ตอนที่แล้วTXV –  47 ธรรมชาติของปาก !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV – 49 อวดเก่งดีนัก !

TXV –  48 ความงดงามที่สมบูรณ์แบบ !


TXV –  48 ความงดงามที่สมบูรณ์แบบ !

 

          เมื่อได้เงินอยู่ในมือแล้ว วัตถุดิบก็จะส่งไปเร็วๆนี้ : อุปกรณ์ที่เฉินตู เทียนหยินให้มาเป็นของขวัญได้แสดงคุณค่าอย่างมาก เซี่ยเหล่ยเป็นหัวหน้าในการทำงานที่อาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปเพื่อเป็นตัวอย่างแก่พนักงานของเขา เขาทำงานหนักและทำงานเกินเวลา ทำให้งานที่ต้องใช้เวลา 20 วันกลายเป็นงานที่ใช้เวลาแค่สองสัปดาห์ในทันที !

 

          ในระยะเวลาสองสัปดาห์นั้น ความสามารถในการอ่านปากของเซี่ยเหล่ยอยู่ในระดับที่เชี่ยวชาญแล้วด้วยพลังจากตาซ้ายของเขา เขาสามารถอ่านปากของผู้อื่นจากบทสนทนาในชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว การอ่านปากเป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากและมันก็ได้ก้าวหน้าไปมากพร้อมๆกับเวลาที่เขามอบให้มัน ส่วนเรื่องกำไรของการทำธุระกิจเป็นเรื่องรองลงมา.....

 

          เมื่อเซี่ยเหล่ยทำงานเสร็จ เขาจึงเรียกสือจิงชิวมา จากนั้นเธอได้เรียกคนงานมาเพื่อนำชิ้นส่วนนั้นไปพร้อมกับจ่ายค่าจ้างเซี่ยเหล่ย

 

          “ไม่เลวเลย คุณภาพไม่เคยตกแถมยังทำงานเสร็จเร็วด้วย” สือจิงชิวยิ้มอย่างมีความสุข “การร่วมมือของเราทั้งสองคนเพิ่งจะเริ่มต้น เราจะสามารถทำเงินได้มากกว่านี้แน่ๆในอนาคต”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มถึงแม้ว่าเขาไม่ได้เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ สือจิงชิวได้รับค่านายหน้าไป 8% ทั้งๆที่เธอไม่ได้ทำอะไรเลยในขณะที่เขาต้องทำงานอย่างหนักทั้งสองสัปดาห์ อีกทั้งเขายังออกค่าวัตถุดิบและลงแรงทำงาน เขาได้กำไรไม่เกิน 50,000 หยวนต่อรอบ นอกจากนี้สือจิงชิวจะเป็นคนดูแลเรื่องสัญญา เธอต้องมั่นใจว่าเรื่องนี้มันต้องเป็นความลับเพราะว่าเธอนั้นไม่ได้ทำอะไรเลยแต่เธอได้เงินมากกว่าเซี่ยเหล่ยเป็นจำนวนมาก.....

 

          นี่มันไม่ยุติธรรมกับเซี่ยเหล่ย เรื่องนี้ยังบ่งบอกถึงความสำคัญของการมีเส้นสายและข้อมูลทางธุระกิจกับลูกค้า ถ้าเขาต้องการให้ธุรกิจของเขาเจริญรุ่งเรืองมากกว่านี้ เขาต้องสร้างฐานลูกค้าและข้อมูลเกี่ยวกับธุระกิจที่เป็นของตัวเขาเอง !

 

          “พวกเราได้เงินแล้ว ทำไม่คุณไม่เลี้ยงเหล้าฉันหน่อยละ?” สือจิงชิวมองไปยังเซี่ยเหล่ยด้วยรอยยิ้มหวานๆ รอยยิ้มของเธอกำลังหมายถึงอะไรสักอย่างที่มากกว่าการไปดื่มเหล้า.....

