TXV – 44 บุคคลผู้ตอกหน้าเขา !
TXV – 44 บุคคลผู้ตอกหน้าเขา !
เมื่อฟู่ฉวนฟู๋กล่าวว่าเขาเป็นพ่อบ้านของตระกูลเฉินตู เซี่ยเหล่ยก็เดาได้ทันทีว่าอุปกรณ์คาร์โกแบตที่ส่งมาจากเฉินตู เทียนหยิน เขาสั่งซื้ออุปกรณ์จากอะลีบาบาแต่เฉินตู เทียนหยินส่งมาเป็นเครื่องกลึงรุ่นล่าสุดมีราคาพอสมควร ซึ่งอาชาสายฟ้าเวิร์คช็อปต้องการเป็นอย่างมาก ถ้าเขารับอุปกรณ์จากเฉินตู เทียนหยินเขาก็คงสามารถยกเลิกการสั่งซื้อและเอาเงินกลับเพื่อนำไปซื้ออย่างอื่นได้ อย่างเช่นรถที่เขาอยากได้….
“ขอบคุณคุณฟู่ และขอขอบคุณเฉินตูทุกคน แต่ผมไม่สามารถรับสิ่งเหล่านี้ได้ กรุณานำพวกมันกลับไปเถอะ” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ผมขอถามได้ไหม ? ทำไมคุณถึงไม่ยอมรับของเหล่านี้ ?” ฟู่ฉวนฟู๋ มองเซี่ยเหล่ยด้วยความงุนงง เพราะเขาไม่คิดว่าเซี่ยเหล่ยจะปฏิเสธ
“ไม่มีอะไรหรอก !” เซี่ยเหล่ยกล่าว
ผู้ชายควรจะมีความซื่อสัตย์ลมีศักดิ์ศรี พวกเขาจะไม่ยอมรับของตอบแทนราคาแพงราวกับว่าพวกมันเป็นของที่บริจาคให้คนยากไร้ !
“อา...ผมจำได้ว่า คุณพูดไว้ว่าถ้านายหญิงจะใช้หนี้คุณ เธอจะต้องบริจาคเงินจำนวนหนึ่งล้านให้แก่บ้านพักคนชราหรือบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า เราได้ทำตามคำขอของคุณเรียบร้อยแล้ว” ฟู่ฉวนฟู๋ยิ้มและมอบใบเสร็จเงินให้แก่เซี่ยเหล่ย
“นี่เป็นใบเสร็จเงินสำหรับการบริจาคเงินล้านหยวนในชื่อของคุณ”
เซี่ยเหล่ยถือใบเสร็จที่มีชื่อเขาไว้ในมือ ชื่อของเขาถูกเขียนเป็นผู้บริจาค เขารู้สึกเสียดายเงินจำนวนนั้นเป็นอย่างมากไปพร้อมกับความรู้สึกสบายใจไปพร้อมๆกัน
“นายหญิงให้เกียรติต่อคำสัญญาที่เธอพูดไว้กับคุณ อุปกรณ์บนรถบรรทุกเป็นเพียงของตอบแทนเล็กๆน้อยๆของนายหญิงเท่านั้น คุณเซี่ย โปรดรับมันไว้เถอะ” ฟู่ฉวนฟู๋กล่าวอย่างจริงใจ
เซี่ยเหล่ยยังคงส่ายหัวปฏิเสธ “ผมจะยอมรับใบเสร็จการบริจาคนี้เป็นของที่ระลึก คุณควรนำอุปกรณ์กลับเข้าที่รถบรรทุกเถอะ เพราะว่าผมจะไม่อยากได้มัน”
“คุณเซี่ย คุณ....” ฟู่ฉวนฟู๋ดูไม่พอใจแต่เขาก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรกับเซี่ยเหล่ย....
เหยี่ยนเหวินเฉียน หัวเราะเยาะ “ท่านฟู่ ธรรมชาติของคนประเภทนี้น่าสมเพช เขาปฎิเสธของดีๆเมื่อคุณกำลังจะมอบให้เขา เขาเป็นเพียงเศษสวะที่พร้อมจะถูกกวาดทิ้ง อย่าไปสนใจเขาเลย”
ทันใดนั้นฟู่ฉวนจ้องเขม็งไปที่เหยี่ยนเหวินเฉียนแล้วพูดว่า “เจ้าคนปากเสีย ! กล้าพูดแบบนี้กับคุณเซี่ยได้ยังไง !”
“ผม......” เหยี่ยนเหวินเฉียนถูกจ้องมองด้วยสายตาที่รุนแรงใส่ ทำให้เขาตระหนักได้ว่าเขาได้เผลอทำสิ่งผิดพลาดลงไป แต่เขารู้แล้วว่าการที่ไปพูดแทรกฟู่ฉวนฟู๋ถือเป็นการไม่ให้เกียรติเขาอย่ามาก !
เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “คุณฟู่ ผมเห็นด้วยกับการที่เขาพูดนะผมเป็นแค่เศษสวะ เป็นดั่งขอทาน ผมจะรับของขวัญที่มีราคาแพงของสตรีชั้นสูงอย่างคุณเฉินตูได้อย่างไร ? จะดีกว่าไหม ? ถ้าคุณนำพวกมันกลับไป”
“โปรดอย่าเข้าใจผิด คุณเซี่ย ท่านหญิงของเราไม่เคยมองใครแบบนั้น เธอไม่มีเจตนาที่จะดูถูกคุณ”
เซี่ยเหล่ยยักไหล่ “คุณฟู่ ไม่จำเป็นต้องพูดไปมากกว่านี้ ผมจะบอกอีกครั้งว่าผมไม่ต้องการของที่อยู่บนรถบรรทุก โปรดนำพวกมันกลับไป”
ฟู่ฉวนฟู๋มองไปที่เหยี่ยนเหวินเฉียน “ยืนนิ่งอยู่ทำไม ขอโทษคุณเซี่ย เดี๋ยวนี้ !”
“ฉัน....” เหยี่ยนเหวินเฉียนไม่สามารถพูดอะไรได้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาอับอายมาก เขาบอกว่าเซี่ยเหล่ยเป็นเศษสวะและยากจนเหมือนขอทานตอนนี้เขากำลังถูกตำหนิอย่างหนักแถมยังเขาต้องขอโทษเศษสวะแบบเซี่ยเหล่ย !
เซี่ยเหล่ยยังคงคิดวิธีที่จะปฎิเสธสิ่งของจากเฉินตูแต่หม่าเสี่ยวอันรีบตอบตกลงโดยทันทีมีข้อแม้ว่า “ถ้าผู้ชายที่หยิ่งยะโสคนนี้ พูดขอโทษพวกเราได้ เราจะยอมรับของจากนายหญิงของคุณ”
เซี่ยเหล่ยกำลังจะปิดปากของหม่าเสี่ยวอันแต่คำพูดของเขาหลุดออกไปแล้วเขาไม่สามารถหยุดคำพูดเหล่านั้นไว้ได้ทัน !
ฟู่ฉวนฟู๋ดูเหมือนจะมีโอกาสในการตอบรับของรางวัล เขากล่าวกับเหยี่ยนเหวินเฉียนว่า “เหวินเฉียน ได้ยินไหม ขอโทษคุณเซี่ย เดี๋ยวนี้!”
เหยี่ยนเหวินเฉียนกระสับกระส่ายเขาเปิดปากอย่างช้าๆ แต่ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาอยู่ชั่วระยะหนี่ง.....
หม่าเสี่ยวอันยิ่งเติมเชื้อไฟให้ยิ่งประทุ “ผมคิดว่า เขาคงคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ค้ำฟ้าไม่มีใครสามารถเก่งเท่าเขาอีกแล้ว การทนงตัวแบบนี้ถ้าจะกล่าวขอโทษพวกเศษสวะมันคงจะเป็นเรื่องยาก แต่ก็ดี น่าสนใจดี น่าสนใจดี ฮ่า ฮ่า...”
“คุณ....” เหยี่ยนเหวินเฉียนจ้องเขม็งไปที่หม่าเสี่ยวอัน ถ้าฟู่ฉวนฟู๋ม่อยู่บริเวณนี้เขาคงจะวิ่งไปเตะหม่าเสี่ยวอันแล้ว....
“อยากจะมีเรื่อง ? เข้ามาดิ !” หม่าเสี่ยวอันยังคงสุมไฟอย่างต่อเนื่อง
“พอเถอะ เสี่ยวอัน ! ” เซี่ยเหล่ยกล่าว
หม่าเสี่ยวอันหยุดทันที เขาไม่เชื่อฟังคนอื่นแต่เขาเชื่อฟังแต่เซี่ยเหล่ยเพียงคนเดียว....
ใบหน้าของ ฟู่ฉวนฟู๋เริ่มเดือดขึ้นเรื่อยๆ “เหยี่ยนเหวินเฉียนคุณต้องการให้ผมกลับไปบอกนายหญิงใช่มั้ย ? ว่าคุณทำให้คุณเซี่ยปฎิเสธของรางวัลจากเธอ ?”
เมื่อเขาได้ยิน หน้าของเขาซีดยังกับแผ่นกระดาษในทันที เขามองไปที่เซี่ยเหล่ย แม้ว่าจะไม่เต็มใจก็ตาม เขาโค้งคำนับและพูดอย่างสุภาพว่า “คุณเซี่ย ผมขอโทษ ผมผิดเอง อภัยให้ผมด้วยนะครับ”
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างไม่แยแส “คุณต้องเรียนรู้มารยาทบางอย่างในอนาคต เพราะมันเป็นหนึ่งในพื้นฐานของการเป็นมนุษย์”
เหยี่ยนเหวินเฉียนกัดฟันและพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “เข้าใจแล้ว”
“แล้วผมล่ะ” หม่าเสี่ยวอันกล่าว “เขายังไม่ได้ขอโทษฉันเลย”
ดวงตาของเหยี่ยนเหวินเฉียนจ้องเขม็งราวกับว่าพร้อมจะฆ่าพวกเขาได้ในทันที
“เหยี่นนเหวินเฉียน เร็วสิ!” ฟู่ฉวนฟู๋สั่ง
เหยี่ยนเหวินเฉียนมองหน้าหม่าเสี่ยวอันแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ขอโทษ !”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” หม่าเสี่ยวอันหัวเราะอย่างมีความสุข
เหยี่ยนเหวินเฉียนเผชิญหน้ากับจูเสี่ยวหงและกล่าว “คุณ ผมขอโทษเรื่องก่อนหน้านี้ กรุณายกโทษให้ผมด้วย”
จูเสี่ยวหงกล่าวโดยทันทีว่า “ไม่ ไม่ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก”
ฟู่ฉวนฟู๋กล่าวว่า “นี่คงจะพอใจคุณเซี่ยแล้วใช่มั้ย ? ผมจะได้ให้คนขับรถขนของเข้ามาในร้าน”
“คุณฟู่ ผมไม่ได้...”
ฟู่ฉวนฟู๋ตัดบทเขาก่อนจะจบประโยค “ผมได้ทำในสิ่งที่คุณต้องการแล้ว นายหญิงของเราไม่ชอบคนที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จ คุณจะให้ผมกลับไปบอกท่านหญิงของเราว่างานไม่สำเร็จงั้นเหรอ?”
“นี่...” เซี่ยเหล่ยกำลังตกอยู่ในสถาการณ์เสียเปรียบ
ฟู่ฉวนฟู๋ เดินออกจากประตูและตะโกนไปยังคนขับรถเครนว่า “ขนของลงมา” เขากลัวว่าเซี่ยเหล่ยจะหาข้ออ้างมาปฏิเสธพวกเขาได้อีก ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงต้องกลับไปเฉินตู เทียนหยินโดยที่ทำหน้าไม่สำเร็จ.....
พวกเขาได้ทำการย้ายอุปกรณ์ออกจากรถบรรทุกโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที..
การขนย้ายชิ้นส่วนของอุปกรณ์ถูกวางไว้ด้านหน้าของอาชาสายฟ้าเวิร์คช็อป อุปกรณ์พวกนี้ล้วนมาจากแบรนด์ใหม่และล่าสุด มูลค่ารวมหลายล้านหยวน.....
เซี่ยเหล่ยไม่ต้องจ่ายเงินเยอะเพื่อเลือกซื้ออุปกรณ์เข้าร้านเพราะว่าเฉินตู เทียนหยินได้ส่งให้ของที่พวกเขาอยากได้มาแล้ว เงินล้านหยวนเป็นจำนวนค่อนข้างเยอะและสำคัญต่อเซี่ยเหล่ยมาก แต่สำหรับคนเฉินตู เทียนหยิน เงินล้านหยวนอาจมีค่าแค่นาฬิกาหรือเสื้อผ้าแบรนด์แนม กระเป๋าที่ตัดเย็บอย่างหรูหราเพียงแค่ชิ้นเดียว เซี่ยเหล่ยช่วยให้เธอรอดพ้นจากการลอบทำร้านดังนั้นของแค่นี้เธอแทบจะไม่เสียอะไรเลย....
เซี่ยเหล่ยไม่ต้องนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ใหม่เข้าร้านเพราะว่าเฉินตู เทียนหยินได้ส่งอุปกรณ์เหล่านั้นมาให้พวกเขาแล้วเงินจำนวนล้านหยวนนี้ค่อนข้างสำคัญกับเซี่ยเหล่ยอย่างมากแต่หนึ่งล้านหยวนแต่สำหรับฉินตู เทียนหยินนั้นอาจจะมีค่าแค่เพียงนาฬิกาหรือเสื้อผ้าแบรนด์แนมหรือกระเป๋าหรูหรา 1 ใบการที่เซี่ยเหล่ยได้ช่วยเธอให้รอดพ้นจากความตายนั้น ของตอบแทนที่เธอให้เขามาราวกับว่าเธอไม่รู้สึกขอบคุณอะไรเซี่ยเหล่ยเลย
“ถ้างั้น ผมลาก่อนนะคุณเซี่ย” ฟู่ฉวนฟู๋กล่าวคำล่ำลาและเดินออกไป นอกจากเหยี่ยนเหวินเฉียนที่ต้องกล่าวขอโทษทั้ง 3 คนเขาก็ไม่พูดอะไรอีกเลย เขาเดินกลับไปขึ้นรถโดยทันที
ฟู่ฉวนฟู๋เป็นพ่อบ้านของตระกูลเฉินตูและทำหน้าที่นี้มา 3 ชั่วอายุคนของตระกูลเฉินตูแล้วการที่เหยี่ยนเหวินเฉียนยืนอยู่ที่นี่เป็นเพียงแค่เศษฝุ่นในสายตาของเขาซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องสนใจด้วยเลย
“หนิงจิง คุณจะอยู่ที่นี้หรอ ?” รอยยิ้มอันอบอุ่นของเหยี่ยนเหวินเฉียนหายไปในพริบตาศักดิ์ศรีในตอนนี้ถูกเอาไปขยี้ใต้เท้าของเซี่ยเหล่ยไปแล้วเหลือเพียงหนิงจิงที่
สามารถกู้หน้าเขาคืนมาได้ ถ้าหนิงจิงยอมกลับไปกับเขา
“ฉัน…..” หนิงจิงพูดอย่างลังเล เธอมองไปที่เซี่ยเหล่ยราวกับว่าจะให้เซี่ยเหล่ยบอกเธอว่าอย่าไป
เซี่ยเหล่ยไม่ได้พูดแบบที่เธอคิดแต่อย่างใดแต่เขาพูดว่า “พี่หนิง ถ้าคุณจะอยู่หรือจะไปกับเขาไม่มีใครบังคับคุณได้หรอก”
ทันใดนั้นเหยี่ยนเหวินเฉียนยกโทรศัพท์ขึ้นมา.....
ถ้าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้น เหยี่ยนเหวินเฉียนคงจะดูถูกเซี่ยเหล่ยแบบนี้ต่อไปแต่ตอนนี้มันแตกต่างกันเขาไม่กล้าพูดจาดูถูกเซี่ยเหล่ยอีกและเขาก็ไม่มั่นใจว่าเซี่ยเหล่ยมีความสัมพันธ์อะไรกับเฉินตู เทียนหยินอย่างไรก็ตามเขาจะบังคับให้หนิงจิงกลับไปกับเขาให้ได้ เขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วพูดว่า “หนิงจิง ผมจะโทรหาคุณน้าในตอนนี้และบอกเรื่องราวของคุณทั้งหมด”
“ก็ได้…...ฉันจะไปกับคุณ” น้ำตาไหลรินจากดวงเธอของหนิงจิง
มีรอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเหยี่ยนเหวินเฉียน เขายื่นมือออกไปจับมือของหนิงจิงแต่เธอปัดมือของเขาออกจากนั้นเธอเดินไปที่รถด้วยความไม่พอใจ
เหยี่ยนเหวินเฉียนยิ้ม “ลาก่อน ทั้ง 3 คน”
หม่าเสี่ยวอันกล่าว “ผมไม่เคยเห็นใครหน้าด้านเท่าคุณมาก่อนเลย….”
เหยี่ยนเหวินเฉียนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เขาหันกลับไปและเดินออกจากอาชาสายฟ้าเวิร์คช็อปทันที….
การที่ฟู่ฉวนฟู๋ เหยี่ยนเหวินเฉียนและหนิงจิงกลับไปทำให้อาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง เซี่ยเหล่ยจ้องมองไปที่อุปกรณ์เหล่านั้นที่หน้าทางเข้าทั้งหม่าเสี่ยว จูเสี่ยวหงต่างจ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ย….
หลังจากที่พวกเขาเงียบไปสักครู่หนึ่งเซี่ยเหล่ยพูดขึ้นมาว่า “เอาแต่ใจจริงๆ ใครบอกให้รับของเหล่านี้จากพวกเขา”
“เพื่อน… ถ้านายไม่ต้องการเอามาให้ผมก็ได้ ผมจะนำมันไปขายและจะนำเงินนี้ไปหาภรรยาให้ตัวเอง” หม่าเสี่ยวอันกล่าว
เซี่ยเหล่ยรู้สึกตัวและถอนหายใจออกมา… “เฮ้อออ… ถ้านายไม่พูดอย่างนั้นผมคงจะปฎิเสธไปแล้วเป็นเพราะนายเลยที่พูด ผมจึงจำใจต้องรับมัน”
หม่าเสี่ยวอันรู้สึกเสียใจ “เหล่ย มันเกิดอะไรขึ้นทำไมคุณถึงรู้จักนายหญิงแห่งตระกูลเฉินตู ? ทำไมผมไม่รู้เรื่องนี้ ? มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณทั้งสองคนเธอจึงส่งสิ่งของราคาแพงแบบนี้มาให้ สิ่งที่ทำให้ผมสับสนยิ่งกว่าเดิมก็คือคุณไม่รับของเหล่านี้คุณเป็นคนโง่หรอ ?”
จูเสี่ยวหงกล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว พี่เหล่ยทำไมคุณถึงไม่ต้องการมันล่ะ ? เราต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในการทำมาหากินนะ”
เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างหมดหวังและส่ายหัวโดยที่ไม่มีคำอธิบายใดๆออกมาเนื่องจากเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเห็นระเบิดอยู่ใต้ท้องรถของเฉินตู เทียนหยินได้ “ผมไม่อยากต้องติดหนี้บุญคุณใครอีกการที่เธอให้ของราคาแพงมาแบบนี้ เธอต้องหวังอะไรจากพวกเราอย่างแน่นอน หรือว่าผมอาจจะเป็นคนโง่ที่สุดเลยก็ได้….”
“มาเถอะ...มาดูว่าข้างในมีอะไร ?” หม่าเสี่ยวอันผลักเซี่ยเหล่ยไปข้างหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น…..
“จะมีอะไรก็ช่างมันเถอะ.. เราจะรีบติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ในร้านให้เร็วที่สุด” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ผมเดาออกหน่าาาา ถึงแม้ว่านายจะไม่พูดออกมา นายหญิงคงจะหว่านเมล็ดไว้แหละ หวังผลตอบแทนจากนายบางอย่างแน่นอน” หม่าเสี่ยวอันหัวเราะคิกคัก
เซี่ยเหล่ยเตะหม่าเสี่ยวอัน “ไอชั่วว ไปทำงาน !”
“ใช่ ใช่ ทำงาน..” หม่าเสี่ยวอันเดินออกไป..
จูเสี่ยวหงเดินมาหาเซี่ยเหล่ยอย่างช้าๆเธอพูดกับตัวเองขณะที่เดินว่า “เมล็ดของพี่เหล่ย…. มีราคาแพงขนาดนั้นเลย… ผู้หญิงทั้งเมืองถึงเต็มใจจ่ายให้พี่...”
เซี่ยเหล่ยถึงกับอึ้งโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆออกมา
ติดตามตอนต่อไป.....