ตอนที่แล้วตอนที่ 67 สกิล[การดื่ม]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 69 การเผชิญหน้า

ตอนที่ 68 เผชิญหน้ากับหญิงสาวผู้รำคาญฝูงชนและไม่สนใจความรัก


ผู้แปล BusTsu

“การดื่มก็ถือเป็นสกิลด้วยหรือ...?”

เมื่อเห็นการแจ้งเตือนนี้ ฉินฟางถึงกับไร้คำพูด และรู้สึกมีความสุขในเวลาเดียวกัน

เขามีชื่อเสียงในการเป็นขี้เมาแก้วเดียว แต่หลังจากผ่านเบียร์แก้วนี้ไป เขากลับไม่รู้สึกอะไร หากไม่ใช่เพราะรับรู้รสชาติของแอลกอฮอล์ที่ชัดเจน เขาคงคิดว่ากำลังดื่มน้ำเปล่าเสียแล้ว

<ฉายา: [มือใหม่ผู้เพิ่งเข้าสู่โลกแห่งการดื่ม] เป็นฉายาระดับต่ำที่สุดของอาชีพ [เทพสุรา] ทุกครั้งที่ดื่มเครื่องดื่มมึนเมา จะได้รับค่าเกียรติยศเป็นรางวัล ฉายานี้เพิ่มขีดความสามารถในการดื่ม>

คำอธิบายของฉายานี้ค่อนข้างงงงวยอยู่บ้าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ อาชีพ[เทพสุรา]

ด้วยเบียร์หนึ่งแก้วนี้ ฉินฟางสามารถเข้าใจในบางอย่าง อย่างน้อย เบื้องหลังสกิล [การดื่ม] นอกจากแถบค่าประสบการณ์แล้วยังมี ค่าเกียรติยศ :1 ซึ่งจะต้องมาจากการดื่มเบียร์แก้วหนึ่งเป็นแน่

“ดี!!! พวกนายนี่ดีจริง!!!”

เบียร์พร่องลงไป และทั้งหกล้วนดื่มอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครจิบช้าๆเลย

เฉินหยาง เซี่ยวหนาน เกาหมิง และฉินฟางต่างก็มีสีหน้าเช่นเดียวกัน สามคนแรกนั้นปกติเป็นอย่างมาก เพียงแก้วเดียวไม่นับเป็นอะไร สำหรับฉินฟางนั้น เขาเพิ่งจะได้รับสกิลมา

ใบหน้าของสีเสี่ยวจุนเริ่มแดง และดูเหมือนเทพเจ้ากวนอู หลังจากถามถึงสาเหตุ ใบหน้าของเขาไม่ได้แดงเพราะไม่สามารถดื่มได้ แต่เป็นเพราะร่างกายของเขาเอง ใบหน้าเขาจะแดงในทันทีที่ดื่มเบียร์ ทำให้เขาดูเป็นขี้เหล้าโดยแท้ นับเป็นสัญญาณที่หลอกลวงสิ้นดี

ใบหน้าของฟางต้าเฉิงไม่เปลี่ยนไปเท่าใดนัก แต่เขาบ่นพึมพำเรื่องรสชาติประหลาดของเบียร์ เมื่อเขาถามขึ้นมา ก็รู้ว่าไวน์ข้าวของที่นี่ไม่ทำให้เมามาก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลิ้มรสชาติเบียร์นี้

แก้วแรกผ่านไป อารมณ์ของทั้งกลุ่มก็ดีขึ้น แม้ว่าพวกเขาไม่ได้ดื่มด้วยกันทั้งหมดอีกครั้ง แต่เหล่าพี่น้องต่างก็ชนแก้วกันทีละคน กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในฐานะที่ต้องอยู่ด้วยกันถึงสี่ปี นับว่าเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดี

ดังคำกล่าวที่ว่า “พบปะสหาย ดื่มพันจอกยังน้อยไป” เมื่อแก้วแรกผ่านไป เครื่องก็เริ่มติด พวกเขาล้วนหนุ่มแน่น ต่างก็หมายมั่นเอาชนะผู้คนให้ได้ ต้องการเห็นว่าใครจะดื่มได้มากที่สุด เมื่อการดื่มเบียร์รอบแรกเสร็จสิ้น ทุกคนต่างก็ดื่มเบียร์ของตนเองไปแล้วสี่ขวด สีเสี่ยวจุนหน้าแดงคือคนแรกที่ถอนตัวไป

ตามมาด้วยเกาหมิงและฉินฟางที่ยอมแพ้ ตอนนี้เหลือเพียงเฉินหยาง เซี่ยวหนาน และฟางต้าเฉิง เกาหมิงไม่อาจดื่มได้อีกแล้ว แต่ฉินฟางยังดื่มต่อได้อีก แต่เมื่อเห็นว่าทั้งสามคนที่เหลือต่างก็มุ่งมั่นแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ฉินฟางจึงรีบยอมแพ้เสียก่อน

“พี่ใหญ่ ดื่มเก่งจริงๆ!”

