TXV – 43 จงใจจับผิด !
TXV – 43 จงใจจับผิด !
เซี่ยเหล่ยเดินออกไปทักทายเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “พี่หนิง ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ ?”
ปากอันเล็กๆของหนิงจิงขยับเล็กน้อย “ทำไมหรอ ฉันมาที่นี่ไม่ได้ ? มาหาคุณได้ตอนมีธุระกับคุณเท่านั้นหรอ?”
เซี่ยเหล่ยยิ้ม “แน่นอนคุณมาได้อยู่แล้วที่นี่ยินดีต้อนรับคุณเสมอ” หลังจากนั้นสักครู่หนึ่งเขาพูดต่อว่า “เมื่อวานต้องขอโทษด้วยที่ผมทำให้เรื่องให้มันเลวร้ายลง”
“ฉันไม่โทษคุณหรอก ฉันก็ไม่รู้ว่าเหยี่ยนเหวินเฉียนจะมาด้วย พวกเราของคนไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว” หนิงจิงกล่าว
“พ่อแม่คุณดูเหมือนจะชอบเขามากเลยนะ”เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ฉันมาเพื่อขอโทษที่แม่ของฉันพูดจาดูถูกคุณ เหยี่ยนเหวินเฉียนเขาทนงตัวเกินไป” เธอมองไปยังเซี่ยเหล่ยและไม่รู้จะต่อบทสนทนายังไงดี
เซี่ยเหล่ยทำตัวเหมือนกับว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรมาก “ไม่เป็นไร มันปกติอยู่แล้วที่คนระดับเขาจะมองคนอย่างผมอย่างนั้น สังคมไฮโซมันก็เป็นแบบนี้แหละ” เขาหัวเราะออกมา “แล้วก็แม่ของคุณก็ทำเพื่อนคุณ เหยี่ยนเหวินเฉียนเป็นคนเก่ง ผมคิดว่าคุณแม่ส่วนใหญ่ก็ต้องการลูกเขยแบบนี้แหละเพื่อชีวิตที่ดีของลูกสาวพวกเธอ”
“อะ หยุดพูดเรื่องนั้นได้แล้ว” หนิงจิงตัดบทสนทนาของเซี่ยเหล่ย “ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนอยากแต่งงานกับคนที่มีฐานะร่ำรวยและไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนจะแต่งงานเพื่อบ้านโตๆหรือรถสวยๆเช่นกัน คุณไม่ใช่ฉัน แล้วคุณรู้สเปกผู้ชายที่ฉันชอบได้ยังไง?”
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น......” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น สิ่งที่ฉันพยายามจะพูดคือ ฉันรู้ว่าฉันชอบผู้ชายแบบไหนแล้วก็ฉันก็รู้ด้วยว่าผู้ชายแบบไหนที่ฉันจะใช้ทั้งชีวิตอยู่กับเขา แม่ของฉันไม่สามารถตัดสินใจแทนฉันได้หรอก !” หยิงจิงกล่าว
เซี่ยเหล่ยไม่อยากต่อบทสนทนาเรื่องนั้นต่อ เขาจึงกล่าว “เข้ามานั่งข้างในก่อนสิ เดี๋ยวจะชงชามาให้ดื่มในขณะที่เราคุยกัน”
หนิงจิงมองไปทางเซี่ยเหล่ย เธอจ้องมองอย่างจริงจังแล้วถามว่า “ฉันคงไม่ได้มากวนการทำงานของคุณนะ ?”
