ตอนที่ 53 ห้าร้อยล้านสหรัฐ
“แล้วเจอกันใหม่” เจียงเฉินยื่มือขวาออกไป
นิคแตกรอยยิ้มขณะที่เขาจับมือแล้วส่ายมันอย่างหนัก “แล้วเจอกัน”
ขณะที่ยานพาหนะสีดำจากไป เจียงเฉินสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยออก
500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แปลงเป็นหยวนจะเป็น 3.1 พันล้านหยวน
เจียงเฉินดีใจอย่างมากจนอ้าปากค้างขณะที่เริ่มคิดเรื่องต่างๆ
[เรารวยแล้ว!]
3.1 พันล้านหยวน! มันเป็นตัวเลขที่เขาไม่อาจจะแตะต้องได้ในอดีต! ถ้าเขาใส่เงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยจะมีอย่างน้อยสองล้านต่อปี
เขาหายใจเข้าออกอีกครั้งเพื่อพยายามที่จะสงบลง
ดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวจะมากพอที่จะรักษาชีวิตที่หรูหราได้
หลังจากที่เขาปล่อยให้ความคิดนี้จมลึกลงไป เขาหายใจเข้าอย่างช้าๆเป็นครั้งสุดท้ายจนพอที่จะทำให้ความคิดที่อาละวาดสงบลงในที่สุด
หากความปรารถนาเพียงอย่างเดียวของเขาคือการเป็นคนที่มั่งคั่งแล้ว 3.1 พันล้านนี้จะเพียงพอที่จะใช้ไปตลอดชีวิต แต่เพื่อที่จะสร้างอาณาจักรที่ทอดข้ามสองโลก...
ตอนนี้ความตื่นเต้นของเขาค่อยๆลดลงแทนที่ด้วยความใฝ่ฝันในสายตาของเขา
ความปรารถนาที่จะมีอำนาจจะทำให้คนบ้าแต่ก็ทำให้บางคนเข้มแข็งขึ้น
ความมั่งคั่ง? นั่นยังไม่เพียงพอ
[เราสามารถเพิ่มได้มากขึ้น]
“ฮิฮิ แค่นี้ไม่พอ 3.1 พันล้านเป็นส่วนน้อยของสิ่งที่ฟิวเจอร์เทคโนโลยีคอร์เปเรชั่นจะทำได้ในมูลค่าตามราคาตลาด” เขาหัวเราะเสียงดังโดยไม่สนใจรูปลักษณ์แปลกๆที่เขามี
[ไม่เพียงจะเป็นคนที่ร่ำรวย เราจะเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุด! 3.1 พันล้านเป็นตัวเลขทางดาราศาสตร์ในกระเป๋าทุกคนแต่มันสำหรับคนธรรมดา! เราเป็นคนธรรมดาหรือไม่? เนื่องจากเรามีพอสำหรับคฤหาสร์แล้วทำไมเราไม่ซื้อสนามกอล์ฟด้วย? อะไร? เรายังไม่ทราบวิธีการเล่นกอล์ฟนี่หว่า? ดังนั้นถ้าเราไม่รู้วิธีเล่นแล้ว? เราก็สามารถแกล้งเล่นมันได้!]
