ตอนที่ 57 ทักษะ [ซ่อมแซม]
ตอนที่ 57 ทักษะ [ซ่อมแซม]
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
“ฟิ้ว~ ในที่สุดก็จบซะที!”
พอเห็นหลี่ซีถูกหนิงอวี่ม่อจัดการแล้ว ฉินฟางก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงด้วยความโล่งอกได้ในที่สุด เขาสามารถอยู่อย่างสงบได้ซะที
“ใช่ พวกเราจะไม่ปล่อยให้พวกมันหนีรอดไปได้อีกแล้ว!”
หลังจากมัดพวกผู้ร้ายหลบหนีด้วยเสื้อคลุมที่ฉินฟางให้เธอมา หนิงอวี่ม่อก็นั่งลงข้างฉินฟางและพูดด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย
“ฮะฮะ เสี่ยวหนิงเจีย ตอนนี้คุณก็บรรลุเป้าหมายแล้ว ถ้าได้เงินรางวัลมา อย่าลืมแบ่งครึ่งหนึ่งให้ผมด้วย!”
พอมองไปยังหนิงอวี่ม่อที่มีเหงื่อบนใบหน้า ฉินฟางก็ร้องขอสิ่งตอบแทนอย่างติดตลก
“ฉันรู้ว่านายเป็นคนงก! วางใจได้ ฉันบรรลุเป้าหมายแล้ว ส่วนเงินรางวัลนั่นทั้งหมดเป็นของนาย!”
หนิงอวี่ม่อกรอกตาใส่ฉินฟาง และตอบกลับพลางหัวเราะ
“แต่ในเมื่อเรากำลังคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทักษะการต่อสู้นายมันแย่มาก! ถ้านายมีเวลาว่าง ก็ไปเรียนวิชาการต่อสู้บ้างนะ ไม่งั้นแล้วตอนที่นายไปกับถังเฟยเฟย ก็คงไม่มีความสามารถช่วยเหลือหญิงงามตอนเธอมีปัญหา”
ก่อนที่ฉินฟางจะทันได้ยินดี คำพูดสุดท้ายของหนิงอวี่ม่อก็ทำให้เขาตกลงจากสวรรค์ในทันที
“เรื่องนี้...”
ฉินฟางไร้คำพูดที่จะเอ่ย หนิงอวี่ม่อกำลังใช้ตัวเธอเองเป็นบรรทัดฐานสำหรับคนอื่น
ตัวเธอแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่สองผู้ร้ายซึ่งมีเลเวล 3 สามารถอัดฉินฟางจนตัวลอยโดยไม่ต้องต่อสู้อย่างจริงจังซะด้วยซ้ำ แต่หนิงอวี่ม่อเพียงคนเดียวสามารถต่อสู้เสมอกับพวกมันที่ร่วมมือกัน นี่ขนาดเธอยั้งขาไว้เพราะไม่ต้องการให้ส่วนที่ซ่อนเร้นเผยออกมา
ทุกคนรู้ว่าจะต่อสู้ยังไง แต่ส่วนใหญ่ทำได้เพียงเหวี่ยงหมัดเท้าไปทั่ว มีไม่มากนักที่จะสามารถเรียนรู้หรือสร้างวิธีการต่อสู้ของตัวเองได้
เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ฉินฟางไม่มีเวลาหรือเรี่ยวแรงจะไปเรียนรู้เรื่องของการต่อสู้ จึงทำให้เขายังอยู่ที่เลเวล 1 ซึ่งดูเหมือนกับคนอ่อนแอ ในขณะที่พวกผู้ร้ายอยู่ที่เลเวล 3 ต่อให้ค่าสถานะทั้งหมดของฉินฟาง +5 ก็ยังมีช่องว่างระหว่างพวกมันค่อนข้างมาก
“เอาล่ะ ฉันจะไม่หยอกล้อนายอีกต่อไปแล้ว ถ้านายพอมีเวลา ฉันสามารถสอนนายได้ท่าสองท่า อย่างน้อยก็คงจะดีกว่าในตอนนี้!”
พอเห็นฉินฟางมีท่าทางกระอักกระอ่วน หนิงอวี่ม่อก็เริ่มหัวเราะ และทราบว่าตัวเองตั้งมาตรฐานสูงเกินไป ดังนั้นเธอจึงหยุดหยอกล้อฉินฟาง และเปลี่ยนเรื่องคุย
“ขอบคุณครับเสี่ยวหนิงเจีย!”
เป็นธรรมดาที่ฉินฟางจะตอบรับอย่างยินดี และในใจก็กำลังคิดถึงทักษะที่อาจจะได้รับ...
มันค่อนข้างเย็นมากแล้ว ตอนที่ทั้งสองคนใช้ความพยายามอย่างมากในการนำตัวพวกผู้ร้ายออกมาจากภูเขา โดยเฉพาะฉินฟางที่เสนอตัวแบกสองผู้ร้ายขึ้นบนบ่า
โชคยังดีที่พวกเขาเจอกับสองตำรวจจราจรที่ขี่จักรยานผ่านก่อนหน้านี้ พวกนั้นบังเอิญกำลังจะกลับเข้าเมืองเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาเลยได้โอกาสขออาศัยติดรถเข้าเมืองไปด้วย ส่วนรถจักรยานที่หลุดเป็นชิ้นๆ นั้น ฉินฟางไม่อาจหักใจทิ้งไว้ที่นี่ได้ เพราะส่วนสำคัญต่างๆ ของจักรยานยังอยู่ครบมีเพียงสกรูยึดที่หลุดหาย ฉินฟางจึงเอามันกลับไปด้วยเพื่อประกอบใหม่
หลังจากส่งฉินฟางลงที่หน้าตลาดประตูทิศใต้ หนิงอวี่ม่อก็พาสองผู้ร้ายกลับไปยังสถานีตำรวจ การที่ฉินฟางกับหนิงอวี่ม่อจับคนร้ายร่วมกันอาจเป็นแค่ส่วนเล็กๆ หนึ่งในชีวิตของพวกเขา แต่มันก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของบางอย่าง...
*********
“ฉินฟาง นายกลับมาแล้วเหรอ!”
เมื่อฉินฟางกลับมาถึงบ้าน เขาก็เห็นเซียวมู่เสวี่ยกับฟ่านเจี่ยเจียกำลังนั่งคุยกันอยู่ในลาน พอเห็นฉินฟาง ดวงตาของเซียวมู่เสวี่ยก็สดใสและเรียกหาเขาอย่างร่าเริงในทันที
“เมื่อกี้นี้พวกเราเพิ่งจะพูดถึงนายอยู่เลย เฟยเฟยมารอนายอยู่ที่นี่สองชั่วโมง ถ้าไม่เป็นเพราะมันจะมืดแล้ว ฉันพนันว่าเธอจะรอนายนานยิ่งกว่านี้!”
“ผมกลับมาช้าเพราะมีเรื่องบางอย่าง เดี๋ยวผมจะโทรหาเฟยเฟยล่ะกัน!”
ฉินฟางหัวเราะอย่างเงอะงะ อันที่จริงแล้วเขาลืมเรื่องของถังเฟยเฟยไปเสียสนิท เพราะเพิ่งผ่านประสบการณ์ที่โลดโผนมา
หลังอธิบายเหตุการณ์ต่อถังเฟยเฟยและทำข้อตกลงบางอย่าง สุดท้ายถังเฟยเฟยก็ยกโทษให้กับฉินฟางที่ปล่อยให้กังวลและทิ้งเธอไว้คนเดียว อย่างไรก็ตามเธอแสดงความสนใจในเรื่องที่ฉินฟางไล่ตามพวกผู้ร้าย และบ่นเขาที่ไม่พาเธอไปด้วย
โดยสรุปแล้วฉินฟางก็ปลอบประโลมถังเฟยเฟยได้ในที่สุดก่อนที่จะวางสายและออกมาจากห้องของเขา
“เสี่ยวฉิน! เธอไปทำสงครามมางั้นเรอะ?! จักรยานสภาพดีถึงได้หลุดชิ้นๆ!”
เซียวมู่เสวี่ยกับฟ่านเจี่ยเจียชี้ไปยังซากจักรยานพลางหัวเราะ พอเห็นฉินฟางเดินมา ฟ่านเจี่ยเจียก็หยอกล้อเขาในทันที ส่วนเซียวมู่เสวี่ยก็อมยิ้มอยู่ข้างๆ
“อาจเป็นเพราะมันไม่ได้ถูกใช้นาน ก็เลยทนทานไม่ไหว ไม่ใช่ว่าตอนนี้ผมหยิบเครื่องมือซ่อมมาด้วยงั้นเหรอ?”
