ตอนที่ 201: ว่าจ้าง (2)
แนนซี่สงบลงเล็กน้อยแต่เธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจหลังจากที่ได้ฟังคำถามของแองเจเล่
"งั้นเจ้าก็ไม่ได้ล้อเล่น......เจ้าเป็นแองเจเล่ที่ข้าพบบนเรือหรือ" เธอจำวันที่แองเจเล่รักษาบาดแผลให้เธอโดยใช้วิธีที่น่าขยะแขยงแต่เธอก็พบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าชายหนุ่มที่มีระดับพรสวรรค์ต่ำจะกลายเป็นพ่อมดทางการ
เมื่อพวกเขาพบกันครั้งแรกแองเจเล่เป็นเพียงผู้ฝึกหัดขั้นหนึ่งขณะที่พ่อมดกรีนข้างหน้าเธอเป็นพ่อมดทางการที่มีสิทธิพักอาศัยของหนึ่งในองค์กรใหญ่ทั้งสาม
ความแตกต่างนั้นมันกว้างใหญ่มาก
"ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะต้องโกหกเจ้า" แองเจเล่ตอบเสียงเบา "ข้าได้ยินว่าการจ้างเจ้ามีความเสี่ยง อย่างไรก็ตามข้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในพันธมิตรแอนดีส เจ้าเป็นลูกสาวของดยุคทำไมเจ้าถึงถูกไล่ออก เกิดอะไรขึ้นที่ท่าเรือ"
ในที่สุดแนนซี่ก็เชื่อว่ากรีนเป็นแองเจเล่ ริโอ พ่อมดทางการจะไม่ใช้เวลารวบรวมข้อมูลที่ไร้ประโยชน์เกี่ยวกับผู้ฝึกหัด
เธอจ้องที่แองเจเล่และตระหนักได้ว่าเขาปลดปล่อยคลื่นพลังจิตที่แข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา แนนซี่ใช้เวลาหลายปีในการพยายามทำลายขีดจำกัดแต่หลังจากที่ตระกูลของเธอเจอปัญหาเธอก็ต้องหลบหนีจากการลอบสังหรของวิทยาลัยเขาวงกตและไม่มีเวลาก้าวหน้า
แองเจเล่ไม่ใช่ลูกชายของขุนนางในชนบทอีกต่อไป ตอนนี้เขากลายเป็นพ่อมดทางการและแนนซี่ก็ต้องแสดงความเคารพต่อเขา สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป เธอไม่เคยคิดว่าวันนี้จะมาถึง
แนนซี่รู้ว่าแองเจเล่กำลังจ้องที่เธอ เขากำลังรอคำตอบ ใบหน้าของเธอแดง เธอก้มหน้าลงและพยายามหลบสายตาของเขา เธออยากหันกลับไปและวิ่งหนีไปให้เร็วที่สุด แนนซี่คิดว่าเหตุผลที่แองเจเล่ส่งสัญญาให้เธอคือเขาต้องการเยาะเย้ยเธอ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือจบลงอย่างน่าอึดอัดใจ
เธอรู้สึกว่าแก้มของเธอกำลังแดง
แนนซี่สงบลงหลังจากผ่านไปหลายวินาที นี่เป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้รับการว่าจ้างเนื่องจากพ่อมดคนอื่นกลัวเรื่องภูมิหลังของเธอ พ่อมดส่วนใหญ่พยายามที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาและไม่มีใครอยากถูกลากเข้าสู่สงครามระหว่างองค์กร มันจะเป็นเรื่องเสียเวลามากแต่มันดูเหมือนว่าแองเจเล่จะไม่สนใจ
"พูด ข้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพันธมิตร" แองเจเล่เริ่มหมดความอดทน
แนนซี่กัดริมฝีปาก เธอยังไม่อยากเงยหน้าขึ้น
"พันธมิตรไม่เป็นไร.....มันเป็นตระกูลของข้า.....มีบางอย่างที่โชคร้ายเกิดขึ้น..." เธอตอบเสียงเบา
"เจ้าแน่ใจหรือ"
"ใช่"
"ถ้าเช่นนั้นมันก็เป็นเพียงตระกูลของเจ้า ดี ตราบเท่าที่พันธมิตรยังสงบสุข..." แองเจเล่ตระหนักว่าคำพูดที่เขาเพิ่งพูดไม่เหมาะสม ชีวิตของแนนซี่เปลี่ยนไปหลังจากที่ตระกูลของเธอสูญเสียพลังในพันธมิตรแต่สิ่งเดียวที่แองเจเล่สนใจคือตระกูลของตัวเอง
"ขอโทษ ข้าไม่ได้หมายถึงแบบนั้น.....มันเป็นเพราะข้ากังวลเรื่องของข้า..." แองเจเล่มองไปที่แนนซี่ ผู้หญิงคนนี้หยิ่งแต่เธอก็ดึงดาบเพื่อต่อสู้กับความยุติธรรม
แองเจเล่ส่ายหัว สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมันค่อนข้างโชคร้าย
"เอาล่ะ เจ้าถูกจ้าง จากนี้ไปเจ้าเป็นหนึ่งในยามของข้า นอกจากนี้ถ้าเจ้าไม่ชอบสถานที่นี้เจ้าสามารถไปได้ทุกเวลาตามที่เจ้าต้องการ มันเป็นสิทธิของเจ้า"
เขาหยุดชั่วครู่และพูดต่อ "ข้าหวังว่าเจ้าสามารถโฟกัสไปที่งานได้ มีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับหนึ่งในเพื่อนเก่าของข้า เธอขอเป็นผู้ติดตามของข้าแต่ระดับพรสวรรค์ของเธอต่ำเกินไปดังนั้นข้าจึงปฏิเสธเธอ นอกจากนี้เจ้าได้ยินอะไรเกี่ยวกับชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์ที่ชื่อจาเร็ดบ้างไหม"
แนนซี่พยักหน้า "จาเร็ดประสบความสำเร็จในการทำลายขีดจำกัดและกลายเป็นพ่อมดทางการเมื่อปีที่แล้ว ข้าเชื่อว่าเขายังเป็นสมาชิกของป่าหมอกขาว ข้าไม่ได้ติดต่อเขานานแล้ว"
แองเจเล่รู้ว่าป่าหมอกขาวเป็นองค์กรพ่อมดที่อยู่ข้างวิทยาลัยเขาวงกต
"ป่าหมอกขาว.....ข้าคงไม่ได้เยี่ยมเขาเร็วๆนี้" แองเจเล่ส่ายหัว "เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าไม่กลัววิทยาลัยเขาวงกตและข้าถึงจ้างเจ้า มันเป็นเพราะพวกเขาได้ตั้งค่าหัวของข้า"
แนนซี่ขบฟัน ใบหน้าของเธอยังแดงแต่เธอไม่มีทางเลือกอื่น
"ขอบคุณ....ตอนนี้ข้าขอตัวก่อน" เธอลดเสียงลง
"เดี๋ยวก่อน มีอีกอย่าง เกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้าและวิทยาลัยเขาวงกต เป็นคนทั้งองค์กรตามล่าเจ้าหรือ..." แองเจเล่สงสัย
"ไม่ ข้าถูกใส่ร้ายโดยหนึ่งในพ่อมดของวิทยาลัย โรงเรียนได้ไล่ข้าออกเพราะกฎ มันเป็นพ่อมดจากตระกูลของศัตรูของข้าที่ต้องการจะฆ่าข้า" แนนซี่อธิบาย
"มันดีกว่าที่ข้าคิดไว้" แองเจเล่พยักหน้า "ตอนนี้เจ้าออกไปได้แล้ว ข้าจะเรียกเจ้าหลังจากที่ทดสอบทุกคนเสร็จแล้ว"
"เข้าใจแล้ว" แนนซี่หันกลับไปและเดินออกจากอย่างรวดเร็ว
แสงสว่างภายนอกทำให้ดวงตาเธอบอดชั่วครู่ แนนซี่ยกแขนปกคลุมตาของเธอ เธอสังเกตเห็นว่าแองเจเล่จ้องไปที่ร่างกายของเธอระหว่างการสนทนาแต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
แองเจเล่ไม่ได้ซ่อนอะไร เขาเพียงจ้องไปที่ขาและหน้าอกของแนนซี่ แม้ว่าแนนซี่ไม่ได้กังวลเรื่องนี้เธอก็ยังต้องการที่จะได้รับความเคารพ
มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะบอกให้แองเจเล่หยุดขณะที่เธอเป็นเพียงผู้ฝึกหัดขั้นที่สามและรู้สึกอายตัวเองตลอดเวลา
แนนซี่รู้ว่ามันยากที่จะทำลายขีดจำกัด ผู้ฝึกหัดจากเรือของเธอที่กลายเป็นพ่อมดทางการมีเพียงจาเร็ดและแองเจเล่ คนที่เหลือเธอรู้ว่าหายตัวไป บางคนอาจจะตายไปนานแล้ว
พ่อของแนนซี่ถูกฆ่าและตระกูลของเธอถูกทำลาย
มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะกลับไปที่พันธมิตรแอนดีสและเธอก็ไม่มีใครพึ่งพาในโนล่า
'ไม่....ข้าสาบานว่าข้าจะสร้างตระกูลของข้าขึ้นมาใหม่และแก้แค้นให้พ่อแม่ของข้า'
แนนซี่กำหมัดแน่นและเดินออกไปนอกรั้ว เธอเห็นคนอื่นจ้องที่เธอและพยักหน้า เธอยืนอยู่ข้างรั้ว คนอื่นๆรู้ว่าเธอผ่านการทดสอบ
เหลืออัศวินชายสองคน ผู้ฝึกหัดชายสองคนและผู้ฝึกหัดหญิงหนึ่งคน พวกเขาเข้าไปในบ้านทีละคน
อัศวินสองคนผ่านการทดสอบแต่ผู้ฝึกหัดชายหนึ่งคนล้มเหลว
เมื่อรวมแนนซี่ก็มีคนทั้งหมดห้าคนที่ผ่านการทดสอบ
อีวานพาคนทั้งห้าเข้าไปในห้องนั่งเล่นและแสดงกระดาษสัญญา กระดาษสัญญาถูกคุ้มครองโดยองค์กรใหญ่ทั้งสามและมันจะมีผลตราบเท่าที่คนที่เซ็นสัญญาอยู่ในโนล่า แต่ละสัญญามีสำเนาสองชุดและให้แองเจเล่หนึ่งชุด
แองเจเล่มีสิทธิที่จะไล่คนที่เขาจ้างได้ตลอดเวลาตามที่เขาต้องการ
อย่างไรก็ตามทั้งห้าต้องปฏิบัติตามหน้าที่บนสัญญา ในฐานะที่เป็นพ่อมดแองเจเล่มีสิทธิมากกว่าอัศวินและผู้ฝึกหัด โลกไม่เคยยุติธรรม
อัศวินทั้งสองเซ็นสัญญาห้าปีและผู้ฝึกหัดเซ็นสัญญาสิบปีแต่แนนซี่ขอสัญญาที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับรับใช้
ถ้าแนนซี่และแองเจเล่ตกลงเซ็นในสัญญารับใช้แองเจเล่ก็จะต้องแบ่งปันทุกสิ่งทุกอย่างกับเธอ แนนซี่รู้ว่าแองเจเล่เป็นคนที่สามารถช่วยเธอจากภัยคุกคามที่เธอเผชิญได้
"สัญญารับใช้ เจ้าแน่ใจเรื่องนี้หรือไม่" แองเจเล่ยกคิ้วจ้องไปที่แนนซี่
มันดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้สงบลงแล้ว
"ใช่ ข้าได้ตัดสินใจแล้ว" แนนซี่พยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง
"สัญญารับใช้เป็นสัญญาตลอดชีพ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอย่างไรแต่ข้าไม่สามารถไว้วางใจเจ้าได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะเซ็นสัญญากับผู้หญิงที่ข้าไม่ได้พบมาหลายปี" แองเจเล่ส่ายหัว ผู้ติดตามต้องเป็นคนที่เขาไว้ใช้ เทียอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเขาแต่เขาไม่ได้ไปเยี่ยมเธอนานแล้ว
แองเจเล่บอกให้คนอื่นออกไปเหลือเพียงแนนซี่ที่ยังอยู่ในห้องนั่งเล่น เขาตัดสินใจที่จะทำให้ทุกอย่างชัดเจน
แนนซี่ดูผิดหวัง
"แต่ข้าสามารถรับเจ้าในฐานะผู้ติดตามของข้าได้แม้ว่าข้าจะต้องให้เจ้าช่วยข้าจัดการบางอย่าง เจ้ารับได้ไหม มันจะดีกว่าเป็นเพียงแค่ยาม ข้าจะเพิ่มเงินเดือนให้เจ้าด้วย" แองเจเล่คิดชั่วครู่และให้โอกาสแนนซี่ เขาต้องการใครสักคนดูแลชีวิตประจำวันของเขาดังนั้นเขาจึงสามารถโฟกัสไปกับการทำวิจัยได้
"แน่นอน มันเยี่ยมมาก" แนนซี่ยอมรับข้อเสนอทันที
แนนซี่รู้ว่าแองเจเล่เพียงแค่ระมัดระวังแต่เธอก็มั่นใจว่าแองเจเล่มีความสนใจในความสามารถและทักษะของเธอ พ่อมดบางคนถูกดึงดูดด้วยร่างกายของเธอแต่พวกเขายังถอยไปหลังจากที่อ่านข้อมูลของเธอ ทักษะของแนนซี่จะไม่ถูกนำมาใช้ถ้าเธอได้รับการว่าจ้างจากพ่อมดเช่นนั้น
หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของเธอได้แลกความบริสุทธิ์ของเธอกับตำแหน่งในห้องทดลองของพ่อมด อย่างไรก็ตามพ่อมดได้สูญเสียความสนใจในตัวเธออย่างรวดเร็วและส่งเธอไปหาพ่อมดคนอื่น เธอพยายามหลบหนีแต่เจ้าของใหม่ของเธอก็ฆ่าเธอด้วยสัตว์เลี้ยงแวมไพร์ของเขา พ่อมดบอกกับประชาชนว่าเธอเสียสละตัวเองเพื่อการทดลองที่สำคัญ
นี่เป็นด้านมืดของโลกนี้ คนที่ปราศจากพลังเป็นไปไม่ได้ที่จะมีข้อต่อรองในการแข่งขันเพื่ออยู่รอดของโลกนี้ได้
นอกโนล่าไม่มีใครสงสัยว่าทำไมพ่อมดทางการถึงฆ่าอัศวินหรือผู้ฝึกหัดที่อ่อนแอ ชีวิตของพวกเขาไม่สำคัญกับองค์กรของพวกเขา เฉพาะคนที่มีพรสวรรค์เท่านั้นที่มีความสำคัญ
ในโลกเช่นนี้สิทธิจะได้รับมาโดยผู้ที่แข็งแกร่งและทรงพลัง
สังคมพ่อมดนั้นโหดร้าย ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่อ่อนแอคือการอยู่นอกสายตาหรือกลับไปโลกของปุถุชนและหางานปกติ
สิ่งที่แนนซี่ต้องการในตอนนี้คือการหาพ่อมดที่แข็งแกร่งเพื่อรับใช้ หากไม่มีองค์กรพ่อมดมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะออกจากโนล่าแต่การอาศัยอยู่ในโนล่าโดยไม่มีงานนั้นยาก
แองเจเล่พูดกับเธอ พวกเขามาจากเมืองเดียวกันดังนั้นแนนซี่จึงรู้สึกถึงร่องรอยของความอบอุ่นจากเขา นอกจากนี้แนนซี่ยังเป็นนักเรียนของศาสตราจารย์อดอล์ฟและแองเจเล่อาจปฏิบัติต่อเธออย่างดีสำหรับเรื่องนั้น
แนนซี่ตัดสินใจที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่แองเจเล่ต้องการจากเธอรวมถึงร่างกายของเธอ มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากแต่เธอเดาว่าเธอคงไม่พบคนที่ดีกว่านี้
"ที่จริงแล้วข้าไม่เชื่อใจเจ้า ข้าสามารถรับเจ้าในฐานะคนรับใช้ของข้าแต่ข้าต้องการทิ้งรูนไว้บนหน้าผากของเจ้า เจ้าว่ายังไง" แองเจเล่พูดอย่างใจเย็น
"สัญลักษณ์แห่งการเชื่อฟังหรือ ไม่ใช่ปัญหา" แนนซี่ลังเลชั่วครู่และพยักหน้า
"ดี ตอนนี้เจ้าสามารถบอกคนอื่นได้ว่าเจ้าเป็นคนของข้า" เขายิ้มและแตะไปที่หน้าผากของแนนซี่ด้วยนิ้วของเขา
ชี่
มีรูนงูสีดำที่กำลังเลื้อยปรากฏระหว่างคิ้วของแนนซี่ สัญลักษณ์แห่งการเชื่อฟังมักถูกวางไว้บนหน้าผากของคน สัญลักษณ์จะแสดงว่าเป็นคนรับใช้ของพ่อมดบางคน ตอนนี้แนนซี่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในสิทธิของแองเจเล่
แองเจเล่วางรูนพิเศษที่มีเพียงพ่อมดมืดที่รู้ มันเป็นฟังก์ชันพิเศษที่จะช่วยเชื่อมต่อเขากับคนรับใช้
ที่สำคัญที่สุดคือรูนสามารถช่วยเขาหาตำแหน่งของคนรับใช้โดยใช้อนุสาวรีย์ รูนสามารถวางไว้บนสิ่งมีชีวิตและคลื่นพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาสามารถติดตามได้อย่างง่ายดาย
รูนมีข้อจำกัดสองข้อ ข้อแรกมันไม่สามารถบังคับใช้ได้ ข้อสองคนที่ใช้รูนจะต้องมีระดับพลังจิตสูงกว่าคนที่ยอมรับรูน
แองเจเล่ได้ทำการปรับเปลี่ยนรูนเล็กน้อย เขาได้พบวิธีการบางอย่างในห้องสมุดของแรมโซด้า คลื่นพลังงานที่รูนปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องสามารถส่งเสียงรอบๆแนนซี่ไปหาเขาได้
ถ้าแองเจเล่ต้องการเขาก็สามารถตรวจสอบสถานการณ์รอบๆแนนซี่ได้ทุกเวลา
แองเจเล่เป็นพ่อมดทางการและยังเป็นพ่อมดมืด เขาไม่สามารถไว้วางใจผู้หญิงแบบแนนซี่ได้ มีเพียงสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาคือพลัง