ตอนที่ 14 มันเก่งกว่าที่คิด
ผมต้องหามะพร้าวมากักตุนเอาไว้ก่อนเสียแล้ว ถ้าเกิดไม่หามากักตุนเอาไว้มีหวังมะพร้าวได้หมดก่อนเป็นแน่เลย ผมเดินออกไปจากบ้านร้างในตอนเช้าส่วนคุณแมสวันนี้เธอก็กะจะไปที่พักของเธอก่อนเดี๋ยวเธอก็คงกลับมาเองแหละ ในตอนนี้ผมต้องดูแลตัวเองแล้วจะให้แต่เธอต้องมาลำบากกับผมมันไม่ได้หรอกนะ ผมเดินออกไปพร้อมกับขวานคู่ใจของผม ผมเดินไปที่ชายหาดั่งตรงข้ามเพราะมันมีต้นมะพร้าวเยอะ แถวนี้มันไม่ค่อยมีอะไรหรอกถึงมันจะเสียงแต่ผมคิดว่ามันคงไม่อันตรายถึงขนาดนั้น เจ้าพวกนั้นมันคงนอนอยู่คงไม่เกิดดวงซวยแล้วไปเจอมันที่บริเวณนั้นหรอกมั้ง ผมเดิมข้ามถ้ำวงกลมไป (ตั้งชื่อเอง) แล้วก็เดินไปยังชายหาดก่อนจะไปเจอต้นมะพร้าวที่มีลูกมะพร้าวอยู่ประมาณสามถึงห้าลูก ถึงผมจะปีนไปเอามันได้ยากแต่ผมก็ต้องพยายามที่จะปีน เดี๋ยวมันก็จะสำเร็จเองเราต้องเชื่อใจตัวเองสิ ในครั้งที่สามสี่ห้าของผมผมปีนขึ้นไปแต่มันก็ยังคงตกลงมาเหมือนเดิมเรื่อยๆ ดีนะที่คุณแมสเก็บน้ำเปล่าไว้ในไม้ไผ่ให้กับผมเอาไว้สำลองไม่อย่างนั้นคงไม่มีน้ำกินแน่นอนเลย ผมจิบน้ำเบาๆเพื่อบรรเทาความกระหายน้ำของผม พร้อมกับตั้งใจปีนขึ้นไปเอาลูกมะพร้าวพร้อมกับแอบเหลือบดูด้วยว่ามีเจ้าพวกนั้นหรือเปล่า ในชั่วโมงแรกๆผมไม่มีแรงพอที่จะปีนต้นมะพร้าวเพื่อขึ้นไปเอาลูกมะพร้าว แต่พอนานๆไปผมเริ่มพัฒนาตัวเองขึ้นมาแล้วก็เริ่มปีนขึ้นไปได้เรื่อยๆ แล้วก็เริ่มขึ้นไปๆๆจนจะสุดอยู่แล้วเชียว แต่ผมสัมผัสถึงอะไรบางอย่างได้อะไรบางอย่างที่ผมรู้เลยว่ามันกำลังเข้ามาใกล้ๆกับผมแล้ว แล้วมันก็ใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนผมต้องหยุดปีนแล้วหันไปอย่างช้าๆ เหงื่อของผมเริ่มไหลออกมาเมื่อรู้ว่ามันมีตัวอะไรบางอย่างอยู่ที่ข้างหลังของผมแล้ว ผมจะโดนพวกมันฆ่าทิ้งหรือเปล่าเนี่ย เอาไงเอากันหันก็ต้องหันให้สุด ผมหลับตาแล้วหันพรึบเพื่อไปดูมันในทันที เอ๋ทำไมมันเงียบลงแล้วอะไรอุ่นๆอยู่ตรงขาของผมกันนะ ผมลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆก่อนจะมองลงไปที่ข้างล่างขาของผม แล้วพบกับเจ้าตัวน้อยที่กำลังเกาะขาของผมอยู่ในตอนนี้ ผมถอนหายใจยาวๆในตอนแรกผมนึกว่าผมจะโดนเจ้าสัตว์ประหลาดพวกนั้นฆ่าเอาเสียแล้ว แต่ดันเป็นเจ้าตัวน้อยที่ตามผมมาเสียได้
“กี้ กี้” เสียงสุดแสนน่ารักของมันได้ดังขึ้นมา ผมจึงยิ้มให้กับมันแล้วลูบหัวของมันเบาๆ