ฉินฟางยิ้ม และชี้ไปยังกล่องเครื่องมือที่ถือไว้ จากนั้นเขาก็นั่งลงและเริ่มทำการประกอบจักรยานใหม่
การประกอบรถจักรยานใหม่ไม่ได้ใช้ทักษะอะไรมากเลย โดยพื้นฐานแล้ว ถ้าคุณมีเครื่องมือครบ ใครๆ ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย มีเพียงการปรับแต่งบางส่วนที่ต้องอาศัยทักษะ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉินฟางสนใจในตอนนี้
ขั้นแรกเขาเตรียมชิ้นส่วนทั้งหมด และใส่สกรูลงในช่องที่ถูกต้องตามขนาด จากนั้นเขาก็ทำการประกอบชิ้นส่วนที่เตรียมไว้เข้าด้วยกัน พร้อมกับขันยึดสรูให้แน่นด้วยเครื่องมือของเขา
ฟ่านเจี่ยเจียไม่ได้สนใจในเรื่องพวกนี้ และอยากเข้าไปพักผ่อนในห้องของตัวเองมากกว่า เธอจึงบอกฉินฟางว่ากำลังจะไปแล้ว
อีกทางหนึ่งเซียวมู่เสวี่ยได้ยกเก้าอี้ตัวเล็กมานั่งอยู่ข้างฉินฟาง เธอเอามือเท้าคางและจ้องมองฉินฟางที่กำลังทำงานอย่างตั้งใจ บนใบหน้าเธอมีรอยยิ้มจางๆ แต่ดวงตาก็กระพริบเป็นช่วงๆ
โชคยังดีที่แม้จักรยานนั่นจะแยกออกเป็นชิ้นๆ แต่ส่วนสำคัญที่มีความซับซ้อนยังคงมีสกรูยึดไว้อยู่ด้วยกัน ทำให้ช่วยลดปัญหาของฉินฟางในการประกอบมันกลับอีกครั้ง
ถึงแม้ทักษะของเขาในเรื่องนี้จะมีน้อย แต่ฉินฟางก็ยังคงสามารถประกอบจักรยานนี้ใหม่ได้ เขาเพียงต้องใช้เวลามากขึ้น หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง จักรยานพังๆ นั่นก็ประกอบกลับได้เป็นผลสำเร็จ
< ทักษะที่เรียนรู้ : [ซ่อมแซม], ทักษะความชำนาญ : ขั้นเริ่มต้น, ค่าประสบการณ์ : 1% >
ในเวลาเดียวกับที่ฉินฟางซ่อมจักรยานคันนั้นเสร็จ ข้อความแจ้งเตือนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในหัว เขาได้รับทักษะใหม่อีกแล้ว
< [ซ่อมแซม] : ซ่อมแซมวัตถุที่เสียหายหรือไม่สมบูรณ์ ระดับของการซ่อมแซมสัมพันธ์กับทักษะความชำนาญ>
ฉินฟางยิ้มแย้มอย่างเริงร่าสุดๆ ตอนที่มองไปยังคำอธิบายของทักษะ
ทักษะนี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตและมีความสามารถไม่เลวเลย ช่วงการใช้งานทักษะที่กว้างมาก อีกทั้งครอบคลุมสิ่งของหลายอย่าง นั่นทำให้ฉินฟางรู้สึกมีความสุข
< [จักรยานมือสอง] ความสมบูรณ์ : 84% สามารถซ่อมแซมได้!, หมายเหตุ : เนื่องจากระดับของทักษะ [ซ่อมแซม] ต่ำเกินไป จึงมีโอกาสที่การใช้ทักษะนี้จะทำให้สิ่งของเสียหาย >
พอมองไปยังคำอธิบายของทักษะและจักรยานคันนั้น ฉินฟางก็ทำการประเมินจักรยานที่เขาเพิ่งจะซ่อมไป
“ความสมบูรณ์ 84%... มีโอกาสที่สิ่งของนั้นจะเสียหาย... ดูเหมือนว่าทักษะ [ซ่อมแซม] จะไม่ได้มีอำนาจไม่จำกัด อย่างน้อยก็ที่ระดับทักษะต่ำเช่นนี้”
ฉินฟางยอมรับผลที่ออกมาแบบนี้ได้ เพราะถ้าทำได้ทุกอย่างหลังจากที่เพิ่งเรียนรู้ มันก็จะดูเก่งเทพเกินไปแล้ว
……………………………..