

 

เมื่อเดือนที่แล้วเขาพยายามหาเป้าหมายและพิสูจน์ว่าเป็นปลาขนาดใหญ่

 

หัวหน้าส่งเขาไปสู้ทีมจู่โจมแต่ลูเหลินเจี่ยโง่เง่าทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เขามีความมั่นใจในการสั่งคนทั้งหมดให้เข้าไปในอาคารปิดตายได้อย่างไร? เขาแม้กระทั่งไม่ได้ตรวจสอบว่ามีทางเข้าอื่นๆหรือทางออกจากท่อน้ำทิ้ง

 

มีเพียงหนึ่งคนที่รอดกลับมาจากกลุ่มคนจำนวนมาก

 

แม้ว่าหัวหน้าจะโกรธเขาแต่เขาไม่ได้ตำหนิเขาในขณะที่เขาให้เบาะแส เขาเอาลูเหลินเจี่ยและผู้หญิงของกัปตันคนอื่นๆและแจกจ่ายทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่นๆ

 

มันเป็นรูปแบบของระเบียบวินัยแต่ก็เป็นแรงจูงใจ สำหรับโจรเช่นทหารรับจ้างฮุยซอง พวกเขาต้องการความโหดร้ายประเภทนี้เพื่อผูกมัดกันและกัน

 

ดังนั้นเช่นสุนัขนี้เป็น “สิ่ง” ที่มอบให้โจวกัวปิง แม้ว่าหัวหน้าไม่ได้ลงโทษเขาแต่ก็ไล่เขาไปพักในถนนหกและทำการปล้นผู้รอดชีวิต

 

มันเป็นเรื่องยากที่จะจับผู้รอดชีวิตบนดินแดนรกร้างที่มีแต่พวกหนูกลายพันธุ์ คนส่วนใหญ่ที่รอดชีวิตมาจนถึงปัจจุบันมีความคมเหมือนขอบมีด คนโง่เป็นคนที่ไม่เคยออกจากค่าย การกลับไปของพวกเขาในเดือนนี้เกือยเป็นศูนย์

 

นักบิน? นี่เป็นปลาตัวใหญ่

 

โจวกัวปิงวางปืนบนไหล่ของเขาและพาคนไปที่ค่าย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด