Path To : ตอนที่ 7 - เหมือนๆกัน
เส้นทางสู่สวรรค์ ตอนที่ 7
ตอนที่ 7 – ก็เหมือนกันๆ
“พูดอะไรอย่างนั้น?” เหว่ยเส้าที่หมดแรงกล่าวอย่างเหนื่อยๆ เมื่อเฒ่าตัวเขียวเห็นร่างของเหว่ยเส้าในเวลานี้เขาพูดไม่ออก
เฒ่าตัวเขียวมองไปที่เหว่ยเส้า “ก่อนที่เจ้าจะเรียกหาหินวิญญาณ หินวิญญาณคืออะไร?”
“หินวิญญาณคือผลึกหินพลังแห่งจิตวิญญาณ ผู้บ่มเพาะสามารถดูดซับพลังวิญญาณภายในมันได้ ด้วยกระบวนการสร้างที่คล้ายกับแกนกลางอสูรแต่ภายในหินนี้มีพลังวิญญาณที่ค่อนข้างบริสุทธิ์ไม่จำเป็นต้องใช้ยาช่วยเหมือนแกนกลางอสูร ในปัจจุบันมันเป็นสกุลเงินในโลกวรยุทธนี้ มันถูกแบ่งออกเป็นสามระดับตามลำดับพลัง พลังวิญญาณบริสุทธิ์มากคือระดับสูง พลังวิญญาณบริสุทธิ์น้อยคือระดับต่ำ มีอะไรผิดพลาดปกติเจ้าไม่ได้ใช้หินวิญญาณในเวลานั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้แน่ๆ?” เหว่ยเส้ากล่าวอย่างสงสัย
“ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้พบกับหินวิญญาณดังกล่าว? อย่างไรก็ดีไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้นับหมื่นปีที่ผ่านมาสิ่งเหล่านี้ล้วนมีไม่มากอย่างที่ในปัจจุบันมี หลายปีมาแล้วมิแปลกๆ ปล่อยวางเสียบ้างก็ดีเหมือนกันทักษะต่อสู้ของเจ้าในปัจจุบันและทักษะต่อสู้ประมาณ 10,000 ปีที่แล้วเมื่อท่านผู้สร้างคนสุดท้ายตายลงการยืนยันจึงแตกต่างกัน” เฒ่าตัวเขียวมองไปที่เหว่ยเส้าอย่างเจ้าเล่ห์ “ข้าไม่แน่ใจเจ้าช่วยบอกทีว่าในปัจจุบันทักษะต่อสู้มีอะไรบ้างมีกี่ระดับ?”
“ทักษะต่อสู้มีอยู่มากมาย จะแบ่งออกเป็นวันตามคุณภาพ ความลึกซึ้งและโชคชะตามีสี่สิบสองระดับ(four ten rank two ไม่รู้จะแปลไง) เขตแดนจะแบ่งเป็นเขตแดนทะเลศักดิ์สิทธิ์ เขตแดนวัฏจักรสวรรค์ เขตแดนโลกจิตนาการ เขตแดนแก่นแท้ทองคำ เขตแดนเซียนศักดิ์สิทธิ์และเขตแดนนิรันด์แท้จริง มากกว่า 10,000 ปีคืออันใด”
“…ก็เหมือนๆกันนั้นล่ะ”
“ไม่เหมือนมันแตกต่างกัน”
“มันยังสามารถไปต่อได้อีก มันจึงต่างกัน! เมื่อก่อนทักษะต่อสู้นับหมื่นมีการแก้ไขแค่เพียงครั้งเดียวด้วยพลังต้นกำเนิด พลังแห่งสัจธรรมเร้นลับ,ทักษะเวทย์มนตร์ธาตุไฟจำเป็นต้องใช้ทักษะพลังหยวนธาตุไฟ แต่ผู้บ่มเพาะพลังหยวนธาตุไฟจะไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์อื่นได้ ไม่เหมือนทักษะต่อสู้ในปัจจุบันตราบใดเท่าที่พลังหยวนที่แท้จริงของเจ้าเพียงพอก็จะสามารถใช้เวทย์มนต์ได้”
“ไม่สามารถทำได้งั้นรึ? เจ้าปีศาจเฒ่าตัวเขียวที่เจ้าพูดก็ไม่ผิดแต่มันไร้รับผิดชอบเกินไป”
“นี่ข้าไร้ความรับผิดชอบ? เจ้าเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์นี่ ตอนนี้ทักษะต่อสู้ในโลกแห่งการบ่มเพาะนี้เป็นแรงผลักดันให้เติบโตขึ้นจากอดีตที่ผ่านมาที่มีผู้เชี่ยวชาญทักษะต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ในเวลานั้นพวกเขาสามารถใช้ทักษะเวทย์มาตร์จากพลังต้นกำเนิดได้ ปัจจุบันได้มีกำแพงสวรรค์กันระหว่างเจ็ดแผ่นดินใหญ่ ไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมาที่ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถเดินทางไปไหนได้อย่างคล่องแคลว”
“นี่ข้าอาจได้ฟังเรื่องราวที่แท้จริง” เหว่ยเส้ามีจิตวิญญาณขึ้นมาเล็กน้อย เมืองจิตวิญญาณสูงส่งที่เขาอาศัยอยู่ตั้งในทวีปสวรรค์เร้นลับในที่ห่างไกลเป็นเมืองเล็กๆ ที่ทวีปสวรรค์เร้นลับเมื่อเร็วๆนี้มีการว่ากันว่าทวีปจิตวิญญาณเมฆา ระหว่างสองแผนดินใหญ่นี้ห่างจากกันเท่าไรไม่มีผู้ใดรู้ระยะทางจริงจากการต้องข้ามป่าไป เฉพาะในเมืองใหญ่หลายแห่งจะมีการสร้าง ค่ายกลเคลื่อยย้ายที่เชื่อมกัน แม้ว่าจะมีเมืองใหญ่หลายแห่งแต่เหว่ยเส้าก็ไม่เคยได้ใช้เลยสักครั้ง แม้เมืองจิตวิญญาณสูงส่งจะตั้งอยู่ในทวีปสวรรค์เร้นลับแต่เขาก็ไม่เคยเห็นกำแพงสวรรค์ที่ต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าชมเลยสักครั้ง เหว่ยเส้ามองไปที่เฒ่าตัวเขียวอย่างเชิดชูอยู่สักระยะหนึ่ง
คล้ายกับกำแพงเมืองทั่วไปแต่เป็นแสงขาวทั้งหมดล้อมรอบแผ่นดินใหญ่เอาไว้ มองด้วยตาเปล่าจะไม่สามารถมองเห็นมันได้มันอาจจะเชื่อมกับบางมิติ ว่ากันว่ามีผู้บ่มเพาะชั่วร้ายคนหนึ่งที่อยู่ในเขตแดนแก่นแท้ทองคำกำลังหลบหนีได้บินขึ้นไปแต่ก็ต้องพบกับจุดจบ แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือหากเป็นนักพรต แสงขาวนี้จะไม่ทำอัตรายใดๆ คล้ายกับคลื่นพลัง อย่างไรก็ดีหากสัตว์อสูรจากภายนอกต้องการจะเข้ามายังแผ่นดินใหญ่ก็ต้องทำลายกำแพงสวรรค์เข้ามา นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่ต้องการทำลายกำแพงสวรรค์ก็จะพบกับปัญหาอีกมากมาย
สัตว์อสูรที่นอกกำแพงนั้นที่อยู่ในป่านั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก หากไม่มีกำแพงสวรรค์นี้บางทีผู้บ่มเพาะอาจจะไม่ใช่คู่มือของสัตว์อสูร อย่างไรก็ตามหลายพันปีต่อมาว่ากันว่ากำแพงสวรรค์ในบางสถานที่มีการเปิดออก สัตว์อสูรชั่วร้ายก็ได้เข้ามาจากการเปิดออกของกำแพงในครั้งนี้ ภายหลังสัตว์อสูรมีอิทธิพลมากขึ้นจากการสังหารผู้คน หลังจากกำแพงถูกเปิดออกเหล่าขุมอำนาจก็ได้ส่งคนไปคุ้มกัน แต่ด้วยทักษะเวทย์มนตร์ที่ต่ำกว่าระดับสี่ไม่สามารถโจมตีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งได้มันจึงยังคงมีสัตว์อสูรอาศัยอยู่ในแผ่นดินใหญ่ ตอนนี้ภายในป่าด้านนอกของหลายๆเมืองในทวีปสวรรค์เร้นลับจะมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งจำนวนมากอาศัยอยู่ในบางสถานที่
ในตำนานกำแพงสวรรค์ได้คลอบคลุมไปทั่วเจ็ดแผ่นดินใหญ่ในสมัยอดีตกาล ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต้องตะลึง