ในขณะที่สงครามยังคงดำเนินต่อไป เหล่าพี่น้องต่างก็ประหลาดใจที่คนดื่มเก่งที่สุดดูเหมือนจะไม่ใช่เฉินหยางหรือเซี่ยวหนาน แต่กลับเป็นฟางต้าเฉิงเสียอย่างนั้น แม้ว่าจะดื่มไป 8 ขวดแล้ว ใบหน้าของเขายังไม่กลายเป็นสีแดง ทั้งไม่ลุกไปห้องน้ำอีกด้วย

ในเวลานี้ เซี่ยวหนานและเฉินหยางได้พบเจอกับตัวประหลาดแล้ว ทั้งสองต่างรู้สึกว่าไม่อาจสู้ฟางต้าเฉิงได้ จึงเริ่มโอดครวญ

“เฮ้ พี่ใหญ่ พี่ดื่มได้ขนาดไหนกันเนี่ย....?”

ทั้งสองไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้ จึงเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่เคยเมาตั้งแต่เด็กแล้ว... เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งฉันดื่มเบียร์ไปถึงห้ากิโลกรัม ทำให้มึนหัวเล็กน้อย ฉันไม่กล้าดื่มมากขนาดนั้นอีกแล้ว!!!”

ฟางต้าเฉิงพูดออกไปอย่างสัตย์ซื่อ แต่คนที่เหลือล้วนตกใจเป็นอย่างมาก แค่มึนหัวเล็กน้อยทั้งที่ดื่มไปถึงห้ากิโลกรัม นั่นแปลว่าเขายังดื่มต่อได้อีกมาก

ไวน์ข้าวเหล่านั้นเป็นชาวนาที่ทำขึ้นมา พวกเขาเคยดื่มมาแล้ว อีกทั้งมีแอลกอฮอล์ไม่สูงมาก ผลที่ตามมากลับเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งพวกเขาเมามากเท่าใด ก็ยิ่งเมายากขึ้นในครั้งต่อไป สำหรับฟางต้าเฉิงที่เพียงแค่ “มึนหัวเล็กน้อย” ทั้งที่ดื่มไปถึงห้ากิโลกรัมนั้น แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการดื่มอันร้ายกาจ

“พี่ใหญ่ นี่ไม่ได้การละ พวกเราไม่อาจเทียบพี่ได้เลย ดังนั้นพี่รองและฉันจะดื่มกับพี่เอง”

เฉินหยางและเซี่ยวหนานไม่ต้องการแข่งขันอีกต่อไป มิน่าฟางต้าเฉิงจึงยังไม่เมาทั้งที่ดื่มเบียร์หมดไปหลายรอบแล้ว เขาดื่มเก่งกว่าเซี่ยวหนานและเฉินหยางรวมกันเสียอีก

“โอเค แต่ฉันต้องไปเข้าห้องน้ำ ถึงเบียร์จะไม่เข้มแต่กระเพาะฉันกำลังจะแตกเพราะน้ำแล้ว...”

ฟางต้าเฉิงยอมรับข้อเสนอโดยไม่ลังเลเลย เขาไปเข้าห้องน้ำเพื่อปลดปล่อยให้โล่งเสียก่อน

ในขณะที่ฉินฟางกำลังพูดคุยกับเหล่าพี่น้อง ก็ไม่ได้สังเกตว่ามีโต๊ะหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป กำลังมองฟางต้าเฉิงเข้าห้องน้ำ ชายหัวล้านคนนั้นส่งสัญญาณให้กับลูกน้องข้างเขา ขณะที่ตัวมันเองหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคน

“ปึ้ก!!!”

“อ๊า!!! คนลวนลาม!!!”

เสียงกรีดร้องแหลมของหญิงสาวดังก้อง ร้านอาหารที่มีเสียงดังจอแจพลันเงียบลงในทันที สายตาทุกผู้คนล้วนจับจ้องไปยังตำแหน่งที่มีเสียงกรี๊ด เห็นหญิงสาวแต่งกายในชุดที่เซ็กซี่เย้ายวนเป็นอย่างมาก และมองอย่างโกรธขึ้งไปยังชายที่กำลังโน้มตัวเข้าหาหญิงสาว

“เปล่า... ฉันไม่ได้...”