 

          “เอาแบบนี้ดีกว่า คุณอยู่ที่นี่เพื่อกินข้าวกับผม? เดี๋ยวผมจะให้พี่เฉินทำอาหารเมนูเฉพาะของเธอ หมูตุ๋นวุ้นเส้น” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “ไม่เอา !” สือจิงชิวปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

 

          ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของสือจิงชิวดังขึ้นมา เธอมองไปยังหน้าจอเพื่อดูว่าใครโทรมาและเดินออกไปจากร้านอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อป มันเป็นระยะที่ห่างพอที่ไม่ให้เซี่ยเหล่ยได้ยินเสียงของเธอ จากนั้นเธอจึงหยุดและรับสาย……

 

          เซี่ยเหล่ยแอบมองที่ขอบประตู และดูสือจิงชิวรับโทรศัพท์อย่างเงียบๆ เขาไม่อาจได้ยินสิ่งที่เธอพูดแต่เขาสามารถเห็นปากของเธอและสามารถอ่านปากของเธอได้ทันที !

 

 

          “สวัสดีพี่หลิว เราไม่ได้คุยกันนานมากแล้ว ฉันคิดถึงคุณ ฮิฮิ.... ใช่ ดังนั้นมันจึงเป็นแบบนี้-บริษัทของฉันตอนนี้กำลังพูดคุยเจรจากับบริษัทเหวี้ยนเทียนเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม เป็นโครงการที่มีมูลค่าเป็นพันล้าน ตอนนี้ทั้งบริษัทก็ยุ่งกับโครงการนี้และไม่มีทางเลยที่จะไปทำงานของคุณได้ เอาอย่างงี้ไหม ฉันรู้จักเพื่อนที่ทำงานนี้ได้.....ไม่มีปัญหา ไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพ ฉันเพิ่งจะช่วยทำงานให้กลุ่มมอเทอร์ทำงานได้สำเร็จ ฉันสามารถรับรองได้ว่าชิ้นงานที่ทำขึ้นมาดีกว่าของที่บริษัทฉัน... ได้  ได้ โอเค

 

          สือจิงชิวยิ้มอย่างมีความสุข โดยที่ไม่ได้ระวังเซี่ยเหล่ยที่กำลังแอบดูเธออยู่ซึ่งห่างจากเธอสิบเมตร เขาสามารถมองเห็นการขยับปากและรูปร่างของปาก เพื่อถอดรหัสจากปากมาแปลงเป็นคำพูดของเธอ และเขายังเห็นหมายเลขโทรศัพท์ที่แสดงบนหน้าจอของโทรศัพท์ของเธอ รอยยิ้มเล็กๆปรากฎบนใบหน้าของเซี่ยเหล่ยและเขาก็มีความสุขเช่นกัน

 

          สือจิงชิวยังคงคุยโทรศัพท์อยู่หน้าจอโทรศัพท์แสดงชื่อ ‘ พี่หลิว ’ “คุณบอกเราว่าบริษัทบูรพาอุตสาหกรรจะสั่งทำชุดอุปกรณ์พิเศษชุดละ 320 เอาแบบนี้ดีไหมฉันจะให้ส่วนลดให้เหลือชุดละ 310 .....อย่างแน่นอน เดี๋ยวฉันจะให้เพื่อนฉันทำชิ้นงานตัวอย่างไปให้ ฉันมั่นใจว่าคุณต้องพอใจอย่างแน่นอน แต่ว่าคุณต้องส่งสำเนาข้อมูลให้ด้วย....ได้ ส่งทางอีเมล์ก็ได้”

 

          หลังจากเธอคุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว สือจิงชิวก็รอจนอีเมล์เข้ากล่องข้อความก่อนที่เธอจะเดินกลับไปหาเซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มและกล่าว “สือจิงชิวคนที่โทรมาคือสามีคุณหรอ? เขาโทรมาเช็คว่าคุณโดดงานสินะ ?”

