TXV -- 37 ระเบิด ? การหักหลังของเพื่อน !
TXV -- 37 ระเบิด ? การหักหลังของเพื่อน !
อาจจะเป็นเพราะความสงสัยของเซี่ยเหล่ย เขาจึงใช้ตาซ้ายของเขาส่องเข้าไปมองใกล้ๆกับผู้หญิงที่กำลังทำความสะอาดจากระยะ 30 – 40 เมตร เขาก็สามารถเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนเสมือนว่าเขานั่งมองอยู่ใกล้ๆเธอ
เซี่ยเหล่ยมองดูที่มือของเธอ มือของเธอนั้นมีสีซีด มีความอ่อนนุ่มและไม่มีร่องรอยหยาบกร้าน อีกทั้งเธอยังมีนาฬิกาที่ล้ำเลิศหรูหราที่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพในการผลิตอยู่ที่ข้อมือของเธอ นาฬิกาเรือนนั้นเป็นนาฬิกาพิเศษมีราคาแพงเมื่อเทียบกับนาฬิกาทั่วๆไป
ความสงสัยของเซี่ยเหล่ยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันผิดปกติที่คนทำความสะอาดจะสามารถมีของราคาแพงแบบนี้สวมใส่
ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่าได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังสำรวจตัวเธอ เธอได้เข็นรถเขนทำความสะอาดเข้าไปใกล้ๆกับรถโรลลอยด์แพนทอมด์
ขณะที่เซี่ยเหล่ยกำลังคิดแบบนั้นอยู่ จู่ๆเสื้อผ้าผู้หญิงทำความสะอาดคนนั้นหายไปและเธอก็ยืนแก้ผ้าท่ามกลางดวงอาทิตย์ !
ผิวของเธอมีสีเนื้ออ่อนละไมและเนียนมาก จึงทำให้สีตัดกับวัตถุสีดำที่อยู่ที่เอวของเธอเป็นอย่างมากทำให้มองเห็นด้วยสายตาง่ายดายมาก –วัตถุสีดำมันคือปืน!
เซี่ยเหล่ยจึงไปมองยังรถเข็นทำความสะอาดและเขาเห็นอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในนั้นเหมือนกัน มันคือชนวนหลายๆอันที่ถูกมัดรวมกันเพื่อทำนะเบิดและมีโทรศัพท์มือถือถูกพันด้วยเทปกาวอยู่บนนั้น ซึ่งเชื่อมกับตะกั่วที่นำไฟฟ้าได้......
เมื่อเขาได้เห็นปืนและระเบิดเซี่ยเหล่ยได้คลายข้อสงสัยของเขาแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่พนักงานทำความสะอาดของบริษัทบูรพาอุตสาหกรรมแต่เป็นนักฆ่า จากที่เห็นเธอเดินตรงไปยังรถโรลลอยด์แพนทอมด์ทำให้เป้าหมายของเธอต้องเป็นเฉินตู เทียนหยินอย่างไม่ต้องสงสัย
เซี่ยเหล่ยหยุดการเพ่งมองของเขาและมุ่งหน้าไปยังเวิกค์ช็อป
ผู้หญิงคนนั้นได้หันมามองเซี่ยเหล่ยแต่เป็นการมองแบบผ่านๆและเธอไม่ได้มีความสงสัยในตัวเซี่ยเหล่ยแต่อย่างใด เพราะเธอมั่นใจว่าเธอซุกซ่อนไว้อย่างดี เมื่อเซี่ยเหล่ยเดินออกไป เธอคงคิดว่ามันไม่มีทางที่เซี่ยเหล่ยจะรู้ได้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ เธอได้เข็นรถเข็นของเธอไปข้างๆกับรถโรลลอยด์แพนทอมด์และใช้แหนบเพื่อเอาระเบิดออกจากถังพลาสติก เธอทำเหมือนว่าเธอกำลังนั่งย่อตัวลงเพื่อเก็บขยะ.....
แต่เหตุการณ์ทั้งหมดเซี่ยเหล่ยไม่มีทางพลาดอยู่แล้วเขามองเห็นทุกอย่างด้วยตาซ้ายของเขา ไม่กี่นาทีต่อมาเขาได้หาหนิงเหยี่ยซานและคณะของเฉินตู เทียนหยินซึ่งพวกเขาอยู่ในเวิกค์ช็อป
“บริษัทของเราเป็นรัฐวิสาหกิจ จุดเด่นและชื่อเสียงของเรามันดีอยู่แล้ว คุณสามารถมั่นใจได้เลยคุณเฉินตู ผมสามารถการันตีได้เลยว่าถ้าคุณเลือกเราโรงไฟฟ้าพลังงานลมจำสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้กลุ่มเหวี้ยนเทียนมีกำลังผลิตมหาศาลอย่างแน่นอน” หนิงเหยี่ยซานได้กล่าวออกไปพร้อมกับแสดงอุปกรณ์ต่างๆแก่เฉินตู เทียนหยินรอบๆของเวิกค์ช็อป มีรอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าของเขาและกริยาท่าทางที่สำรวม....
เฉินตู เทียนหยินกล่าวด้วยเสียงเบาๆ “หัวหน้าหนิง เรื่องนั้นมันอยู่นอกเหนือข้อตกลงของเรา อย่างไรก็ตาม ฉันได้ยินมาว่าบริษัทของคุณเคยมีโปรเจ็คชิ้นสำคัญถูกหยุดเนื่องจากข้อจำกัดที่ถูกสร้างโดยยุโรปและอเมริกา เรื่องเหล่านั้นเป็นจริงหรือไม่?”
เซี่ยเหล่ยกำลังจะเดินเข้าไปและได้ยินเธอพูด ‘ ไม่ใช่ว่าเธอกำลังพูดถึงชิ้นส่วนที่ต้องใช้ความแม่นยำสูง ที่เราเป็นคนดำเนินการ ถึงแม้ว่าเราไม่รู้ว่าชิ้นส่วนเหล่านั้นไปใช้ทำอะไรแต่ดูเหมือนเธอรู้ว่าชิ้นส่วนเหล่านั้นเอาไปทำอะไร เส้นสายของเธอคงจะเยอะน่าดู เธอกำลังวางแผนจะจับตาเราหรอ? ’ เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ในใจเมื่อได้ยินบทสนทนา
หนิงเหยี่ยซานได้หัวเราะเบาๆ “หิหิ คุนเฉินตูข้อมูลคุณแน่นมาก ยุโรปและอเมริกามีความจำเป็นต้องกำจัดเทคโนโลยีของพวกเขาไว้และส่งผลกระทบกับพวกเราระดับหนึ่ง ผมจะบอกความจริงให้คุณเฉินตู ปัญหาเหล่านั้นทางเราสามารถแก้หมดแล้ว ”
“โอ้?” เฉินตู เทียนหยินอุทานด้วยความไม่เชื่อ “จากข้อมูลที่ทางเราได้รับมา ยังไม่มีอุปกรณ์หรือคนที่มีความสามารถที่ทำชิ้นส่วนเหล่านั้นได้ แล้วคุณแก้ปัญหายังไงละ?”
“บริษัทของเรามีวิศวกรเก่งๆมากมาย เขายังหนุ่มยังแน่นแต่ว่าความสามารถของเขานั้นโดดเด่นเป็นอย่างมาก เขาคนนี้แหละที่มาแกปัญหาให้เรา จริงๆแล้วทางเราเพิ่งจ้างเขามาทำงานและจ่ายหนึ่งล้านหยวนให้สำหรับงานของเขา” หนิงเหยี่ยซานกล่าว
“เป็นแบบนี้นี่เอง บริษัทของคุณเป็นแหล่งรวมของคนที่มีความสามารถจริงๆ” รอยยิ้มความพึงพอใจปรากฎบนริมฝีปากของเฉินตู เทียนหยิน
รอยยิ้มที่เหมือนดอกไม้ของเธอทำให้เซี่ยเหล่ยชักเท้ากลับไป เขาต้องการเดินไปบอกเหตุด่วนแต่คำพูดของหนิงเหยี่ยซานทำให้เขาลังเล เขานี้แหละที่เป็นคนแก้ปัญหาที่ว่าแต่หนิงเหยี่ยซานได้อ้างว่าหนึ่งในพนักงานของบริษัทบูรพาอุตสาหกรรมและไม่ได้เปิดเผยชื่อของเขา หนิงเหยี่ยซานจำเป็นที่จำต้องทำแบบนั้นเพื่อเพื่อแสดงศักยภาพของบริษัทให้กับเฉินตู เทียนหยินเพื่อที่จะให้เธอเป็นลูกค้าของบริษัทต่อไป เฉินตู เทียนหยินยังทดสอบศักยภาพของบริษัทบูรพาอุตสาหกรรมด้วยการนำหัวข้อที่ว่าด้วยข้อจำกัดในการนำชิ้นส่วนจากยุโรปและอเมริกาขึ้นมาพูดคุยอีกด้วย....