สีหน้าของชายผู้นั้นเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและหน้าแดงด้วยความกระวนกระวาย เขาต้องการจะอ้าปากอธิบาย แต่เขาเป็นคนประเภทใช้ถ้อยคำไม่เป็นจึงไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไรดี

“พี่ใหญ่!!!”

ฉินฟางและผู้อื่นล้วนแล้วแต่มึนงง ชายผู้นั้นคือฟางต้าเฉิง!!!

“ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่จะเป็นคนซื่อตรงจริงๆ เขายังคงกังวลเรื่องที่ไม่มีสาวข้างกาย แต่รสนิยมของเขามันช่าง... ฮ่าๆๆๆๆ....”

เมื่อมองไปยังการแต่งกายของหญิงสาว แม้ว่าจะยังไม่แก่ แต่เมคอัพที่หนาเตอะของเธอทำให้ดูเหมือนผู้หญิงหากินเหล่านั้น มันหยาบคายมาก แต่พวกเขาช่วยอะไรไม่ได้นอกจากพูดออกมาอย่างหมดหนทาง

“อย่าพูดจาไร้สาระ พี่ใหญ่พูดไม่เก่ง หวังว่าเขาจะไม่นำปัญหามาสู่ตัวเขาเองก็พอ!!!”

มองไปยังสายตาที่เถรตรงของฟางต้าเฉิง ฉินฟางได้แต่สบถด่าพี่ชายที่มองด้วยความหื่นกระหาย และเตรียมการให้ความช่วยเหลือ ที่เหลือล้วนไม่อยู่เฉยและยื่นมือเข้าช่วยเหลือเช่นกัน

“บัดซบ!!! เจ้ากล้ายุ่งกับผู้หญิงของข้าหรือ?!! พี่น้อง จัดการมันเลย!!!”

ขณะที่ชายหัวล้านเห็นฉินฟางเคลื่อนไหว เขาก็พลันตบโต๊ะดังลั่น ผู้คนกว่าสิบคนยืนขึ้นแล้วกระโจนเข้าใส่

เมื่อกลุ่มของฉินฟางมาถึงตัวฟางต้าเฉิง คนทั้งสิบเองก็มาถึงแล้วเช่นกัน

“พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้น?”

มองไปยังผู้คนมากกว่าสิบคน ฉินฟางขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำเป็นแน่

“ฉัน...ฉันไม่รู้!!!”

ใบหน้าของฟางต้าเฉิงแดงก่ำเพราะความตื่นตระหนก

“ผู้หญิงคนนี้...”

“ผู้หญิงตูดนายสิ!!! นายน่ะยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก และตระกูลของนายก็ล้วนเป็นผู้หญิงเช่นกัน!!!” (ผู้หญิงเป็นคำแสลงสำหรับหญิงขายบริการ แล้วฟางต้าเฉิงก็ดันเผลอเรียกคำนั้นออกมา)

ถึงอย่างไร ชั่วขณะที่ฟางต้าเฉิงอ้าปากพูด หญิงสาวที่ดูเหมือนหญิงขายบริการก็ขึ้งโกรธแล้วเริ่มสบถด่ารัวปืนกลใส่เป็นชุด คำด่าทอทั้งหมดนั้นทำให้ฉินฟางและพวกต่างรู้สึกกระอักกระอ่วน

แม้ว่าการแต่งกายของหญิงสาวจะดูเหมือนสาวในบาร์ ก็ควรจะพูดลับหลังเธอ แต่กลับพูดต่อหน้าเธอ จึงไม่แปลกที่เธอจะโกรธมาก

ถึงอย่างไร ฉินฟางและพวกก็รู้ว่าฟางต้าเฉิงเพิ่งมาจากบ้านนอก และไม่รู้ความหมายแฝง พวกเขาจึงไม่ได้โทษอะไร

“พี่ใหญ่ ไม่ต้องห่วง มาคุยกันเถอะ”

ฉินฟางตบไหล่ฟางต้าเฉิงที่ดูเหมือนกำลังทรุดกับผลที่เกิดขึ้น พวกเขายังคงต้องการแก้ไขสถานการณ์ให้ชัดเจน มองไปยังหญิงขายบริการ เอ่อ หมายถึง สาวงามในชุดวาบหวิว “เล็กน้อย” ประกอบกับที่เธอตะโกนด่าคนลวนลาม ฉินฟางจึงไม่คิดว่านี่จะเป็นการพบกันระหว่างฟางต้าเฉิงกับสาวในฝันของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด