ตอนที่ 7 ตัวบ้าอะไรก็ไม่รู้
“นั่นมันตัวอะไรหรอครับ แฮก ๆ” ผมวิ่งหน้าตั้งเพื่อที่จะกลับไปหาบ้านร้างที่ๆปลอดภัยที่สุดสำหรับผม เหมือนกับว่ามันเริ่มตามผมมาเรื่อยๆแล้วในตอนนี้
“มันคือแทคอีกอ เป็นสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ในเกาะนี้นี่แหละค่ะ แต่ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไปทำให้มันออกมาเดินแถวๆหน้าชายหาดทะเล ฉันขอโทษนะคะที่ทำให้คุณต้องเหนื่อยแบบนี้ แต่อดทนหน่อยพวกเราจะกลับไปถึงที่บ้านล้างของเรรากันแล้วล่ะค่ะ”
เธอพูดขึ้นไม่รู้ว่ามันสามารถจะทำให้ผมมีกำลังใจได้บ้างหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมเหนื่อยมากและผมจะไม่ไหวแล้ว แต่ผมก็จำเป็นที่จะต้องไหวก็เพราะว่ามันกำลังจะถึงบ้านร้างแล้วยังไงล่ะ
“พวกเราจะถึงกันแล้วนะคะอย่าท้อแท้” เธอพูดขึ้นซึ่งผมหันหลังไป มันเข้ามาใกล้ผมมากแล้วหน้าตาของมันน่ากลัวมากเลย แล้วไอ้ที่ติดอยู่ข้างหลังของมันคืออะไรกันเนี่ย
“มันกำลังเข้ามาใกล้ผมแล้วนะครับ จะทำอย่างไรดีครับเนี่ย !!”
ผมจะไม่ไหวแล้วคุณแมส ผมจะไม่ไหวจริงๆ แต่ทว่าสิ่งที่โชคร้ายสำหรับผมก็เกิดขึ้นกับผมจนได้ เพราะว่าผมดันสะดุดหินที่อยู่ตรงชายหาดทะเล ทำให้ผมนั้นล้มลงไปสู้ผืนดิน เสียงเท้าของมันเริ่มมาใกล้ผมขึ้นเรื่อยๆ ผมหันไปมันก็กำลังเข้ามาใกล้ผมแล้ว มันกำลังจะฆ่าผมและผมไม่สามารถที่จะรอดได้อีกต่อไป . . ลาก่อนครับ //ฟิ้ง// เสียงบางอย่างได้ดังขึ้นมาราวกับของมีคมกำลังปะทะกันอยู่ จากที่ผมหลับตาอยู่ผมก็เริ่มลืมตาขึ้นมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น และผมก็เห็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่อยู่ข้างหน้าของผม ผู้หญิงคนหนึ่งมีรูปร่างตัวเล็กๆผมยาวๆสีดำเหมือนกับที่บิลลี่เล่าให้ผมฟังเลย เธอยืนอยู่ข้างหน้าของผมแล้วก็กำลังใช้ดาบของเธอกันกรงเล็บของเจ้าตัวสัตว์ประหลาดนั้น
“กรุณาถอยออกจากตรงนี้ให้กับฉันหน่อยเถอะนะคะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่ได้บอกคุณเลย”
สิ่งที่เธอพูดมาทำให้ผมรีบลุกออกจากบริเวณนั้นแล้วก็เดินถอยออกมา และแล้วการต่อสู้ของสัตว์ประหลาดน่ากลัวตัวนั้น กับหญิงสาวที่มีผมสีดำก็เริ่มขึ้น เธออยู่เพียงแค่จุดเดียวและตั้งรับกรงเล็บที่รวดเร็วดั่งสายฟ้าจากเจ้าตัวสัตว์ประหลาดตัวนั้น ซึ่งเจ้าตัวสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ฝนกรงเล็บของมันไปที่ผู้หญิงคนนั้นโดยที่ไม่สนอะไรเลย ผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นคุณแมสแน่ๆเพราะผมจำเสียงของเธอได้ เธออยู่นิ่งไม่ไหวติงแต่มือที่ถือดาบของเธอกับกันกรงเล็บของเจ้าสัตว์หลาดตัวนั้นได้โดยไม่ต้องขยับไปไหนเลยแม้แต่น้อย
“คุณช่วยหยิบลูกมะพร้าวของคุณแล้วเดินไปที่บ้านร้างเสียเถอะค่ะ เพราะฉากต่อไปที่คุณจะได้เห็นมากอาจจะทำให้คุณไม่กล้าที่จะกินลูกมะพร้าวลูกนั้นได้อีกเป็นวันๆเลยนะคะ”
ผมว่าที่เธอพูดมามันอาจจะได้เจอภาพสะอิดสะเอียนจากเจ้าตัวสัตว์ประหลาดนั่นแน่ๆ ผมพยักหน้าให้กับเธอก่อนที่จะเดินกลับไปที่บ้านร้างที่จุดเดิม แล้วเสียงของเจ้าตัวสัตว์ประหลาดนั่นก็ดังขึ้นมา ผมอยากจะหันกลับไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นนะแต่ผมก็กลัวว่าผมจะกินมะพร้าวของผมไม่ลง ผมจึงไม่หันไปดูแล้วก็เดินเข้าไปในซากบ้านไป จากนั้นเวลาผ่านไปได้ไม่กี่นาทีเสียงเท้าของใครบางคนก็ได้เดินเข้ามาในบ้านร้างหลังนี้ ผมหันไปดูก็พบกับคุณแมสที่เดินมาพร้อมกับตัวที่เปื้อนน้ำสีแดงเต็มไปหมด ถ้าจะให้ผมเดาก็น่าจะเป็นเลือดของเจ้าตัวนั้นนั่นแหละ เธอเดินมายืนข้างหน้าของผมแล้วเอามือทั้งสองข้างของเธอมาวางไว้ที่ข้างหน้าของเธอ แล้วก้มลงทักทายผม ผมรีบยืขึ้นมาในทันที
“คุณคงจำฉันได้สินะคะ เสียงของฉันอาจจะทำให้คุณรู้ว่าฉันคือใคร ขอโทษที่ไม่ได้ปรากฏตัวให้คุณอดัมได้เห็นตั้งแต่แรกๆนะคะ แต่ว่าตอนนี้พวกเราก็คงได้เห็นกันแล้วและคงไม่ลืมชื่อของฉันนะคะ”
ผมยิ้มออกมาหน้าตาของเธอที่ดูสะสวยจนเกินบรรยายทำให้ผมพูดไม่ออกและได้มองแต่หน้าเธอเพียงเท่านั้น
“มีอะไรติดที่หน้าของฉันอย่างนั้นหรือคะทำไมถึงมองฉันแปลกๆแบบนั้นล่ะ ??”
ผมรีบส่ายหน้าในทันทีที่เธอพูดแบบนั้นออกมา มันไม่ได้เป็นแบบที่เธอพูดหรอกนะมันไม่แปลกอะไรเลย เพียงแต่หน้าตาของเธอน่ารักเกินไปเท่านั้นเอง
“เปล่าหรอกครับผมยังจำคุณได้เหมือนเดิมครับคุณแมส ยินดีที่เราได้เจอหน้ากันแล้วนะครับ ผมดีใจนะที่ได้เจอคุณมันเหมือนทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ได้บ้าที่คุณกับตัวเองเพียงคนเดียว”
เธอยิ้มขึ้นมาโหแม้เจ้าโว๊ยมันเพิ่มความน่ารักของเธอพุ่งทะลุเป้าเลยทีเดียว อย่าทำแบบนี้ต่อหน้าเธอนะมันน่าอายชะมัดเลยที่คิดเรื่องแบบนี้ในเวลาแบบนี้เนี่ย
“พอมาเจอคุณใกล้ๆแล้วคุณดูตัวสูงมากเลยนะคะ. . .แต่ฉันต้องไปแล้วล่ะค่ะไว้กลับมาเจอกันใหม่นะคะ ตอนนี้ฉันมีธุระที่จะต้องจัดการโปรดดูแลตัวเองตอนที่ไม่มีฉันด้วย ขอเวลาสักสามสิบนาทีให้ฉันได้เก็บกวาดอะไรบางอย่างก่อน อย่างออกไปก็แล้วกันค่ะ”
ผมพยักหน้าให้กับเธอแล้วเธอก็เดินออกไป ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่บิลลี่พูดเลยด้วยซ้ำ แต่เรื่องเล่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรกันนะผมอยากจะรู้จริงๆเลย