ตอนที่ 58 ซ่อมก้อนอิฐสำเร็จ!
ตอนที่ 58 ซ่อมก้อนอิฐสำเร็จ!
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
ฉินฟางรู้สึกมีความสุขจริงๆ กับทักษะ [ซ่อมแซม] ที่ได้รับ...
เมื่อมองไปยังคำอธิบายของทักษะ ในใจของฉินฟางก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาเปิด [กล่องไอเทม] ของตัวเอง และทำการประเมินก้อนอิฐซึ่งมีค่าความคงทนอยู่ที่ 0
< แรร์ไอเทม [ฮูลิแกนบริกส์] , ความสมบูรณ์ : 100% , ความคงทน : 0/3 , สามารถซ่อมแซมได้ (หมายเหตุ : มีโอกาสที่จะซ่อมแซมล้มเหลวและค่าความคงทนลดลง >
เป็นไปอย่างที่คาดไว้ หลังจากฉินฟางเรียนรู้ทักษะ [ซ่อมแซม] เมื่อทำการประเมินอิฐก้อนนั้น นอกจากค่าสถานะเดิมของมันแล้ว ตัวเลือกให้ทำการซ่อมแซมก็ปรากฏขึ้น ปุ่มนั่นดูคล้ายกับค้อนขนาดเล็ก
“ค่าความคงทนลดลง...”
ถึงแม้ฉินฟางจะคาดการณ์ว่าทักษะ [ซ่อมแซม] อาจล้มเหลว แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าค่าความคงทนจะลดลงด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ทำให้ฉินฟางรู้สึกลังเล
ทุกค่าความคงทนนั้นหมายความว่าฉินฟางสามารถใช้งานมันได้หนึ่งครั้ง ถ้าค่าความคงทนลดลงแล้ว ต่อให้ซ่อมมันได้ ฉินฟางก็จะสามารถใช้งานอิฐก้อนนี้ได้เพียงสองครั้งเท่านั้น
“ดีกว่าไม่ทำอะไร! ปล่อยทิ้งไว้ใน [กล่องไอเทม] ก็ไร้ประโยชน์ ทำไมไม่ลองดูล่ะ? ผมอาจทำสำเร็จก็ได้!”
ฉินฟางขบฟันแน่น หลังจากใคร่ครวญอย่างหนัก ก็คิดได้ว่าลองพยายามซ่อมมันน่าจะดีกว่า เพราะอิฐก้อนนี้เหมาะมือเขามาก ถ้าฉินฟางเจอกับเหตุฉุกเฉินแล้ว ก็สามารถหยิบมันออกมาใช้งานได้เลย
หลังจากตัดสินใจได้ ฉินฟางก็กดปุ่มรูปค้อนนั่นทันที
< คุณกำลังพยายามที่จะซ่อมแรร์ไอเทม [ฮูลิแกนบริกส์] แน่ใจว่าต้องการทำอย่างนั้นหรือไม่? >
ข้อความแจ้งเตือนหนึ่งปรากฏขึ้นในหัวของฉินฟาง ข้อความที่ปรากฏขิ้นทำให้ฉินฟางรู้สึกยินดี นี่หมายความว่าฉินฟางยังคงสามารถเปลี่ยนใจได้ถ้าเขาต้องการ
“ต้องการ!”
อย่างไรก็ตามตอนนี้ฉินฟางไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจ อย่างน้อยก็ไม่ใช่เวลานี้
< ทำการซ่อมแซม...>
ในทันทีหลังจากที่กดปุ่ม ค้อนอันเล็กก็ปรากฏขึ้นและเริ่มทำการทุบก้อนอิฐจากด้านซ้ายขวา แถบความคืบหน้าเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งมันเต็มขีดเร็วมาก
< ซ่อมแซมสำเร็จ ค่าพลังงานลดลง 10 หน่วย >
< แรร์ไอเทม [ฮูลิแกนบริกส์] ซ่อมแซมสำเร็จ , ค่าความคงทน 3/3 >
ฉินฟางมองไปยังแถบความคืบหน้าตลอดเวลา ผ่านไปราวสองนาทีก็มีข้อความแจ้งเตือน เมื่อแถบขึ้นมาเต็มขีดแล้ว ผลลัพธ์ที่เขาต้องการก็ออกมา
“สำเร็จ! เย้!”
ฉินฟางมีความสุขที่การซ่อมแซมประสบผลสำเร็จ และค่าความคงทนของมันก็ไม่ได้ลดลง เรื่องนี้ทำให้ฉินฟางเป็นสุขราวกับอยู่บนเมฆชั้นเก้า
ดูเหมือนฉินฟางจะมีความสุขเกินไป ไม่เพียงรอยยิ้มบนใบหน้าจะแย้มกว้างขึ้น เขากระทั่งลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพไหน
เซียวมู่เสวี่ยอยากที่จะถามเขาว่าเป็นอะไรไปหลังเห็นฉินฟางทำท่าเหมือนฝันกลางวันอยู่ แต่ในขณะที่เธอยื่นมือออกไป จู่ๆ ฉินฟางก็เริงร่าและกระโดดขึ้นมาด้วยท่าทางมีความสุข กอดเซียวมู่เสวี่ยไว้ด้วยอารามตื่นเต้น จนเธอกลายเป็นตกตะลึงมากจนลืมที่จะผลักฉินฟางออกไป
***********
ณ รีสอร์ททะเลสาปหยกขาว
“นายน้อยเฟิงขอรับ...”
คนอ้วนหลี่ยืนตรงหน้าหลี่เฟิงด้วยท่าทางราวกับเป็นคนรับใช้ และทำการเรียกชื่อเขาอย่างระมัดระวัง ตอนนี้หลี่เฟิงกำลังโอบกอดสาวสวยที่มีรอยยิ้มอันงดงามมากคนหนึ่ง สาวสวยคนนั้นก็คือบริกรหญิงที่เคยให้บริการฉินฟางกับพวก และหลังจากนั้นไม่กี่วัน เธอก็สร้างความโปรดปรานให้กับหลี่เฟิงเป็นอย่างมาก จนตอนนี้ กระทั่งคนอ้วนหลี่ยังต้องทักทายเธออย่างสุภาพ
“ตรวจสอบไปถึงไหนแล้ว?”
หญิงสาววางองุ่นไว้ที่ปากของเธอ และป้อนมันให้กับหลี่เฟิงแบบปากต่อปาก เรือนร่างของเธอช่างเย้ายวน จนหลี่เฟิงต้องใช้มือทั้งคู่ลูบคลำตัวเธอขณะกำลังองุ่นนั่น หลังจากทานเสร็จเขาก็ถามคนอ้วนหลี่เรื่องที่ให้ไปตรวจสอบเบื้องหลังของฉินฟาง
“ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับ!”
คนอ้วนหลี่ผงกหัวและตอบกลับอย่างระมัดระวัง
“สารเลวแซ่ฉินนั่นเปิดร้านค้าแผงลอยใกล้ตลาดประตูทิศใต้ ตามที่ได้รับรายงานมาก็ขายดีมากด้วย และคุณหนูถังเฟยเฟย... ก็เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับมัน อืม ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันทุกวัน...”
หลี่เฟิงที่กำลังง่วนกับการทานองุ่นก็สะดุดกับประโยคสุดท้าย และใบหน้าของเขาก็เริ่มที่จะน่าเกลียด
“นายน้อยเฟิงคะ ทำไมคุณดูอารมณ์ไม่ดีล่ะคะ? มาเถอะค่ะ ดิฉันจะป้อน...”
สาวสวยผู้ไม่ดูตาม้าตาเรือ ต้องการออดอ้อนเอาอกเอาใจต่อไป จึงเตรียมที่จะป้อนองุ่นให้หลี่เฟิงโดยใช้ริมฝีปากของตัวเองอีกครั้ง
“หุบปาก!”
แต่หลี่เฟิงที่เมื่อครู่นี้ยังมีท่าทางสุภาพ ตอนนี้ใบหน้าได้ฉายความอำมหิตออกมา
“ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเจ้าสารเลวนั่นถึงได้กล้าต่อกรกับข้า! เป็นเพราะตอนนี้มันอยู่ดีกินดีนี่เอง!”
หลี่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา และดวงตาก็เต็มไปด้วยความขุ่นแค้นอย่างมาก
“คนอ้วนหลี่ พาไป๋เหล่าซานกับพวกไป ‘ช่วยเหลือ’ เจ้าสารเลวนั่นหน่อยสิ ให้มันนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลสักสิบเดือน หรือดียิ่งกว่านั้น ก็ให้มันใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนรถเข็น!”
พอนึกถึงความอัปยศอดสูที่เจ้าสารเลวยากจนนั่นนำพามาให้ ใบหน้าของหลี่เฟิงก็มุ่งร้ายและน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
“นายน้อยเฟิง เรื่องนี้...”
ใบหน้าของคนอ้วนหลี่กลายเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาหลังได้ยินคำสั่งนั่น ปกติแล้วการซ้อมคนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่การทำให้คนอื่นพิการ... นั่นมันมากเกินไป ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ หลี่เฟิงอาจหนีรอดไปได้ ทว่าคนอ้วนหลี่ไม่สามารถทำได้ คนอ้วนหลี่ไม่คิดว่าไป๋เหล่าซานกับพวกจะปล่อยเขาไปในขณะที่พวกมันต้องแบกรับปัญหา
“นายน้อยเฟิง อันที่จริงแล้วมีอีกทางหนึ่งที่ดีกว่า...”
คนอ้วนหลี่เริ่มครุ่นคิดและนึกแผนหนึ่งได้ในทันที
“หืม? ลองบอกมาให้ฟังหน่อยสิ!”
“จัดการกับคนสารเลวแซ่ฉิน ทั้งหมดที่ต้องทำก็คือตัดแหล่งที่มาของรายได้...”
คนอ้วนหลี่พูดพลางแสยะยิ้ม พอเห็นว่าหลี่เฟิงไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร เขาก็พูดต่อ
“แหล่งรายได้ที่เจ้าสารเลวนั่นมีคือร้านแผงลอยขายราเม็ง ซึ่งกระผมได้ส่งคนไปตรวจสอบมาแล้ว สถานที่ตรงนั้นก่อนหน้านี้ไม่เคยมีร้านค้าแผงลอย เป็นเพราะเจ้าสารเลวนั่นตั้งร้านขึ้นแถวนั้น ผู้คนถึงได้เริ่มเข้ามา...”
“ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้า พูดแต่ประเด็นที่สำคัญ!”
หลี่เฟิงพูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“ขอรับ ขอรับ ขอรับ!”
คนอ้วนหลี่รับคำในทันที และเริ่มพูดใหม่อีกครั้ง
“นายน้อยเฟิง กระผมขอถามคำถามคุณง่ายๆ ข้อหนึ่ง อะไรคือสิ่งที่เจ้าของร้านแผงลอยเถื่อนกลัวมากที่สุด?”
“ขายไม่ได้ ลูกค้าหาย ขาดรายได้...”
หลี่เฟิงรู้สึกสับสนกับคำถามของคนอ้วนหลี่ เพราะไม่รู้ว่าจะยกคำถามเรื่องพวกนี้ขึ้นมาทำไม แต่เขาก็ยังตอบคำถามไปแบบส่งๆ
“อันที่จริงแล้ว สิ่งที่เจ้าของร้านแผงลอยพวกนั้นกลัวมากที่สุดคือ... เจ้าหน้าที่เทศกิจ”
พอเห็นว่าหลี่เฟิงยังคงมีท่าทีไม่พอใจ คนอ้วนหลี่ก็รีบบอกคำตอบก่อนที่หลี่เฟิงจะพูดจบ
“เอ่อ...”
ตอนแรกที่หลี่เฟิงได้ยินคำตอบ ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือตกตะลึง
“แกพูดถูก... เจ้าหน้าที่เทศกิจ... พวกเราจะใช้เจ้าหน้าที่เทศกิจจัดการมัน!”
ในเมืองแห่งนี้ เจ้าหน้าที่เทศกิจเป็นกลุ่มคนที่พิเศษมากๆ พวกเขาไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่ตำรวจ แต่พลังอำนาจของพวกเขาสูงยิ่งกว่าคนสองกลุ่มที่กล่าวมาเสียอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของร้านแผงลอย พวกเขาคือตัวตนที่น่าสะพรึงกลัว
“ขอรับ กระผมเข้าใจดีว่าต้องทำยังไง!”
พอเห็นหลี่เฟิงถูกเขาโน้มน้าวได้แล้ว คนอ้วนหลี่ก็รีบทำการตอบรับคำสั่งทันที
หลี่เฟิงโบกมือบอกคนอ้วนหลี่ให้ไปทำงานของตัวเองซะ ในขณะที่ตัวเขาก็เริ่มทำ ‘สิ่งต่างๆ’ กับหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังพะเน้าพะนอเอาใจเขาอยู่
……………………………..