 

          สือจิงชิวหัวเราะคิกคัก “ฉันจะโดดงานตอนไหนก็ได้ แต่คุณไม่สามารถหยุดงานที่ทำอยู่ของคุณได้ คุณต้องการอะไรถึงมาถามคำถามอะไรแบบนี้ ?”

 

          “ชิ้นงานที่เสร็จแล้วก็ส่งให้ลูกค้าไปแล้วหนิ ผมขอให้คุณทานอาหารที่นี่กับพวกเราแต่คุณก็ปฏิเสธ ผมจะพูดอะไรได้ ไว้โอกาสหน้าเรามาคุยกันใหม่ ผมไปละ” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “ไม่ เดี๋ยว!” สือจิงชิวพูดต่อ “ฉันไม่รู้ว่าคุณโชคดีหรือฉันโชคดี แต่ว่าตอนนี้เรามีงานใหม่เข้ามา”

 

          เซี่ยเหล่ยแกล้งทำเป็นแปลกใจกับพูดเหล่านั้น “จริงหรอ !!!!! งานอะไร?”

 

          “รอบนี้ลูกค้าต้องการชุดอุปกรณ์พิเศษ” สือจิงชิวยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าเซี่ยเหล่ยแต่ไม่ได้ให้ไปทั้งโทรศัพท์ เธอยื่นเข้ามาใกล้ๆเขาเพื่อให้เขามองไปยังข้อมูลต่างๆที่อยู่บนหน้าจอ

 

          เซี่ยเหล่ยอ่านข้อมูลเหล่านั้นและเขาก็เข้าใจว่าต้องใช้อะไรยังไงหรือต้องทำอะไรบ้าง วัสดุและความแม่นยำที่ลูกค้าต้องการสำหรับชุดอุปกรณ์ต้องเป็นของที่มีคุณภาพและต้องการความแม่นยำสูงแต่มันก็ไม่ได้ยากจนเกินไป.....

 

          “คุณทำได้ไหม?” สือจิงชิวถาม

 

           เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ผมทำมันได้ มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก”

 

          สือจิงชิวยิ้ม “ดีจังเลยที่คุณทำได้ ฉันจะบอกอะไรให้นะ งานนี้เป็นงานใหญ่ฉันเพิ่งพูดคุยเรื่องราคากับลูกค้าเรียบร้อยเสร็จ ฉันได้ราคาดีๆหลังจากที่เจรจากับลูกค้าอยู่สักพัก !”

 

          “เท่าไหร่หรอ?” เซี่ยเหล่ยถาม

 

          “260” สือจิงชิวพูดราคาของเธอ จากนั้นจึงพูดต่อด้วยความตื่นเต้น “เหล่ย ทำชุดอุปกรณ์นี้ด้วยตัวเองเลยและฉันจะนำไปส่งให้กับลูกค้าให้ ลูกค้าต้องพอใจแน่ๆ และสัญญานี้จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มและกล่าว “ได้เลย คุณมาพรุ่งนี้ตอนเย็นๆมารับชุดอุปกรณ์ไปส่งลูกให้ค้าได้เลย”

 

          รอยยิ้มเล็กๆปรากฎบนมุมปากของเซี่ยเหล่ยเมื่อเขาเห็นสือจิงชิวเดินไปยังโต๊ะของเขาและทำอะไรบางอย่างกับคอมพิวเตอร์ของเขา ‘ บ้าเอ้ย ! ลูกค้าให้ราคามา 310 และเธอโกงไป 50 แล้วเรายังต้องให้ค่านายหน้าอีก 8%  เธอเอาเปรียบเราไปถึงไหนแล้ว ! เธอจะโกงเรามากขึ้นเรื่อยๆสินะ? ’

 

          เมื่อสือจิงชิวใช้คอมเสร็จและเดินไปยังข้างๆเซี่ยเหล่ย “เสร็จแล้ว ฉันบันทึกข้อมูลต่างๆลงคอมพิวเตอร์ของคุณ อ่านรายละเอียด จากนั้นก็ไปทำงานได้เลย”

