บทที่ 34 สามีของเธอ !
บทที่ 34 สามีของเธอ !
ของประดับตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ต่างของที่พักแห่งนี้เป็นของที่มีคุณภาพสูง เป็นไปอย่างคาดไว้ว่าสถานที่แห่งนี้มีเอาไว้สำหรับสร้างความบันเทิงให้กับแขกผู้มีเกียรติ ความหรูหราอย่างเห็นได้ชัดในห้องนี้ สิ่งที่ทำให้เซี่ยเหล่ยชอบมากที่สุดไม่ไช่บ่อน้ำร้อนอันหรูหราที่อยู่ในห้อง แต่เป็นมุมห้องที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือหลายร้อยเล่มและหลากหลายประเภท
‘ ถ้าได้พักที่นี่ละก็คงจะดีไม่ใช่น้อย เราจะสามารถอ่านหนังสือทั้งหมดเมื่อเรายังไม่ได้เริ่มงานและซึมซับความรู้ต่างๆให้มากขึ้นไปอีก ’ เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ในใจ
“นายชอบที่นี่ไหม” สือจิงชิวพิงประตูห้องหนังสือด้วยความขี้เกียจแต่ก็ยังมีความสง่างามอยู่ในท่าทางเหล่านั้น ขาคู่เรียวงามที่ยื่นออกมาจากกระโปรงสำนักงานที่สั้นและบวกกับถุงน่องมันเงาที่ปกปิดขาคู่นั้น มันทำให้เป็นภาพที่น่าหลงใหลอย่างมาก
เซี่ยเหล่ยมองออกไป “มันก็ไม่เลวเลย ผมชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว ถ้ามีหนังสือมากขนาดนี้ มันจะทำให้ผมอยู่กับมันเป็นเวลานานเลยล่ะ”
“ดูเหมือนว่าคุณจะชอบอ่านหนังสือมากๆเลยนะ” สือจิงชิวได้กล่าวออกมา “ว่าแต่ ฉันสงสัยว่า นายทำยังไงถึงมีฝีมือที่น่าประทับใจแบบนี้ภายในไม่กี่ปี พวกเรายังไม่เคยเจอหน้ากันเลย? ฝีมือของนายมันดีกว่าวิศวกรระดับสูงที่อยู่ที่นี่อีก แม้แต่พ่อตาของฉันยังประทับใจมากๆ”
คงจะเป็นเพราะวิศวกรหลิวพ่อตาของเธอ เซี่ยเหล่ยเกิดความสงสัยในการเข้ามาทำงานของเธอที่นี่ เธอคงพูดถึงวิศวกรหลิวมาเป็นข้ออ้างในการเข้ารับทำงานจากนั้นวิศวกรหลิวต้องรับผิดชอบการกระทำของเธอ “จิงชิว ผมรู้ว่าเธอไปบอกให้ใครบางคนลดความแม่นยำของการกลึงลง ผมอยากรู้ว่าเธอทำไปทำไม ?”
“ไม่มีอะไรหรอก” ใบหน้าของสือจิงชิวยังไม่มีอะไรบอกได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ “ฉันก็แค่ต้องการรู้ว่าถ้าเด็กผู้ชายที่เคยไล่ตามฉันแต่ก่อนตอนนี้เป็นเป็นผู้ชายที่เก่งกาจและสูงส่งไปแล้ว ฉันแค่เพิ่มความท้าทายทีละนิด สำหรับคุณและในตอนสุดท้ายนายก็ได้เสียงปรบมือของทุกคน ดังนั้นนายควรจะขอบคุณฉันนะ !”
