ตอนที่32
ตอนนี้ฉันสามารถจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เนื่องจากว่าอาการของฉันหายดีแล้วแล้วก็ไปทำงานตามปกติได้แล้วด้วย ฉันรีบกลับไปที่โรงแรมในทันทีเมื่อออกจากโรงพยาบาล
“เชิญได้เลยค่ะขอให้เดินทางปลอดภัยนะคะ” พยาบาลบอกลาฉันฉันยิ้มให้กับเขาแล้วโบกมือลาเธอ ก่อนจะเดินไปที่หน้าโรงพยาบาล แต่ว่าฉันจะกลับบ้านยังไงล่ะเงินของฉันก็ไม่มี แถมโทรศัพท์ของฉันเขาก็เอาไปด้วย แล้วเขาก็ไม่อยู่ด้วยฉันจะหาทางออกไปจากที่นี่เพื่อที่จะไปโรงแรมยังไง!! แล้วพูดถึงเรื่องของโทรศัพท์นะพี่เบสยังไม่เอาโทรศัพท์มาคืนฉันเลย แล้ววันนี้เขาก็ไม่ได้มาเยี่ยมฉันด้วยนะ
“บ้าจังเลยแล้วฉันจะกลับไปที่ทำงานยังไง”
ฉันควรจะรอให้พี่เบสมาเยี่ยมฉัน หรือไม่ก็รออรินมาที่นี่มาเยี่ยมฉัน ฉันจะได้กลับบ้านได้อย่างสบายใจ แล้วก็เอาโทรศัพท์ของฉันคืนจากเขาด้วย แต่มันจะนานอีกแค่ไหนกันกว่าเขาจะมาที่นี่ ฉันไม่ได้นัดพวกเขาเอาไว้ด้วยสิ แถมอรินบอกไม่ว่างต้องเคลียร์งานให้กับเราอีก
“ฉันคงต้องนั่งรอใช่ไหมเนี่ย” น้ำเสียงของฉันบ่งบอกว่าฉันกำลังเบื่ออยู่ เบื่อที่ต้องรอพวกเขาอีก แต่มันก็จำเป็นที่จะต้องรอพวกเขาเพราะว่าฉันไม่มีอะไรติดตัวเลย แล้วฉันควรทำอย่างไรดีล่ะ. . ใช่สิไปขอพยาบาลใช้โทรศัพท์ดีกว่า เขาน่าจะให้ฉันใช้โทรศัพท์นะ ฉันเดินเข้าไปในโรงพยาบาลก่อนที่จะเดินหาพยาบาลคนที่บอกลาฉัน
“ขอโทษนะคะคุณพยาบาลพอดีว่าโทรศัพท์ของฉันมันหายน่ะค่ะ คือว่าฉันขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมคะ”
ฉันถามพยาบาลซึ่งพยาบาลก็พยักหน้าให้กับฉัน แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นมาให้กับฉัน
“ขอบคุณมากเลยนะคะ”
“ไม่เป็นอะไรค่ะยินดีเสมอคุณปอย” ฉันยิ้มให้กับเธอและเธอก็ยิ้มให้กับฉัน ก่อนที่ฉันจะกดไปหาเบอร์ของอรินแล้วก็โทรหาอริน
[ขอโทษนะคะพอดีว่าติดธุระให้โทรกลับมาใหม่ทีหลังนะคะ]
“. . . .”
ไอ้บ้าเอ๊ยทำไมมันเป็นแบบนี้เนี่ย แล้วมาติดงานอะไรตอนนี้ทำไมไม่เป็นเวลาอื่น ทำไมเป็นเวลาที่ฉันต้องการเธอตลอดเลยเนี่ยอริน ฉันจะทำยังไงดีโทรหาอรินไม่ติดฉันจะต้องโทรหาใครละเนี่ย. . .นี่ฉันจำเป็นที่จะต้องโทรหาเขาจริงๆใช่ไหม โอเคโทรก็โทรฉันโทรก็ได้ ฉันหยิบเบอร์จากเสื้อของฉันขึ้นมา เบอร์ของเขาที่เขาเคยให้ฉันเอาไว้ เบอร์ของพี่เบสยังไงล่ะ
“ขออีกสักครู่นะคะจะเสร็จแล้วค่ะ” พยาบาลพยักหน้าให้ก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนหวานให้กับฉัน เธอดูใจดีมากเลยนะเนี่ยขอบคุณมากเลยนะคะคุณพยาบาล ฉันกดเบอร์ของพี่เบสแล้วโทรไปหาพี่เขา //ตื๊ด ตื๊ด//
[ฮัลโหลสวัสดีครับนี่ใครครับผม] รับแล้วในที่สุดพระเจ้าก็เข้ามาช่วยฉันเสียที
“นี่คุณมารับฉันหน่อยได้ไหมฉันออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว มันถึงกำหนดการรออกของฉันแล้ว”
[ตอนนี้เลยหรอ ?? แล้วทำไมคุณถึงไม่กลับเองล่ะ]
ถามมาได้นะว่าทำไมไม่กลับเองโทรศัพท์พี่ก็เอาไป เงินของหนูก็ไม่มีมาแค่ตัว ดีนะที่ยังเก็บนามบัตรของพี่เบสเอาไว้ในกระเป๋าเนี่ย ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องรอคนมาเยี่ยมทั้งวันแน่ๆ
“ถามมาได้นะนายเอาโทรศัพท์ของฉันไปลืมแล้วหรอ แล้วเงินฉันก็ไม่มีด้วย”
[อ้อลืมเลยว่าฉันเอาโทรศัพท์ของเธอมาด้วยเนี่ย ขอโทษด้วยที่ทำแบบนั้นไป ฮ่า ฮ่า]
“หัวเราะอะไรเร็วๆมารับฉันหน่อยฉันจะไปทำงาน”
[ก่อนจะไปรับเธอฉันขอถามอะไรเธอหน่อย แล้วเธอไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหนเนี่ยทำไมถึงโทรมาหาฉันได้ ??]
แล้วทำไมต้องถามเรื่องนี้กับฉันด้วยเนี่ย
“ก็มันอยู่ในกระเป๋าของฉันเนี่ยนามบัตรของนายอะ เลิกถามแล้วมารับฉันได้แล้วนะ”
[โอเคแล้วจะให้ไปรับตรงไหนล่ะ]
“มารับตรงหน้าโรงพยาบาลเลยจะยืนรอ ส่วนเบอร์นี้ไม่ต้องโทรมาแล้วนะ โทรศัพท์ของคุณพยาบาลเขา นี่เขาใจดีให้ยืมเฉยๆนะไม่อย่างนั้นฉันคงไม่รู้จะใช้อะไรติดต่อนายดี”
[โอเคงั้นแค่นี้แหละเดี๋ยวจะไปรับแล้ว]
“เจอกัน”
[เจอกัน] แล้วสายก็ถูกวางไป
[ 30 นาทีต่อมา ]
//เอี๊ยด// รถของใครบางคนได้มาจอดข้างหน้าโรงพยาบบาลก่อนที่คนที่ลงมาจะเป็นพี่เบส
“ฉันขอโทษก็แล้วกันที่ลืมเอาโทรศัพท์ของเธอคืนให้กับเธอ”
เขาเดินมาฝั่งตรงข้ามของคนขับ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูให้กับฉัน
“ไม่เป็นอะไรหรอกดีแล้วที่มารับฉันได้นะ” ฉันพูดจบฉันก็เดินเข้าไปนั่งแล้วเขาก็ปิดประตูลง ก่อนจะเดินไปอีกฝั่งแล้วเข้ามาในรถ รถได้เคลื่อนที่ไปตามทางเพื่อจะกลับไปยังที่ทำงานของฉัน
“ฉันขอโทรศัพท์ของฉันคืนด้วย นายจะได้ไม่ลืมเอามาให้ฉันอีก”
เขาหยิบโทรศัพท์ของฉันจากกระเป๋าของเขา แล้วก็ยื่นโทรศัพท์มาคืนให้กับฉัน ซึ่งฉันก็รับมันเอาไว้
“แล้วทำไมเธอถึงไม่โทรไปหาเลขาของเธอให้เลขาของเธอมารับล่ะ ทำไมต้องโทรหาฉันด้วย”
คำถามโลกแตกอีกกแล้ว ถามมาได้ทุกครั้งเลยนะฉันจะต้องมีเหตุผลให้กับเขาทุกอย่างเลยหรือยังไง
“ก็ฉันโทรไปแล้วแต่ว่าเธอติดธุระมันฝากได้แต่ข้อความเสียงฉันก็เลยต้องโทรหานายยังไงล่ะ”
นี่ฉันต้องอยู่ในรถกับเขาอีกนานแค่ไหนนนนนนนนกัน