เซี่ยเหล่ยหัวเราะและกล่าวว่า “ไม่ ไม่ วันนี้มีงานไม่ค่อยเยอะ”
รอยยิ้มหวานๆปรากฏบนใบหน้าของหนิงจิง “คุณพอจะแนะนำพนักงานสองคนนั้นได้ไหม? พอดีฉันไม่ค่อยมีเพื่อน ถ้าได้เพื่อนเพิ่มอีกฉันจะดีใจมากๆ”
“ไม่มีปัญหา พวกเขาคงดีใจที่มีเพื่อนแบบคุณ” เซี่ยเหล่ยกล่าว
หนิงจิงเดินตามเซี่ยเหล่ยไปยังเวิร์คช๊อปและแนะนำหม่าเสี่ยวอันและจูเสี่ยวหงให้เธอได้รู้จัก พวกเขาทั้งสี่คุยกันและหัวเราะไปด้วยกัน และหนิงจิงได้สอนการใช้คอมพิวเตอร์และการใช้โปรแกรมแก่จูเสี่ยวหง บรรยากาศในเวิร์คช๊อปเต็มไปด้วยความเป็นกันเองและอบอุ่น
เมื่อมองไปยังหนิงจิงและจูเสี่ยวหง เซี่ยเหล่ยมีความสงสัยเล็กๆว่า ‘ ทำไมคนที่จบปริญญาเอกแบบหนิงจิงต้องการเป็นเพื่อนกับหม่าเสี่ยวอันและจูเสี่ยวหง ? มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก ’
ก่อนที่เซี่ยเหล่ยจะหาเหตุผลเหล่านั้น มีรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำก็ได้จอดข้างทาง ราคารถคนนี้มีราคาหลายล้านหยวนเป็นรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูรุ่นที่ 7 แสงสะท้อนของรถประกายเจิดจ้าเนื่องจากการการเคลือบเงาทำให้มันดูน่าสนใจเป็นพิเศษ…..
ประตูรถได้เปิดออกและเหยี่ยนเหวินเฉียนที่ใส่ชุดสูทก็ออกมาจากที่นั่งคนขับ เขาถอดแว่นกันแดดออก มองไปยังอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปและเดินตรงเข้ามา
“พี่หนิงมีใครบางคนกำลังตามหาคุณอยู่” เซี่ยเหล่ยกล่าว เขาไม่ได้คิดว่าเหยี่ยนเหวินเฉียนมาหาเขา ถ้าหนิงจิงไม่ได้อยู่ที่นี่ คนอย่างเหยี่ยนเหวินเฉียนคงไม่มีทางที่จะมายังอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปที่อยู่ข้างถนนแบบนี้หรอก อย่างมากเขาแค่ขับผ่านเท่านั้นแหละ
หนิงจิงมองไปที่ถนนตามคำพูดของเซี่ยเหล่ย เมื่อเธอเห็นเหยี่ยนเหวินเฉียนรอยยิ้มของเธอจางหายไปทันที....
เหยี่ยนเหวินเฉียนเดินเข้ามายังอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปและเขาก็มองผ่านเซี่ยเหล่ย หม่าเสี่ยวอันและจูเสี่ยวหง จากนั้นจึงหยุดที่ใบหน้าของหนิงจิงและเขาก็ยิ้มออกมา “จิง ทำไมคุณถึงปิดโทรศัพท์เมื่อผมโทรหาคุณ? ผมไปที่บ้านของคุณเพื่อไปเจอคุณกับคุณน้า คุณป้าบอกว่าคุณออกไปไหนก็ไม่รู้ ผมรู้แค่ว่าคุณไม่ได้ไปทำงานวันนี้เมื่อผมไปหาที่คุณที่ทำงานของคุณ ผมเลยถามคนที่คุณทำงานด้วยและได้ยินชื่อของที่นี่ มันหาไม่ง่ายเลยนะที่นี่เนี้ย ผมยิ่งเป็นคนหลงทิศทางอยู่ด้วย”
หนิงจิงพยายามฝืนยิ้มออกมา “แล้วคุณมาหาฉันทำไมหรอ?”
“ผมออกจากเมืองนี้ไปหลายปีและเมืองนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ผมอยากรู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างแต่ไม่มีคนนำทางนะสิ เธออยากไปเป็นคนนำทางให้ผมไหม ? พาผมไปชมรอบๆเมืองหน่อยสิ” เขาไม่รีรอให้หนิงจิงตอบตกลงเขาจึงพูดต่อว่า “ผมได้จองโต๊ะที่ร้านหาดทรายสีทอง พวกเราสองคนจะไปทานอาหารตะวันตกที่นั่นตอนเที่ยง”
รถหรูราคาแพง อาหารตะวันตกที่โรแมนติกและผู้ชายที่หล่อเหลา เขามีสิ่งที่ผู้หญิงหลายๆคนหลงรักและยากที่จะปฎิเสธคำชวนนี้ได้ แต่ดูเหมือนหนิงจิงจะเป็นข้อยกเว้น เธอส่ายหน้า “ฉันไม่ชอบอาหารตะวันตก”
“งั้นเราไปทานอาหารจีนกัน ผมรู้จักร้านอาหารที่เชี่ยวชาญอาหารกวงตุ้งและพวกเขาทำอาหารอร่อยมากๆ”
“ฉัน...” หนิงจิงไม่คาดคิดว่าเหยี่ยนเหวินเฉียนจะตามตื้อขนาดนี้ เธอไม่อยากปฏิเสธไปตรงๆ ดังนั้นเธอจึงบอกว่าไม่ชอบอาหารตะวันตกแต่เขาก็พูดเปลี่ยนไปร้านกวางตุ้งทันที เธอไม่แน่ใจว่าต้องปฏิเสธเขายังไงถึงจะเลิกตามตื้อ.......
ในขณะนั้นจูเสี่ยวหงลุกขึ้นและเดินไปยังตู้กดน้ำเพื่อนำน้ำไปให้เหยี่ยนเหวินเฉียนและเธอยื่นให้ด้วยสองมือ “น้ำค่ะ”
เหยี่ยนเหวินเฉียนไม่ได้ยื่นมือไปรับ เขาไม่แม้จะชายมองไปยังที่จูเสี่ยวหง
จูเสี่ยวหงแน่นิ่งไปและไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ
เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นมา “เสี่ยวหง คุณสุภาพบุรุษท่านนี้เขาเป็นคนที่สูงศักดิ์ เธอจะไม่ได้รับการตอบรับจากเขาหรอก ดังนั้นเธอจึงไปทำงานของเธอต่อและไม่ต้องสนใจเขา”
จูเสี่ยวหงกลับมายังโต๊ะพร้อมกับน้ำในแก้วและวางมันไว้บนโต๊ะ เธอจึงไปเรียนรู้คอมพิวเตอร์และโปรแกรมต่อไป ราวกับว่าเธอเคยชินกับการใช้ชีวิตอย่างนอบน้อมทำให้เธอไม่รู้สึกโกรธเคืองเมื่อถูกปฏิบัติตัวแย่ๆจากเหยี่ยนเหวินเฉียน
แต่หม่าเสี่ยวอันยอมไม่ได้และเขาไม่ได้นอบน้อมเหมือนจูเสี่ยวหง เขาหยิบแก้วที่อยู่บนโต๊ะและเททิ้งในทีเดียวและวางแก้วอย่างแรงบนโต๊ะจากนั้นพูดด้วยความโกรธ “ผู้นำประเทศยังไม่หยิ่งขนาดนี้เลย ให้น้ำไปแก้วหนึ่งเท่ากับให้ความเคารพไปส่วนหนึ่ง มึงไม่รู้เรื่องแบบนี้หรอ? มึงกำลังล้อเล่นอะไรอยู่?”