 

          “ตกลง ! ทำไมคุณยังต้องห่วงงานของผมขาดนี้ ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “คุณเป็นคนซื่อสัตย์ ฉันชอบนิสัยคุณก็ตรงนี้แหละ ฮิฮิ เจอกันพรุ่งนี้  ” สือจิงชิวตบเอวของเซี่ยเหล่ยเบาๆ จากนั้นเธอเดินไปยังรถโฟล์คสวาเกน ซีซีของเธอพร้อมด้วยโยกสะโพกและก้นของเธออย่างอารมณ์ดี เธอได้สตาร์ทรถของเธอและขับรถที่บรรจุชิ้นงานของลูกค้าด้วยความรวดเร็ว......

 

          หม่าเสี่ยวอันเดินไปหาเซี่ยเหล่ย “เหล่ย ผู้หญิงคนนี้เจ้าชู้แถมยังเป็นคนเจ้าเล่ห์อีก เธอเอาค่านายหน้าไป 8% ของทุกๆงาน ถ้าเป็นแบบนี้กำไรเราแทบจะไม่มีเลยนะ  ”

          “เธอจะได้ค่านายหน้าแบบนี้ไปอีกไม่นานหรอก”เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          หม่าเสี่ยวอันหัวเราะแล้วพูด “ผมรู้ว่าเธอหลงคุณอยู่ ทำไมคุณไม่ลองทำตัวเป็นผู้ชายใจดีที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แล้วไปนอนกับเธอสักครั้ง? เพื่อกล่อมให้เธอเอาค่านายหน้าน้อยลง ?”

 

          “ไม่มีทางโว้ย!!!! ” เซี่ยเหล่ยตะโกนออกมา

 

          แต่ทางด้านหม่าเสี่ยวอันเขาทำหน้าจริงจัง “ถ้างั้นผมทำหน้าที่แทนก็ได้นะ? ผมทำเพื่อเวิกค์ช๊อปได้ ผมจะเสียสละตัวเอง !”

 

          เซี่ยเหล่ยตบหัวหม่าเสี่ยวอันเบาๆ “หยุดล้อเล่นได้แล้ว ตอนนี้ผมจริงจัง” หลังจากนั้นสักครู่หนึ่ง “พาจูเสี่ยวหงและคนอื่นๆไปกินข้าวค่ำคืนนี้ แล้วก็ให้เงินเดือนล่วงหน้ากับพี่ใหญ่เฉินและคนอื่นๆด้วย โดยให้คนละ 2000 เป็นค่าโบนัสที่ทำงานเสร็จ”

 

          หม่าเสี่ยวอันยกนิ้วให้ “ใจกว้างจริงๆ” เขามองเซี่ยเหล่ยอีกครั้ง “แล้วเหล่ยไม่ไปด้วยหรอ?” 

 

          “พอดีผมต้องไปพบลูกค้าของสือจิงชิว” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “สือจิงชิวเป็นคนเจ้าเล่ห์ เธอไปคุยโทรศัพท์ห่างจากคุณสิบเมตรและคุณไม่รู้แม้กระทั้งนามสกุลของลูกค้าของเธอเลย แล้วคุณจำไปเจอลูกค้าของเธอยังไง”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก ผมไม่อยากจะเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินให้สือจิงชิว พวกเราต้องหาลูกค้าของเราเอง มันจะเป็นผลดีต่อการทำธุระกิจระยะยาว”

 

          “โอเค ผมจะไปอธิบายให้ทุกคนฟังว่าคุณติดธุระที่สำคัญมากๆ พวกเขาคงเข้าใจ” หม่าเสี่ยวอันกล่าว

 

          หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย เซี่ยเหล่ยก็ได้พูดคุยถึงข้อมูลต่างๆของงานที่สือจิงชิวบันทึกลงให้คอมพิวเตอร์ของเพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปจัดทำชุดอุปกรณ์ จากนั้นหม่าเสี่ยวอันก็นำพี่เฉินและคนอื่นๆไปยังร้านอาหารเพื่อเฉลิมฉลองสำหรับงานชิ้นแรกที่สำเร็จไปด้วยดี ไม่นานหลังจากที่พวกเขาออกไป เซี่ยเหล่ยก็ได้ทำชุดอุปกรณ์ตัวอย่างที่ถูกสั่งมาอย่างรวดเร็ว และเขาก็ออกไปจากร้านพร้อมกับชุดอุปกรณ์ที่เขาทำเสร็จแล้ว......

 

          ในระหว่างทางเซี่ยเหล่ยก็นึกเบอร์โทรที่เขาได้ทำการจำเอาไว้

 

          โทรศัพท์มือถือของลูกค้าคนนั้นก็ดังขึ้นสามครั้งก่อนที่ลูกค้าคนนั้นจะตัดสายทิ้ง

 

          หลายๆคนคงไม่อยากรับโทรศัพท์ที่เป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก.....

 

          เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาจึงโทรไปหาอีกครั้ง

 

          รอบนี้มันดังไปแปดครั้งก่อนที่ปลายสายจะรับโทรศัพท์ มันเป็นเสียงของผู้หญิง “ฮัลโหล? นี่ใครโทรมาหรอ?”

 

          เซี่ยเหล่ยหายใจเข้านิดหน่อยและใช้น้ำเสียงสุภาพ “พี่หลิวใช่หรือเปล่าครับ ?”

 

          “ใช่ ฉันเอง คุณเป็นใคร ?” น้ำเสียงของเธอไม่มีความสุภาพและเสียงของเธอแข็งราวกับก้อนหิน....

 

          “ผมเป็นเพื่อนกับสือจิงชิว เธอได้ขอให้ผมส่งตัวอย่างของชุดอุปกรณ์ให้คุณดู ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณสะดวกไหมครับ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “เข้าใจละ ตอนนี้ฉันอยู่บ้านฉะนั้นคุณเอาตัวอย่างมาที่บ้านเลย ฉันอยู่ที่โกลด์โคสต์ บล็อกบี บ้านเลขที่ 28” จากนั้นเธอก็ได้วางสายไปทันที.....

 

          โกลด์โคสต์เป็นย่านคนรวยในเมืองห่ายจู มันอยู่ถัดจากทะเลแถมยังสามารถมองเห็นทะเลและหาดทรายสวยๆได้ตลอดทั้งวัน แต่อย่างไรก็ตามที่อยู่อาศัยแถวนั้นมีราคาที่แพงมากๆแม้จะเป็นห้องเช่าธรรมดาก็ตาม คนทั่วไปไม่แม้จะคิดไปอาศัยอยู่ที่นั้น อย่าพูดถึงการซื้อบ้านเลยมันแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับคนทั่วไป !

 

          เซี่ยเหล่ยเขียนแบบฟอร์มให้กับผู้รักษาความปลอดภัย จากนั้นเขาจึงเดินตามต้นปาล์มเรื่อยๆและหาโกลด์โคสต์ บล็อกบี บ้านเลขที่ 28 มันเป็นบ้านสามชั้นสไตล์ยุโรปที่มีมูลค่ามากกว่าสิบล้านหยวน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่เคยเจอหรือเข้าใจในตัวลูกค้า เซี่ยเหล่ยก็ยังคงทำได้แค่เดาราคาของวิลล่าแห่งนี้ ‘ พี่หลิว ’ ต้องเป็นผู้จัดการของบริษัทสักแห่งแน่ๆ ถึงจะมีเงินที่จะสามารถซื้อความฝันแบบนี้ได้ ถึงแม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะทำงานทั้งชีวิตเขาก็ไม่มีทางได้อยู่ที่แบบนี้หรอก

 