“แกทำฉันตกใจมากเลยนะเจ้าตัวน้อย ฉันนึกว่าฉันจะตายเสียแล้วเชียว”
พูดถึงผมยังไม่ได้ตั้งชื่อให้กับเจ้าตัวน้อยเลยนี่นา ผมจะตั้งชื่อให้มันว่าอย่างไรดีล่ะ ?? ฉันจะตั้งชื่อแกว่ายังไงดีนะเจ้าตัวน้อย ผมใช้เวลาคิดสักพักหนึ่งผมเจอกับในป่าใช่ไหม งั้นเอาชื่อนี้ไปเลยก็แล้วกัน
“ฉันขอตั้งชื่อให้แกว่าเจ้าฟอเรสนะเจ้าตัวน้อย” มันกระโดดดึ๋งๆเหมือนว่ามันดีใจที่ได้ชื่อของมัน ผมก็ดีใจนะที่มันดีใจแบบนี้เนี่ย
“นี่ฟอเรสมันโคตรสูงเลยนะต้นมะพร้าวเนี่ย ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับมันแล้วล่ะฉันคงต้องพยายามกว่านี้ว่าไหม”
นี่ผมอาจจะบ้านะที่พูดกับเจ้าฟอเรสเหมือนกับว่ามันเข้าใจที่ผมพูดอะไรแบบนั้น แต่ผมว่ามันไม่เข้าใจที่ผมพูดหรอกนะ
“กี้ กี้” เนี่ยขนาดนี้มันยังพูดได้แค่คำว่ากี้ๆเท่านั้นเอง ในตอนนี้ที่ผมกำลังปีนอยู่นั้นผมก็เห็นเหมือนมีอะไรบางอย่างผ่านหัวของผมไป แล้วลูกมะพร้าวก็ตกลงมาที่ข้างหลังของผม ผมมองลงไปข้างล่างก็พบกับลูกมะพร้าวมากมายที่ตกอยู่ข้างหลังของผม เอ๊ะมันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ผมปีนลงมาก่อนที่จะลองมองดูอีกทีหนึ่งว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วก็พบว่าฟอเรสของผมนั้นเป็นเจ้าตัวที่กระโดดขึ้นไปทำให้มะพร้าวตกลงมานั่นเอง นี่มันกระโดดสูงขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย แต่ว่ามันก็เป็นผลดีกับผมนะที่มันทำให้ถึงขนาดนี้
“โหน่าอัศจรรย์แกทำได้ขนาดนี้เลยหรอ นี่ทั้งเก่งทั้งน่ารักอีกต่างหากฉันนี่รรู้สึกถูกชะตากับนนาบมากจริงๆเลยนะ งั้นก็ขอบใจมากนะที่ช่วยฉันขนาดนี้แต่ว่าแกฟังฉันรู้เรื่องด้วยหรอ ??”
นี่ผมบ้าหรือเปล่าที่ไปถามฟอเรสแบบนั้น แต่ดูเหมือนมันจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดนะ
“กี้ กี่” จริงๆด้วยมันเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดจริงๆด้วยแฮะ ผมลูบหัวของมันเบาๆอีกครั้งก่อนจะถือลูกมะพร้าวที่ได้มากลับไปยังบ้านร้าง ดูเหมือนว่าเจ้าฟอเรสจะถือมาช่วยผมด้วยนะลูกหนึ่งทำไมน่ารักได้ขนาดนี้เนี่ย ถึงจะเป็นสัตว์ประหลาดหรือเป็นปีศาจแต่มันก็ใช่ว่าจะมีแต่ตัวร้ายเสมอไปสินะ เมื่อพวกเราไปถึงเจ้าฟอเรสไม่สามารถที่จะเข้ามาได้ ผมจึงให้มันอยู่ที่ข้างหน้าบ้านร้าง
“เอาไว้วันหลังฉันจะทำบ้านให้กับแกนะเจ้าฟอเรส” ผมยิ้มให้กับมันก่อนจะเอาลูกมะพร้าวมาเก็บเอาไว้ นี่สินะที่เรียกว่ารู้บุญคุณ