ตอนที่42
“ถึงแล้วล่ะ” ฉันพูดขึ้นก่อนที่รถจะหยุดอยู่ตรงหน้าโรงแรมของพี่เบส
“ขอบใจนะที่มาส่งฉันไว้วันหลังจะเลี้ยงข้าวก็แล้วกัน” ฉันรีบปฏิเสธเขาอย่างไวเลย
“ไม่เป็นอะไรฉันถือว่าเป็นการขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้ตอนนั้นไง ขอบคุณมากนี่ช่วยฉันเอาไว้วันหลังต่างหากฉันจะเลี้ยงข้าวให้กับนาย”
ฉันพูดตัดหน้าของพี่เบสไปแต่พี่เขาก็ไม่ยอมฉันเช่นกัน นี่มันนิสัยของพี่เขาชัดๆที่จะเอาชนะฉันให้ได้
“ไม่เอาอะฉันเป็นผู้ชายนะฉันก็ต้องช่วยอยู่แล้ว แถมฉันจะต้องเป็นคนเลี้ยงข้าวผู้หญิงสิไม่ต้องเถียงฉันแล้วไปขับรถไปทำงาน เอาไว้ฉันจะโทรไปหาเธอก็แล้วกันนะบายไม่ฟังไมรรู้ไม่ชี้แล้ว”
ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยเขาก็เดินออกไปเสียแล้ว ฉันถอนหายใจแบบว่าฉันจะต้องได้เจอเขาอีกแล้วสินะ รถเคลื่อนที่ไปยังลงแรมฉันก่อนที่จะฉันจะจอดรรถแล้วเดินเข้าไปในโรงแรมเพื่อไปทำงาน มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ข้างหน้าล็อบบี้แต่เช้า เธอมานั่งทำอะไรตอนนี้กันนะ ผมแบบนั้นเหมือนกับผู้หญิงวันนั้นเลยวันที่มาโวยวายที่โรงแรมของเรา
“ว่าไงมาแล้วหรอคะคุณปอยฉันรอคุณรอยู่ตั้งนานเชียว นึกว่าคุณจะไม่มาแล้วเสียอีกมาช้าเสียจริงๆเลยนะคะ”
เธอกำลังรอให้ฉันมาอยู่อย่างนั้นหรอ ฉันมองไปที่นาฬิกานี่มันก็ยังไม่ถึงเวลาของฉันเลยนะ อะไรของเธอกันนะมีเรื่องอะไรถึงมารอฉันอยู่ที่นี่กัน
“มีอะไรถึงมารอฉันที่นี่หรอคะคุณลูกค้า” ฉันถามไปด้วยความสงสัยเหมือนกับว่าเธอต้องการที่จะมาหาฉันจริงๆ เพราะตอนที่ฉันเดินเข้ามาเธอก็ไม่ได้มองฉันเลย แต่เธอรู้ว่าฉันเดินเข้ามามันหมายความว่ายังไงกันนะ
“ฉันมารอคุยกับเธอยังไงล่ะพอดีว่าฉันมีอะไรจะคุยกับเธอเยอะแยะเลยนะ เดินมานี่สิเดินมานั่งมาคุยกับฉัน”
ฉันไม่เข้าใจเธอจริงๆเธอต้องการอะไรจากฉัน ทำไมถึงต้องอยากที่จะคุยกับฉันจังเลย ฉันเดินไปแล้วก็เดินไปก่อนที่ฉันจะมองไปที่หน้าของเธอ แล้วพบว่า. . . มันไม่จริงใช่ไหมโลกมันกลมเกินไปแล้ว พี่นิ้งทำไมมาอยู่ที่นี่ได้หน้าตาของพี่นิ้งไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดินเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้เปลี่ยนไปหน้าของเธอยังเหมือนเดิมเพียงแต่ว่าหน้าตาจะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแค่นั้นเอง
“นั่งสิเชิญเลยคุณปอย ชื่อคุณนี่คล้ายกับคนที่ฉันรู้จักสมัยก่อนเลยนะคะ”
ฉันนั่งลงข้างๆกับเธอแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ อย่าให้พี่นิ้งจับได้เลยนะว่าฉันเป็นปอยรุ่นน้องของพี่นิ้ง ฉันไม่อยากที่จะมีเรื่องกับพี่นิ้งอีกแล้วล่ะยิ่งมีมันก็ยิ่งทำให้ฉันตกที่นั่งลำบาก
“พอดีว่าฉันค่อนข้างพอใจกับโรงแรมแห่งนี้มากๆเลยนะคะฉันก็เลยจะมาคุยเรื่องธุระกิจเสียนิดนึงน่ะค่ะ มันเกี่ยวกับธุระกิจทางโรงแรมระหว่างสองโรงแรม”
ธุรกิจที่ว่ามันคืออะไรกันนะ แล้วทำไมโรงแรมของพี่นิ้งถึงอยากจะมาทำธุรกิจกำโรงแรมของเรากันนะ
“แล้วคุณเป็นใครคะมาจากโรงแรมอะไรทำไมถึงต้องการทำธุรกิจกับโรงแรมนางฟ้าโฮสกันคะ”
ฉันถามพี่นิ้งไปตอนนี้เราไม่รู้จักกันอย่าลืมสิ เราต้องทำให้เราดูกลมกลืนไปกับความไม่รู้จักกันก่อน
“ฉันชื่อนิ้งค่ะ ไม่ต้องรู้ชื่อจริงของฉันก็ได้ ธุรกิจมันก็ไม่ใช่ธุรกิจของฉันหรอกนะคะมันเป็นธุรกิจของแฟนของฉันน่ะค่ะ พอดีว่ามันมีผลกระทบอะไรบางอย่างทำให้เรายังแต่งงานกันไม่ได้ ฉันก็เลยจำเป็นที่จะต้องหามิตรเพื่อที่จะทำให้เราสามารถแต่งงานกันได้ค่ะ”
เอ๋ฉันไม่เข้าใจแล้วที่ว่ายังไม่แต่งมันหมายความว่ายังไง
“ขอทราบสักนิดนะคะว่าเป็นธุรกิจของใครแล้วแฟนที่จะแต่งด้วยเป็นใครกันคะ”
อาจจะดูโง่ไปหน่อยแต่ฉันก็ต้องถามเพื่อที่จะรู้ว่าพี่นิ้งทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือเปล่า
“ชื่อเบสค่ะ”
“...” ใช่พี่นิ้งจริงๆด้วยสินะ