          เซี่ยเหล่ยเดินไปที่ประตู เขากำลังจะเคาะประตูก่อนที่เขาจะเคาะประตู เขาจึงคิดขึ้นมาว่า ‘ นี้เป็นครั้งแรกที่เราจะเจอกัน เราต้องทำยังไงให้เธอเชื่อใจเรา ? อีกทั้งเรากำลังจะตัดสือจิงชิวออกไปและพูดคุยเกี่ยวกับธุระกิจเพื่อทำให้เขาเป็นลูกค้าประจำ ถ้าเราไปหาเธอแบบนี้ เธอคงจะไล่เราออกมาแน่นอนหลังจากที่คุยกันไม่กี่คำ หรือการมาของเราครั้งนี้จะเสียเปล่า ไม่ๆ เราจะต้องหาทางเพื่อให้เธอไว้ใจเรา ’

 

          หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยก็ใช้ตาซ้ายของเขามองผ่านประตูที่อยู่ข้างหน้าไป....

 

          ผู้ชายสูงอายุนั่งอยู่บนโซฟากำลังดูข่าวอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เด็กสามขวบกำลังเล่นกับของเล่นบนพรมและกองของเล่นที่อยู่ข้างๆเด็กน้อย : หุ่นทรานฟอร์เมอร์ ตัวต่อเลโก้ รีโหมดควบคุมรถบังคับ ลูกแก้วและอื่นๆพี่เลี้ยงวัยกลางคนกำลังเช็ดราวบันไดและเธอหันหลังไปดูเด็กน้อยและผู้ชายสูงอายุ

 

          ไม่มีใครในห้องนั่งเล่นมีทีท่าจะเป็น “พี่หลิว” เลย เซี่ยเหล่ยจึงมองขึ้นไปชั้นสองของบ้าน กำแพงชั้นสองได้หายไปอย่างรวดเร็ว และมีผู้หญิงปรากฏอยู่ที่สายตาของเขา....

 

          เธอดูเหมือนผู้หญิงวัยสามสิบต้นๆ เธอมีใบหน้าเป็นรูปทรงไข่และมีผิวหน้าที่ละเอียดอ่อน ความสวยของเธอไม่แพ้ผู้หญิงที่อายุยี่สิบต้นๆเลย แต่ทว่ารูปร่างของเธอเริ่มร่วงโรยไปตามอายุและเธออวบนิดหน่อยตามประสาผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ ถึงจะเป็นแบบนั้นไขมันเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เสียรูปร่างของเธอไป เธอยังมีส่วนโค้งเว้าเหมือนผู้หญิงทั่วๆไป รวมกับผิวที่ดูนุ่มและรูปร่างที่มีเสน่ห์ตั้งแต่แรกมอง.......

 

          ผู้หญิงคนนั้นได้เปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าตู้เสื้อผ้า เธอถอดเสื้อผ้าทำงานของเธอออกและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่ใส่สบายๆ เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าภายใน 30 วินาที สายตาของเซี่ยเหล่ยเต็มไปความสวยงาม ผิวที่เนียนและเนื้อที่ดูนุ่มนิ่ม เธอเหมือนกับครีมที่อยู่บนหน้าเค้ก มันดูหวานและน่าอร่อย !

 

          ‘ ผู้หญิงที่อวบๆมันดูเซ็กซี่และน่าสนใจเป็นอย่างมาก สิ่งนี้เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายเราเลย เดี๋ยวนะเรากำลังทำอะไรอยู่ ? เรามาคุยเรื่องธุรกิจ ไม่ใช่มาชื่นชมความสวยของเธอ  ’ เซี่ยเหล่ยมองไปยังจุดอื่นๆในห้อง ความกังวลใจได้เขามาจูโจมจิตใจของเขา ความสามารถของเขาไม่ได้ช่วยให้ได้ข้อมูลที่เขาต้องการในการคุยธุระกิจครั้งนี้เลย.....

 

          ติดตามต่อต่อไป......

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด