ตอนที่ 55 ก้อนอิฐอันทรงคุณค่า
ตอนที่ 55 ก้อนอิฐอันทรงคุณค่า
ผู้แปล : ThreeSwords
ปรับสำนวน : ThreeSwords
“ลูกเตะของเธอหนักไม่เบาเลย...!”
จางซานถูกหนิงอวี่ม่อเตะลอยไป มันรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอกในทันที และอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องพลางเอามือลูบหน้าอก แต่ดวงตาก็ยังเต็มไปด้วยตัณหา
เสื้อผ้าของหนิงอวี่ม่อในเวลานี้ได้กลายเป็นชุดกระโปรงสั้น เนื่องจากถูกฉีกออกบางส่วนเพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนไหว
.
ตอนที่จางซานถูกเตะเมื่อสักครู่นี้ จริงๆ แล้วมันสามารถหลบเลี่ยงได้ แต่เพราะไม่อาจปล่อยให้โอกาสดีๆ ในการแอบดูใต้ชุดกระโปรงของหนิงอวี่ม่อ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมในตอนแรกมันถูกเตะใส่
“จางซาน แกเห็นอะไรหรือเปล่า? ฟินเลยล่ะสิ...”
หลี่ซีก็เห็นผ้าเส้นใยสีขาวเรียบๆ นั่นเช่นกัน แต่หนิงอวี่ม่อรีบดึงขาของเธอกลับ ทำให้มันไม่สามารถเห็นได้อย่างถนัดถนี่
“ฮี่ฮี่... แกก็รู้ว่าข้าเห็น...”
จางซานตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะที่ต่ำช้า
“เฮ้ น้องสาว แกมาที่นี่เพื่อจับกุมหรือมาล่อลวงพวกข้ากันแน่? หุหุ รูปร่างของแกนี่มันช่าง... แกควรเชื่อฟังพวกข้าอย่างเชื่องเชื่อจะดีกว่านะ ให้พวกข้าสองพี่น้องได้เชยชม ทุกคนจะได้สนุกกันไง!”
จางซานกับหลี่ซีเกิดในครอบครัวที่ยากจน ย่อมเป็นธรรมดาที่จะได้เข้าไปข้องแวะกับพวกคนไม่ดี ทำให้ในปากของพวกมันเต็มไปด้วยถ้อยคำที่สกปรกหยาบคาย คำพูดอันต่ำช้าถูกพ่นออกมาเรื่อยๆ จนหนิงอวี่ม่อที่ฟังอยู่กลายเป็นโมโหมากยิ่งขึ้น
“หาที่ตาย!”
ตอนนี้หนิงอวี่ม่อกำลังโกรธมาก และหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างหนัก แต่เพราะกลัวว่าจะเปิดเผยเนื้อหนังมากเกินไป เธอเลยไม่กล้าที่จะยกขาขึ้นสูง
อย่างไรก็ตามจางซานกับหลี่ซีเป็นคนใช้แรงงานตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นร่างกายของพวกมันจึงแข็งแกร่งมาก ด้วยเหตุนี้หนิงอวี่ม่อก็เลยได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกโจมตีสวนกลับในเวลาเดียวกัน และกลายเป็นตื่นตระหนก
นอกจากความเจ็บปวดที่ได้รับ คำพูดหยาบโลนที่พวกมันพ่นออกมาก็หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เธอสูญเสียความเยือกเย็น วิธีการต่อสู้ของเธอกลายเป็นสับสนวุ่นวาย อันที่จริงสองคนร้ายคดีข่มขืนนั่นก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เพราะความทนทายาดของพวกมันก็เลยยืนหยัดได้ถึงเดี๋ยวนี้
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันพัลวัน และแลกหมัดกันอย่างต่อเนื่อง จางซานกับหลี่ซียังคงเป็นฝ่ายรับอยู่ตลอดเวลา และถึงแม้พวกมันมีทีท่าว่าจะโจมตี แต่สุดท้ายก็เป็นการเสแสร้งแกล้งทำ
แม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของหนิงอวี่ม่อจะค่อนข้างดี ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยังคงเป็นผู้หญิง ความอึดของร่างกายเป็นจุดอ่อนของเธอ โดยเฉพาะเมื่อทำการต่อสู้กับชายสองคนพร้อมกัน เธอจึงเริ่มที่จะหอบหายใจแล้ว
ในเวลานี้ฉินฟางได้แอบมองจากพุ่มไม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
“ตอนนี้ดูเหมือนเสี่ยวหนิงเจียจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะแล้ว...”
หลังจากเฝ้าสังเกตการณ์อยู่สักพัก ฉินฟางก็พบว่าถึงแม้จางซานกับหลี่ซีจะต่อสู้แบบมวยวัด แต่พวกมันก็เข้าขากันมาก นอกจากนี้พวกมันก็มีร่างกายที่แข็งแกร่งและทนทานด้วยเช่นกัน ทำให้ได้เปรียบหนิงอวี่ม่อที่เหนื่อยอ่อนอย่างช้าๆ เรื่องนี้ทำให้ฉินเริ่มที่จะกังวล
“ดูท่าจะค่อยไม่ดี ผมคงต้องเข้าไปช่วย”
เห็นได้ชัดว่าฉินฟางจะไม่ยอมปล่อยให้หนิงอวี่ม่อพลาดท่าเสียที โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เห็นท่าทางและคำพูดอันหยาบช้าของพวกมันซึ่งมีต่อหนิงอวี่ม่อแล้ว จนทำให้ฉินฟางปรารถนาที่จะพุ่งเข้าไปต่อกรกับคนร้ายทั้งสองในทันที
อย่างไรก็ตามฉินฟางไม่ได้สูญเสียความเยือกเย็น และยังจำได้ว่าเขามีข้อได้เปรียบอะไร จึงเริ่มทำการประเมินสองผู้ร้ายในทันที เพื่อรวบรวมข้อมูลหาแผนการดีๆ ช่วยเหลือหนิงอวี่ม่อ
< ผู้ร้ายหลบหนี จางซาน เลเวล 3 บ้ากามอย่างที่สุด เป็นน้องชายของหลี่ซี ถ้าคุณต้องการที่จะสู้กับเขา จงเตรียมตัวที่จะถูกซ้อมจนฟกช้ำดำเขียว >
< ผู้ร้ายหลบหนี หลี่ซี เลเวล 3 บ้ากามอย่างที่สุด เป็นพี่ชายของจางซาน ถ้าคุณต้องการที่จะสู้กับเขา จงเตรียมตัวที่จะถูกซ้อมจนฟกช้ำดำเขียว >
หน้าของฉินฟางบูดเบี้ยวในทันทีหลังได้รับข้อมูลจากการประเมิน ชายสองคนนี้เลเวล 3 ทั้งคู่ ซึ่งเหนือกว่าฉินฟางสองระดับ ยังดีที่ระดับพวกมันไม่เกินขอบเขตทำการของทักษะ [ประเมิน] แต่จากที่ระบบคาดการณ์ไว้ ฉินฟางก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมันคนไหนเลย และนั่นทำให้ฉินฟางต้องคิดหนัก
“บ้าเอ้ย ผมสู้พวกนั้นไม่ได้สักคน ถ้าพุ่งเข้าไปซี้ซั้ว ไม่เพียงผมจะไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ แถมยังอาจลากเสี่ยวหนิงเจียล้มตามไปด้วย...”
ฉินฟางได้ลองเปรียบเทียบค่าสถานะของตัวเองกับพวกผู้ร้ายหลบหนี ถึงค่าจะไม่ดูแตกต่างกันมาก แต่ผลการประเมินกลับบอกไปในทางตรงกันข้าม และนั่นเป็นข้อมูลทั้งหมดที่ฉินฟางได้รับ แต่ท้ายที่สุดแล้วหลายสิ่งไม่ก็อาจวัดกันได้ด้วยค่าสถานะ อย่างตอนที่ฉินฟางต่อสู้กับเหลาซูเฉียง ไม่ใช่ระบบเองเหรอที่ประเมินว่าฉินฟางด้อยกว่าเหลาซูเฉียงอย่างเห็นได้ชัด
“ถ้าไม่อาจเอาชนะได้โดยตรงแล้ว ก็ต้องจะเอาชนะด้วยสมอง!”
การพุ่งเข้าไปปะทะโดยตรงเห็นชัดๆ ไม่ว่าเหมาะแน่ ขนาดเลเวลของหนิงอวี่ม่อสูงกว่าจางซานกับหลี่ซี แต่ความแข็งแกร่งของเธอก็ยังคงถูกริดรอนไปเรื่อยๆ ข้อได้เปรียบในเรื่องของระดับจึงลดน้อยถอยลง
“เข้ามาใกล้ๆ มาให้ใกล้กว่านี้...!”
ฉินฟางฉวยโอกาสที่พวกมันกำลังมุ่งความสนใจไปกับการต่อสู้เพื่อแอบเข้าไปใกล้โดยใช้ต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ เป็นเครื่องกำบัง ฉินฟางระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าสองผู้ร้ายหลบหนีจะจับสังเกตได้
ฉินฟางจับท่อเหล็กในมือไว้แน่น ถึงแม้ท่อนี่จะไม่ได้อันใหญ่โตอะไร แต่ก็ทำให้บาดเจ็บได้แน่ๆ ถ้าฟาดใส่ตัวผู้คน มันเหมาะสุดๆ ที่จะใช้ในการลอบโจมตี
ส่วนอีกมือหนึ่งนั้นว่างเปล่า เพราะเขาเอาก้อนอิฐไปเก็บไว้ใน [กล่องไอเทม] เป็นการชั่วคราว เนื่องจากอิฐก้อนนั้นได้ถูกใช้งานไปสองครั้งแล้วทำให้ความคงทนของมันลดลง 3/3 เหลือเพียง 1/3 ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าค่าความคงทนเป็นตัวเลขชี้บ่งจำนวนครั้งของไอเทมที่สามารถใช้งานได้ และอิฐก้อนนั้นสามารถได้อีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับก้อนอิฐหลังจากใช้งานครั้งสุดท้ายนี้ ไม่ว่ามันจะสลายหายไปจนหมด หรือค่าความคงทนกลายเป็น 0/3 เพื่อรอการซ่อมแซม ฉินฟางก็ไม่อาจยืนยันได้
พอเห็นสถานการณ์ของหนิงอวี่ม่อย่ำแย่ลง ฉินฟางก็กังวลมากยิ่งขึ้นเช่นกัน เขาพึมพำ ‘เข้ามาใกล้ๆ เข้ามาใกล้ๆ!’ ในใจอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าทำอย่างนี้แล้วจะเรียกให้พวกมันเข้ามาได้
แต่สองผู้ร้ายนั่นก็ดูเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก เนื่องจากกำลังทำการไล่ต้อนหนิงอวี่ม่อ จึงยิ่งเคลื่อนที่ออกห่างจากฉินฟาง เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายมากขึ้น
ผู้ร้ายหลบหนีสองพี่น้องสบตาสื่อความหมายอย่างรู้กัน จากนั้นหลี่ซีก็ทนรับลูกถีบจากหนิงอวี่ม่อ ซึ่งนั่นแทบจะสร้างความเสียหายให้กับไตของมัน แต่ไอ้บ้ากามคนนี้ก็ดันเป็นคนที่ยอมตายเพื่อสนองตัณหาของตัวเอง และใช้มือทั้งสองข้างจับขาที่ถีบใส่มันไว้แน่น ซึ่งนี่ทำให้จางซานสบช่องที่จะเข้ากอดรัดหนิงอวีม่อเพื่อผลักดันเธอลงไปกับพื้น
“เสี่ยวหนิงเจีย!”
พอเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ฉินฟางก็ตื่นตระหนก ถ้าหนิงอวี่ม่อถูกผลักล้มลง โอกาสที่เธอจะลุกขึ้นมาได้อีกครั้งก็คงน้อยมาก และนั่นก็จะเป็นเรื่องที่อันตราย
“บ้าเอ้ย! เอาก็เอาวะ!!!”
ตอนนี้ฉินฟางจำเป็นต้องลงมือโดยไม่มีทางเลือกอื่น เขาขบฟันแน่น และฉวยโอกาสที่สองผู้ร้ายนั่นกำลังสาละวนอยู่ วิ่งออกไปพร้อมกับท่อเหล็กในมือ จากนั้นฟาดตรงไปที่หัวของหลี่ซีซึ่งได้จับขาของหนิงอวี่ม่อไว้
“โอ้ย!”
พอโดนท่อเหล็กตีใส่ หลี่ซีซึ่งไม่ได้เป็นยอดมนุษย์อะไร ก็กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มันเอามือทั้งสองกุมศีรษะในทันที ดังนั้นจึงไม่อาจจับยึดขาของหนิงอวี่ม่อได้อีกต่อไป และหันหน้าไปมองฉินฟางในช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตามก่อนที่หลี่ซีจะทันได้เห็นรูปร่างหน้าตาของคนที่ลอบทำร้าย มันก็เห็นวัตถุสีดำลอยมาอยู่ตรงหน้า และไม่อาจหลบหลีกได้ทัน ก็เลยโดนฟาดเข้าไปที่หัวอีกครั้ง
< ทักษะ [ลอบโจมตี] ทำงาน, เป้าหมายตกอยู่ในสถานะ [มึนงง] เป็นเวลา 3 วินาที >
< คุณสมบัติพิเศษของแรร์ไอเทม [ฮูลิแกนบริกส์] ทำงาน, เป้าหมายตกอยู่ในสถานะ [มึนงง] เป็นเวลา 3 วินาที พร้อมกับมีเลือดออกเล็กน้อย >
< แรร์ไอเทม [ฮูลิแกนบริกส์] ค่าความคงทนลดลงเหลือ 0 ไม่อาจใช้งานได้ชั่วคราว แต่สามารถซ่อมแซมได้ >
ในเวลาเดียวกับที่ฉินฟางลงมือประสบผลสำเร็จ ข้อความแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ ทักษะ [ลอบโจมตี] สำแดงฤทธิ์เดชออกมาอีกครั้ง และทำให้หลี่ซีตกอยู่ในสถานะ [มึนงง] เป็นเวลา 3 วินาที
ส่วนคุณสมบัติพิเศษของอิฐนั่น เป็นเรื่องที่เกิดจากโชคล้วนๆ ทำให้มันตกอยู่ในสถานะ [มึนงง] เพิ่มอีก 3 วินาที แต่เรื่องที่เลือดออกเล็กน้อยนั่นไม่ได้สลักสำคัญอะไร เพราะเขาลงมือไปหนักจริงๆ ซึ่งมากพอที่จะทำให้กระดูกของหลี่ซีแตกร้าวได้เลย
……………………………..