เหยี่ยนเหวินเฉียนมองไปยังคนที่กำลังโกรธอยู่ เขาหัวเราะเยาะ “มีช่างเชื่อมกระจอกๆไม่พอใจด้วยล่ะ ผมสงสัยจริงๆว่าเขาเอาความมั่นใจจากไหน”
“แล้วเป็นช่างเชือมมันไปหนักหัวใคร ถ้ามึงพูดอีกครั้งคงจะมีเลือดออกปากแน่ !” หม่าเสี่ยวอันพับแขนเสื้อเพื่อเตรียมพร้อมการต่อสู้
สายตาของเหยี่ยนเหวินเฉียนเต็มไปด้วยความดูถูก “แค่โดนด่าไปนิดหน่อยก็จะมีเรื่องเลย ? ก่อนที่คุณจะใจร้อนผมจะบอกอะไรให้ ! ผมเรียนจูโดตอนนี้ก็สายดำดั่ง 8”
หม่าเสี่ยวอันได้ก้าวเท้าไปด้านหน้าไปแล้ว แต่เขาก็ก้าวกลับไป อย่าพูดถึงดั่ง 8 เลย แค่ดั่ง 1 เขาก็สู้ไม่ได้แล้ว......
เหยี่ยนเหวินเฉียนมองไปยังเซี่ยเหล่ยดวงตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “คุณชื่อเซี่ยเหล่ยใช่ไหม ผมรู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะเปิดร้านเวิกค์ช๊อปมันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนระดับคุณแต่คุณไม่หวังสูงไปหน่อยหรอ ? หนิงจิงเป็นผู้หญิงที่คุณไม่ควรแตะต้องและอย่ามายุ่งกับเธออีกเพราะว่าเธอไม่เหมาะกับคุณ !”
ตอนนี้อารมณ์ของเซี่ยเหล่ยใจเย็นอยู่แต่เป็นแบบนี้ต่อไปเขาคงจะไม่ใจเย็นแล้ว เขาชี้ไปยังประตูแล้วพูดว่า “ออกไป!”
เหยี่ยนเหวินเฉียนมองไปยังหนิงจิง “จิงไปกับผมเถอะ อย่าไปอยู่ร่วมกับคนพวกนี้เลย คุณจะดูหมองหม่นถ้ายังอยู่กับคนพวกนี้ !”
“ฉันไม่ไป เชิญคุณออกไปเถอะ !” หนิงจิงก็ทนไม่ไหวเช่นกัน
“อยากให้ผมโทรไปหาคุณน้า คุณป้าหรอ? ถ้าพวกเขารู้ว่าเธออยู่ที่นี่พวกเขาต้องมาที่นี่แน่ๆ พ่อของเธอก็เป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย เธออยากจะให้เขาโกรธด้วยเหตุผลแบบนี้หรอ?”
“คุณ.....” หนิงจิงโกรธมาก ความคิดของเธอถูกขัดขวาง “ทำไมคุณถึงเอาแต่ใจแบบนี้?”
“ผมจะปกป้องคุณได้ยังไงถ้าผมไม่เอาแต่ใจ? พวกสิบแปดมงกุฎในโลกนี้มันมีเยอะมาก ยิ่งเธอเป็นคนไร้เดียงสา เธอจะถูกหลอกได้ง่ายๆ”
เขาไม่ได้บอกว่าใครเป็นพวกพวกสิบแปดมงกุฎแต่เวลาเขาพูดเขาหันมามองเซี่ยเหล่ย มันหมายถึงใครก็เห็นได้อย่างชัดเจน.......
เซี่ยเหล่ยจะเดินไปกระทีบเหยี่ยนเหวินเฉียนทันทีและหม่าเสี่ยวอันก็ยกประแจขึ้นมา พร้อมที่จะช่วยเหลือกระทืบมัน !
ในตอนนนั้นเอง มีรถสามคันหยุดข้างถนน มีรถเมอร์เซเดสสีดำ มีรถบรรทุก สุดท้ายเป็นรถเครนขนาดเล็ก
ประตูรถเมอร์เซเดสสีดำได้ถูกเปิดออกและชายสูงอายุ ก้าวออกมาจากที่นั่งคนขับและมองมายังอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปจากนั้นเขาเดินตรงเขามายในร้าน ข้างหลังของเขามีคนขับรถบรรทุกกระโดดลงมาและดึงผ้าใบบนรถบรรทุก สิ่งที่อยู่ในรถบรรทุกนั้นเป็นเครื่องจักรใหม่เอี่ยมสองเครื่อง เป็นเครื่องกลึงและอีกอันเป็นเครื่องเชื่อมที่มีความแม่นยำสูง
ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้ความตึงเครียดในเวิกค์ช๊อปหยุดชะงักลง
ชายแก่เดินเขามายังร้านอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อป เขามีรูปลักษณ์ที่มากประสบการณ์ราวกับว่าเขาสามารถอะไรได้หลายๆอย่างที่วัยหนุ่มสาวหลายๆคนไม่สามารถทำได้
เซี่ยเหล่ยไม่เคยเห็นคนสูงอายุคนนี้มาก่อน รถบรรทุกและรถเครนขนาดเล็กที่อยู่ข้างนอกร้านของเขาทำให้เขาเกิดคำถามมากกมายอยู่ในหัว และเมื่อเขากำลังจะเอ่ยถามขึ้นมา เหยี่ยนเหวินเฉียนก็ชิงถามก่อน
“รุ่นพี่ฟู่” เหยี่ยนเหวินเฉียนแปลกใจแต่ก็ยังมีความเคารพชายคนนั้น “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
ชายสูงอายุที่ถูกเรียกว่ารุ่นพี่ฟู่ได้มองไปยังเหยี่ยนเหวินเฉียนและพูดไม่ต่างกัน “เหวินเฉียน มาทำอะไรที่นี่?” “ผม...”เหยี่ยนเหวินเฉียนหัวเราะอย่างเก้ๆกังๆ “ผมมาหาเพื่อน”
ชายสูงอายุที่ถูกเรียกว่ารุ่นพี่ฟู่ไม่ได้คุยกับเหยี่ยนเหวินเฉียนอีก เขามองไปยังเซี่ยเหล่ยและหม่าเสี่ยวอัน จากนั้นจึงเอ่ยถามขึ้นมา “ใครคือเซี่ยเหล่ย?”
“ผมเอง ! ผมขอถามหน่อยสิ คุณเป็นใครครับ ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว
ชายสูงอายุที่ถูกเรียกว่ารุ่นพี่ฟู่ยิ้มนิดหน่อย “ผมฟู่ฉวนฟู๋ ผมเป็นพ่อบ้านตระกูลเฉินตู ฮิฮิ ผมได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเมื่อวานและผมก็ต้องขอบคุณเป็นอย่างมาก”
เมื่อเขาพูด เซี่ยเหล่ยก็เข้าใจในทันที ใบหน้าของเฉินตู เทียนอันปรากฏขึ้นในหัวทุกอย่างๆที่เกี่ยวกับเธอเขาจำได้อย่างแม่นยำเสมือนว่าเธออยู่ตรงหน้าเขา พร้อมกับเสน่ห์ที่เย้ายวนของเธอ......
ข้างๆนั้น เหยี่ยนเหวินเฉียนมองยังเซี่ยเหล่ยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมร้านเล็กๆข้างถนนที่เซี่ยเหล่ยเป็นเจ้าของถึงได้รู้จักเฉินตู เทียนอัน ! อารมณ์ของเขาตอนนี้เป็นอะไรที่อธิบายได้ยาก มันเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากๆ
ฟู่ฉวนฟู๋พูดต่อ “นายหญิงบอกให้ผมนำเครื่องมือบางอย่างมาให้คุณเพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อวาน”
ก่อนที่เซี่ยเหล่ยจะพูด เหยี่ยนเหวินเฉียนก็แทรกเขามาก่อน “รุ่นพี่ฟู่ มีอะไรเกิดขึ้นหรอ? ทำไมคุณเฉินตูถึงให้นำของ.....”
“เหวินเฉียน นี้คุณไม่รู้เหรอ ผมไม่ชอบให้ใครมาพูดแทรกขณะที่ผมกำลังพูด ?”
เหยี่ยนเหวินเฉียนตะลึงไปทันทีจากนั้นเขาก้มหน้าลงด้วยความอับอาย....
ติดตามตอนไป.......