เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 99 ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นพระเจ้า (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 99 ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นพระเจ้า
แปลโดย iPAT
“ครืน...”
คลื่นน้ำสีทองแดงม้วนตัวเป็นเกลียวพุ่งเข้าปะทะกำแพงแสงสีขาว
เหนือทะเลวิญญาณระดับสอง จั๊กจั่นไม้แห่งกาลเวลาปรากฏตัวขึ้น
หลังจากพักฟื้นเป็นเวลาหนึ่งปี ตอนนี้มันเริ่มแข็งแรงขึ้นเล็กน้อย
ร่างไม้ที่เคยเหี่ยวแห้งเริ่มปรากฏความมันวาว
ปีกที่เคยชำรุดเสียหายถูกกู้คืนและไม่หลงเหลือบาดแผลใดๆให้เห็นอีก
‘วิญญาณกาลเวลาต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว หลังจากกำเนิดใหม่ มันผ่านมาแล้วหนึ่งปี ตอนนี้มันแข็งแรงขึ้นบ้างแล้ว’
ฟางหยวนเพ่งจิตมองไปยังวิญญาณกาลเวลาและสามารถทำความเข้าใจมันมากขึ้น
ผู้ใช้วิญญาณต้องปรับแต่ง เลี้ยงดู และใช้วิญญาณ ฟางหยวนเชื่อมต่อกับวิญญาณกาลเวลาตลอดเวลา มันทำให้ความเข้าใจของเขาที่มีต่อมันลึกซึ้งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
‘แต่วิญญาณกาลเวลายังอ่อนแอ มันพึ่งถอยห่างออกจากประตูนรกมาเพียงไม่กี่ก้าว อย่างไรก็ตามข้ายังสามารถใช้กลิ่นอายของมันสะกดข่มวิญญาณดวงอื่นเพื่อปรับแต่งหรือกระทั่งการหลอมรวมวิญญาณ’
ในโลกใบนี้มีวิญญาณที่สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอยู่เช่นกัน
นอกจากวิญญาณกาลเวลา วิญญาณสุรากำลังเล่นน้ำอยู่อย่างสะดวกสบาย
วิญญาณหมูขาวและวิญญาณกายาหยกเขียวหมุนวนรอบกัน
ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นและค่อยๆกางฝ่ามือออก วิญญาณแสงจันทร์และวิญญาณแสงดาวสองดวงอาศัยอยู่บนฝ่ามือของเขา
ฟางหยวนมองถุงเงินสามใบและเขี้ยวสีขาวของราชาหมูป่าที่ใหญ่โตราวกับงาช้าง
กลุ่มของเจียวซานสังหารราชาหมูป่า ฟางหยวนในฐานะสมาชิกกลุ่มจึงได้รับเขี้ยวของราชาหมูป่าหนึ่งชิ้นตามกฎของตระกูล
เห็นถุงเงินสามใบวางอยู่ตรงหน้า การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ‘ข้ามีหินวิญญาณเหลืออยู่ไม่มาก มันเพียงพอสำหรับการหลอมรวมวิญญาณครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว สถานะทางการเงินของข้าจะมีปัญหา แต่กระทั่งข้าจะไม่หลอมรวมวิญญาณ ข้าก็ยังสามารถใช้จ่ายได้อีกเพียงสิบสองวัน ดังนั้นข้าไม่ควรทิ้งโอกาสในการหลอมรวม’
ฟางหยวนต้องเลี้ยงดูวิญญาณถึงเจ็ดดวง นี่ถือเป็นภาระหนักสำหรับเขา ด้วยพรสวรรค์นภาที่สาม เขายังต้องพึ่งพาวิญญาณสุราช่วยควบแน่นพลังวิญญาณต่อไปแม้มันจะมีประโยชน์น้อยลงก็ตาม ทั้งหมดทำให้เขาต้องใช้หินวิญญาณมากกว่าผู้ใช้วิญญาณทั่วไป
หลายวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้ใช้หินวิญญาณในการกู้คืนพลังวิญญาณแต่ปล่อยให้มันฟื้นฟูขึ้นด้วยตัวของมันเอง
เขาต้องประหยัดหินวิญญาณและต้องคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ
หากกล่าวถึงสถานะทางการเงินของเขา มันเหมือนกับเขากำลังจะตกจากหน้าผาและสามารถคว้าใบหญ้าเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตนเองเป็นการชั่วคราว
หากเขายังอยู่ในสภาพนี้ต่อไปและไม่พยายามหาทางอื่น อีกไม่นานเขาต้องตกลงจากหน้าผาอย่างแน่นอน
สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือเสี่ยงชีวิตปีนขึ้นไปด้วยกำลังทั้งหมดที่มี
หากเขาประสบความสำเร็จ เขาจะได้รับมรดกของครอบครัวและสามารถก้าวขึ้นไปได้อีกขั้นหนึ่ง
หากล้มเหลว เขาต้องใช้ความพยายามและเวลาอีกมากกว่าที่เขาจะสามารถปีนขึ้นมาจากก้นเหว
‘ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ข้าก็ต้องลองดู’ ฟางหยวนสูดหายใจลึกก่อนจะเริ่มเพ่งจิตไปยังวิญญาณหมูขาวและวิญญาณกายาหยกเขียว
วิญญาณทั้งสองดวงลอยออกมาอยู่ด้านหน้าฟางหยวน
‘หลอมรวม!’ ฟางหยวนตะโกนอยู่ในใจ จากนั้นวิญญาณทั้งสองดวงก็พุ่งเข้ารวมตัวกัน
แสงสีขาวส่องประกายขึ้น
ฟางหยวนรีบโยนหินวิญญาณเข้าไปในดวงแสงอย่างต่อเนื่องและทำให้ดวงแสงส่องประกายสว่างไสวมากขึ้น
มันค่อยๆใหญ่โตขึ้นเท่ากับอ่างล้างหน้า
‘เกือบแล้ว’ ฟางหยวนหรี่ตามองก่อนจะโยนเขี้ยวของราชาหมูป่าเข้าไปในดวงแสง
หากผู้ใดเห็นฉากนี้พวกเขาจะต้องประหลาดใจ วิธีการหลอมรวมวิญญาณหมูขาวกับวิญญาณกายาหยกเขียวเป็นที่รู้จักแพร่หลายมานานนับพันปี แต่ไม่มีผู้ใดเคยได้ยินว่ามันต้องใช้เขี้ยวหมูป่า
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในอดีตไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้นในอนาคต
หนึ่งร้อยห้าสิบปีหลังจากนี้ ผู้ใช้วิญญาณบางคนค้นพบว่าการใช้เขี้ยวหมูป่าจะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณชนิดนี้
ฟางหยวนมีประสบการณ์ห้าร้อยปีในอนาคต เป็นธรรมดาที่เขารู้จักเคล็ดลับนี้
เมื่อเขี้ยวของราชาหมูป่าถูกโยนเข้าไป ดวงแสงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
แสงสีขาวที่ทิ่มแทงออกไปทุกทิศทุกทางกลายเป็นอ่อนโยนและหดเล็กลง
ภายใต้การจ้องมองของฟางหยวน วิญญาณชนิดใหม่เริ่มก่อรูปร่างขึ้นอย่างเงียบๆ
มันเป็นผลึกหินรูปไข่สีขาวและมีความมันวาวเช่นหยก
นี่คือวิญญาณกายาหยกขาวระดับสอง!
เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยวนสามารถถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
บางคนอาจคิดว่ากระบวนการนี้ค่อนข้างเรียบง่าย แต่ในความจริงมันไม่ใช่
ประการแรก การหลอมรวมวิญญาณมีหลายขั้นตอน
พวกเขาต้องเพ่งจิตไปยังวิญญาณสองดวงในเวลาเดียวกัน หลายคนไม่สามารถแม้แต่จะผ่านขั้นตอนนี้
เพียงการแบ่งจิตเป็นสองทาง คนผู้หนึ่งอาจต้องฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่นานหลายปี มันยังต้องพึ่งพาพรสวรรค์อีกด้วย
ฟางหยวนสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วเนื่องมาจากประสบการณ์ห้าร้อยปีของเขา
ประการที่สอง พวกเขาต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับวิญญาณที่ต้องการหลอมรวม
ยิ่งมีความเข้าใจลึกซึ้งเท่าใด โอกาสประสบความสำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น
อีกสามร้อยปีข้างหน้าประเด็นนี้จะถูกยอมรับในวงกว้าง
ประการที่สาม พวกเขาต้องอาศัยเคล็ดลับพิเศษ
ตัวอย่างเช่นการเพิ่มเขี้ยวหมูป่าเข้าไปจะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จอีกยี่สิบส่วน
เคล็ดลับหลายอย่างแพร่หลายออกไปทั่วโลก แต่เคล็ดลับบางอย่างก็ถูกเก็บไว้เป็นสมบัติล้ำค่าส่วนบุคคล
เช่นเดียวกับหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล พวกเขาจะส่งต่อเคล็ดลับต่างๆให้กับทายาทของพวกเขาเท่านั้น
โดยเฉพาะเคล็บลับการหลอมรวมวิญญาณระดับห้า พวกเขาจะหวงแหนมันยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง
แต่กระทั่งคนผู้หนึ่งจะสามารถคว้ากุมมาได้ทั้งสามประการ มันก็ยังไม่สามารถรับประกันความสำเร็จ แม้ฟางหยวนจะครอบครองประสบการณ์ห้าร้อยปีและล่วงรู้เคล็ดลับมากมาย เขาก็ยังไม่ใช่ข้อยกเว้น
มันเป็นเพียงว่าโอกาสล้มเหลวของเขาต่ำกว่าคนทั่วไป
การหลอมรวมวิญญาณคือการวิวัฒนาการ มันคือการบีบอัดช่วงเวลาอันยาวนานของการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
บนโลกมนุษย์ มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำสิ่งนี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือปาฏิหาริย์แห่งชีวิต มันคือการแทรกแซงหน้าที่ของพระเจ้า แล้วมันจะประสบความสำเร็จทุกครั้งได้อย่างไร?
หากมันสำเร็จทุกครั้ง นั่นย่อมไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นพระเจ้า!