เซี่ยเหล่ยคิดว่า ‘ เฉินตู เทียนหยินยังอยู่ที่นี่ฉะนั้นจึงยังไม่มีอันตรายตอนนี้ เราจะตามพวกเขาไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีโอกาสบอกกับเธอถึงสถานะการณ์ที่ลานจอดรถ มันจะแย่มากถ้าเราไปทำลายแผนการของลุงหนิงโดยการแสดงตัวเราออกไป ’
เมื่อคิดได้แล้วเซี่ยเหล่ยไม่ได้อยู่เฉยๆ เขาได้ส่งข้อความไปยังเจียงหยูยี่ ‘ ตอนนี้ผมอยู่ที่บริษัทบูรพาอุตสาหกรรม ผมรู้มาว่ามีคนกำลังจะวางระเบิดที่ลานจอดรถ มาที่นี่ด่วนเลย! ’
ในจังหวะนั้นเองเฉินตู เทียนหยินก็ได้พูดต่อ “บริษัทของเราได้ติดต่อบริษัทการผลิตของเยอรมันและพวกเขาได้ให้ข้อเสนอมาสองข้อ ทั้งสองข้อเป็นข้อเสนอที่ดีมาก เอาอย่างแบบนี้ไหมหัวหน้าหนิง? ทางเราจะขอหยุดการประชุมไว้ก่อนหลังจากที่ฉันกลับไปหารือเรื่องนี้กันก่อน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วทางเราจะแจ้งให้คุณทราบ ”
“ได้เลยครับ ” หนิงเหยี่ยซานได้ตอบตกลง “อย่างไรก็ตามคุณเฉินตูผมมีอะไรจะบอกอีกนิดหน่อย ทางเราไม่ได้จะโอ้อวดว่าศักยภาพของบริษัทดีมากและความสามารถมากกว่าบริษัทเยอรมัน ผมแค่อยากจะบอกว่าข้อเสนอของบริษัทเยอรมันอาจจะดีแต่ว่าค่าใช้ข่ายต้องแพงกว่าทางเราอย่างแน่นอน คุณก็รู้ว่าแรงงานของทางเยอรมันค่าจ้างแพงกว่า ถ้าคุณยอมรับข้อเสนอของฝั่งเยอรมันค่าใช่จ่ายในการซ่อมบำรุงและทดแทนมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในอนาคต ทำให้กำไรลดลงอย่างแน่นอน ผมไม่รบกวนการตัดสินใจของคุณแน่นอน ผมแค่อยากให้พิจารณาในส่วนที่หลังจากสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่นี่ด้วย ผมยืนยันเลยว่าบริษัทเราไม่เพียงให้อุปกรณ์ระดับสูงแต่บริการหลังการขายก็ดีเช่นกัน”
เฉินตู เทียนหยินมีรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า จากนั้นเธอยื่นมือออกมาเพื่อจับมือกับหนิงเหยี่ยซานและกล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับความเห็น ทางเราจะนำความเห็นเหล่านี้ไปพิจารณาด้วย สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้ถ้าทางเราได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ทางเราจะติดต่อไป ลาก่อน”
“เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ คุณเฉินตู” หนิงเหยี่ยซานกล่าวอย่างสุภาพ
เมื่อบทสนทนาสรุปได้แล้ว เฉินตู เทียนหยินและเหล่าบอดี้การ์ดหน้านิ่งหันหลังเพื่อออกจากที่นี่ เมื่อเฉินตู เทียนหยินหันหลังกลับไปเธอรับรู้ถึงเซี่ยเหล่ยที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก เธอมองเขาเพียงชั่วครู่เท่านั้นจากนั้นเธอก็เดินจากไป.....
หนิงเหยี่ยซานก็มองเห็นเซี่ยเหล่ยเช่นกันและเขาเริ่มมีความกังวลเล็กน้อย...เขากลัวความลับที่เขาโกหกเฉินตู เทียนหยินถูกเปิดโปงออกมา
เซี่ยเหล่ยรู้ทันทีว่าทำไมเขาถึงกังวล หนิงเหยี่ยซานได้โกหกเฉินตู เทียนหยินและการปรากฎตัวของเขาอาจจะทำให้ความลับถูกเปิดโปงออกมาได้
หลังจากที่เจอเซี่ยเหล่ย หนิงเหยี่ยซานไม่ได้เห็นเฉินตู เทียนหยินอยู่ในระยะสายตาแล้ว เขาจึงรีบเดินมาที่เซี่ยเหล่ยและกระซิบเบาๆว่า “มาทำอะไรที่นี่ เหล่ย”
“ผมมีบางอย่างจะบอกกับคุณเฉินตู”
ก่อนที่เซี่ยเหล่ยจะพูดอะไรต่อ..... หนิงเหยี่ยซานก็ดึงมือเซี่ยเหล่ยกลับมาแล้วพูดด้วยความกังวล “คุณจะบอกเธอว่าคุณเป็นคนแก้ปัญหาให้เหรอ? ถ้าแบบนั้นก็ไปไม่ได้!”
เซี่ยเหล่ยยิ้มเล็กน้อย “ลุงหนิง ลุงเห็นผมเป็นคนยังไง? เห็นผมเป็นคนแบบนั้นหรอ? มันไม่ใช่ที่ลุงคิดหรอก ผมไม่มีเวลาแล้ว แล้วก็มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตาย!”
หนิงเหยี่ยซานต้องการถามเพิ่มเติมแต่เซี่ยเหล่ยได้วิ่งไปแล้วเพื่อตามคณะของเฉินตู เทียนหยิน
“เห้ย?”หนิงเหยี่ยซานต้องการเรียกเซี่ยเหล่ยให้หยุดแต่เขาไม่กล้าเพิ่มเสียงของเขา เพราะเขากำลังกังวลอย่างมาก
สือจิงชิวกล่าวด้วยความซื่อสัตย์ “หัวหน้าหนิง ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ หัวหน้าดูแลเขาอย่างดี แต่เขาก็จะบอกความจริงกับคุณเฉินตู เพื่อที่จะสร้างความคุ้นเคยกับเฉินตู เทียนหยิน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับบริษัทเรา”
“คุณพูดอะไรหน่ะ? เหล่ยไม่ใช่คนแบบนั้น เขาเพิ่งจะพูดเมื่อกี้นี่เอง” หนิงเหยี่ยซานกล่าวตอบ
“คุณยังจะเชื่อเขาอีกหรอหัวหน้าหนิง? ฉันเป็นเพื่อนร่วมห้องตั้งแต่สมัยเรียน ฉันรู้เขาดีกว่าหัวหน้า เขาเป็นคนน่ารังเกียจที่มีความทะเยอทะยานสูง” สือจิงชิวกล่าวออกมา
คำพูดของเธอทำให้ หนิงเหยี่ยซานกังวลเพิ่มมากขึ้น ตาของเขาเกือบจะถลนออกมาเมื่อเห็นเซี่ยเหล่ยเข้าใกล้คณะเฉินตู เทียนหยิน สายไปแล้วที่จะหยุดเซี่ยเหล่ยตอนนี้
เซี่ยเหล่ยไปถึงเฉินตู เทียนหยินและเหล่าบอดี้การ์ดและเมื่อเขากำลังจะพูดก็ได้มีเสียงบี๊บบ่งบอกว่ามีข้อความเขามา เขาปลดล็อกหน้าจอ เป็นเจียงหยูยี่นี้เอง เนื้อหาของข้อความทำให้เขาแทบจะกัดลิ้นตัวเอง
ข้อความของเจียงหยูยี่ : ระเบิด ? ฉันจะทุบนายเละแน่ถ้านายล้อเล่นกับฉัน!
ถ้าเจียงหยูยี่อยู่ตรงหน้าเขา เขาคงเตะก้นเธอไปแล้ว!
“หยุด!” บอดี้การ์ดขวางทางไม่ให้เซี่ยเหล่ยไปได้ ดวงตาของเขาส่งสัญญานเตือนออกมาและเขาดูก้าวร้าวมาก
บอดี้การ์ดที่เหลือสามคนและเฉินตู เทียนหยินก็ได้หันหลังกลับมาและมองมายังเซี่ยเหล่ย เธอขมวดคิ้วและส่งสายตาเย็นชาออกมา
“คุณเฉินตู ผมมีบางอย่างสำคัญจะบอก ผมไม่ได้มีความประสงค์ร้ายใดๆทั้งสิ้น” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“กลับไป!” บอดี้การ์ดตะคอกใส่หน้าเขา ทำให้เขาจำเป็นต้องตะโกนออกไป
เซี่ยเหล่ยต้องการเตือนเธอเกี่ยวกับเรื่องอันตรายที่จะเกิดขึ้นแต่เขากลับโดนบอดี้การ์ดขวางทางเขาเอาไว้ เซี่ยเหล่ยรู้สึกผิดหวังกับการกระทำเหล่านั้นของบอดี้การ์ด “คุณตะคอกใส่หน้าผมทำไม? รู้เหรอว่าผมต้องการอะไร?”
“ผมเคยเห็นคนแบบคุณมาเยอะแล้ว มันจะจบไม่สวยถ้าคุณไม่รีบออกไป” บอดี้การ์ดกำลังจะลงไม้ลงมือ
“เดี๋ยวก่อน” เฉินตู เทียนหยินพูดด้วยความใจเย็น “คุณต้องการพูดอะไร?”
“รถโรลลอยด์แพนทอมด์เป็นของคุณใช่ไหม?”
เฉินตู เทียนหยินพยักหน้าเบาๆ
“ตอนที่ผมเดินผ่านไปยังที่จอดรถก่อนหน้านี้ ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินไปใกล้ๆรถคุณ เธอพกปืนกับระเบิดด้วย ผมกลัวว่าเธอจะวางระเบิดรถคุณไว้เรียบร้อยแล้วตอนนี้ ที่ผมจะพูดมีเพียงเท่านี้แหละ ที่เหลือคุณก็คิดไปเอง” เซี่ยเหล่ยกล่าวออกไป
เฉินตู เทียนหยินหรี่ตามองเซี่ยเหล่ย “คุณเป็นใคร ?”
“คุณไม่ต้องสนเรื่องนั้นหรอก ผมพูดในส่วนของผมแล้ว คุณจะทำอะไรกับข้อมูลที่ผมให้ไปก็เรื่องของคุณ” เซี่ยเหล่ยกล่าวออกไปจากนั้นสักครู่หนึ่งเขาก็พูดต่อว่า “แล้วก็สั่งสอนคนของคุณด้วยว่า ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะทำร้ายคุณ อย่างน้อยพวกเขาก็ควรจะมีมารยาทด้วย”
เซี่ยเหล่ยหันหลังกลับและเดินออกไปหลังจากที่เขากล่าวจบ......
เฉินตู เทียนหยินยืนอยู่ที่เดิมสักพักและสายตาของเธอแตกต่างจากเมื่อก่อนที่มองเซี่ยเหล่ย ตอนนี้สายตาของเธอไม่ได้มองเซี่ยเหล่ยแบบไม่สนใจเขาแล้ว
“เราจะทำยังไงดีคุณเฉินตู” บอดี้การ์ดถาม
รอยยิ้มเยือกเย็นปรากฏที่ปากของเธอ “ในที่สุดพวกเขาก็ทนไม่ไหวและกำลังดำเนินแผนการอยู่สินะ พวกนายลองไปดูซิ !”
“ครับ นายหญิง” บอดี้การ์ดมุ่งหน้าไปยังที่จอดรถที่อยู่ข้างนอกเวิร์คช็อป
พนักงานทำความสะอาดคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว พื้นที่จอดรถดูเงียบมากและไม่น่าไว้ใจ
ติดตามชมตอนต่อไป...................