และแม้ว่าถ้ามันดึงดูดความสนใจมาที่ตัวเองเมื่อคอมพิวเตอร์ประสามสัมผัสเต็มรูปแบบ คอมพิวเตอร์ความรู้สึกเสมือนจริงและอุปกรณ์อื่นๆถูกนำเข้าสู่ตลาด เขาจะถูกสังเกตเห็นโดยไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
มันไม่ใช่ว่าเขาจะทำอะไรผิดกฎหมายดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกลัวเจ้าหน้าที่
รัฐบาลไม่ได้โง่เขลาพอที่จะเชื่อว่ามีการเดินทางข้ามเวลาอยู่จริงๆ
แม้ว่าผู้มีอำนาจจะสนใจการพัฒนาของตัวเขาแต่พวกเขาจะรักษาบริษัทพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นอัญมณีล้ำค่าไว้ พวกเขาจะไม่โง่เขลาพอที่จะฆ่าไก่ออกไข่ เพื่อที่จะใช้เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อกองทัพ ขั้นตอนจริงจะต้องใช้เวลามากกว่าสิบปีซึ่งจะไม่มีประโยชน์แล้ว
ด้วยนวัตกรรมใหม่มาถึงก็จะมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแข่งขันทางอาวุธอีกครั้งซึ่งจะเสียงต่อการรั่วไหลของโทคโนโลยีเพื่อทำหน้าที่จารกรรม
แต่ยักษ์ใหญ่ชั้นนำเทคโนโลยีก็ต่างพากันสร้างรายได้ภาษีเป็นพันล้านให้กับประเทศ โดยมันจะเป็นรากฐานที่จะเปลี่ยนสถานะของประเทศในโลกนี้
แม้ถ้าผู้มีอำนาจจะบังคับซื้อบริษัทและเข้ารับตำแหน่งต่อแต่เขาก็ไม่กลัว
ด้วยสร้อยข้อมือมิติจะไม่มีใครจับเขาได้ ในขณะที่เขาไม่สามารถทำอะไรกับพวกมันได้เขาก็สามารถเริ่มต้นใหม่ที่อื่นได้
แน่นอนเขาหวังเป็นอย่างยิ่งจะไม่เห็นวันนั้นมาถึง
บางทีเมื่อเขาเติมใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นอำนาจที่ไม่สามารถขยับได้ ผู้มีอำนาจก็จะไม่สามารถแตะต้องเขาได้
ทุกอย่างเป็นไปได้
ด้วยท่าทางที่อวดดี เขาบอกแท็กซี่หยุดและมุ่งหน้าไปยังอพาร์ตเมนต์ของเซียชียู
-
"ในที่สุดนายก็กลับมา"
เซียชียูรีดเค้นคำพูดออกมาหลังจากปล่อยให้เจียงเฉินเข้าไปในห้อง
“อืมม ฉันเจอปัญหาบางอย่าง” เจียงเฉินกล่าวขณะที่เกาหัว
เซียชียูถอนหายใจที่การแสดงออกเลินเล่อของเขา
เธอไม่สามารถนอนหลับได้ดีในช่วง 2-3 คืนที่ผ่านมาแต่ตอนนี้เจียงเฉินปลอดภัยแล้วหัวใจของเธอก็สามารถสงบลงได้
สำหรับสาเหตุที่เธอกังวลใจ เธอไม่ใส่ใจที่จะคิดมัน
“ถ้านายมีบางสิ่งบางอย่างสำหรับฉัน แค่โทรหาฉัน นายไม่จำเป็นต้องมาเยี่ยมทุกครั้ง” เซียชียูกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
เจียงเฉินยกคิ้วขึ้นด้วยการยิ้มกว้างบนใบหน้า “ทำไม? คุณมีแฟนแล้วหรอ?”
เซียชียูจ้องอย่างเย็นชาไปที่ดวงตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันของเขา “ไม่แต่คุณมักมาในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม แม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับงานแต่ก็ยังไม่ถูกต้อง”
มันเป็นเวลาสองทุ่ม การยินยอมให้ชายคนหนึ่งเข้ามาในบ้านของเธอมันทำให้รู้สึกแปลกๆ แม้ว่าเธอจะมีใบหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกแต่เธอก็คิดถึงความคิดเห็นของคนอื่นอย่างจริงจัง! ถ้าไม่แล้วเธอจะไล่เจียงเฉินตั้งแต่เรื่องตลก
อาจมีข่าวลือแพร่กระจายไปทั่วเพื่อนบ้านแล้ว
เจียงเฉินสามารถมองเห็นความตั้งใจของเธอได้อย่างง่ายดาย
ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าใจแต่เขาก็ยังต้องการที่จะหยอกล้อหญิสาวที่ดื้อรั้นนี้
“ไม่ต้องห่วงมันจะเป็นเวลาพิเศษจนกว่าจะถึงเช้าพรุ่งนี้” เจียงเฉินกล่าวขณะที่หัวเราะโดยไม่ต้องคิดถึงความหมายของคำพูดของเขา
ใบหน้าของเซียชียูเปลี่ยนเป็นสีแดงสดใสดังนั้นเธอจึงขู่ให้ดูเหมือนเธอจะเตะเขาออกจากที่นั่น
“ฉันพูดผิดตรงไหน?” เจียงเฉินถามขณะที่เกาหัวอีกครั้ง
[ดูเหมือนว่าฉันแกล้งเธอมากเกินไป]
หญิงสาวด้านหน้าที่อ่อนไหวนี้เจียงเฉินไม่สามารถต้านทานการหยอกล้อเธอได้แต่ถ้าเธอรู้สึกโกรธมากพอที่จะหยุดทำงานให้เขาแล้วเขาก็จะไม่สามารถเคลียร์เรื่องยุ่งเหยิงได้
“…” หน้าอกของเซียชียูขึ้นลงอย่างดุเดือดขณะที่เธอกัดริมฝีปากของเธอก่อนที่เธอในที่สุดจะสงบลง
เวลาพิเศษจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้? คุณวางแผนที่จะค้างคืนที่นี่? อะไรคืนพิเศษ?
การเป็นผู้ช่วยเป็นอาชีพที่อ่อนไหว แม้ว่าเซียชียูจะเป็นซีอีโอโดยชื่อแต่เธอรู้สึกว่างานของเธอเป็นผู้ช่วยมากขึ้น แต่เจียงเฉินดูเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดของเขาและด้วยวิธีที่ทำให้เธออายง่ายๆ เธอจะไม่พูดมันออกมาดังๆ
เซียชียูถอนหายใจอีกครั้งที่ได้เห็นยิ้มกว้างของเจียงเฉิน เธอคว้าเอกสารที่เธอทำงานเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะปิดทีวี
“การเติบโตของบริษัท ฉันได้ส่งเอกสารที่จำเป็นสำหรับเกมบนมือถือไปยังหน่วยงานต่างๆเพื่อขออนุมัติแล้ว มันไม่มีข้อมูลละเอียดอ่อนใดๆและเราน่าจะได้รับผลลัพธ์ในไม่ช้า แม้ว่าเราจะปล่อยเกมตอนนี้แล้วกฎระเบียบที่หละหลวมในปัจจุบันจะช่วยให้มันไม่มีผลกระทบมากมาย ในความเป็นจริงนี้จะช่วยแก้ปัญหาความกดดันในกระแสเงินสดของเราและหลายบริษัทต่างทำเช่นนี้อยู่แล้ว” เซียชียูได้สวมแว่นสายตาสีดำของเธอและอธิบายความก้าวหน้าจนถึงปัจจุบัน
“เยี่ยม ฉันประทับใจกับความสามารถของคุณ สำหรับแผนปล่อยช่วงต้นไม่ต้องรีบเร่งมัน เราจะไม่ยอมให้คนอื่นล้อเลียนพวกเราดังนั้นทำตามขั้นตอนตามที่วางแผนไว้” เจียงเฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ในทางกลับกันการปรังปรุงอาคารของบริษัทเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้วรวมถึงเฟอร์นิเจอร์และหนึ่งปีของค่าเช้าค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ 7 หมื่นหยวน ฉันได้ส่งค่าใช้จ่ายไปยังบัญชีและนี่คือรายละเอียดให้คุณตรวจสอบ”
“ไม่เลว” เจียงเฉินพอใจด้วยการพยักหน้าและพลิกผ่านเอกสาร
แม้จะยอมรับผลงานสำหรับการทำงานของเธอแต่เธอก็รู้สึกเหนื่อยกับเหตุผลบางอย่าง
เธอรู้สึกโกรธก่อนที่เธอจะอธิบายก่อน “จากการวิจัยของฉันจำนวนลูกจ้างขั้นต่ำที่ต้องใช้ในการทำงานคือ 14 คน นี่คือการคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเราไม่จำเป็นต้องมีนักพัฒนาเกม ผู้จัดการจะเสียค่าจ้าง 6,000 ต่อเดือน การบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์ กฎหมาย บริการลูกค้า…”
“เดี๋ยวก่อน คุณสามารถเพียงแค่ให้สเปรดชีตสำหรับผมเพื่อตรวจสอบ ให้ฉันเฉพาะจุดสำคัญ” เจียงเฉินกล่าว
“ค่าจ้างประมาณประมาณหกหมื่นแปดพันต่อเดือน อุปกรณ์ที่จำเป็นจะมีราคาประมาณหนึ่งแสน ถ้าเราไม่พัฒนาวิธีสร้างรายได้” เธอหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยและกล่าวอย่างช้าๆ “บริษัทกำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากการล้มละลาย”