“เธอยังหัวรั้นเหมือนเดิมเลยนะ” เซี่ยเหล่ยกล่าวออกมา “ลืมๆเรื่องนี้ไปเถอะ ผมตัดสินใจไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว กรุณาออกไปด้วย ผมจะไปยังเวิร์คช็อปหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ผมจะโทรหาเธอถ้าผมต้องการอะไร”
“นายคิดอะไรฉันไหม ?” สายตาของสือจิงชิวกำลังหยอกล้อ เธอเดินจากขอบประตูและยืนอยู่แนวทแยงกับเซี่ยเหล่ย จึงทำให้รูปร่างที่ผอมบาง รูปทรงที่เป็นตัว Sของร่ายกายเธอได้ปรากฎยังสายตาของเซี่ยเหล่ยในมุมที่ดีที่สุด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยและมีความสามารถในการยั่วผู้ชายแต่ที่เธอไม่รู้คือความสามารถในการยั่วของเธอใช้การกับเซี่ยเหล่ยไม่ได้ผล เพราะว่าเซี่ยเหล่ยสามารถมองเห็นความลับของเธอด้วยตาของเขาได้ เขาสามารบอกได้อย่างชัดเจนว่าเธอมีไฝกี่จุดบนร่างกายของเธอ ไม่ต้องพูดถึงส่วนอื่นเลย การยั่วยวนแบบนั้นจะไปมีผลกับเขาได้ยังไง ในเมื่อเขาสามารถเห็นได้ทุกอย่างบนร่างของเธอ
เซี่ยเหล่ยมีความสุขกับสิ่งที่อยู่หน้าเขาชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวอย่างเบาๆว่า “เธอไปได้แล้ว ผมต้องการอยู่คนเดียวสักพัก”
คำพูดของเซี่ยเหล่ยเปรียบเสมือนการราดน้ำเย็นๆใส่หัวสือจิงชิว เธอถูกทำให้ขายหน้าและโกรธ “ฉันออกไปเดี๋ยวนี้แหละ แล้วก็อย่าเสียดายทีหลังล่ะ!”
เซี่ยเหล่ยไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่เขาความคิดที่ว่า ‘ แบบเธอเหรอ? เราจะไม่เสียใจภายหลังอย่างแน่นอน !’
สือจิงชิวหันหลังและออกไปพร้อมกับอารมณ์โกรธ
เซี่ยเหล่ยยังคงพักอยู่ในห้องนี้และอ่านหนังสือสักหน่อยก่อนจะไปที่ระเบียง เขาต้องการที่จะซึมซับบรรยากาศของทะเลแต่สิ่งแรกที่เขาเห็นคือหลู่ฉ่วยกำลังเดินมา
‘ เขามาทำอะไรที่นี่? ’ เซี่ยเหล่ยคิดอย่างสงสัย
“คุณเซี่ยเห็นจิงชิวแถวนี้บ้างไหม?” หลู่ฉ่วยเข้ามายังลานด้านหน้าและมองไปยังเซี่ยเหล่ย
“เธอออกไปซักพักแล้ว นายมาช้าไปแปปเดียว ผมก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ไหน คุณลองโทรไปหารึยัง?” เซี่ยเหล่ยกล่าวออกไป
หลู่ฉ่วยขมวดคิ้ว “ผมโทรหาเธอไม่ติดเลย ลืมเรื่องนั้นไปก่อน ผมจะมาบอกว่าพ่อผมและคนอื่นๆได้เตรียมวัสดุสำหรับทำงานต่อไปเสร็จแล้ว เครื่องมือและอุปกรณ์ได้เตรียมพร้อมเสร็จแล้วเช่นกัน คุณจะสามารถเริ่มทำงานได้ทุกเมื่อ”
“โอเค ผมจะไปหลังจากที่ผมเปลี่ยนเสื้อเสร็จ” เซี่ยเหล่ยเดินจากระเบียงไปยังห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับทำงานที่สือจิงชิวได้เตรียมไว้ให้
หลู่ฉ่วยไม่ได้ออกไปไหน แต่เขากำลังวนเวียนอยู่บริเวณรอบๆที่พักของเซี่ยเหล่ย จากนั้นเขาติดสินใจเข้ามายังที่พักของเซี่ยเหล่ย.....
‘ ทำงานให้เสร็จในวันนั้นก็จะได้หนึ่งล้านในหนึ่งวัน ! เราสามารถทำอะไรได้หลายอย่างกับหนึ่งล้านนี้เลยน่ะ’ เซี่ยเหล่ยรีบเดินอย่างรวดเร็วไปยังห้องนอน ตอนนี้ในหัวของเขาเต็มไปด้วยแผนต่างๆและรอยยิ้มที่ตื่นเต้นกับจำนวนเงินที่จะได้ เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป รอบยิ้มของเขาก็ต้องหายไปเมื่อเขาเห็นอะไรบางอย่าง !
สือจิงชิวไม่ได้ออกจากที่พักของเขา เธอซ่อนอยู่ในห้องนอนของเขา เธอนอนอยู่บนเตียงของเขาพร้อมชุดทำงานของเขา เธอใช้กลยุทธ์นำชุดทำงานของเขามาคลุมร่างเธอเพื่อปกปิดส่วนสำคัญบนร่างของเธอเท่านั้น จุดซ่อนเร้นของเธอถูกคลุมลวกๆด้วยชุดทำงานของเขา ด้วยเหตุนั้นจึงไม่รู้เธอจงใจคลุมมิดหรือไม่มิด ส่วนชุดทำงานออฟฟิศของเธอกองไว้อยู่บนพื้นพร้อมกับถุงน่องและชั้นในลายลูกไม้ ดูเหมือนว่าเสื้อผ้าของเธอถูกขว้างมาหล่นอยู่บนพื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่อมองครั้งแรก แต่ถ้ามองดีๆ จะรู้ได้ว่ามันถูกจัดไว้อย่างดีเพื่อให้รู้ว่าถ้าของชิ้นนั้นๆเธอใส่แล้วจะมีภาพเป็นแบบไหนตามที่จินตนาการไว้
“เธอกำลังทำอะไรสือจิงชิว?” ถ้าเป็น 5 ปีที่แล้วเซี่ยเหล่ยคงจะรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกที่เห็นเธอนอนบนเตียงแบบนั้น แต่น่าเสียดายในตอนนี้เขาเริ่มจะรังเกียจเธอแล้ว.....
สือจิงชิวยกแขนที่ขาวเนียนของเธอและทำท่าทางเย้ายวนเซี่ยเหล่ย จากนั้นเธอพูดด้วยน้ำเสียงหวานๆ “เหล่ย ฉันรู้ว่านายยังชอบฉันอยู่ เมื่อฉันเจอคุณตอนแรก ฉันรู้ได้จากสายตาที่คุณมองฉัน คุณอยากได้ฉันเป็นแฟนมาตั้งนานแล้วหนิ ? ตอนนี้ฉันเป็นของนายและนายสามารถทำอะไรก็ได้อย่างที่นายต้องการ !”
“เธอแต่งงานแล้วนะ ทำไมเธอยังทำแบบนี้ ?”
“หลู่ฉ่วยน่ะเหรอ?” น้ำเสียงของสือจิงชิวเต็มไปด้วยความรังเกียจ “นายคิดว่าฉันรักเขาหรอ? การแต่งงานของเราก็เป็นเหมือนโศกนาฏกรรมและฉันใช้ชีวิตทุกๆวันอย่างไม่มีความสุข มีแต่คุณเท่านั้นที่จะช่วยฉันให้มีความสุขได้ คุณสามารถทนดูฉันไม่มีความสุขแบบนี้ได้หรอ?”
“สามีของเธอดูธรรมดาก็จริงแต่เขาก็ดูแลเธอดี ผมบอกได้เลยว่าพื้นหลังครอบครัวของเขาก็ดีเหมือนกัน เธอควรจะพอใจแล้ว”
“แต่ก่อนฉันเคยพอใจก่อนที่จะได้เจอคุณอีกครั้ง อย่างที่มันควรจะเป็น แต่ว่าหลังจากที่คุณโผล่มาวันนี้ ฉันค้นพบว่าลึกๆแล้วฉันยังรักคุณอยู่ ฉันไม่สามารถเสียคุณไปอีกครั้ง คุณเป็นของฉัน คุณเป็นของฉันตลอดชีวิต ” สือจิงชิวพูดด้วยน้ำเสียงเย้ายวน
เซี่ยเหล่ยส่ายหน้าหัวของเขา “อย่ามาจริงจังเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับวัยเรียนของเรา อดีตมันก็คืออดีต เลิกขุดคุ้ยอดีตสักที ! แล้วก็สามีเธอมาหาเธอที่นี่เมื่อกี้ หยุดทำตัวโง่ๆแล้วกลับบ้านไปซะ”
“นายโกหก ไอ้โง่นั้นเชื่อทุกอย่างที่ฉันพูด เขาไม่มาที่นี่หรอก” สือจิงชิวโยนชุดทำงานไปข้างๆเตียงและลุกออกจากเตียง เดินไปยังเซี่ยเหล่ย “ฉันไม่เชื่อที่นายบอกว่าไม่รักฉันและฉันไม่เชื่อว่านายไม่ต้องการฉัน ผู้ชายมันก็เหมือนๆกันหมดแหละ อะไรที่อยู่ในใจผู้ชายมันไม่เคยแสดงออกให้โลกรู้หรอกและสิ่งที่พวกเขาทำมักจะมีเหตุผลอย่างอื่นแอบแฝงเสมอ นายพูดได้ไหมว่านายไม่ได้ถูกยั่วแม้แต่น้อย? นายต้องการมันไม่ใช่หรอ?”
เซี่ยเหล่ยถอยหลังออกจากประตู “หยุด! ผมไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น”
“เลิกแสแสร้งได้แล้ว สือจิงชิวถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้เสมอ ?” สือจิงชิวเดินออกไปที่ประตูด้วยขาเรียวยาวที่สวยเหมือนหยกของเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่ยั่วยวน “ฉันอาจจะไม่รู้จักผู้ชายแบบคุณแต่ฉันสามารถทำให้คุณเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดได้”
เซี่ยเหล่ยถอยหลังจนไปชนกับบันไดและเขาไม่สามารถขยับไปไหนได้ เซี่ยเหล่ยจึงยกมือขึ้นทั้งสองข้างขึ้นมา “สามีเธออยู่ที่นี่จริงๆ หยุดเถอะ”
“อย่าพูดถึงไอ้หมูอ้วนตัวนั้น มันทำให้ฉันดูน่ารังเกียจ ตอนนี้มีแค่นายกับฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างของฉันคือคุณ….” สือจิงชิวเดินเข้าใกล้เซี่ยเหล่ยแต่ว่าคำพูดของเธอก็หยุดกะทันหัน
ผู้ชายรูปร่างอ้วน วัยกลางคนได้ยืนตรงทางขึ้นบันได ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นสามีของเธอ หลู่ฉ่วยนั่นเอง
ทันใดนั้นบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความเงียบและความรู้สึกแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในทันที
ชายหนุ่มที่ถูกบังคับให้ไปยังที่ระเบียง สาวงามที่เปลือยกาย และ ชายที่ปกคลุมไปด้วยไขมันที่กำลังตกใจ ทั้งสามเสมือนตัวละครที่ถูกจิตกรวาดไว้บนผืนผ้าใบ.....
“สา... สามี ฉัน....” สือจิงชิวไม่สามารถพูดได้เต็มประโยคได้
หลู่ฉ่วยไม่ได้กล่าวอะไรทั้งสิ้น ดวงตาที่กลมโตของเขาได้จ้องมองเขม็งและดุเดือด เขาไม่ได้ดูเหมือนสามีที่หมดอาลัยตายอยากแต่มันดูเหมือนหมูป่าที่กำลังจะคลั่ง
เซี่ยเหล่ยยักไหล่ “ผมบอกเธอแล้วว่าสามีเธออยู่ที่แต่เธอไม่เชื่อ” แล้วเขาก็ได้เดินตามก้นเปลือยปล่าวของสือจิงชิวไปและเข้าไปยังห้องนอนที่สือจิงชิวโยนชุดทำงานของเขาทิ้งไป เขาเดินไปหยิบมันขึ้นมาและลงบันไดไปข้างล่าง
สือจิงชิวและเซี่ยเหล่ย สบตากันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกัน....
แต่เมื่อเซี่ยเหล่ยกำลังจะเดินผ่านหลู่ฉ่วย เขาได้ยกมือขึ้นมาขวางทางทันที “มึง....ไปไม่ได้ !”
เซี่ยเหล่ยมองหน้า “คุณจะทำยังไงต่อ ? ผมไม่ได้ถอดเสื้อผ้าของเธอ แม้แต่ปลายนิ้วก้อยก็ยังไม่ได้สัมผัส ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติมละก็นายควรจะถามภรรยานายแล้วก็อย่ามาถามผม”
“มึง....” หลู่ฉ่วยกำหมัดขึ้นมา
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างใจเย็น “ผมมีคำแนะนำให้ถ้าคุณอยากสู้กับผม คุณควรไปหาคนช่วยเพิ่มอีกสองคน คุณจะต้องเสียใจถ้านายเข้ามาแค่คนเดียว...”
“มึง...” หลู่ฉ่วยลดหมัดลง....
“ผมกำลังจะไปเวิร์คช็อป แล้วพวกเราจะต้องร่วมงานกันอีกอย่าใช้ความรุนแรงกันเลย เราหันมาคุยกันดีกว่า” เซี่ยเหล่ยเดินออกไปพร้อมกับคำพูดที่ใจเย็น
สือจิงชิวกรี๊ดร้องอกมาทันที “เซี่ยเหล่ย ไอ้เหี้ย!”
เซี่ยเหล่ยไม่ได้มองไปข้างหลัง เขาโชว์นิ้วกลางผ่านช่องไหล่ไปให้เธอ.....
สือจิงชิวล้มลงบนพื้นเหมือนคนเป็นอัมพาต มันเหมือนกับเธอได้สูญเสียกำลังทั้งหมด ทุกๆอย่างที่อยู่บนตัวเธอได้ถูกเห็นหมดแล้วแต่เธอก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น
ผู้หญิงแบบเธอไม่เคยรักใครจริง เธอเคยทอดทิ้งเซี่ยเหล่ยเมื่อตอนที่เขายังเด็ก ความต้องการที่จะชนะในทุกๆอย่างต่างหากที่เป็นส่วนที่ผิดของเธอ ยิ่งเซี่ยเหล่ยไม่สนใจเธอมากเท่าไหร่ เธอก็จะที่จะอยากให้เซี่ยเหล่ยยอมสยบแก่เธอให้ได้!
หลู่ฉ่วยมองไปที่สือจิงชิวและมองไปยังร่างกายของเธอทำให้คอของเขาแห้ง เขาเงียบสักพักและกล่าวว่า “มะ- มันไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม?”
“มันทำ มันสัมผัสทุกอย่างที่สัมผัสได้” สือจิงชิวพูดด้วยความเย้ยหยัน “สัมผัสทุกอย่าง....แม้แต่จุดที่นายไม่เคยสัมผัส”
“เธอ ” ความโกรธของหลู่ฉ่วยกำลังเพิ่มขึ้น
สือจิงชิวเงยหน้าขึ้นและจ้องมองเขา “งั้นก็ตบฉันสิ”
หลู่ฉ่วยส่ายหัวของเขา
สือจิงชิวพูดอีกครัง “ด่าฉันสิ”
หลู่ฉ่วยส่ายหัวของเขาอีกครั้ง
สือจิงชิวตะโกนใส่หน้าของหลู่ฉ่วย “นายยังเป็นผู้ชายอีกหรอ? ทำไมสือจิงชิวคนนี้ถึงแต่งงานกับคนอย่างแกด้วยนะ!”
หลู่ฉ่วยเงียบอีกครั้ง ไม่มีคำพูดใดๆออกมา
เซี่ยเหล่ยคิดว่า ‘ หลู่ฉ่วยอาจจะไม่หล่อและแก่ไปหน่อยแต่เขายังเป็นคนดี เธอน่าจะพอใจนะ แต่ผู้หญิงอย่างเธอเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่มีความสุขแม้ว่าเธอจะแต่งงานคนที่มีเงินทองก็ตาม ลองคิดดูสิว่าหลู่ฉ่วยน่าสงสาร เราสงสัยนะว่าเขาโดนสวมเขาแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว’
เซี่ยเหล่ยเดินไปจากที่พักและกำลังคิดเกี่ยวกับผู้หญิงที่เขาเคยรัก ในขณะที่เขากำลังเดินไปข้างหน้าแต่เธอถอยหลังตลอดเวลา เขาไม่อยากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว เขาก็เดินมุ่งหน้าไปยังเวิร์คช็อป เป็นที่ๆความสามารถของเขาสามารถได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
ขอบคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนแอดนะ แอดจะแปลกให้ดีที่สุดค้าบบบบบ