ตอนที่ 6 คุณเเมสที่น่ารัก
ผมอาจจะใช่เวลาค่อนข้างนานนิดหน่อย เพราะว่าผมทำใจในการออกไปข้างนอกอะนะ แล้วตอนนี้ผมก็ทำใจได้แล้วล่ะว่าผมจะเดินออกไปสำรวจเกาะข้างนอกหน่อย เผื่อจะมีอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้ผมออกไปจากเกาะแห่งนี้ได้ เกาะอื่นก็ยังดีไม่อยากอยู่เกาะแห่งนี้นาน มันน่ากลัวเกินไปแถมยังมีตัวอะไรอีกก็ไม่รู้ สิ่งที่ผมเห็นที่น่ากลัวที่สุดก็คงเป็นไอ้ยักษ์ตัวนั้นแหละนะ ผมมองไปที่หน้าประตูซากบ้างร้างหลังนี้แล้วก็เริ่มเดินออกไปอย่างช้าๆ แล้วก็เอาเท้าออกไปแตะข้างนอกอีกฝั่งของประตู แล้วก็เดินออกมาก่อนจะมองไปรอบๆ ที่นี่มันก็เหมือนเกาะทั่วไปนั่นแหละ แต่ที่ไม่เหมือนก็คงจะเป็นในช่วงมืดๆ ช่างน่ากลัวอะไรเยี่ยงนี้นะ
“ผมควรจะไปที่ไหนดีครับ ?? ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมหรือมีอะไรแนะนำผมหรือเปล่า”
ผมถามเธอไปเพราะผมไม่รู้จริงๆว่าจะไปสำรวจหรือไปต่อที่ไหนต่อ เธอน่าจะรู้เส้นทางมากกว่าผมนะผมคิดว่า
“ถ้าคุณอยากจะไปในที่ๆปลอดภัยที่สุดก็คงจะเป็นรอบๆเกาะไม่เข้าไปข้างในเกาะนั่นแหละนะคะ”
อ๋อข้างในเกาะมันก็คงจะมีเจ้าพวกนั้นที่เข้าไปอยู่ข้างในสินะ งั้นผมไม่เข้าไปเสียดีกว่าเอาเป็นว่าให้พร้อมจริงๆก่อนค่อยเข้าไปสำรวจข้างในเกาะดูก็แล้วกัน
“ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงต้องขอเดินไปดูรอบๆแถวนี้หน่อยละกันนะครับ”
ผมพูดจบผมก็เดินไปดูรอบๆเกาะ ส่วนมากมันก็จะไม่มีอะไรก็มีพวกมะพร้าวตกอยู่ พูดถึงดีนะที่ผมหยิบขวานของผมมาด้วย ผมจะได้เจาะไปที่มะพร้าวรูปที่ตกอยู่ได้ เพราะผมเริ่มหิวแล้วล่ะ ผมเดินไปหยิบมะพร้าวแล้วเริ่มเจาะพวกมันกินทีละลูกๆประมาณสามลูกได้ผมก็จุกแล้ว มันอิ่มท้องสุดๆไปเลยนะมะพร้าวเนี่ย แต่รู้สึกที่เคยเรียนมาคือกินเยอะมันก็ไม่ดี เรียนจากพ่อของผมนี่แหละพ่อของผมสอนผมมา ผมเดินไปต่อไปเรื่อยๆแสงแดดที่นี่ไม่มีเลยอาจจะเป็นเพราะหมอกพวกนั้นมันบังพระอาทิตย์จึงทำให้มันเป็นเช่นนั้น แต่ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจหรอกสนใจว่าผมจะได้รอดออกไปจากที่นี่หรือเปล่า แล้วสามารถหาทางรอดออกไปได้ไหมดีกว่า ผมเดินไปเรื่อยๆทุกอย่างมันคือความเงียบจนทำให้ผมรู้สึกเหงาสุดๆเลย ถ้าผมถามเธอๆจะตอบผมหรือเปล่านะ ถามทุกอย่างที่ถามได้จะได้มีเพื่อนคุณยังไงล่ะ แต่ตอนนี้เธออยู่หรือเปล่านะลองเรียกเธอดูหน่อยดีกว่า
“เอิ่มคุณยังอยู่หรือเปล่าครับคุณ” ผมถามไปได้สักพักในตอนแรกมันก็จะเงียบๆนั่นแหละ แต่อยู่ๆเธอก็พูดขึ้นมา
“ว่าอย่างไรคะเรียกฉันมีอะไรหรือเปล่า ??”
เธอยังอยู่นี่นาแสดงว่าเธอกำลังจับตามองผมอยู่สินะ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ไหนเช่นเดิม
“คุณ. . ชื่ออะไรหรอครับคุณสามารถบอกผมได้หรือเปล่า ??”
ผมเธอชื่อของเธอไปแต่ผมไม่รู้ว่าเธอจะตอบอย่างไรนะ เธอเงียบลงกับสิ่งที่ผมพูดได้สักพัก
“ฉันชื่อ อาลีน่า แมสเสิทเทิล บุตร. . เอิ่มช่างมันเถอะค่ะแล้วคุณล่ะมีชื่อว่าอะไรอย่างนั้นหรอ”
เธอถามชื่อของผมกลับมาแล้ว เวลาพูดกับผู้หญิงผมก็รู้สึกลนๆเหมือนกันนะอาจจะเป็นเพราะว่าไม่ได้เจอผู้หญิงมานานล่ะมั้ง
“ผมมีชื่อว่า อดัม ทรัมเบอร์ ครับยินดีที่ได้รู้จักกับคุณ แมสเสิทเทิล ครับผม”
ชื่อดูยาวจังเลยแฮะ เธอจะมีชื่อเล่นของเธอบ้างหรือเปล่านะ หรือว่านี่จะเป็นชื่อเล่นของเธออยู่แล้วนะ
“แล้วคุณมีชื่อเล่นของคุณหรือเปล่าครับ ??” อันนี้อยากรู้เป็นการส่วนตัวเผื่อว่าผมจะเป็นคนแรกที่ได้เรียกชื่อเล่นของเธอยังไงล่ะ
“ก็นี่แหละค่ะชื่อเล่นของฉัน ชื่อยาวจะยาวมากกว่านี้อีกค่ะแต่อย่าให้ฉันพูดเลยนะคะ ทั้งวันมันก็คงไม่หมดฉันคิดว่าเป็นเช่นนั้นค่ะ”
หูยยยยโดนเข้าแล้วไงแต่ว่ามันยาวเกินกว่าที่ผมจะจำชื่อของเธอได้ แถมมันยังพูดยากมากอีกต่างหาก
“แล้วถ้าเกิดผมอยากจะเรียกแค่ชื่อข้างหน้าของคุณได้ไหมครับ แบบว่าคุณแมสอย่างเดียวอะไรแบบนั้นน่ะครับ”
ผมถามเธอไปถ้าเกิดเธออยากให้ผมเรียกชื่อเธอแค่พยางค์เดียวนะ แต่ว่าถ้าเกิดเธอไม่ให้มันก็ไม่เป็นอะไรหรอก ผมจะพยายามเรียกชื่อของเธอให้มันถูกก็แล้วกัน
“จะเรียกแบบไหนก็แล้วแต่คุณก็แล้วกันนะคะคุณอดัม ส่วนดิฉันก็ขอเรียกชื่อข้างหน้าของคุณแค่อดัมก็แล้วกันค่ะ”
อู้ววว แสดงว่าเธอให้ผมเรียกชื่อของเธอได้อย่างนั้นสินะ
“ได้เลยครับไม่มีปัญหาอยู่แล้วล่ะครับ ตอนนี้ผมก็กำลังจะอ้อมเกาะแล้วนะ ผมไม้รู้เหมือนกันว่าผมอ้อมแล้วมันจะได้อะไรหรือเปล่า หรือได้แค่ลูกมะพร้าวกับไปที่บ้านร้าง แต่ก็เอาเถอะมันก็ดีแล้วล่ะครับดีกว่าไม่มีอะไรติดมือเลยอะนะ”
ผมพูดจบผมก็หยิบลูกมะพร้าวไปด้วย แล้วผมก็เดินอ้อมต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งผมเห็นอะไรบางอย่างลางๆอยู่ข้างหน้าของผมอีกครั้งหนึ่ง
“ไม่นะรีบวิ่งหนีเร็ว!!” อยู่ๆเธอก็พูดขึ้นมา ไอ้บางอย่างมากเริ่มขยับเข้ามาหาผมมันเริ่มใหญ่ขึ้นเมื่อเข้ามาใกล้ผม นั่นมันตัวอะไรกันฟะ!! อยู่ไม่ได้แล้วล่ะต้องวิ่งกลับไปตั้งหลักก่อน !!!