ไม่ว่าการจัดการของเธอจะดีแค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถหารายได้จากอากาศบางๆได้โดยเฉพาะเกมมือถือที่ต้องใช้เงินทุนในการเริ่มต้น หากไม่มีทีมการตลาดและการดำเนินงานที่เหมาะสมเพื่อสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่แม้จะมีวิธีการต่างๆเช่นซื้อของในเกมแต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะไร้ประโยชน์หากไม่มีผู้เล่น
"การล้มละลาย?" เจียงเฉินเริ่มหัวเราะ
“นายหัวเราะอะไร? นี่เป็นบริษัทของนาย” เซียชียูมองเขาอย่างไม่พอใจ
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีผลต่อเจียงเฉิน
“อะแฮ่ม การแช่ทุน” เจียงเฉินไม่หยอกล้อเธออีกต่อไปและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความทะนงตัว
“นี่เป็นวิธีเดียวที่บริษัทจะสามารถอยู่รอดได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากช่วงแรก เนื่องจากเราไม่มีสินทรัพย์ที่มีคุณค่า มันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับธนาคารใดๆก็ตามหรือกลุ่มเงินทุนที่จะให้เรากู้ยืม ประธานตั้งใจจะให้เท่าไหร่?” เซียชียูรู้สึกโล่งใจ แม้ว่าจะเป็นบริษัทของเจียงเฉินแต่เธอยังคงพึ่งพางานนี้เพราะมันเริ่มต้นด้วยการที่เธอติดหนี้เขา ความจริงที่ว่าเจียงเฉินไม่ได้ต้องการเงินคืนแต่มันไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่จ่ายเขาคืน นี่คือความดื้อรั้นของเธอเอง
“สิบล้านพอไหม?” เจียงเฉินถามลวกๆ
ฟลุ๊บบบ เอกสารตกลงบนพื้นขณะที่เซียชียูจ้องที่เจียงเฉินอย่างตกตะลึง
“อะไร? ไม่พอหรอ?” เขาขมวดคิ้ว “ประมาณหนึ่งร้อยล้านล่ะ?”
“นายล้อเล่นฉันเหรอ?” เซียชียูกัดฟันของเธอและจ้องมองเขา ไม่มีทางที่เธอจะเชื่อว่าเจียงเฉินเป็นคนร่ำรวย
ธุรกิจประเภทใดที่จะทำเงินจำนวนนี้ภายในเวลาเพียงครึ่งปี? คำอธิบายเพียงอย่างเดียวก็คือเจียงเฉินล้อเล่นกับเธอ
"ฉันไม่ได้ล้อเล่น" เจียงเฉินหัวเราะ
“คุณสามารถไปกับฉันที่สำนักงานเพื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนที่จำเป็นในวันพรุ่งนี้”
เซียชียูเงียบลง หลังจากหยุดพักมานานเธอก็กล่าวว่า “ถ้านายรวยทำไมนายยังต้องเปิดบริษัท?”
เจียงเฉินคิดอีกครู่หนึ่งก่อนจะกลิ้งตา “ใครเป็นคนวางกฎว่าคุณไม่สามารถเปิดธุรกิจได้ถ้าคุณรวย?”
เธอเห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับคำตอบนี้
หลังจากเงียบนานอีกครั้ง เจียงเฉินไม่ได้คาดหวังว่าเซียชียูจะพูดอย่างนี้ออกมา “นายต้องการไล่ตามฉัน?”